มาค่ะ วันนี้จะมาเล่าเรื่อง การสู้กับ #ตมสิงคโปร์
ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากะหญิงไทยมานานแสนนาน
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนนะคะ ว่าเราไม่ได้เขียนโพสนี้ขึ้นเพื่อต่อว่าหรือดิสเครดิตอาชีพใครนะคะ โพสนี้เขียนขี้นเพื่อความบันเทิง และให้ความรู้(อันน้อยนิด) กับคนอ่านเท่านั้นค่ะ
เหตุที่ ตม ประเทศนี้ เพ่งเล็งพาสปอร์ตไทยมากเป็นพิเศษ
เพราะมีคนไทยหนีเข้ามาทำงานผิดกฎหมายจำนวนมากค่ะ ไม่ใช่เฉพาะไทยค่ะ มีทั้งจีน ใต้หวัน เกาหลี เวียนนาม แต่คนไทยจะเยอะหน่อย
อยากเตือนน้องๆที่อยากเข้ามาทำงานว่า ตม ที่นี่หลอกยากนะคะ ถึงหลอกเค้าได้ แต่ครั้งต่อไปเข้ามาก็จะลำบากกว่าเดิมค่ะ เพราะทริคที่น้องๆใช้กันนั้น เค้าใช้กันมาหมดแล้วค่ะ อย่าลืมว่าไม่ใช่น้องคนแรกที่คิดจะเข้ามาทำงานที่นี่
โดยส่วนตัวเราเคยโดนเข้าห้องเย็นเหมือนกันค่ะ
เพราะ ตม บอกว่าเขียนที่อยู่ไม่ครบ 😂
เราก็เขียนเหมือนเดิมทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เราคงซวย
เราเข้าไปในห้องเจอ เจ้คนจีนทำหน้าเซ็งๆ นั่งบ่นงึมงัมเป็นภาษาจีน กับน้องคนอีกคนหน้าตาคล้ายๆคนไทย
ด้วยความอยากมีเพื่อนเลยถามน้องเค้าว่า คนไทยเหรอคะ น้องเค้าบอกว่าใช่ค่ะ ยังไม่ทันได้คุยต่อ มีเจ้าหน้าที่ผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาคุยกับน้องผู้หญิงคนนั้น
แต่เหมือนเค้าจะสือสารกันไม่เข้าใจ น้องคนไทยเลยส่งสายตามาหาดิชั้น เท่านั้นแหละค่ะ เราเลยสะกิดคุณผู้ชายคนนั้น ถามว่า ยูวว ยูนีดทรานสเลเตอร์มั้ยย แปลว่าเราแปลให้มั้ยยูวว
คำถามข้อที่ 1 ... ตม ถามว่ามาทำไม?
น้องตอบว่ามาฮอลิเดย์ มาหาแฟน (หนุ่มสิงคโปร์)
คำถามข้อที่ 2 แฟนรู้มั้ย ว่ายูมาหา
น้องตอบว่ารู้ เนี่ยฮีคงมารอรับอยู่ข้างนอก
คำถามข้อที่ 3 มีเบอร์แฟนมั้ย
น้องตอบว่าไม่มีมีแต่ไลน์ [ อ้าว]
คำถามข้อที่ 4 เจอแฟนที่ไหน คบกับนานกี่เดือน
น้องตอบว่า เจอในแอพ คบสองเดือน 😅
คำถามข้อที่ 5 ตม ถามชื่อแฟนน้องค่ะ
แต่น้องตอบว่า จำไม่ได้ เพราะเป็นชื่อจีน อันนี้พีคมาก
และ ตม คนนั้นก็ให้น้องติดต่อแฟน เพื่อขอเบอร์และทาง ตม จะคุยกะน้อง แต่น้องบอกว่าแบตโทรศัพท์มือถือหมดค่ะ เลยตามหาที่ชาร์ตกันวุ่นวายไปหมด ระหว่างนี้อีเจ้จีนก็ยังบ่นอยู่ค่ะ 55555
เหตุการ์ณหลังจากนั้นเราไม่ทราบแล้วค่ะ เพราะมี จนท อีกคนมาเรียกเราออกไป ทั้งที่ไม่ถามอะไรเราเลย ขอดูแค่บัตรพนักงานเราแค่นั้นเอง ( ตอนนั้นยังบินอยู่ )
โดยความคิดเรา เราว่าน้องน่าจะโดนส่งกลับค่ะ เอาจริงๆ ขนาดเราไม่ใช่ ตม เรายังมองออกเลยว่าน้องมาทำงาน แต่เราชื่นชมเจ้าหน้าที่ผู้ชายคนนี้นะคะ เราว่าเค้าใจเย็น พยายามถามคำถามเยอะๆ แม้คำตอบที่ได้จะไม่เมคเซนส์ก็ตาม ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเค้าติดต่อแฟนน้องได้จริงๆ ซักถามจนไม่มีข้อสงสัยว่าเป็นแฟนกันจริง เค้าคงไม่ใจร้ายส่งน้องกลับหรอกค่ะ
ตอนออกไปยังแซวเราว่า เอ้า แล้วใครจะเป็นล่ามให้ไอ เราเลยบอกนางว่าช่วยตัวเองแล้วกันนะ แฟนเรารอนานแล้ว 😂
เพราะฉะนั้นเราว่า ใครที่กำลังมีแพลนมาเที่ยวสิงคโปร์ ( แบบมาเที่ยวจริงๆ) ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมคือ ...
1. กรอกใบ ตม สีขาวให้ครบถ้วนค่ะ เอาเฉพาะที่เค้าให้เรากรอกนะคะ ช่องที่ไว้ให้เจ้าหน้าที่ ไม่ต้องไปกรอกให้เค้านะคะ สำคัญคือที่อยู่ ต้องกรอกค่ะ อย่าเว้นไว้
ใครที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง เค้าจะมีใบเวอร์ชันภาษาไทยไว้ให้ด้วยค่ะ
2. ตั๋วกลับไทย ... คือสำคัญที่สุดในสามโลก
ถ้าเค้าขอดู ต้องมีนะคะ เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราจะกลับตามจำนวนวันที่ระบุไว้ในใบค่ะ
3. ภาษาอังกฤษ ต้องได้บ้างค่ะ เค้าถามอะไรมาจะได้ตอบได้ หรือเราจะได้ไฟท์กะเค้าได้นั่นเองค่ะ
คำถามที่อาจจะต้องเจอคือ
How long you staying here , who are you coming with? ถ้าไปคนเดียวก็อาจจะโดนถามเยอะหน่อยค่ะ
อาจจะต้องเตรียมบัตรประจำตัวพนักงาน , เอกสารยืนยันว่าเราทำงานที่ไทยนะ ไม่ได้แอบมาทำที่นี่แน่นอนอะไรแบบนี้ บางคนเค้าให้โชว์ว่าแลกเงินมาเท่าไหร่ด้วยซ้ำ
ที่สำคัญคืออย่าไปกลัวเค้าค่ะ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด
แต่ก็อย่ามั่นหน้าเกินเหตุ เดี๋ยวเค้าจะหมั่นไส้เอา555
มาเที่ยวแล้วกลับตามจำนวนวัน ครั้งต่อไปมาอีกก็เดินตัวปลิวละค่ะ
อ้อ ขาออกสามารถใช้ช่องออโต้เกทได้แล้วค่ะ ไม่ต้องไปยืนต่อคิวรอเจ้าหน้าที่อีก
สุดท้ายนี้ แฮร่ ตามเสต็ปค่ะ เราเพิ่งเปิดเพจ ใครอยากฟอลมาฟอลได้เลยค่า 555555 ชื่อเพจ เมียเจ็ก
อยากแนะนำ ติติง หรืออยากขอคำแนะนำใดๆ เกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์ เรายินดีมากค่ะ เพราะว่างงานมาก555555
จขกท กำลังหางานที่เกาะน้อยๆ นี่ค่ะ ได้เมื่อไหร่จะมาแชร์กัน
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ 😍
ประสบการ์ณเข้าห้องเย็น ทำยังไงให้ผ่าน ตม สิงคโปร์
ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากะหญิงไทยมานานแสนนาน
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนนะคะ ว่าเราไม่ได้เขียนโพสนี้ขึ้นเพื่อต่อว่าหรือดิสเครดิตอาชีพใครนะคะ โพสนี้เขียนขี้นเพื่อความบันเทิง และให้ความรู้(อันน้อยนิด) กับคนอ่านเท่านั้นค่ะ
เหตุที่ ตม ประเทศนี้ เพ่งเล็งพาสปอร์ตไทยมากเป็นพิเศษ
เพราะมีคนไทยหนีเข้ามาทำงานผิดกฎหมายจำนวนมากค่ะ ไม่ใช่เฉพาะไทยค่ะ มีทั้งจีน ใต้หวัน เกาหลี เวียนนาม แต่คนไทยจะเยอะหน่อย
อยากเตือนน้องๆที่อยากเข้ามาทำงานว่า ตม ที่นี่หลอกยากนะคะ ถึงหลอกเค้าได้ แต่ครั้งต่อไปเข้ามาก็จะลำบากกว่าเดิมค่ะ เพราะทริคที่น้องๆใช้กันนั้น เค้าใช้กันมาหมดแล้วค่ะ อย่าลืมว่าไม่ใช่น้องคนแรกที่คิดจะเข้ามาทำงานที่นี่
โดยส่วนตัวเราเคยโดนเข้าห้องเย็นเหมือนกันค่ะ
เพราะ ตม บอกว่าเขียนที่อยู่ไม่ครบ 😂
เราก็เขียนเหมือนเดิมทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เราคงซวย
เราเข้าไปในห้องเจอ เจ้คนจีนทำหน้าเซ็งๆ นั่งบ่นงึมงัมเป็นภาษาจีน กับน้องคนอีกคนหน้าตาคล้ายๆคนไทย
ด้วยความอยากมีเพื่อนเลยถามน้องเค้าว่า คนไทยเหรอคะ น้องเค้าบอกว่าใช่ค่ะ ยังไม่ทันได้คุยต่อ มีเจ้าหน้าที่ผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาคุยกับน้องผู้หญิงคนนั้น
แต่เหมือนเค้าจะสือสารกันไม่เข้าใจ น้องคนไทยเลยส่งสายตามาหาดิชั้น เท่านั้นแหละค่ะ เราเลยสะกิดคุณผู้ชายคนนั้น ถามว่า ยูวว ยูนีดทรานสเลเตอร์มั้ยย แปลว่าเราแปลให้มั้ยยูวว
คำถามข้อที่ 1 ... ตม ถามว่ามาทำไม?
น้องตอบว่ามาฮอลิเดย์ มาหาแฟน (หนุ่มสิงคโปร์)
คำถามข้อที่ 2 แฟนรู้มั้ย ว่ายูมาหา
น้องตอบว่ารู้ เนี่ยฮีคงมารอรับอยู่ข้างนอก
คำถามข้อที่ 3 มีเบอร์แฟนมั้ย
น้องตอบว่าไม่มีมีแต่ไลน์ [ อ้าว]
คำถามข้อที่ 4 เจอแฟนที่ไหน คบกับนานกี่เดือน
น้องตอบว่า เจอในแอพ คบสองเดือน 😅
คำถามข้อที่ 5 ตม ถามชื่อแฟนน้องค่ะ
แต่น้องตอบว่า จำไม่ได้ เพราะเป็นชื่อจีน อันนี้พีคมาก
และ ตม คนนั้นก็ให้น้องติดต่อแฟน เพื่อขอเบอร์และทาง ตม จะคุยกะน้อง แต่น้องบอกว่าแบตโทรศัพท์มือถือหมดค่ะ เลยตามหาที่ชาร์ตกันวุ่นวายไปหมด ระหว่างนี้อีเจ้จีนก็ยังบ่นอยู่ค่ะ 55555
เหตุการ์ณหลังจากนั้นเราไม่ทราบแล้วค่ะ เพราะมี จนท อีกคนมาเรียกเราออกไป ทั้งที่ไม่ถามอะไรเราเลย ขอดูแค่บัตรพนักงานเราแค่นั้นเอง ( ตอนนั้นยังบินอยู่ )
โดยความคิดเรา เราว่าน้องน่าจะโดนส่งกลับค่ะ เอาจริงๆ ขนาดเราไม่ใช่ ตม เรายังมองออกเลยว่าน้องมาทำงาน แต่เราชื่นชมเจ้าหน้าที่ผู้ชายคนนี้นะคะ เราว่าเค้าใจเย็น พยายามถามคำถามเยอะๆ แม้คำตอบที่ได้จะไม่เมคเซนส์ก็ตาม ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเค้าติดต่อแฟนน้องได้จริงๆ ซักถามจนไม่มีข้อสงสัยว่าเป็นแฟนกันจริง เค้าคงไม่ใจร้ายส่งน้องกลับหรอกค่ะ
ตอนออกไปยังแซวเราว่า เอ้า แล้วใครจะเป็นล่ามให้ไอ เราเลยบอกนางว่าช่วยตัวเองแล้วกันนะ แฟนเรารอนานแล้ว 😂
เพราะฉะนั้นเราว่า ใครที่กำลังมีแพลนมาเที่ยวสิงคโปร์ ( แบบมาเที่ยวจริงๆ) ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมคือ ...
1. กรอกใบ ตม สีขาวให้ครบถ้วนค่ะ เอาเฉพาะที่เค้าให้เรากรอกนะคะ ช่องที่ไว้ให้เจ้าหน้าที่ ไม่ต้องไปกรอกให้เค้านะคะ สำคัญคือที่อยู่ ต้องกรอกค่ะ อย่าเว้นไว้
ใครที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง เค้าจะมีใบเวอร์ชันภาษาไทยไว้ให้ด้วยค่ะ
2. ตั๋วกลับไทย ... คือสำคัญที่สุดในสามโลก
ถ้าเค้าขอดู ต้องมีนะคะ เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราจะกลับตามจำนวนวันที่ระบุไว้ในใบค่ะ
3. ภาษาอังกฤษ ต้องได้บ้างค่ะ เค้าถามอะไรมาจะได้ตอบได้ หรือเราจะได้ไฟท์กะเค้าได้นั่นเองค่ะ
คำถามที่อาจจะต้องเจอคือ
How long you staying here , who are you coming with? ถ้าไปคนเดียวก็อาจจะโดนถามเยอะหน่อยค่ะ
อาจจะต้องเตรียมบัตรประจำตัวพนักงาน , เอกสารยืนยันว่าเราทำงานที่ไทยนะ ไม่ได้แอบมาทำที่นี่แน่นอนอะไรแบบนี้ บางคนเค้าให้โชว์ว่าแลกเงินมาเท่าไหร่ด้วยซ้ำ
ที่สำคัญคืออย่าไปกลัวเค้าค่ะ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด
แต่ก็อย่ามั่นหน้าเกินเหตุ เดี๋ยวเค้าจะหมั่นไส้เอา555
มาเที่ยวแล้วกลับตามจำนวนวัน ครั้งต่อไปมาอีกก็เดินตัวปลิวละค่ะ
อ้อ ขาออกสามารถใช้ช่องออโต้เกทได้แล้วค่ะ ไม่ต้องไปยืนต่อคิวรอเจ้าหน้าที่อีก
สุดท้ายนี้ แฮร่ ตามเสต็ปค่ะ เราเพิ่งเปิดเพจ ใครอยากฟอลมาฟอลได้เลยค่า 555555 ชื่อเพจ เมียเจ็ก
อยากแนะนำ ติติง หรืออยากขอคำแนะนำใดๆ เกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์ เรายินดีมากค่ะ เพราะว่างงานมาก555555
จขกท กำลังหางานที่เกาะน้อยๆ นี่ค่ะ ได้เมื่อไหร่จะมาแชร์กัน
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ 😍