ควรเปิดใจให้ใครสักคนดีมั้ย

ตอนนี้ค่ะ มีคนมาจีบเรา ไม่รู้ว่ามาเล่นๆหรือจริงจังนะคะ มันมีอยู่ 2 คนค่ะ

นั่นแหละค่ะ แลดูเลวมากที่คุยซ้อน แต่อย่าเพิ่งด่ากันค่ะ 55555555

เราต้องขอบอกก่อนเลยว่าเราค่อนข้างมีปมเรื่องการเปิดใจให้คนอื่นนิดนึงนะคะ เพราะเราเคยคุยกับคนคนนึงที่รู้จักกันผ่านเฟสบุ๊คนี่แหละค่ะ คุยกันมาประมาณ 2-3 ปี เขาก็ให้รูปให้เบอร์โทรมานะ แต่ไม่เคยคุยแบบได้ยินเสียงกันเลยค่ะ ส่งข้อความหากันอย่างเดียว นี่ก็ตะหงิดๆอยู่ในใจนะคะ ว่าเขาอาจจะเป็นทอมรึเปล่า แต่ก็ไม่ไรอ่ะค่ะ ตอนนั้นคงรักเขาสุดหัวใจเลยมั้งคะ

ทีนี้ช่วงม.ปลาย เราก็เริ่มไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ แล้วเราก็ต้องไปอยู่กับญาติเพราะไปเรียนพิเศษค่ะ ญาติก็คาดคั้นเราเรื่องนี้ บอกให้เราเชื่อใจเขา ยังไงก็คนในครอบครัว จนเรายอมบอกเขา เขาก็ว่าเรายกใหญ่เลยอ่ะค่ะ เอาเรื่องแย่ๆของเราไปปรึกษากับเพื่อนของเขาด้วย ว่าเราเสียๆหายๆมาก บอกอีกว่าเนี่ยถ้าเขาเป็นเราเขาคงรังเกียจตัวเองแย่เลย มันเป็นช่วงที่พร้อมๆกับที่คนที่เราคุยด้วยหายไปโดยสมบูรณ์แบบเลย แบบหายไปเลยอ่ะค่ะ ปรึกษาไรก็ไม่ได้ ตอนนั้นที่เราอยู่กับญาติแล้วเราโดนว่านั่นนี่เราก็ไม่ได้เอาไปปรึกษาพ่อแม่ด้วยนะคะ มันก็กลัวไปหมดทุกอย่างอ่ะค่ะ

อันนี้คือคร่าวๆนะคะ จนเราไม่อยากเชื่อใจใคร หรือไว้ใจใคร หรือพึ่งพาใครบนโลกใบนี้นอกจากตัวของเราเองเลยอ่ะค่ะ แลดูละครน้ำเน่าเว่อร์ แต่มันจริงค่ะ มันระแวงมากเวลาที่จะปรึกษาเรื่องที่ลำบากใจของตัวเองให้คนรอบข้างฟัง หรือสื่อความรู้สึกจริงๆให้ใครสักคนรู้ มันกลัวอ่ะค่ะว่าเขาจะเอาไปพูดให้คนอื่นฟังรึเปล่า ขนาดคนที่เราไว้ใจอย่างญาติสายเลือดเดียวกัน เขายังทำแบบนี้กับเราเลย แล้วจะไปหวังอะไรกับคนอื่นอ่ะคะ

มาเข้าเรื่องค่ะ ตอนเราเข้ามหาลัยฯ เราก็เป็นพวกทำกิจกรรมค่ะ ชอบไปทำนั่นนี่ จะได้ไม่ว่างคิดเรื่องเจ็บปวดพวกนี้ เราก็ได้เจอคนมากมาย มีเคยคบกับเพื่อนในคณะด้วย เพราะคิดว่าอาจจะทำให้สามาถเยียวยาจิตใจได้ แต่ก็ไม่เลยค่ะ กับคนคนนี้ไม่ถึงเดือนก็เลิกกัน เราคบกันเร็วเกิน แล้วมารู้นิสัยว่ามันเป็นคนลามก ก็เลยกลัวมันค่ะ แล้วมันก็ชอบพูดมาก ขี้โม้อีก เลยเลิกค่ะ แต่ก็เป็นเพื่อนๆคุยกันนี่แหละค่ะ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------
ต่อมาเราก็เจอคนคนนึง มันเป็นเพื่อนของเพื่อนค่ะ เรารู้ว่ามันเป็นคนขยัน ตอนนั้นมันมีคนคบอยู่นะคะ แต่เราก็ชอบมันเพราะมันขยันนี่แหละค่ะ ยังบ่นๆกับเพื่อนตัวเองอยู่เลยว่าเนี่ย ถ้ามันโสด เราจะจีบไปแล้ว จนมันเลิกกับคนที่มันคบอยู่ เพราะผู้หญิงมีคนอื่นนี่แหละมั้งคะ

ทีนี้เราก็เลยคุยๆกัน สักพักมันก็ขอเราคบเป็นแฟน แต่เราก็บอกว่ายัง ขอคุยๆกันก่อน ทีนี้เรากับมันคุยแชทกันเยอะมาก ยิ่งช่วงปิดเทอมก็คุยกันเยอะอ่ะค่ะ จนเราก็ไม่รู้จะตอบอะไรมัน เพราะเราไม่อยากเล่าอะไรให้มันฟังมาก ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ เรื่องทุกข์ใจ เรื่องสุขใจ ทุกๆเรื่องอ่ะค่ะ เหมือนว่าเราก็ยังไม่ไว้ใจมัน เพราะเราก็รู้มาจากเพื่อนของเราที่เป็นเพื่อนในกลุ่มมันอ่ะค่ะ ว่ามันเป็นคนที่ปากเสีย ขี้โม้ ไรประมาณนี้ เพื่อนเราก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้ามันเท่าไหร่ 555555555 แล้วก็คิดๆว่าเรากับมันอ่ะ อาจจะไม่เหมาะกันก็ได้ มันดีเกินไปที่จะมาเจอกับคนน่ารังเกียจอย่างเราอ่ะ แล้วเพื่อนมันสาวๆสวยๆก็เยอะอีก นี่ก็รู้ตัวว่าไม่สวยไงงงงง ให้มันไปเจอคนที่ดีกว่านี้จะดีกว่ามั้ย เลยบอกมันขอเลิกคุยไป

แต่ว่ามันก็หาเรื่องทักมาคุยบ้างไรบ้าง แต่ก็ไม่รู้อีกว่ามันทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนรึเปล่า เราก็นานๆตอบทีอ่ะค่ะ แล้วพอวันเกิดเรามันก็ให้ของขวัญมานะ เรานี่แบบอึ้งหน่อยๆ เพราะตอนเราจะเลิกคุยอ่ะ เราว่าเราพูดกับคนนี้แรงพอสมควร แต่มันก็ยังเอาของขวัญมาให้

ช่วงนี้ก็เลยมีบ้างที่เราทักไปก่อนไรงี้ สักเดือนนึงก็จะมีเรื่องทักคุยกันสักครั้งสองครั้งค่ะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
คนที่สอง คนนี้เขาเป็นรุ่นพี่ในคณะนะคะ แต่คนละเอก ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แต่พี่คนนี้เราส่องเขามาตั้งแต่รับน้องแล้ว เพราะเขาขาวค่ะ 5555555555 เขาไม่ได้หล่อนะคะ แค่ขาวค่ะ ไม่ได้สูงมากเท่าผู้ชายคนอื่นด้วย รูปร่างคล้ายๆกับคนแรกที่เรากำลังคุยๆอยู่ด้วยอ่ะค่ะ แต่ตาโตกว่ามาก แต่ก็แลดูขยันสู้คนแรกไม่ได้ค่ะ พี่คนนี้เขาเหมือนจะชอบทำกิจกรรมมากว่าเรียนนะคะ

แรกพบเราก็แค่ชอบมองหาเขาบ่อยๆเวลาไปทำกิจกรรม แล้วพอเราได้ไปเข้าทำงานพวกกิจกรรมอ่ะค่ะ เราก็ได้ทำงานฝ่ายเดียวกับเขา แล้วเราก็เนียนแลกเฟสกันค่ะ ไว้ติดต่องานนนนนนน 5555555555555555555555 แล้วทีนี้เลยได้คุยกันบ้าง แต่จากการคุยเราก็รู้ว่าเขาขี้ม่อ บวกกับตอนนั้นเราก็คุยกับคนแรกอยู่ เราก็บอกกับพี่เขาตรงๆนะคะว่าเรามีคนคุยอยู่ เขาเลยไม่ค่อยได้คุยกับเรามากมาย จนเขาก็ไปมีแฟน เราก็ไม่ได้คุยกันเลยค่ะ แล้วตอนนี้เขาก็เลิกกับแฟน เขาก็ทักมาจีบๆค่ะ นี่ก็ไม่รู้ว่าเล่นหรือจริงจังนะคะ มันเป็นช่วงที่เราก็กำลังทักๆกับคนแรกอยู่นี่แหละ

เราก็คุยๆกับพี่เขา แต่เราอ่ะก็สไตล์เดิม คือไม่อยากบอกความรู้สึกจริงๆให้เขารับรู้ ไม่อ้อน ทั้งๆที่เราก็ท้อกับทุกสิ่งทุกอย่าง(เทอมนี้เรียนเยอะงานเยอะ เหนื่อยค่ะ) แต่ก็ทำตัวเข้มแข็งไว้ค่ะ เพราะก็ไม่อยากเทใจให้ใคร ไม่อยากเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง ไม่อยากเสียใจอีก

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นั่นแหละค่ะ ประเด็นที่มาตั้งกระทู้คือจริงๆแค่อยากเล่าสิ่งที่อัดอั้นค่ะ เพราะเล่าให้พ่อให้แม่ฟังก็ไม่ได้ มันมีเรื่องที่เป็นปมอยู่ เดี๋ยวเขาไม่สบายใจ เล่าให้เพื่อนฟังก็ยังไม่มีเวลาอ่ะค่ะ ช่วงนี้สอบ แล้วเรียนกันคนละคณะ คนละมออีก ต้องรอปิดเทอมถึงจะมอยได้

สรุปคือในกรณีของเรามันควรค่อยๆคุยกันไปดีมั้ยคะ หรือว่าไม่คุยเลยดี บอกเขาทั้งสองอย่างชัดเจนว่าขออยู่คนเดียวต่อไป

เพราะเอาจริงๆตัวเราอ่ะ ยังไม่ค่อยอยากมีเท่าไหร่ เราคิดว่าเราไม่พร้อมจะมี แต่เอาจามตรงก็เสียดายค่ะ ถ้าใช้สมองคิดนะคะ คือคนนึงนี่ก็ขยันแลดูมีอนาคต ทำอาหารเป็น พ่อของลูกชัดๆ อีกคนก็รุ่นพี่ที่ชอบ โหยยยยยยยยยยยยยยยย ถ้าไม่เลือกสักคนนี่ชาตินี้จะมีแบบนี้อีกมั้ย แต่ใจมันก็ยังไม่สบายใจที่จะมีใคร แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่