(รีวิวหนังแผ่น #6) Fifty Shades Freed | บทสรุปของหนังอิโรติกที่มีคนซื้อแตงกวาเข้าไปดูเยอะที่สุด [*No Spoil]

วันนี้เพื่อนผมมันมาบอกว่า "ๆ ฟิฟตี้เชดส์ภาคสามออกแล้วโว้ย!" ผมก็นึกคิดอยู่สักพักว่าจะดูรึเปล่า เพราะสองภาคที่ผ่านมานี่กระแส(ด่า)แรงมาก แต่ส่วนตัวชอบภาคสองมากกว่าภาคแรกนะแจ๊ะ เพราะภาคสองมันมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากกว่าภาคแรกเยอะเลย พอภาคสามมันเข้าผมไม่ได้ไปดูในโรงนะ ช่วงนั้นติดเรียน (จริงๆ อายุไม่ถึง 20 ต่างหาก แป่ว!) พอภาคนี้ปล่อยให้เช่าใน Itunes ก็เลยลองดูสักตั้ง ก่อนจะดูความคาดหวังนี่ต่ำพอๆ กันกับคะแนนรีวิวของนักวิจารณ์หลายสำนักเลยหล่ะ แต่พอดูจบ เฮ้ย! ชอบอ่ะ

     ในภาคนี้ก็เล่าเรื่องราวชีวิตแต่งงานของแอนนาสตาเชีย และคริสเชียน และการซั่มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กันเกือบทั้งเรื่อง แต่อยู่สุขได้ไม่นาน ก็มีมารตัวเดิมมาขัดขวาง นั่นก็คือแจ็ค เจ้านายเก่าของอนาสตาเชีย บทสรุปจะเป็นอย่างไรก็ไปตามลุ้นกัน (จริงๆ น่าจะรู้กันอยู่แล้วเนอะว่ามันจบยังไง)

"บทหนังที่มีทิศทางชัดเจนขึ้น"
     สิ่งที่ผมไม่ชอบตลอดมาของหนังชุดฟิฟตี้เชดส์ นั่นคือ "บทไม่มีทิศทาง ทำให้หนังดูเบาลง" ซึ่งภาคแรกนั้นผมนี่ไม่ชอบอย่างรุนแรง หนังอะไรไม่รู้ ป๊าปๆๆ ทั้งเรื่อง สิ่งที่จำได้อย่างเดียวคือเพลง Love Me Like You Do แค่นั้น! ส่วนภาคสอง ก็พอโอเคขึ้นนะ บทดูมีอะไรน่าสนใจเยอะเลย เพลงก็เพราะทุกเพลง พอมาภาคนี้ รู้สึกว่าคนเขียนบทรู้ว่าในเมื่อภาคนี้มันไม่มีอะไร ก็เลยใส่ประเด็นโรแมนติกหวานแหววในหนังเลย และก็เพิ่มความน่าสนใจโดยใส่ฉากตื่นเต้นเข้ามาด้วย ผมก็เลยมองออกว่าหนังมันจะไปทางไหนกันแน่ ซึ่งตรงนี้บทหนังก็สามารถคุมโทนได้ดีเลยนะ จะหวานก็หวานให้สุด จะลุ้นก็ลุ่นให้สุด ซึ่งเป็นความรู้สึกที่แปลกมากสำหรับหนัง Fifty Shades

"นักแสดงที่ดึงความสนใจของคนดูได้อยู่หมัด"
     Dakota Johnson กับ Jamie Dornan คือคู่แบกจริงๆ Dakota เซ็กซี่มากกกกกก รอยยิ้มก็น่ารักเสียเหลือเกิน ผมนี่ไม่อาจละสายตาตลอด 2 ชั่วโมงเลย ส่วน Jamie นี่ก็ล่ำดีนะ ทางเคมีอะไรต่างๆ นี่เข้ากันได้ดีกว่าภาคก่อนๆ นะ (ภาคแรกผมมองเป็นเจ้านายสุดหื่นกับสาวน้อยอ่อยเก่ง จริงๆ!) ภาคนี้เรามองเห็นความพยายามของนักแสดงได้ชัดเจนขึ้นนะ คือทุ่มสุด(เนื้อ)สุด(ตัว)จริงๆ

"ฉาก การถ่ายภาพ สถานที่ เพลงประกอบ สุดยอดด"
     และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ Location ต่างๆ ในหนัง จะบอกว่าสวยมาาากกกกกกก ส่วนเพลงประกอบนี่ก็เพราะเว่อรรรรรรรรรรรรรรรรร์ อย่างเพลง Capital Letters ของ Hailee Steinfeld (แฟนผม55) ช่วงต้นเรื่องนี้เพราะจริงๆ และเพลง Love Me Like You Do ที่อยู่ในท้ายเรื่องนี่อินมากๆ เรียกได้ว่าโปรดักชั่นต่างๆ ในเรื่องนี้ดีงามหมดเลยครับ ไม่มีจุดติ

สรุป
     ภาคนี้ผมชอบน้อยกว่าภาคสอง แต่ชอบมากกว่าภาคแรกนะ ทุกอย่างดูชัดเจนขึ้น ไม่สะเปะสะปะเหมือนภาคแรก เสียดายที่ไม่ได้ดูกับแฟนที่น่ารักของผม ไม่งั้นความชอบจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้แน่ๆ

คะแนน : 7/10

*ใครมีหนังโรแมนติกจิกหมอนเรื่องอื่นที่อยากจะแนะนำ สามารถบอกได้ในคอมเมนท์นะครับ ได้ทุกแบบนะครับ ช-ญ, เลสเบี้ยน, เกย์ ดูได้หมดครับ จริงๆ ผมชอบแนวหนังเกย์นะ😎😎😎
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่