โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เกิดขึ้นจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำลายตัวเอง โดยจะทำลายเยื่อหุ้มข้อ
ซึ่งเป็นผลทำให้เกิดการอักเสบและบวมขึ้น และอาจทำลายกระดูกอ่อนและกระดูกของข้อต่อ รวมไปถึงเส้นเอ็นที่ยึดกล้ามเนื้อและกระดูก
หรือเอ็นข้อต่อจะเปราะบางลงและยืดขยายออก จากนั้นข้อต่อก็จะค่อย ๆ ผิดรูปหรือบิดเบี้ยว
ปัจจุบันยังไม่ทราบถึงต้นตอของการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ที่แน่ชัด ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้น
ได้จากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ในขณะที่ยีนส์อาจไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง แต่สามารถทำให้ผู้ป่วยมีความไวต่อปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมได้
เช่น การติดเชื้อที่เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่กระตุ้นการเกิดโรค
อาการและอาการแสดง
- มีอาการอ่อนเพลีย มีไข้ต่ำๆ อาการไข้จะดีขึ้นเมื่อสามารถคุมการอักเสบของข้อได้
- มีอาการปวดข้อ
- มีอาการฝืดขัดของข้อต่อในตอนเช้า เป็นระยะเวลาประมาณ 30 นาที เมื่อมีการเคลื่อนไหวจะทำให้อาการดีขึ้น
- มีอาการปวด บวม แดง ร้อน กดเจ็บ มีการเคลื่อนไหวของข้อลดลง สีผิวจะเป็นมันและค่อนข้างแดง
- ในระยะท้ายของโรคจะมีกล้ามเนื้อฝ่อลีบและมีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ข้อติดหรือผิดรูป อาจมีกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย
- บางรายอาจมีอาการที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อต่อและอาจมีอาการที่อวัยวะส่วนอื่น ๆ เช่น ผิวหนัง ดวงตา
ปอด หัวใจ ไต เป็นต้น
การรักษาทางกายภาพบำบัด
ระยะอักเสบ
- พักการใช้งานข้อต่อร่วมกับการรับประทานยาเพื่อลดการอักเสบ
- เมื่อการอักเสบบรรเทาลง แนะนำให้ผู้ป่วยลดการอักเสบด้วยการประคบด้วยความเย็น และใช้อัลตร้าซาวน์
- ทำการขยับเคลื่อนไหวข้อต่อ(passive movement) เพื่อเพิ่มองศาการเคลื่อนไหวจนถึงจุดที่ไม่มีอาการปวด
ให้ผู้ป่วยออกกำลังกายแบบไม่มีการลงน้ำหนัก
ระยะเรื้อรัง
- รักษาด้วยการใช้ความร้อนเช่น การแช่พาราฟิน การใช้แผ่นความร้อน
- การทำอัลตร้าซาวน์
- การนวดคลายกล้ามเนื้อ
- ออกกำลังกายแบบมีแรงต้านเพื่อเพิ่มกำลังของกล้ามเนื้อ
- การขยับเคลื่อนไหวข้อต่อ (passive movement) เพื่อเพิ่มองศาการเคลื่อนไหว
- การใส่เครื่องช่วยพยุง
โดย ฟิสิคอลคลินิกกายภาพบำบัด
โรครูมาตอยด์คืออะไร สามารถรักษาทางกายภาพบำบัดได้อย่างไรบ้าง
ซึ่งเป็นผลทำให้เกิดการอักเสบและบวมขึ้น และอาจทำลายกระดูกอ่อนและกระดูกของข้อต่อ รวมไปถึงเส้นเอ็นที่ยึดกล้ามเนื้อและกระดูก
หรือเอ็นข้อต่อจะเปราะบางลงและยืดขยายออก จากนั้นข้อต่อก็จะค่อย ๆ ผิดรูปหรือบิดเบี้ยว
ปัจจุบันยังไม่ทราบถึงต้นตอของการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ที่แน่ชัด ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้น
ได้จากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ในขณะที่ยีนส์อาจไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง แต่สามารถทำให้ผู้ป่วยมีความไวต่อปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมได้
เช่น การติดเชื้อที่เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่กระตุ้นการเกิดโรค
อาการและอาการแสดง
- มีอาการอ่อนเพลีย มีไข้ต่ำๆ อาการไข้จะดีขึ้นเมื่อสามารถคุมการอักเสบของข้อได้
- มีอาการปวดข้อ
- มีอาการฝืดขัดของข้อต่อในตอนเช้า เป็นระยะเวลาประมาณ 30 นาที เมื่อมีการเคลื่อนไหวจะทำให้อาการดีขึ้น
- มีอาการปวด บวม แดง ร้อน กดเจ็บ มีการเคลื่อนไหวของข้อลดลง สีผิวจะเป็นมันและค่อนข้างแดง
- ในระยะท้ายของโรคจะมีกล้ามเนื้อฝ่อลีบและมีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ข้อติดหรือผิดรูป อาจมีกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย
- บางรายอาจมีอาการที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อต่อและอาจมีอาการที่อวัยวะส่วนอื่น ๆ เช่น ผิวหนัง ดวงตา
ปอด หัวใจ ไต เป็นต้น
การรักษาทางกายภาพบำบัด
ระยะอักเสบ
- พักการใช้งานข้อต่อร่วมกับการรับประทานยาเพื่อลดการอักเสบ
- เมื่อการอักเสบบรรเทาลง แนะนำให้ผู้ป่วยลดการอักเสบด้วยการประคบด้วยความเย็น และใช้อัลตร้าซาวน์
- ทำการขยับเคลื่อนไหวข้อต่อ(passive movement) เพื่อเพิ่มองศาการเคลื่อนไหวจนถึงจุดที่ไม่มีอาการปวด
ให้ผู้ป่วยออกกำลังกายแบบไม่มีการลงน้ำหนัก
ระยะเรื้อรัง
- รักษาด้วยการใช้ความร้อนเช่น การแช่พาราฟิน การใช้แผ่นความร้อน
- การทำอัลตร้าซาวน์
- การนวดคลายกล้ามเนื้อ
- ออกกำลังกายแบบมีแรงต้านเพื่อเพิ่มกำลังของกล้ามเนื้อ
- การขยับเคลื่อนไหวข้อต่อ (passive movement) เพื่อเพิ่มองศาการเคลื่อนไหว
- การใส่เครื่องช่วยพยุง
โดย ฟิสิคอลคลินิกกายภาพบำบัด