ตั้งแต่เด็ก ผมกับแม่ มักจะมีเรื่องที่ต้องทะเลาะกันอยู่เนืองๆ คือไม่บ่อย แต่ก็มีเรื่องโน้นเรื่องนี้เข้ามาเรื่อยๆ
เราไม่ได้สนิทกันเหมือนครอบครัวบางครอบครัว คือ ไม่กอด ไม่บอกรัก แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังคงสัมผัสได้ถึงความรักที่แม่มีต่อผม
เรื่องที่แม่สนใจ มักจะเป็นเรื่องที่เป็นส่วนตัวของผมที่บางทียังไม่พร้อมจะเล่า แต่เรื่องที่ผมต้องการแชร์ เล่าให้ฟัง
ผมรู้สึกว่าท่านจะไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วม
สมัยประถม - มัธยมต้น หลายครั้งที่เวลาทะเลากัน เรื่องจบลงด้วยการที่ แม่ไม่พูดกับผมไปหลายวัน ตามที่ผมเข้าใจ
นั่นคือวิธีการลงโทษของแม่
บางครั้งทำให้ผมไม่อยากเถียง ไม่อยากอธิบาย เพราะกลัวว่า สุดท้ายจะต้องโดนลงโทษ ด้วยวิธีแบบเดิมๆนั้นอีก
ตั้งแต่ ม. ปลาย เป็นต้นมา แม่ไม่ใช้วิธีนั้นอีก เนื่องจากผมเคยบอกท่านว่า นั่นเป็นวิธีการที่บั่นทอนความรู้สึกมากๆ ถึงมากที่สุด
หลังจากนั้นมา เวลามีเรื่องต้องเคลียร์กัน ผมเริ่มที่จะพูดตรงๆมากขึ้น ถึงแม้ท่านจะไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด (ในบางเรื่องที่ท่านผิดจริงๆ)
แต่ผมก็รับรู้ได้ ว่าท่านนำสิ่งที่ผมพูดไปคิด สังเกตจากการกระทำของท่านหลังจากนั้น
การปฏิสัมพันธ์ระหว่างท่านกับผมก็ดำเนินไปในลักษณะนี้กระทั่งถึงช่วง ปีสองปี ที่ผ่านมา ปัจจุบันผมอายุ 28 ท่านก็อายุ 55 แล้วครับ
ทุกอย่างเริ่มแย่ลง การคุยกันแต่ละครั้ง คุยได้ 2-3 ประโยค ก็ทะเลาะกัน เนื่องจากเห็นไม่ตรงกันเลย
ตัวท่านจะมองทุกอย่างแบบคาดการณ์เพื่อปิดจุดที่จะทำให้เกิดปัญหาทั้งหมด จนผมมองว่าเข้าใกล้ขั้นระแวงไปซะทุกอย่าง
เวลาผมมีเรื่องเล่าอะไรให้ฟัง พอเล่าไปได้นิดหน่อยท่านก็จะมีแต่คำสอน คำสั่ง มาแบบรัวๆ และสุดท้าย ท่านก็หันไปสนใจเรื่องอื่นแทน
นอกจากนี้ที่สัมผัสได้อีกอย่างคือ (ไม่รู้ว่าเกินจริงหรือเปล่า) พออยู่ใกล้ท่าน รู้สึกถึงรัศมีความกังวล ความเครียด แผ่ออกมาอยู่ตลอดเวลา
มีความรู้สึกว่าท่านจะมองโลกในแง่ร้ายไปแล้ว จะรู้สึกตระหนกกับทุกอย่างที่เป็นข่าว/viral ,คลิป ที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุ (ท่านชอบส่งคลิป
ประเภทนี้ หรือ จำพวกมิจฉาชีพ มาให้บ่อยมากๆ) ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ท่านจะเอาพูดซ้ำๆย้ำๆเวลานั่งคุยกัน จนผมรู้สึก "พอแล้วแม่ ลูกรู้แล้ว
แล้วเรื่องที่ลูกเล่าล่ะ แม่ไม่อยากรู้บ้างเหรอ ทั้งความเป็นอยู่ของลูก และสิ่งที่ลูกพบเจอ" จะว่าท่านไม่ฟังก็ไม่ใช่ครับ คือฟังแต่เหมือนฟังพอผ่าน
ซึ่งถ้าถามถึงเรื่องที่ท่านควรกังวลหรือห่วง ก็ไม่น่ามี ครอบครัวเราฐานะปานกลาง ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน รวมถึงไม่เคยประสบอุบัติเหตุอะไรร้ายแรง
หรือตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพใดๆ
แม่มีปัญหาด้านสุขภาพคือเป็นไทรอยด์ แต่ตรวจเจอเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ยังไม่ถึงขั้นต้องกลืนรังสี ปัจจุบันทานยา และตรวจเชคเป็นระยะ
ท่านมีอาการนอนไม่หลับ ตื่นง่าย ท่านว่า หมอเคยบอกว่าเป็นอาการข้างเคียงจากไทรอยด์ ตรงนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ว่ามันมีปัจจัยอื่นอีกไหม
ที่ทำให้ท่านมีอาการนอนไม่หลับ ซึ่งรู้สึกว่ามันเป็นอาการที่ทำให้สุขภาพท่านทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว
ท่านไม่ค่อยใส่ใจกับการกินทั้งอาหาร และน้ำ ท่านให้ความสำคัญกับการเก็บเงิน ตรงนี้ผมงงมาก คืออย่างที่กล่าวไป ที่บ้านไม่มีปัญหาเรื่องเงินครับ
ทุกคนไม่ได้ใช้จ่ายฟุ้งเฟ้อ หน้าที่การการมั่นคง ยกเว้นน้องสาวที่อาจจะเพิ่งทำงานไม่นาน แต่เงินเดือนก็พอประมาณ เรามีกัน 4 คน พ่อ แม่ ผม น้อง
*****อยากให้ท่านปรับเปลี่ยนวิธีคิด ใช้เงินที่มีดูแลตัวเองให้มากขึ้นในระหว่างนี้ มีวิธีดีๆไหมครับ ที่จริงผมก็ลองพูดบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล
รวมถึงวิธีการรับมือกับปัญหาด้านบนด้วยครับ อนาคตหลังท่านเกษียณ วางแผนกันไว้ว่าจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน หรือใกล้กัน เพราะ
ผมจะได้ดูแลท่านได้*****
จริงๆคงต้องอาศัยการวิเคราะห์จากปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งผมคงไม่สามารถบอกเล่าได้ทั้งหมด ตรงนี้เข้าใจครับ ยังไงถือว่า
มาขอความเห็นจากเพื่อนๆที่เคยเจอปัญหาคล้ายๆกัน หรือใครอยากจะเสนอแนะอะไรก็ได้ครับ ยินดีรับฟังและขอบคุณล่วงหน้าครับ
เมื่อแม่เปลี่ยนไป ผมควรทำตัวอย่างไรดีครับ
เราไม่ได้สนิทกันเหมือนครอบครัวบางครอบครัว คือ ไม่กอด ไม่บอกรัก แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังคงสัมผัสได้ถึงความรักที่แม่มีต่อผม
เรื่องที่แม่สนใจ มักจะเป็นเรื่องที่เป็นส่วนตัวของผมที่บางทียังไม่พร้อมจะเล่า แต่เรื่องที่ผมต้องการแชร์ เล่าให้ฟัง
ผมรู้สึกว่าท่านจะไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วม
สมัยประถม - มัธยมต้น หลายครั้งที่เวลาทะเลากัน เรื่องจบลงด้วยการที่ แม่ไม่พูดกับผมไปหลายวัน ตามที่ผมเข้าใจ
นั่นคือวิธีการลงโทษของแม่
บางครั้งทำให้ผมไม่อยากเถียง ไม่อยากอธิบาย เพราะกลัวว่า สุดท้ายจะต้องโดนลงโทษ ด้วยวิธีแบบเดิมๆนั้นอีก
ตั้งแต่ ม. ปลาย เป็นต้นมา แม่ไม่ใช้วิธีนั้นอีก เนื่องจากผมเคยบอกท่านว่า นั่นเป็นวิธีการที่บั่นทอนความรู้สึกมากๆ ถึงมากที่สุด
หลังจากนั้นมา เวลามีเรื่องต้องเคลียร์กัน ผมเริ่มที่จะพูดตรงๆมากขึ้น ถึงแม้ท่านจะไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด (ในบางเรื่องที่ท่านผิดจริงๆ)
แต่ผมก็รับรู้ได้ ว่าท่านนำสิ่งที่ผมพูดไปคิด สังเกตจากการกระทำของท่านหลังจากนั้น
การปฏิสัมพันธ์ระหว่างท่านกับผมก็ดำเนินไปในลักษณะนี้กระทั่งถึงช่วง ปีสองปี ที่ผ่านมา ปัจจุบันผมอายุ 28 ท่านก็อายุ 55 แล้วครับ
ทุกอย่างเริ่มแย่ลง การคุยกันแต่ละครั้ง คุยได้ 2-3 ประโยค ก็ทะเลาะกัน เนื่องจากเห็นไม่ตรงกันเลย
ตัวท่านจะมองทุกอย่างแบบคาดการณ์เพื่อปิดจุดที่จะทำให้เกิดปัญหาทั้งหมด จนผมมองว่าเข้าใกล้ขั้นระแวงไปซะทุกอย่าง
เวลาผมมีเรื่องเล่าอะไรให้ฟัง พอเล่าไปได้นิดหน่อยท่านก็จะมีแต่คำสอน คำสั่ง มาแบบรัวๆ และสุดท้าย ท่านก็หันไปสนใจเรื่องอื่นแทน
นอกจากนี้ที่สัมผัสได้อีกอย่างคือ (ไม่รู้ว่าเกินจริงหรือเปล่า) พออยู่ใกล้ท่าน รู้สึกถึงรัศมีความกังวล ความเครียด แผ่ออกมาอยู่ตลอดเวลา
มีความรู้สึกว่าท่านจะมองโลกในแง่ร้ายไปแล้ว จะรู้สึกตระหนกกับทุกอย่างที่เป็นข่าว/viral ,คลิป ที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุ (ท่านชอบส่งคลิป
ประเภทนี้ หรือ จำพวกมิจฉาชีพ มาให้บ่อยมากๆ) ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ท่านจะเอาพูดซ้ำๆย้ำๆเวลานั่งคุยกัน จนผมรู้สึก "พอแล้วแม่ ลูกรู้แล้ว
แล้วเรื่องที่ลูกเล่าล่ะ แม่ไม่อยากรู้บ้างเหรอ ทั้งความเป็นอยู่ของลูก และสิ่งที่ลูกพบเจอ" จะว่าท่านไม่ฟังก็ไม่ใช่ครับ คือฟังแต่เหมือนฟังพอผ่าน
ซึ่งถ้าถามถึงเรื่องที่ท่านควรกังวลหรือห่วง ก็ไม่น่ามี ครอบครัวเราฐานะปานกลาง ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน รวมถึงไม่เคยประสบอุบัติเหตุอะไรร้ายแรง
หรือตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพใดๆ
แม่มีปัญหาด้านสุขภาพคือเป็นไทรอยด์ แต่ตรวจเจอเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ยังไม่ถึงขั้นต้องกลืนรังสี ปัจจุบันทานยา และตรวจเชคเป็นระยะ
ท่านมีอาการนอนไม่หลับ ตื่นง่าย ท่านว่า หมอเคยบอกว่าเป็นอาการข้างเคียงจากไทรอยด์ ตรงนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ว่ามันมีปัจจัยอื่นอีกไหม
ที่ทำให้ท่านมีอาการนอนไม่หลับ ซึ่งรู้สึกว่ามันเป็นอาการที่ทำให้สุขภาพท่านทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว
ท่านไม่ค่อยใส่ใจกับการกินทั้งอาหาร และน้ำ ท่านให้ความสำคัญกับการเก็บเงิน ตรงนี้ผมงงมาก คืออย่างที่กล่าวไป ที่บ้านไม่มีปัญหาเรื่องเงินครับ
ทุกคนไม่ได้ใช้จ่ายฟุ้งเฟ้อ หน้าที่การการมั่นคง ยกเว้นน้องสาวที่อาจจะเพิ่งทำงานไม่นาน แต่เงินเดือนก็พอประมาณ เรามีกัน 4 คน พ่อ แม่ ผม น้อง
*****อยากให้ท่านปรับเปลี่ยนวิธีคิด ใช้เงินที่มีดูแลตัวเองให้มากขึ้นในระหว่างนี้ มีวิธีดีๆไหมครับ ที่จริงผมก็ลองพูดบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล
รวมถึงวิธีการรับมือกับปัญหาด้านบนด้วยครับ อนาคตหลังท่านเกษียณ วางแผนกันไว้ว่าจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน หรือใกล้กัน เพราะ
ผมจะได้ดูแลท่านได้*****
จริงๆคงต้องอาศัยการวิเคราะห์จากปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งผมคงไม่สามารถบอกเล่าได้ทั้งหมด ตรงนี้เข้าใจครับ ยังไงถือว่า
มาขอความเห็นจากเพื่อนๆที่เคยเจอปัญหาคล้ายๆกัน หรือใครอยากจะเสนอแนะอะไรก็ได้ครับ ยินดีรับฟังและขอบคุณล่วงหน้าครับ