สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
กรุงเทพเป็นทั้ง
เมืองหลวง
ศูนย์กลางราชการ
เมืองท่า
ศูนย์กลางคมนาคมทางรถยนต์ รถไฟ เรือเมล์ ลิเก ตำรวจ
ศูนย์กลางการสื่อสาร
ศูนย์การการค้า
ศูนย์รวมอำนาจกองทัพ
ศูนย์กลางการปกครอง
ศูนย์กลางด้านการศาล
ศูนย์กลางด้านสาธารณสุข
ศูนย์กลางด้านงบประมาณ
ศูนย์กลางด้านกฎหมาย
ศูนย์กลางด้านรถไฟ รถไฟไฟฟ้า รถไฟฟ้า
ศูนย์กลางด้านเทคโนโลยี่ การวิจัยพัฒนา
ศูนย์กลางด้านสิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร
ศูนย์กลางด้านสำนักงานใหญ่
ศูนย์กลางด้านอากาศยาน การบินและสนามบินนานาชาติ
ศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว
ศูนย์กลางด้านที่อยู่อาศัย
ศูนย์กลางด้านศูนย์การค้า ประปา ไฟฟ้า และโทรศัพท์ ไปรณีย์ การสื่อสารความเร็วสูง
ศูนย์กลางด้านคุก
ศูนย์กลางด้านการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
ศูนย์กลางด้านการบริโภค
ศูนย์กลางด้านการเงินการธนาคาร การแลกเปลี่ยน ธนบัตร
ศูนย์กลางด้านการบันเทิง
ศูนย์กลางด้านการนำเข้าและส่งออก รวมทั้งส่วนราชการทางด้านนี้
ศูนย์การตำรวจ
ศูนย์การการศึกษาทั้งระดับประถม มัธยม มหาวิทยาลัย
ศูนย์การทางสังคม
ศูนย์การด้านการขนส่งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ
ศูนย์การวิทยุ โทรทัศน์แม่ข่าย
ศูนย์การกีฬา
ทำเนียบ รัฐสภา รัฐพิธีทั้งหมดทำที่นี่
เยอะๆ
พูดถึงว่าการเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศนี้ดีไหม ก็ตอบได้ว่าไม่ดี
ไม่ได้ออกแบบไว้ หรือควบคุมวางแผนได้เลย
ประเทศพัฒนาแล้วจะกระจายความเจริญและรายได้ต่อหัว
ระดับกำลังพัฒนาเอเชีย
-พม่า เเยกเนปิดอว์ ออกจาก ย่างกุ้ง
-มาเลเซีย ปุตราจายาเเยก ออกจาก กัวลาลัมเปอร์
-บังคลาเทศ มีธากา แยกจากจิตตะกอง
-จีน แยกปักกิ่ง จากเซี่ยงไฮ้
-ปากีสถาน แยกอิสลามาบัด ออกจากรางวัลปินดี การาจี
-อิสราเอล แยกเยรูซาเล็ม ออกจากเทลอาวิฟ
-อินเดีย มีนิวเดฮี แทนมุมไบ(บอมเบย์)
ที่เหมือนๆกัน
-ฟิลิปปินส์ มะนิลา เหมือนไทย
-อินโดนีเซีย จากาต้า เหมือนไทย
ไทยเราเหมือนคนมีเงินหน่อยก็ต่อเติมบ้านออกไปเรื่อยๆ ลูกๆก็ไม่อยากแยกตัวไปสร้างบ้านใหม่ขยายไปแบบไม่มีแบบมีแปลน จนยากจะหาเงินมาย้ายออกทีหลังเพราะลงทุนต่อเติมไปเยอะเเล้ว
สร้างเพื่อแก้ปัญหา
งบประมาณอะไรก็ลงที่กรุงเทพอ้างเพื่อแก้ปัญหา แต่ปัญหาก็กลับมากขึ้นมากขึ้น เหมือนเกาไม่ถูกที่คัน ความแอดอัด ความเหลื่อมลํ่า นํ้าท่วม รถติด มลพิษ ที่ดินแพง แหล่งเสื่อมโทรม ยิ่งแก้ยิ่งพันกันเหมือนแหพันลิง
อย่างรถไฟฟ้า ยิ่งสร้าง ถนนยิ่งเล็ก รถยิ่งติด มลพิษก็ไม่ลด แทนที่จะทำแบบญี่ปุ่น
ไร้ทิศทาง
ตจว.ตอนนี้ก็เจริญขึ้นแบบไร้ทิศทางเหมือนกทม.อยู่หลายๆเมือง
ดูเมืองจีน ยกตัวอย่างคุงหมิง นายกเทศมนตรีของเมืองเก่งมาก รู้ปัญหา กำหนดทิศทางที่พักที่อยู่อาศัยให้เพียงพอและเป็นระบบระเบียบ ควบคุมการขยายตัวของเมือง ดึงคนเก่งๆให้มาอยู่เช่นวิศวกรระบบเมือง เช่นโปรแกรมให้ที่พักฟรีอย่างดีสำหรับบัณฑิตจบใหม่ฟรี 5 ปี ดึงอุตสาหกรรมดีๆมาตั้งเช่นการบิน ของไทยเห็นแต่คุมงานอะไรก็ไม่รู้
ของไทยนายกเล็กของเมืองไม่มีหน้าที่แบบนี้ อำนาจหน้าที่แบบนี้เป็นของรัฐมนตรีทั้งหลาย ซึ่งก็มองแต่ภาพใหญ่คือกรุงเทพ
(ANS = อำนาจบริหารเป็นของส่วนกลาง เมื่อไม่คายอำนาจ ส่วนภูมิภาคก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ส่วนกลางไม่ทำ ทำไม่รู้ไม่ชี้ อ้างไม่มีงบ ไม่มีแพลน)
ของจีน เมืองแต่ละเมือง นายกเล็กท่านแข่งขันกันโต แข่งกันดึงคน แข่งกันบริหาร เพื่อเมืองของพวกเขา ของเราไม่ต้องแข่งและไม่ต้องทำอะไร ไม่มีตำแหน่งนี้ อยู่ที่ผู้ประกอบการจัดการกันเองตามเงินทุน ที่ดิน ความเชี่ยวชาญและกำไร รัฐปล่อยตามมีตามเกิด ตามแก่อัตตภาพ
ผู้เชี่ยวชาญกระจุก
กระจุกตามสไตล์ค่าตอบแทน กรุงเทพค่าตอบแทนมาก ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ก็กระจุกกันในกรุงเทพ ตามแต่ผลตอบแทนและความก้าวหน้า
(ANS = ไม่มีโอกาสก้าวหน้าถ้าอยู่ต่างจังหวัด เป็นหมดทั้งราชการ รัฐวิสาหกิจและเอกชน)
แก้ปัญหาสไตล์รัฐ
นอกจากไม่ทำแล้วยังห้ามนู่นู้นี่นั่น พอนโยบายมา ก็ใช้นโยบายโตด่วนสร้างภาพ ดึงโคตะทุนจากนอกประเทศแบบเเจ๊คหม่า
(ANS = ไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า เปลี่ยนใจได้ทุกเวลา)
เมืองหลวง
ศูนย์กลางราชการ
เมืองท่า
ศูนย์กลางคมนาคมทางรถยนต์ รถไฟ เรือเมล์ ลิเก ตำรวจ
ศูนย์กลางการสื่อสาร
ศูนย์การการค้า
ศูนย์รวมอำนาจกองทัพ
ศูนย์กลางการปกครอง
ศูนย์กลางด้านการศาล
ศูนย์กลางด้านสาธารณสุข
ศูนย์กลางด้านงบประมาณ
ศูนย์กลางด้านกฎหมาย
ศูนย์กลางด้านรถไฟ รถไฟไฟฟ้า รถไฟฟ้า
ศูนย์กลางด้านเทคโนโลยี่ การวิจัยพัฒนา
ศูนย์กลางด้านสิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร
ศูนย์กลางด้านสำนักงานใหญ่
ศูนย์กลางด้านอากาศยาน การบินและสนามบินนานาชาติ
ศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว
ศูนย์กลางด้านที่อยู่อาศัย
ศูนย์กลางด้านศูนย์การค้า ประปา ไฟฟ้า และโทรศัพท์ ไปรณีย์ การสื่อสารความเร็วสูง
ศูนย์กลางด้านคุก
ศูนย์กลางด้านการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
ศูนย์กลางด้านการบริโภค
ศูนย์กลางด้านการเงินการธนาคาร การแลกเปลี่ยน ธนบัตร
ศูนย์กลางด้านการบันเทิง
ศูนย์กลางด้านการนำเข้าและส่งออก รวมทั้งส่วนราชการทางด้านนี้
ศูนย์การตำรวจ
ศูนย์การการศึกษาทั้งระดับประถม มัธยม มหาวิทยาลัย
ศูนย์การทางสังคม
ศูนย์การด้านการขนส่งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ
ศูนย์การวิทยุ โทรทัศน์แม่ข่าย
ศูนย์การกีฬา
ทำเนียบ รัฐสภา รัฐพิธีทั้งหมดทำที่นี่
เยอะๆ
พูดถึงว่าการเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศนี้ดีไหม ก็ตอบได้ว่าไม่ดี
ไม่ได้ออกแบบไว้ หรือควบคุมวางแผนได้เลย
ประเทศพัฒนาแล้วจะกระจายความเจริญและรายได้ต่อหัว
ระดับกำลังพัฒนาเอเชีย
-พม่า เเยกเนปิดอว์ ออกจาก ย่างกุ้ง
-มาเลเซีย ปุตราจายาเเยก ออกจาก กัวลาลัมเปอร์
-บังคลาเทศ มีธากา แยกจากจิตตะกอง
-จีน แยกปักกิ่ง จากเซี่ยงไฮ้
-ปากีสถาน แยกอิสลามาบัด ออกจากรางวัลปินดี การาจี
-อิสราเอล แยกเยรูซาเล็ม ออกจากเทลอาวิฟ
-อินเดีย มีนิวเดฮี แทนมุมไบ(บอมเบย์)
ที่เหมือนๆกัน
-ฟิลิปปินส์ มะนิลา เหมือนไทย
-อินโดนีเซีย จากาต้า เหมือนไทย
ไทยเราเหมือนคนมีเงินหน่อยก็ต่อเติมบ้านออกไปเรื่อยๆ ลูกๆก็ไม่อยากแยกตัวไปสร้างบ้านใหม่ขยายไปแบบไม่มีแบบมีแปลน จนยากจะหาเงินมาย้ายออกทีหลังเพราะลงทุนต่อเติมไปเยอะเเล้ว
สร้างเพื่อแก้ปัญหา
งบประมาณอะไรก็ลงที่กรุงเทพอ้างเพื่อแก้ปัญหา แต่ปัญหาก็กลับมากขึ้นมากขึ้น เหมือนเกาไม่ถูกที่คัน ความแอดอัด ความเหลื่อมลํ่า นํ้าท่วม รถติด มลพิษ ที่ดินแพง แหล่งเสื่อมโทรม ยิ่งแก้ยิ่งพันกันเหมือนแหพันลิง
อย่างรถไฟฟ้า ยิ่งสร้าง ถนนยิ่งเล็ก รถยิ่งติด มลพิษก็ไม่ลด แทนที่จะทำแบบญี่ปุ่น
ไร้ทิศทาง
ตจว.ตอนนี้ก็เจริญขึ้นแบบไร้ทิศทางเหมือนกทม.อยู่หลายๆเมือง
ดูเมืองจีน ยกตัวอย่างคุงหมิง นายกเทศมนตรีของเมืองเก่งมาก รู้ปัญหา กำหนดทิศทางที่พักที่อยู่อาศัยให้เพียงพอและเป็นระบบระเบียบ ควบคุมการขยายตัวของเมือง ดึงคนเก่งๆให้มาอยู่เช่นวิศวกรระบบเมือง เช่นโปรแกรมให้ที่พักฟรีอย่างดีสำหรับบัณฑิตจบใหม่ฟรี 5 ปี ดึงอุตสาหกรรมดีๆมาตั้งเช่นการบิน ของไทยเห็นแต่คุมงานอะไรก็ไม่รู้
ของไทยนายกเล็กของเมืองไม่มีหน้าที่แบบนี้ อำนาจหน้าที่แบบนี้เป็นของรัฐมนตรีทั้งหลาย ซึ่งก็มองแต่ภาพใหญ่คือกรุงเทพ
(ANS = อำนาจบริหารเป็นของส่วนกลาง เมื่อไม่คายอำนาจ ส่วนภูมิภาคก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ส่วนกลางไม่ทำ ทำไม่รู้ไม่ชี้ อ้างไม่มีงบ ไม่มีแพลน)
ของจีน เมืองแต่ละเมือง นายกเล็กท่านแข่งขันกันโต แข่งกันดึงคน แข่งกันบริหาร เพื่อเมืองของพวกเขา ของเราไม่ต้องแข่งและไม่ต้องทำอะไร ไม่มีตำแหน่งนี้ อยู่ที่ผู้ประกอบการจัดการกันเองตามเงินทุน ที่ดิน ความเชี่ยวชาญและกำไร รัฐปล่อยตามมีตามเกิด ตามแก่อัตตภาพ
ผู้เชี่ยวชาญกระจุก
กระจุกตามสไตล์ค่าตอบแทน กรุงเทพค่าตอบแทนมาก ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ก็กระจุกกันในกรุงเทพ ตามแต่ผลตอบแทนและความก้าวหน้า
(ANS = ไม่มีโอกาสก้าวหน้าถ้าอยู่ต่างจังหวัด เป็นหมดทั้งราชการ รัฐวิสาหกิจและเอกชน)
แก้ปัญหาสไตล์รัฐ
นอกจากไม่ทำแล้วยังห้ามนู่นู้นี่นั่น พอนโยบายมา ก็ใช้นโยบายโตด่วนสร้างภาพ ดึงโคตะทุนจากนอกประเทศแบบเเจ๊คหม่า
(ANS = ไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า เปลี่ยนใจได้ทุกเวลา)
แสดงความคิดเห็น
ทำไมกรุงเทพ ถึงเจริญที่เดียว