สวัสดี่ค่ะ ปกติจะเข้ามาแชร์วิธีการทำอาหาร จาก " ครัวตุ๊กตา " แต่วันนี้มาขอแชร์ประสบการณ์ การสมัครเป็นคนสัญชาติอเมริกาของตัวเองค่ะ
พึ่งไปสอบมาเมื่อ วันที่ 17 พ.ค. 2561 และก็สอบผ่านเป็นที่เรียบร้อย เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ สำหรับหลาย ๆ คนที่กำลังจะสมัคร ซิติเซ่นในประเทศอเมริกานะคะ
ก่อนอื่น ต้องขอบอกว่า ตามาอยู่อเมริกา ปีนี้เป็นปีที่ 14 แล้วค่ะ (หลายคนทำหน้าสงสัยทำไมพึ่งมาสอบเป็นซิติเซ่น ??????)
- คำตอบคือว่า ขี้เกียจคำเดียวเลยจริง ๆ ค่ะ ถือกรีนการ์ด 2 ปี ใบแรก และก็ต่อกรีนการ์ด ใบที่ 2 อีก 10 ปี พอดีว่า กรีนการ์ดจะหมดอายุในเดือน ตุลาคม 2561 นี่คือคำตอบว่า ทำไมพึ่งคิดอยากมาเป็นซิติเซ่น
- สามีเป็นคนอเมริกัน Citizen
- ตา อยู่ Houston Texas ค่ะ
ต่อไปจะเป็น Time line ตั้งแต่เริ่มส่งใบสมัครเลยนะคะ (ใครอยู่ เท็กซัส ใช้เวลานานมาก ทั้งหมด ตั้งแต่วันสมัคร ถึงวันสอบสัมภาษณ์ ใช้เวลา 1 ปี กับ 5 เดือน)
ยาววววว นาน เหลือเกิน อาจจะเป็นว่ารัฐนี้มีผู้ต้องการเป็นซิติเซ่นมากก็ได้ ไม่ทราบว่ารัฐอื่น ใช้เวลานานแค่ไหน มาแชร์กันได้นะคะ
เงื่อนไขของผู้สมัครขอไม่กล่าวถึงนะคะ คงหาอ่านได้หรือ เข้าไปเว็บ USCIS.com และกดเข้าไปที่ US Citizenship
การสมัครซิติเซ่น ใช้ แบบฟอร์ม N- 400 online ( ทุกอย่าง ใช้ online หมดนะคะ)
๋Jan 22,2017 ........... เริ่มต้นเข้าเว็บไซร์ และ กรอบใบสมัคร ในแบบฟอร์ม N-400 มีทั้งหมด 20 หน้า แนะนำกรอบให้ละเอียด และให้ความเป็นจริงถูกต้องที่สุด โดยเฉพาะ วัน เวลา ปี ต้องให้แม่นนะคะ พร้อมจ่าย $725 (ตาจ่ายด้วยหมายเลขบัตรเครดิตรค่ะ)
Feb 03,2017........... USCIS ตอบจดหมาย ตอบรับใบสมัคร Application for Naturalization (N-400) ใช้เวลา เกือบ 3 อาทิตย์ จากวันส่งใบสมัคร
Feb 11,2017 .............ได้รับจดหมายให้ไปทำการพิมพ์ลายนิ้วมือ Biometric Notification
March 02/2017........... ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ ณ วันนี้ เราจะได้หนังสือ คู่มือ Learn About the United States quick civics lessons
*
*
*
*
*
รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ อีก 1 ปี กับ 4 เดือน
*
*
*
ระหว่างการรอคอยอันแสนยาวนาน ก็อ่าน คำถามคำตอบ จนขึ้นใจ มี 100 ข้อ อ่านแล้ว ก็ลืมไปอีกแล้ว เพราะว่ามันนานเหลือเกิน ไม่จำมันแล้ว ถึงวันใกล้ ๆ ค่อยอ่านอีกที อิอิ
April 16 2018.......... รับจดหมาย วันนัดสัมภาษณ์ จดหมายนี้ สำคัญมากนะคะ เก็บไว้ เพราะว่าเราต้องยื่นในวันสัมภาษณ์ และ เมื่อสัมภาษณ์เสร็จ สิ้น หน้าที่ที่สัมภาษณ์เราจะเก็บจดหมายนี้กลับคืนไปค่ะ (ระหว่างนี้มีเวลา 1 เดือน เริ่มอ่านคำถามคำตอบ 100 ข้อ อีกรอบ จริง ๆ ไม่ได้อ่าน ใช้ฟังเอาเอาใส่โทรศัพท์ แล้ว ฟัง นั่งฟัง นอนฟัง ขับรถก็ฟัง ไม่ฟังอย่างอื่นเลย 1 เดือนเต็ม จำจนขึ้นใจจนถึงวันสอบ แต่น แตน แต๊น พร้อมแล๊ะ
May 17, 2018 .......... วันสัมภาษณ์ สถานที่สัมภาษณ์ ก็ไม่ไกลจากบ้าน ขับรถ 25 นาทีก็ถึงค่ะ เวลานัด 7.00 น. เช้าตรู๋ ดีจัง เช้า ๆ สมองยังปลอดโปร่ง
ขับรถถึงก่อนเวลา 30 นาที ประตูยังไม่เปิด แต่มีคน ยืนต่อแถวด้านนอกแล้ว 10 กว่าคน ประตู เปิด ประมาณ 6.40 น. ขั้นตอนแรก ต้องผ่านการตรวจโดยผ่านเคครื่องสแกน ถอดรองเท้า เครื่องมือ โทรศัพท์ อีเลตโทรนิค ต่าง ๆ ต้องถอด เข็มขัด เหมือนกับการสแกนเวลาไปสนามบินเหมือนกันเป๊ะ
ผ่านเข้าไปแล้ว ก็จะต้องนำจดหมายที่นัดวันสัมภาษณ์ มายื่นต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อจะลงในคอมพิวเตอร์ หากใครยื่นก่อนเวลาเกิน 30 นาที เจ้าหน้าที่ไล่ให้ไปนั่งรอ ต้องเฉพาะ คนที่นัดเวลา ล่วงไน้าไม่เกิน 30 นาทีเท่านั้น เรายื่นจดหมายเสร็จ เขาจะให้จดหมายนั้นกลับมา แล้วหาที่นั่งรอเรียกชื่อโดยเจ้าหน้าที่
ใช้เวลารอไม่นานเลย เจ้าหน้าที่เยอะมากกกกกกกก และแล้วก็ถึงคิวขอ ตาแล้วค่ะ เจ้าหน้าที่จะออกมารับ ทักทาย ปกติ
Good morning how are you?
เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ เป็นผู้หญิงค่ะ พูดจา เป็นกันเองมาก จากที่สังเกต ทุกคน ใจดีมาก ยิ้มแย้มดีค่ะ เดินตามเจ้าหน่าที่เข้าไป
จะเป็นออฟฟิต เล็ก ๆ ซอยเป็นห้องเป็นสัดส่วน หลาย สิบห้องมากเลย
การสอบสัมภาษณ์ จะมี 4 Part
1.
civics test เป็น คำถามจากหนังสือที่เราได้มาจากวันพิมพ์ลายนิ้วมือ มี 100 ข้อ เจ้าหน้าที่จะถามเราแค่ 10 ข้อ ต้องตอบให้ได้ 6 ข้อ จากใน 10 ข้อค่ะ
2.
speak จะเป็นคำถาม ซึ่งเราต้องตอบ จากคำตอบที่เรากรอกไว้ในใบสมัคร N-400 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะถามเพื่อทดสอบภาษาอังกฤษ ถามตอบ และ เพื่อความแน่ใจว่าเราเป็นคนกรอกเอกสารนั้นตรงตามความเป็นจริงหรือไม่ด้วยค่ะ
3.
Reading การสอบอ่านภาษาอังกฤษค่ะ จะอ่านแค่ 1 ประโยค จาก 3 ประโยค แต่ถ้าเราอ่านในประโยคแรกไม่ผ่าน จนท. ก็จะให้เราแก้ตัวอ่านในประโยคต่อไปค่ะ
4.
Writing สอบการเขียนภาษาอังกฤษของเราค่ะ จะมีกระดาษเปล่ามีเส้นมาให้ และเราต้องฟังประโยคจาก จนท. แล้วต้องเขียนลงในกระดาษ ถ้าประโยคแรกผ่าน ก็ไม่ต้องเขียนประโยคที่ 2 แค่ 1 ประโยคพอค่ะ
ต่อไปนี้เป็นบรรยากาศในการสัมภาษณ์ จากประสบการณ์ตรงของตาค่ะ ตามไปดูกันว่าเขาถามอะไรกันบ้าง
เดินเข้าห้อง ยังไม่นั่งนะคะ รอให้เขาเชิญก่อน ตามมารยาท
1. เจ้าหน้าที่เชิญให้นั่ง .... เรานั่งลงแล้ว เจ้าหน้าที่ก็แนะนำว่าเขาชื่ออะไร จะมาเป็นคนสัมภาษณ์เราวันนี้ แล้วก็จะเห็น ใบสมัครของเรา และเอกสาร อีก 1 แฟ้มใหญ่ คาดว่าเป็นเอกสารทั้งหมด ตั้งแต่ 14 ปีที่ เราติดต่อกับ Immigration ปึกหนามากกกกก
2. Please stand up and raise your right hand.
_____ ก็ยืนขึ้น ยกมือขวาขึ้น
3. Do you promise to tell the truth, the whole truth, and nothing but the truth?
______ Yes, I do
4. จนท. ยื่นกระดาษ มาให้ 2 แผ่น
แผ่นที่ 1 เป็นประโยค ภาษาอังกฤษ มี 3 ประโยค จนท. บอกว่าให้อ่านเสัยงดัง ในประโยคที่ 1
Columbus Day is in October
แผ่นที่ 2 เป็นกระดาษเปล่า มีหัว ราชการ USCIS มีเส้นมาให้ สำหรับเขียนข้อความค่ะ
จนท:
Now I would like you to write line number 1. for me
The President lives in Washington, D.C.
ตาก็ทำการเขียนตามที่ จนท. บอก แค่ประโยคเดียว ถ้าถูกต้อง ก็แค่นี้ค่ะ
5. จนท. จะเริ่ม ถาม คำถามต่าง ๆ ที่เรากรอกไว้ในใบสมัคร N-400 เพื่อทบทวนว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากวันที่เราส่งใบสมัครไว้ และเป็นการทดสอบในการ เข้าใจภาษาอังกฤษ จากการ ถาม และตอบของตัวเราด้วยค่ะ
คำถาม ก็ประมาณนี้
ขอพิมพ์เป็นภาษาไทยนะคะ
...ชื่อในปัจจุบันชื่ออะไร
...ต้องการเปลี่ยนชื่อหรือไม่
...หมายเลขบัตร Social Security หมายเลข......... ใช่หรือไม่
...เกิดวันเดือนปีอะไร
...ได้รับเป็น Permanent Resident เมื่อวันที่เท่าไหร่ (ข้อนี้ ตาใส่วันที่ได้รับกรีนการ์ด 10 ปี พอเจ้าหน้าที่ฟัง เขาก็ท้วงมาว่ายูได้ เมื่อ ปี 2005 ไม่ใช่เหรอ
แล้วเจ้าหน้าที่ก็เปิดแฟ้มปึกโตนั่นดูอีกทีเพื่อความแน่ใจ นั่นทำให้เราได้รู้ว่าไอ้เข้าแฟ้สปึกโตหนา ๆ นั่น เป็นข้อมูลของตัวเราทั้งหมดตั้งแต่เดินทางเข้ามาอยู่อเมริกา )
...บ้านเลขที่.......ถูกต้องหรือ ไม่ เปลี่ยนที่อยู่หรือไม่
... สูงเท่าไหร่ หนักเท่าไหร่
...ทำงานอยู่ที่ ........ใช่หรือไม่ ยังทำงานที่เดิรรึเปล่า
...สถานะ แต่งาน หรือ โสด
...สามี ชื่อ นามสกุลอะไร
...สามีเป็ Citizen หรือไม่
...สามีทำงานอยู่ที่ ...........ใช่หรือไม่
...ในระยะเวลา 5 ปี นับจากวันที่ส่งใบสมัคร ได้ออกนอกประเทศ หรือไม่ และมีการออกนอกประเทศ เกิน 6 เดือน หรือไม่
...มีลูก หรือไม่ (พอดีไม่มีลูก เลยไม่ต้องตอบคำถามย่อย ๆ ของลูก ๆ สบายไป)
...แต่งงานมากี่ครั้ง (1 ครั้งค่ะ)
ต่อไปเป็นคำถามมากมายที่ส่วนมากจะตอบ "NO" เจ้าหน้าที่ที่สัมภาษณ์คนนี้ ตลกมาก เขาบอกว่า ยูช่วยกันนะ วันนี้ฉันต้องสัมภาษณ์คนอีกเยอะมากเลย เอางี้นะ ฉันเห็นว่ายู ตอบคำถามที่เป็นคำตอบ "NO" งั้นฉันขอถามแบบรวดเร็ว ขอให้.ฉันอ่านจนจบให้หมดทุกคำถามก่อน แล้ว ยูตอบแค่ "NO" แค่ครั้งเดียวแล้วกันนะ เออ ดีจัง ไม่ต้องนั่งตอบ โน ให้ทุกคำถาม โชคดี จะได้ไม่งงด้วย บางทีฟังเพลิน มันมีบางคำถามที่ตอบ "YES" ด้วยนะคะ ต้องระวัง
แล้วเจ้าหน้าที่ก็อ่านอย่างรวดเร็วจนจบ เขาก็เงยหน้า เราก็แค่ ตอบว่า All anser is "NO" ฮ่า ฮ่า มันง่ายนิ๊ (คำถามที่ต้องตอบ "NO" มีอยู่ประมาณ 65 คำถาม ค่ะ)
ต่อไปเป็น คำถามที่ตอบ "YES" มี 8 คำถามเท่ายั้นค่ะ
สุดท้ายเป็นคำถามเดี่ยวกับ Civis ใน 100 ข้อค่ะ ของตา ถามแค่ 6 คำถามเท่านั้น เพราะว่า ตอบถูกหมดใน 6 ข้อแรก เลยไม่ต้องถามต่อ คำถามที่ได้รับมีดังนี้ค่ะ
1. What does the constitution do?
ตอบ Set up the Goverment
2. If both the President and the Vice President can no longer serve,Who become President?
ตอบ The Speaker of the house
3. What does the President cabinet do?
ตอบ Advise the President
4. What did the Declaration of Independence do?
ตอบ anoundced our independence (from Great Britain)
5. How many justices are on the Supreme Court?
ตอบ 9 (nine)
6. How many amendments does the Constitution have?
ตอบ 27 (twenty-seven)
ตอบคำถามนี้เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า Congratulations!!!!!!!!!!!!!!!!!! you are Pass
และแล้วก็สอบผ่านค่ะ ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 10 นาทีค่ะ เจ้าหน้าที่จะคืนกรีนการ์ดกลับมาให้เรานะคะ ในขั้นตอนนี้ และให้เรานำไปในวันสาบานตนเพื่อนส่งคืนในวันนั้นค่ะ และเรียกเก็บจดหมายนัดวันสัมภาษณ์ เก็บกลับไปด้วยวค่ะ
เจ้าหน้าที่บอก ให้เซนต์ชื่อ เป็นตัวพิมพ์ หรือ ตัวเขียน และเป็นแบบลายเซนต์ พร้อมวันที่ เรียบร้อย แล้วเจ้าหน้าที่ก็เก็บรวบรวมเอกสารทั้งหมดเข้าแฟ้ม พร้อมยื่นเอกสารให้ 3 แผ่น
ส่วนอีก 2 แผ่น เป็นสถานที่ ที่จะทำการสาบานตน และแผนที่ ใครที่อยู่ Houston Texas จะมีการทำพิธีสาบานตนเดือนละ ครั้ง ซึ่งจะมีผู้ผ่านการสอบเป็นซิติเซ่น หลายพันคน จึงต้องรวบรวมแล้วจัดพิธีรวม ๆ กัน ซึ่งจะมีพิธีสาบานตนในอีก 2-4 อาทิตย์ รอจดหมาย แจ้งอีกครั้งค่ะ ซึ่งจะเป็นที่
M.O. Campbell Center
ตอนนี้ก็รอแค่จดหมาย นัดวันสาบานตนค่ะ หวังว่า ประสบการณ์ที่นำมาแชร์คงเป็นประโยชน์บ้างนะคะ สำหรับผู้ที่กำลังคิดว่าจะสมัครซิติเซ่นของอเมริกา
อยากบอกว่า ที่รัฐเท็กซัส ใช้เวลา Time Line นานมากกกกกกกกกกก ใครคิดจะเริ่มต้นสมัครก็คิดเผื่อเวลาไว้เลยค่ะ
ถ้ามีคำถาม ถ้าพอจะช่วยตอบได้ก็ยินดีนะคะ ทิ้งคำถามไว้ในคอมเม้นต์ได้เลยค่ะ จะพยามเข้ามาเช็คและตอบคำถามให้นะคะ
การสอบ U.S. Citizen ไม่ยากอย่างที่ใคร ๆ กลัวเลยค่ะ หากมีโอกาศ จะมาเล่า ประสบการณ์ ในการไปสาบานตนเป็นพลเมืองอเมริกา มาแชร์ให้ทุกท่านอ่านอีกนะคะ ถ้าพิมพ์ตกหล่น ผิดพลาด ขออภัย ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ใช้เวลาพิมพ์นานเหมือนกันนะเนี่ย วันนี้ขอบคุณมากค่ะที่สละเวลามาอ่าน
แชร์ประสบการณ์สอบ ซิติเซ่น เอมริกา (รัฐเท็กซัส) 2018ค่ะ
พึ่งไปสอบมาเมื่อ วันที่ 17 พ.ค. 2561 และก็สอบผ่านเป็นที่เรียบร้อย เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ สำหรับหลาย ๆ คนที่กำลังจะสมัคร ซิติเซ่นในประเทศอเมริกานะคะ
ก่อนอื่น ต้องขอบอกว่า ตามาอยู่อเมริกา ปีนี้เป็นปีที่ 14 แล้วค่ะ (หลายคนทำหน้าสงสัยทำไมพึ่งมาสอบเป็นซิติเซ่น ??????)
- คำตอบคือว่า ขี้เกียจคำเดียวเลยจริง ๆ ค่ะ ถือกรีนการ์ด 2 ปี ใบแรก และก็ต่อกรีนการ์ด ใบที่ 2 อีก 10 ปี พอดีว่า กรีนการ์ดจะหมดอายุในเดือน ตุลาคม 2561 นี่คือคำตอบว่า ทำไมพึ่งคิดอยากมาเป็นซิติเซ่น
- สามีเป็นคนอเมริกัน Citizen
- ตา อยู่ Houston Texas ค่ะ
ต่อไปจะเป็น Time line ตั้งแต่เริ่มส่งใบสมัครเลยนะคะ (ใครอยู่ เท็กซัส ใช้เวลานานมาก ทั้งหมด ตั้งแต่วันสมัคร ถึงวันสอบสัมภาษณ์ ใช้เวลา 1 ปี กับ 5 เดือน)
ยาววววว นาน เหลือเกิน อาจจะเป็นว่ารัฐนี้มีผู้ต้องการเป็นซิติเซ่นมากก็ได้ ไม่ทราบว่ารัฐอื่น ใช้เวลานานแค่ไหน มาแชร์กันได้นะคะ
เงื่อนไขของผู้สมัครขอไม่กล่าวถึงนะคะ คงหาอ่านได้หรือ เข้าไปเว็บ USCIS.com และกดเข้าไปที่ US Citizenship
การสมัครซิติเซ่น ใช้ แบบฟอร์ม N- 400 online ( ทุกอย่าง ใช้ online หมดนะคะ)
๋Jan 22,2017 ........... เริ่มต้นเข้าเว็บไซร์ และ กรอบใบสมัคร ในแบบฟอร์ม N-400 มีทั้งหมด 20 หน้า แนะนำกรอบให้ละเอียด และให้ความเป็นจริงถูกต้องที่สุด โดยเฉพาะ วัน เวลา ปี ต้องให้แม่นนะคะ พร้อมจ่าย $725 (ตาจ่ายด้วยหมายเลขบัตรเครดิตรค่ะ)
Feb 03,2017........... USCIS ตอบจดหมาย ตอบรับใบสมัคร Application for Naturalization (N-400) ใช้เวลา เกือบ 3 อาทิตย์ จากวันส่งใบสมัคร
Feb 11,2017 .............ได้รับจดหมายให้ไปทำการพิมพ์ลายนิ้วมือ Biometric Notification
March 02/2017........... ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ ณ วันนี้ เราจะได้หนังสือ คู่มือ Learn About the United States quick civics lessons
*
*
*
*
รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ อีก 1 ปี กับ 4 เดือน
*
*
*
ระหว่างการรอคอยอันแสนยาวนาน ก็อ่าน คำถามคำตอบ จนขึ้นใจ มี 100 ข้อ อ่านแล้ว ก็ลืมไปอีกแล้ว เพราะว่ามันนานเหลือเกิน ไม่จำมันแล้ว ถึงวันใกล้ ๆ ค่อยอ่านอีกที อิอิ
April 16 2018.......... รับจดหมาย วันนัดสัมภาษณ์ จดหมายนี้ สำคัญมากนะคะ เก็บไว้ เพราะว่าเราต้องยื่นในวันสัมภาษณ์ และ เมื่อสัมภาษณ์เสร็จ สิ้น หน้าที่ที่สัมภาษณ์เราจะเก็บจดหมายนี้กลับคืนไปค่ะ (ระหว่างนี้มีเวลา 1 เดือน เริ่มอ่านคำถามคำตอบ 100 ข้อ อีกรอบ จริง ๆ ไม่ได้อ่าน ใช้ฟังเอาเอาใส่โทรศัพท์ แล้ว ฟัง นั่งฟัง นอนฟัง ขับรถก็ฟัง ไม่ฟังอย่างอื่นเลย 1 เดือนเต็ม จำจนขึ้นใจจนถึงวันสอบ แต่น แตน แต๊น พร้อมแล๊ะ
May 17, 2018 .......... วันสัมภาษณ์ สถานที่สัมภาษณ์ ก็ไม่ไกลจากบ้าน ขับรถ 25 นาทีก็ถึงค่ะ เวลานัด 7.00 น. เช้าตรู๋ ดีจัง เช้า ๆ สมองยังปลอดโปร่ง
ขับรถถึงก่อนเวลา 30 นาที ประตูยังไม่เปิด แต่มีคน ยืนต่อแถวด้านนอกแล้ว 10 กว่าคน ประตู เปิด ประมาณ 6.40 น. ขั้นตอนแรก ต้องผ่านการตรวจโดยผ่านเคครื่องสแกน ถอดรองเท้า เครื่องมือ โทรศัพท์ อีเลตโทรนิค ต่าง ๆ ต้องถอด เข็มขัด เหมือนกับการสแกนเวลาไปสนามบินเหมือนกันเป๊ะ
ผ่านเข้าไปแล้ว ก็จะต้องนำจดหมายที่นัดวันสัมภาษณ์ มายื่นต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อจะลงในคอมพิวเตอร์ หากใครยื่นก่อนเวลาเกิน 30 นาที เจ้าหน้าที่ไล่ให้ไปนั่งรอ ต้องเฉพาะ คนที่นัดเวลา ล่วงไน้าไม่เกิน 30 นาทีเท่านั้น เรายื่นจดหมายเสร็จ เขาจะให้จดหมายนั้นกลับมา แล้วหาที่นั่งรอเรียกชื่อโดยเจ้าหน้าที่
ใช้เวลารอไม่นานเลย เจ้าหน้าที่เยอะมากกกกกกกก และแล้วก็ถึงคิวขอ ตาแล้วค่ะ เจ้าหน้าที่จะออกมารับ ทักทาย ปกติ
Good morning how are you?
เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ เป็นผู้หญิงค่ะ พูดจา เป็นกันเองมาก จากที่สังเกต ทุกคน ใจดีมาก ยิ้มแย้มดีค่ะ เดินตามเจ้าหน่าที่เข้าไป
จะเป็นออฟฟิต เล็ก ๆ ซอยเป็นห้องเป็นสัดส่วน หลาย สิบห้องมากเลย
การสอบสัมภาษณ์ จะมี 4 Part
1. civics test เป็น คำถามจากหนังสือที่เราได้มาจากวันพิมพ์ลายนิ้วมือ มี 100 ข้อ เจ้าหน้าที่จะถามเราแค่ 10 ข้อ ต้องตอบให้ได้ 6 ข้อ จากใน 10 ข้อค่ะ
2. speak จะเป็นคำถาม ซึ่งเราต้องตอบ จากคำตอบที่เรากรอกไว้ในใบสมัคร N-400 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะถามเพื่อทดสอบภาษาอังกฤษ ถามตอบ และ เพื่อความแน่ใจว่าเราเป็นคนกรอกเอกสารนั้นตรงตามความเป็นจริงหรือไม่ด้วยค่ะ
3. Reading การสอบอ่านภาษาอังกฤษค่ะ จะอ่านแค่ 1 ประโยค จาก 3 ประโยค แต่ถ้าเราอ่านในประโยคแรกไม่ผ่าน จนท. ก็จะให้เราแก้ตัวอ่านในประโยคต่อไปค่ะ
4. Writing สอบการเขียนภาษาอังกฤษของเราค่ะ จะมีกระดาษเปล่ามีเส้นมาให้ และเราต้องฟังประโยคจาก จนท. แล้วต้องเขียนลงในกระดาษ ถ้าประโยคแรกผ่าน ก็ไม่ต้องเขียนประโยคที่ 2 แค่ 1 ประโยคพอค่ะ
ต่อไปนี้เป็นบรรยากาศในการสัมภาษณ์ จากประสบการณ์ตรงของตาค่ะ ตามไปดูกันว่าเขาถามอะไรกันบ้าง
เดินเข้าห้อง ยังไม่นั่งนะคะ รอให้เขาเชิญก่อน ตามมารยาท
1. เจ้าหน้าที่เชิญให้นั่ง .... เรานั่งลงแล้ว เจ้าหน้าที่ก็แนะนำว่าเขาชื่ออะไร จะมาเป็นคนสัมภาษณ์เราวันนี้ แล้วก็จะเห็น ใบสมัครของเรา และเอกสาร อีก 1 แฟ้มใหญ่ คาดว่าเป็นเอกสารทั้งหมด ตั้งแต่ 14 ปีที่ เราติดต่อกับ Immigration ปึกหนามากกกกก
2. Please stand up and raise your right hand.
_____ ก็ยืนขึ้น ยกมือขวาขึ้น
3. Do you promise to tell the truth, the whole truth, and nothing but the truth?
______ Yes, I do
4. จนท. ยื่นกระดาษ มาให้ 2 แผ่น
แผ่นที่ 1 เป็นประโยค ภาษาอังกฤษ มี 3 ประโยค จนท. บอกว่าให้อ่านเสัยงดัง ในประโยคที่ 1
Columbus Day is in October
แผ่นที่ 2 เป็นกระดาษเปล่า มีหัว ราชการ USCIS มีเส้นมาให้ สำหรับเขียนข้อความค่ะ
จนท: Now I would like you to write line number 1. for me
The President lives in Washington, D.C.
ตาก็ทำการเขียนตามที่ จนท. บอก แค่ประโยคเดียว ถ้าถูกต้อง ก็แค่นี้ค่ะ
5. จนท. จะเริ่ม ถาม คำถามต่าง ๆ ที่เรากรอกไว้ในใบสมัคร N-400 เพื่อทบทวนว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากวันที่เราส่งใบสมัครไว้ และเป็นการทดสอบในการ เข้าใจภาษาอังกฤษ จากการ ถาม และตอบของตัวเราด้วยค่ะ
คำถาม ก็ประมาณนี้
ขอพิมพ์เป็นภาษาไทยนะคะ
...ชื่อในปัจจุบันชื่ออะไร
...ต้องการเปลี่ยนชื่อหรือไม่
...หมายเลขบัตร Social Security หมายเลข......... ใช่หรือไม่
...เกิดวันเดือนปีอะไร
...ได้รับเป็น Permanent Resident เมื่อวันที่เท่าไหร่ (ข้อนี้ ตาใส่วันที่ได้รับกรีนการ์ด 10 ปี พอเจ้าหน้าที่ฟัง เขาก็ท้วงมาว่ายูได้ เมื่อ ปี 2005 ไม่ใช่เหรอ
แล้วเจ้าหน้าที่ก็เปิดแฟ้มปึกโตนั่นดูอีกทีเพื่อความแน่ใจ นั่นทำให้เราได้รู้ว่าไอ้เข้าแฟ้สปึกโตหนา ๆ นั่น เป็นข้อมูลของตัวเราทั้งหมดตั้งแต่เดินทางเข้ามาอยู่อเมริกา )
...บ้านเลขที่.......ถูกต้องหรือ ไม่ เปลี่ยนที่อยู่หรือไม่
... สูงเท่าไหร่ หนักเท่าไหร่
...ทำงานอยู่ที่ ........ใช่หรือไม่ ยังทำงานที่เดิรรึเปล่า
...สถานะ แต่งาน หรือ โสด
...สามี ชื่อ นามสกุลอะไร
...สามีเป็ Citizen หรือไม่
...สามีทำงานอยู่ที่ ...........ใช่หรือไม่
...ในระยะเวลา 5 ปี นับจากวันที่ส่งใบสมัคร ได้ออกนอกประเทศ หรือไม่ และมีการออกนอกประเทศ เกิน 6 เดือน หรือไม่
...มีลูก หรือไม่ (พอดีไม่มีลูก เลยไม่ต้องตอบคำถามย่อย ๆ ของลูก ๆ สบายไป)
...แต่งงานมากี่ครั้ง (1 ครั้งค่ะ)
ต่อไปเป็นคำถามมากมายที่ส่วนมากจะตอบ "NO" เจ้าหน้าที่ที่สัมภาษณ์คนนี้ ตลกมาก เขาบอกว่า ยูช่วยกันนะ วันนี้ฉันต้องสัมภาษณ์คนอีกเยอะมากเลย เอางี้นะ ฉันเห็นว่ายู ตอบคำถามที่เป็นคำตอบ "NO" งั้นฉันขอถามแบบรวดเร็ว ขอให้.ฉันอ่านจนจบให้หมดทุกคำถามก่อน แล้ว ยูตอบแค่ "NO" แค่ครั้งเดียวแล้วกันนะ เออ ดีจัง ไม่ต้องนั่งตอบ โน ให้ทุกคำถาม โชคดี จะได้ไม่งงด้วย บางทีฟังเพลิน มันมีบางคำถามที่ตอบ "YES" ด้วยนะคะ ต้องระวัง
แล้วเจ้าหน้าที่ก็อ่านอย่างรวดเร็วจนจบ เขาก็เงยหน้า เราก็แค่ ตอบว่า All anser is "NO" ฮ่า ฮ่า มันง่ายนิ๊ (คำถามที่ต้องตอบ "NO" มีอยู่ประมาณ 65 คำถาม ค่ะ)
ต่อไปเป็น คำถามที่ตอบ "YES" มี 8 คำถามเท่ายั้นค่ะ
สุดท้ายเป็นคำถามเดี่ยวกับ Civis ใน 100 ข้อค่ะ ของตา ถามแค่ 6 คำถามเท่านั้น เพราะว่า ตอบถูกหมดใน 6 ข้อแรก เลยไม่ต้องถามต่อ คำถามที่ได้รับมีดังนี้ค่ะ
1. What does the constitution do?
ตอบ Set up the Goverment
2. If both the President and the Vice President can no longer serve,Who become President?
ตอบ The Speaker of the house
3. What does the President cabinet do?
ตอบ Advise the President
4. What did the Declaration of Independence do?
ตอบ anoundced our independence (from Great Britain)
5. How many justices are on the Supreme Court?
ตอบ 9 (nine)
6. How many amendments does the Constitution have?
ตอบ 27 (twenty-seven)
ตอบคำถามนี้เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า Congratulations!!!!!!!!!!!!!!!!!! you are Pass
และแล้วก็สอบผ่านค่ะ ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 10 นาทีค่ะ เจ้าหน้าที่จะคืนกรีนการ์ดกลับมาให้เรานะคะ ในขั้นตอนนี้ และให้เรานำไปในวันสาบานตนเพื่อนส่งคืนในวันนั้นค่ะ และเรียกเก็บจดหมายนัดวันสัมภาษณ์ เก็บกลับไปด้วยวค่ะ
เจ้าหน้าที่บอก ให้เซนต์ชื่อ เป็นตัวพิมพ์ หรือ ตัวเขียน และเป็นแบบลายเซนต์ พร้อมวันที่ เรียบร้อย แล้วเจ้าหน้าที่ก็เก็บรวบรวมเอกสารทั้งหมดเข้าแฟ้ม พร้อมยื่นเอกสารให้ 3 แผ่น
ส่วนอีก 2 แผ่น เป็นสถานที่ ที่จะทำการสาบานตน และแผนที่ ใครที่อยู่ Houston Texas จะมีการทำพิธีสาบานตนเดือนละ ครั้ง ซึ่งจะมีผู้ผ่านการสอบเป็นซิติเซ่น หลายพันคน จึงต้องรวบรวมแล้วจัดพิธีรวม ๆ กัน ซึ่งจะมีพิธีสาบานตนในอีก 2-4 อาทิตย์ รอจดหมาย แจ้งอีกครั้งค่ะ ซึ่งจะเป็นที่
M.O. Campbell Center
ตอนนี้ก็รอแค่จดหมาย นัดวันสาบานตนค่ะ หวังว่า ประสบการณ์ที่นำมาแชร์คงเป็นประโยชน์บ้างนะคะ สำหรับผู้ที่กำลังคิดว่าจะสมัครซิติเซ่นของอเมริกา
อยากบอกว่า ที่รัฐเท็กซัส ใช้เวลา Time Line นานมากกกกกกกกกกก ใครคิดจะเริ่มต้นสมัครก็คิดเผื่อเวลาไว้เลยค่ะ
ถ้ามีคำถาม ถ้าพอจะช่วยตอบได้ก็ยินดีนะคะ ทิ้งคำถามไว้ในคอมเม้นต์ได้เลยค่ะ จะพยามเข้ามาเช็คและตอบคำถามให้นะคะ
การสอบ U.S. Citizen ไม่ยากอย่างที่ใคร ๆ กลัวเลยค่ะ หากมีโอกาศ จะมาเล่า ประสบการณ์ ในการไปสาบานตนเป็นพลเมืองอเมริกา มาแชร์ให้ทุกท่านอ่านอีกนะคะ ถ้าพิมพ์ตกหล่น ผิดพลาด ขออภัย ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ใช้เวลาพิมพ์นานเหมือนกันนะเนี่ย วันนี้ขอบคุณมากค่ะที่สละเวลามาอ่าน