
[/img]
สวัสดีค่ะ วันนี้อ๊อฟจะมารีวิวประสบการณ์เลเซอร์ขนน้องสาวแบบ Whole Bikini เล่าแบบหมดเปลือก
ที่ไปทำมาที่ Apex Profound Beauty ย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 ปีก่อน ตอนนั้นอ๊อฟเริ่มหาข้อมูล
รีวิวจากอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับการกำจัดขนรักแร้ด้วยเลเซอร์ เนื่องจากสมัยก่อนอ๊อฟใช้แหนบถอนขนรักแร้
ถอนจนตาแทบเหล่ หันไปถอนจนปวดคอ ขนรักแร้ของอ๊อฟ รูนึงนี่งอกมา 3-4 เส้นได้ แถมบางเส้นเป็นขนคุด
ไม่งอกออกมา อ๊อฟก็ไปเอาเข็มมาสะกิดให้ขนมันโผล่แล้วจึงค่อยถอน ทำแบบนี้แทบวันเว้นวันเพราะขนรักแร้
มันขึ้นเร็วมาก ถอนจนรักแร้ช้ำมีสีม่วงคล้ำและช้ำไปหมด พอเห็นสภาพรักแร้ตัวเองก็คิดได้ว่าถ้ายังถอนแบบนี้
ต่อไปคงไม่มีโอกาสได้ใส่สายเดี่ยว เกาะอกหรือเสื้อแขนกุดเหมือนกับคนอื่นแน่ๆ
จึงตัดสินใจเข้ามารับบริการกับทางเอเปกซ์เพราะเห็นโฆษณาในเฟสบุ๊ค รู้สึกตอนนั้นทางเอเปกซ์เค้าจะมี
โปรโมชั่นเลเซอร์ขนรักแร้ 8 ครั้ง ราคาประมาณ 9,000 บาท อ๊อฟเลยตัดสินใจรูดบัตรเครดิตครั้งแรก
ในการเข้ารับบริการพวกคลีนิคเสริมความงาม เป็นการรูดที่มือไม้สั่นมาก สมัยก่อนเงินหมื่นสำหรับอ๊อฟ
มันเยอะมาก ดีนะตอนนั้นมีโปรโมชั่นที่ผ่อนได้ 10 เดือน ทำมาจนครบคอร์สขนรักแร้อ๊อฟไม่ขึ้นอีกเลย
จนมาถึงทุกวันนี้ขึ้นเต็มที่ก็แค่ขนบางๆ ไม่เกินเส้นสองเส้น เลยประทับใจและใช้บริการมาเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะหนวด ขนแขน ขนขาหรือขนที่บริเวณใบหน้า จนทางเอเปกซ์เค้าชวนมาทำเลเซอร์ขน
น้องสาวนี่แหละ เพราะเป็นส่วนเดียวที่มีขนเหลืออยู่ 555
คือ ก่อนตัดสินใจจะเลเซอร์ขนน้องสาวก็คิดอยู่นานว่าจะทำไปทำไม มันจำเป็นขนาดนั้นเลยหรอ
แต่พออ่านรีวิวคนโน้นคนนี้บอกว่าทำแล้วดี ยิ่งช่วงมีประจำเดือน ผู้หญิงเราจะรู้สึกว่าน้องสาวไม่สะอาด
มีกลิ่นไม่พึงประสงค์รู้สึกเปียกอับชื้นอยู่ตลอดเวลา ก็เลยตัดสินใจ เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ไหนๆ ร่างกาย
ก็แทบจะไร้ขนอยู่แล้ว ตรงนั้นจะเก็บไว้ทำไม ไม่ต้องมีก็ได้เนอะ

ถ้าจะกำจัดขนอ๊อฟแนะนำเลยต้อง YAG LASER เท่านั้น ตอนแรกที่จ่ายเงินทำเลเซอร์ขนรักแร้ไปก็คิดว่าแพงจะคุ้ม
กับเงินที่เสียไปหรือเปล่า พอจบคอร์สถึงเข้าใจว่า เออ…มันคุ้มจริงๆ เพราะขนแทบไม่ขึ้นอีกเลยตอนนี้ก็สามสี่ปีแล้ว
ขนขึ้นใหม่ก็บางและน้อยมากกกกก แต่รักแร้ของคุณแม่แฟนอ๊อฟขนดกมาก มาก มากและมาก เคยเห็นรักแร้แกแล้วตกใจ
เลยพาแกไปทำ (เสียเงินปกตินะคะ) ยิงจนใกล้ครบคอร์สแล้วก็ยังไม่หมดเกลี้ยงเหมือนอ๊อฟ แต่น้อยและบางลงกว่าเดิม
ซึ่งต้องทำต่อไปอีกเกิน 8 ครั้ง กรณีนี้อ๊อฟว่าขึ้นอยู่กับเส้นขนและฮอร์โมนของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ
ซึ่งเจ้าเลเซอร์ YAG เนี่ยจะจับเม็ดสีเข้มได้ดีมาก YAG Laser เป็นเลเซอร์ที่มีสามารถทำลายรากขนได้ดีและมี
ประสิทธิภาพเหมาะสำหรับคนทุกสีผิว โดยไม่ทำลายผิวหนังบริเวณข้างเคียงระหว่างการยิง
เรียกได้ว่ารอยไหม้ รอยเบิร์นระหว่างการยิงแทบไม่มีเลย

วิชาการมาเยอะ คราวนี้มาฟังประสบการณ์เน้นๆ กันดีกว่าเนอะ ตอนไปทำเนี่ยเราไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับขนเลย
ไม่ต้องอายว่าขนจะดกดำ ยุ่งฟูหรือรกรุงรัง ปล่อยเอาไว้แบบนั้นแหละ ไม่ต้องอาย นอนกดๆ มือถือไปแป๊ปเดียว
เงยหน้ามาก็เสร็จแล้ว มาถึงขั้นตอนแรกพี่เค้าจะจัดการโกนขนให้เอง ของอ๊อฟเอาออกทั้งหมดไม่ให้เหลือเลย
เรียกได้ว่าโกนแบบเกลี้ยงเกลาเลยแหละ ทุกซอกทุกมุม หลังจากนั้นแปะยาชาทิ้งไว้ประมาณ 40 – 60 นาที
ถ้าใครสตรองไม่ต้องแปะยาชาก็ได้นะ เพราะค่าแปะยาชาจะไม่รวมกับค่าเลเซอร์ ถ้าใช้ยาชาที่คลีนิคจะเสียเงิน
ครั้งละ 500 บาท แต่ทางคลีนิคแนะนำว่าให้ไปซื้อยาชาข้างนอก รู้สึกจะชื่อว่า EMLA Cream 5% ข้างนอกราคา
มันจะมาณ 600-800 บาท ซึ่งใช้ได้ 2-3 ครั้งเลย จะคุ้มกว่ามาเสียค่ายาชากับทางคลีนิคเป็นรายครั้ง
อ๊อฟเคยยิงทั้งแปะยาชาและไม่แปะยาชา จะบอกว่าไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก หลังๆ อ๊อฟไม่แปะเลย
ไม่ได้งกนะ 555 แต่ไม่อยากมานอนรอแปะยาชานานเป็นชม. ไหนๆ ก็เจ็บเหมือนกัน
กัดฟันอดทนแปปเดียวก็เสร็จแล้ว T.T (ใครไม่สตรองไม่แนะนำเด้อ)

หลังจากนั้นพี่เค้าก็จะโปะเจลเย็นๆ เพื่อประคบให้เรา ยิ่งเย็นยิ่งดีเพราะเราจะรู้สึกชาและเจ็บน้อยลง
อ๊อฟนี่พอยิงไปแปปเดียว รีเควสเจลเย็นเพิ่มเลย ได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ T.T

” ถ้าให้บอกความรู้สึกมันจะเหมือนคนเอาหนังสติ๊กมายิงตรงนั้นซ้ำไปซ้ำมา ยิงเหมือนโกรธแค้นอะไรมา
ยังไงยังงั้น ฮ่า ฮ่า ฮ่ามันจะดีดๆ ร้อนๆ เจ็บๆ แปลบๆ ก็เจ็บอะแหละมายิงทุกครั้งก็เจ็บทุกครั้ง
แต่ถามว่าทนได้มั้ยก็ทนได้นะ ไม่ได้เจ็บถึงขนาดทนไม่ไหว ระหว่างยิงก็ขาหงิกขางอ มือเท้าเกร็งกันไป
พี่พนักงานก็น่ารักมาก จะมานวดขา บีบขา ชวนคุยเบี่ยงเบนความสนใจให้เราไม่รู้สึกเจ็บ
ถามว่าได้ผลมั้ย….ม่ายยยยยยยยยยย ยังเจ็บอยู่เหมือนเดิมแต่รู้สึกดี (ยิ้ม)
เราจะยิงกันทั้งหมด 2 รอบ รอบที่ 1 ยิงจนทั่วแล้วรอบที่ 2 มาเน้นเก็บรายละเอียดอีกที
ซึ่งใช้เวลาไม่นานค่ะ 15 -20 นาทีก็เรียบร้อย สำหรับการทำเลเซอร์กำจัดขนน้องสาว “

หลังจากยิงเสร็จพี่เค้าก็จะทายาให้ กลับมาบ้านก็ไม่ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษแค่งดใช้สบู่
หรืออะไรที่เป็นกรดเท่านั้นเอง สำหรับอ๊อฟยิงเสร็จมันก็จะแดงๆ เจ็บๆ ระบมนิดหน่อย
แต่ไม่มีอาการแสบร้อนหรือว่าผิวไหม้จากการยิง ซึ่งวันสองวันรอยแดงหรืออาการเจ็บก็จะหายไปเอง
แต่หลังยิงเลเซอร์ผิวจะแห้งขึ้นและลอกเป็นขุยได้ ไม่ได้เฉพาะน้องสาว แขนขาอ๊อฟยิงมาผิวก็แห้งมากกว่าเดิม
ดังนั้นหลังทำเลเซอร์ประมาณ 1 – 3 วัน ควรใช้ครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
ปล. แต่ตรงนั้นอ๊อฟไม่ได้ทาครีมอะไรนะ ปล่อยฟรีสไตล์ พยายามไม่ไปยุ่ง ไม่ไปรบกวนน้องเค้า

มาถึงตรงนี้แล้ว รู้นะคิดอะไรอยู่ ใครอยากดู Before และ After ให้ดูรูปเงาะไปก่อนเนอะ อ๊อฟทำภาพมาให้ดู
อารมณ์คล้ายๆ กัน แต่ของเราไม่ได้ขาวเนียนโบ๊ะ เหมือนเนื้อเงาะ ขนาดน้านนนน

“สรุปคือ อ๊อฟทำมาทั้งหมด 7 ครั้งแล้ว เหลือแค่อีกครั้งเดียวก็จะครบคอร์ส คือ ตั้งแต่ครั้งที่ 3
ขนน้องสาวของอ๊อฟก็ขึ้นมาน้อยมากแถมเส้นขนก็บางลงไม่แข็งเหมือนก่อน มีความเรียบเนียนขึ้น
และรู้สึกสะอาดสบายไม่อับชื้น ช่วงแรกก็จะโล่งๆ แต่หลังๆ บอกเลยว่าชิน เหมือนกลับไปเป็นเด็กน้อยอีกครั้ง
ยิ่งวันนั้นของเดือนนะ ไม่มีกลิ่นอับเลย ดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย…คือ ถ้ารู้ว่าดีแบบนี้รู้งี้ทำนานแล้ว “
ถ้าใครกำลังหาข้อมูลกำจัดขนจะทำไม่ว่าจะเป็น Bikini Line หรือ Whole Bikini แบบอ๊อฟหรือจะเป็นหนวด
ขนแขน ขนขาอ๊อฟแนะนำว่าทำเลยมันดีมากกกก ไม่จำเป็นต้องมาทำที่เดียวกับอ๊อฟเลย
ส่วนขนตรงนั้นรวบรวมความกล้า ฮึบนึง ไม่ต้องอาย เพราะพี่พนักงานที่ยิงเลเซอร์เป็นผู้หญิงทั้งหมดเลย
ถ้าอายก็ก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือไปเหมือนอ๊อฟ ปล่อยตัวตามสบายไม่ต้องเกร็งมาถึงจุดนี้แล้ว มันเป็นเรื่องของสุขอนามัยเนอะ
มาถึงตรงนี้หลายคนคงมีคำถาม ทำแล้วขาวขึ้นมั้ย หรือทำแล้วทำไมคล้ำกว่าเดิม อันนี้อ๊อฟจะตอบตามความเข้าใจอ๊อฟนะคะ
อ๊อฟเป็นคนผิวสองสี ตอนนี้น้องสาวเรามีผมอยู่ ขออนุญาตใช้คำว่าผมเนอะ เราเลยไม่รู้สึกว่ามันคล้ำหรืออะไร แต่พอเราโกนผมทิ้ง
มันเลยทำให้เราเห็นสีชัดขึ้น ตรงนั้นจะไปขาวได้ยังไงในเมื่อตัวเราสีผิวน้ำผึ้งขนาดนั้น 555
ถ้าถามจะทำยังไงให้ขาว ตอบแบบตอนที่ทำเลเซอร์ขนรักแร้มา ตอนนั้นถอนจนช้ำจนม่วง พอทำเลเซอร์ไม่เคยไปยุ่งไปกวนผิว
บริเวณนั้นอีกเลย มันก็ค่อยๆ ขาวขึ้นไม่คล้ำเหมือนแต่ก่อน อ๊อฟว่าตรงนั้นปล่อยไปเถอะ ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเองค่ะ
[CR][SR] รีวิวประสบการณ์เลเซอร์ขน(น้องสาว) เล่าแบบหมดเปลือก รูปประกอบในกระทู้ (รู้นะคิดอะไรอยู่)
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะสวัสดีค่ะ วันนี้อ๊อฟจะมารีวิวประสบการณ์เลเซอร์ขนน้องสาวแบบ Whole Bikini เล่าแบบหมดเปลือก
ที่ไปทำมาที่ Apex Profound Beauty ย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 ปีก่อน ตอนนั้นอ๊อฟเริ่มหาข้อมูล
รีวิวจากอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับการกำจัดขนรักแร้ด้วยเลเซอร์ เนื่องจากสมัยก่อนอ๊อฟใช้แหนบถอนขนรักแร้
ถอนจนตาแทบเหล่ หันไปถอนจนปวดคอ ขนรักแร้ของอ๊อฟ รูนึงนี่งอกมา 3-4 เส้นได้ แถมบางเส้นเป็นขนคุด
ไม่งอกออกมา อ๊อฟก็ไปเอาเข็มมาสะกิดให้ขนมันโผล่แล้วจึงค่อยถอน ทำแบบนี้แทบวันเว้นวันเพราะขนรักแร้
มันขึ้นเร็วมาก ถอนจนรักแร้ช้ำมีสีม่วงคล้ำและช้ำไปหมด พอเห็นสภาพรักแร้ตัวเองก็คิดได้ว่าถ้ายังถอนแบบนี้
ต่อไปคงไม่มีโอกาสได้ใส่สายเดี่ยว เกาะอกหรือเสื้อแขนกุดเหมือนกับคนอื่นแน่ๆ
จึงตัดสินใจเข้ามารับบริการกับทางเอเปกซ์เพราะเห็นโฆษณาในเฟสบุ๊ค รู้สึกตอนนั้นทางเอเปกซ์เค้าจะมี
โปรโมชั่นเลเซอร์ขนรักแร้ 8 ครั้ง ราคาประมาณ 9,000 บาท อ๊อฟเลยตัดสินใจรูดบัตรเครดิตครั้งแรก
ในการเข้ารับบริการพวกคลีนิคเสริมความงาม เป็นการรูดที่มือไม้สั่นมาก สมัยก่อนเงินหมื่นสำหรับอ๊อฟ
มันเยอะมาก ดีนะตอนนั้นมีโปรโมชั่นที่ผ่อนได้ 10 เดือน ทำมาจนครบคอร์สขนรักแร้อ๊อฟไม่ขึ้นอีกเลย
จนมาถึงทุกวันนี้ขึ้นเต็มที่ก็แค่ขนบางๆ ไม่เกินเส้นสองเส้น เลยประทับใจและใช้บริการมาเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะหนวด ขนแขน ขนขาหรือขนที่บริเวณใบหน้า จนทางเอเปกซ์เค้าชวนมาทำเลเซอร์ขน
น้องสาวนี่แหละ เพราะเป็นส่วนเดียวที่มีขนเหลืออยู่ 555
คือ ก่อนตัดสินใจจะเลเซอร์ขนน้องสาวก็คิดอยู่นานว่าจะทำไปทำไม มันจำเป็นขนาดนั้นเลยหรอ
แต่พออ่านรีวิวคนโน้นคนนี้บอกว่าทำแล้วดี ยิ่งช่วงมีประจำเดือน ผู้หญิงเราจะรู้สึกว่าน้องสาวไม่สะอาด
มีกลิ่นไม่พึงประสงค์รู้สึกเปียกอับชื้นอยู่ตลอดเวลา ก็เลยตัดสินใจ เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ไหนๆ ร่างกาย
ก็แทบจะไร้ขนอยู่แล้ว ตรงนั้นจะเก็บไว้ทำไม ไม่ต้องมีก็ได้เนอะ
ถ้าจะกำจัดขนอ๊อฟแนะนำเลยต้อง YAG LASER เท่านั้น ตอนแรกที่จ่ายเงินทำเลเซอร์ขนรักแร้ไปก็คิดว่าแพงจะคุ้ม
กับเงินที่เสียไปหรือเปล่า พอจบคอร์สถึงเข้าใจว่า เออ…มันคุ้มจริงๆ เพราะขนแทบไม่ขึ้นอีกเลยตอนนี้ก็สามสี่ปีแล้ว
ขนขึ้นใหม่ก็บางและน้อยมากกกกก แต่รักแร้ของคุณแม่แฟนอ๊อฟขนดกมาก มาก มากและมาก เคยเห็นรักแร้แกแล้วตกใจ
เลยพาแกไปทำ (เสียเงินปกตินะคะ) ยิงจนใกล้ครบคอร์สแล้วก็ยังไม่หมดเกลี้ยงเหมือนอ๊อฟ แต่น้อยและบางลงกว่าเดิม
ซึ่งต้องทำต่อไปอีกเกิน 8 ครั้ง กรณีนี้อ๊อฟว่าขึ้นอยู่กับเส้นขนและฮอร์โมนของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ
ซึ่งเจ้าเลเซอร์ YAG เนี่ยจะจับเม็ดสีเข้มได้ดีมาก YAG Laser เป็นเลเซอร์ที่มีสามารถทำลายรากขนได้ดีและมี
ประสิทธิภาพเหมาะสำหรับคนทุกสีผิว โดยไม่ทำลายผิวหนังบริเวณข้างเคียงระหว่างการยิง
เรียกได้ว่ารอยไหม้ รอยเบิร์นระหว่างการยิงแทบไม่มีเลย
วิชาการมาเยอะ คราวนี้มาฟังประสบการณ์เน้นๆ กันดีกว่าเนอะ ตอนไปทำเนี่ยเราไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับขนเลย
ไม่ต้องอายว่าขนจะดกดำ ยุ่งฟูหรือรกรุงรัง ปล่อยเอาไว้แบบนั้นแหละ ไม่ต้องอาย นอนกดๆ มือถือไปแป๊ปเดียว
เงยหน้ามาก็เสร็จแล้ว มาถึงขั้นตอนแรกพี่เค้าจะจัดการโกนขนให้เอง ของอ๊อฟเอาออกทั้งหมดไม่ให้เหลือเลย
เรียกได้ว่าโกนแบบเกลี้ยงเกลาเลยแหละ ทุกซอกทุกมุม หลังจากนั้นแปะยาชาทิ้งไว้ประมาณ 40 – 60 นาที
ถ้าใครสตรองไม่ต้องแปะยาชาก็ได้นะ เพราะค่าแปะยาชาจะไม่รวมกับค่าเลเซอร์ ถ้าใช้ยาชาที่คลีนิคจะเสียเงิน
ครั้งละ 500 บาท แต่ทางคลีนิคแนะนำว่าให้ไปซื้อยาชาข้างนอก รู้สึกจะชื่อว่า EMLA Cream 5% ข้างนอกราคา
มันจะมาณ 600-800 บาท ซึ่งใช้ได้ 2-3 ครั้งเลย จะคุ้มกว่ามาเสียค่ายาชากับทางคลีนิคเป็นรายครั้ง
อ๊อฟเคยยิงทั้งแปะยาชาและไม่แปะยาชา จะบอกว่าไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก หลังๆ อ๊อฟไม่แปะเลย
ไม่ได้งกนะ 555 แต่ไม่อยากมานอนรอแปะยาชานานเป็นชม. ไหนๆ ก็เจ็บเหมือนกัน
กัดฟันอดทนแปปเดียวก็เสร็จแล้ว T.T (ใครไม่สตรองไม่แนะนำเด้อ)
หลังจากนั้นพี่เค้าก็จะโปะเจลเย็นๆ เพื่อประคบให้เรา ยิ่งเย็นยิ่งดีเพราะเราจะรู้สึกชาและเจ็บน้อยลง
อ๊อฟนี่พอยิงไปแปปเดียว รีเควสเจลเย็นเพิ่มเลย ได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ T.T
” ถ้าให้บอกความรู้สึกมันจะเหมือนคนเอาหนังสติ๊กมายิงตรงนั้นซ้ำไปซ้ำมา ยิงเหมือนโกรธแค้นอะไรมา
ยังไงยังงั้น ฮ่า ฮ่า ฮ่ามันจะดีดๆ ร้อนๆ เจ็บๆ แปลบๆ ก็เจ็บอะแหละมายิงทุกครั้งก็เจ็บทุกครั้ง
แต่ถามว่าทนได้มั้ยก็ทนได้นะ ไม่ได้เจ็บถึงขนาดทนไม่ไหว ระหว่างยิงก็ขาหงิกขางอ มือเท้าเกร็งกันไป
พี่พนักงานก็น่ารักมาก จะมานวดขา บีบขา ชวนคุยเบี่ยงเบนความสนใจให้เราไม่รู้สึกเจ็บ
ถามว่าได้ผลมั้ย….ม่ายยยยยยยยยยย ยังเจ็บอยู่เหมือนเดิมแต่รู้สึกดี (ยิ้ม)
เราจะยิงกันทั้งหมด 2 รอบ รอบที่ 1 ยิงจนทั่วแล้วรอบที่ 2 มาเน้นเก็บรายละเอียดอีกที
ซึ่งใช้เวลาไม่นานค่ะ 15 -20 นาทีก็เรียบร้อย สำหรับการทำเลเซอร์กำจัดขนน้องสาว “
หลังจากยิงเสร็จพี่เค้าก็จะทายาให้ กลับมาบ้านก็ไม่ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษแค่งดใช้สบู่
หรืออะไรที่เป็นกรดเท่านั้นเอง สำหรับอ๊อฟยิงเสร็จมันก็จะแดงๆ เจ็บๆ ระบมนิดหน่อย
แต่ไม่มีอาการแสบร้อนหรือว่าผิวไหม้จากการยิง ซึ่งวันสองวันรอยแดงหรืออาการเจ็บก็จะหายไปเอง
แต่หลังยิงเลเซอร์ผิวจะแห้งขึ้นและลอกเป็นขุยได้ ไม่ได้เฉพาะน้องสาว แขนขาอ๊อฟยิงมาผิวก็แห้งมากกว่าเดิม
ดังนั้นหลังทำเลเซอร์ประมาณ 1 – 3 วัน ควรใช้ครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
ปล. แต่ตรงนั้นอ๊อฟไม่ได้ทาครีมอะไรนะ ปล่อยฟรีสไตล์ พยายามไม่ไปยุ่ง ไม่ไปรบกวนน้องเค้า
มาถึงตรงนี้แล้ว รู้นะคิดอะไรอยู่ ใครอยากดู Before และ After ให้ดูรูปเงาะไปก่อนเนอะ อ๊อฟทำภาพมาให้ดู
อารมณ์คล้ายๆ กัน แต่ของเราไม่ได้ขาวเนียนโบ๊ะ เหมือนเนื้อเงาะ ขนาดน้านนนน
“สรุปคือ อ๊อฟทำมาทั้งหมด 7 ครั้งแล้ว เหลือแค่อีกครั้งเดียวก็จะครบคอร์ส คือ ตั้งแต่ครั้งที่ 3
ขนน้องสาวของอ๊อฟก็ขึ้นมาน้อยมากแถมเส้นขนก็บางลงไม่แข็งเหมือนก่อน มีความเรียบเนียนขึ้น
และรู้สึกสะอาดสบายไม่อับชื้น ช่วงแรกก็จะโล่งๆ แต่หลังๆ บอกเลยว่าชิน เหมือนกลับไปเป็นเด็กน้อยอีกครั้ง
ยิ่งวันนั้นของเดือนนะ ไม่มีกลิ่นอับเลย ดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย…คือ ถ้ารู้ว่าดีแบบนี้รู้งี้ทำนานแล้ว “
ถ้าใครกำลังหาข้อมูลกำจัดขนจะทำไม่ว่าจะเป็น Bikini Line หรือ Whole Bikini แบบอ๊อฟหรือจะเป็นหนวด
ขนแขน ขนขาอ๊อฟแนะนำว่าทำเลยมันดีมากกกก ไม่จำเป็นต้องมาทำที่เดียวกับอ๊อฟเลย
ส่วนขนตรงนั้นรวบรวมความกล้า ฮึบนึง ไม่ต้องอาย เพราะพี่พนักงานที่ยิงเลเซอร์เป็นผู้หญิงทั้งหมดเลย
ถ้าอายก็ก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือไปเหมือนอ๊อฟ ปล่อยตัวตามสบายไม่ต้องเกร็งมาถึงจุดนี้แล้ว มันเป็นเรื่องของสุขอนามัยเนอะ
มาถึงตรงนี้หลายคนคงมีคำถาม ทำแล้วขาวขึ้นมั้ย หรือทำแล้วทำไมคล้ำกว่าเดิม อันนี้อ๊อฟจะตอบตามความเข้าใจอ๊อฟนะคะ
อ๊อฟเป็นคนผิวสองสี ตอนนี้น้องสาวเรามีผมอยู่ ขออนุญาตใช้คำว่าผมเนอะ เราเลยไม่รู้สึกว่ามันคล้ำหรืออะไร แต่พอเราโกนผมทิ้ง
มันเลยทำให้เราเห็นสีชัดขึ้น ตรงนั้นจะไปขาวได้ยังไงในเมื่อตัวเราสีผิวน้ำผึ้งขนาดนั้น 555
ถ้าถามจะทำยังไงให้ขาว ตอบแบบตอนที่ทำเลเซอร์ขนรักแร้มา ตอนนั้นถอนจนช้ำจนม่วง พอทำเลเซอร์ไม่เคยไปยุ่งไปกวนผิว
บริเวณนั้นอีกเลย มันก็ค่อยๆ ขาวขึ้นไม่คล้ำเหมือนแต่ก่อน อ๊อฟว่าตรงนั้นปล่อยไปเถอะ ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเองค่ะ
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว