สวัสดีค่ะ วันนี้ดิฉันเจ้าของ Log in เองมีตัวตนจริง พบกับกลุ่มขายตรงผลิตภัณฑ์ที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง
โดยข้างกล่องมีเลขใบรับแจ้งที่ตรวจสอบในเบื้องต้นจากหน่วยงานว่าจดแจ้งเป็น “เครื่องสำอาง” และเคยโดนจับเป็น
คดีใหญ่ที่โคราชในปีพ.ศ.2557 โดยการกลับมาในครั้งนี้ ได้แพร่กระจายมาที่ภาคอีสานเป็นเครือข่ายใหญ่ นำทีมเอง
โดยคุณหมอ (ขอสงวนชื่อ และนามสกุล) ในการทำการตลาด และจัดสัมมา”ให้แก่สมาชิก และผู้บริโภคที่กำลังจะซื้อ
และซื้อผลิตภัณฑ์นี้ใช้” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งต่อครีมมหัศจรรย์นี้ไปเพื่อบรรเทาทุกข์กับคนที่กำลังเจ็บป่วยจาก
อาการของโรคหลายๆ โรค โดยระบุว่าหลังจากใช้ครีมมหัศจรรย์ดังกล่าวพบผลข้างเคียงอันน่ามหัศจรรย์ที่บำบัดโรคได้
จากส่วนประกอบที่ผสม และทำปฏิกิริยากัน

เนื้อหาของสรรพคุณนั้นคือ เป็นครีมที่สามารถทารักษาตาได้ทั้งต้อเนื้อ ต้อกระจก ริดสีดวงทวารหนัก
ปรับโครงสร้างกระดูกจากคนชราหลังค่อมให้หายขาดกลับมามีสภาพเดิมคือ หลังตรง ไม่คดไม่งออีกต่อไป
รักษาอาการข้อเสื่อมกระดูกผุ อีกทั้งยังรักษาอาการปวดร้าวจากกระดูกเสื่อมในวัยผู้สูงอายุได้ นอกจากนี้ยัง
สามารถใช้เป็นครีมทาส้นเท้าแตกหายได้หายเพียง 1 วันและหายขาดไม่กลับมาเป็นอีก คนที่ผิวมือ และ
ผิวใต้ฝ่าเท้าหยาบกระด้างเมื่อทาครีมเพียงบางๆ ผิวที่หยาบกร้านจะกลับคืนเป็นผิวที่อ่อนนุ่มเพียงชั่วข้ามวัน
อย่างไรก็ตามในส่วนของสรรพคุณข้างกล่องกลับเขียนว่า Firming & Lifting Cream โดยทีมงาน
ที่จัดอบรมตัวแทนขาย (รวมทั้งคุณหมอ) อ้างว่า ไม่สามารถจะจดทะเบียนขอ เลขอย. ได้ในประเทศไทย
จึงขอเลี่ยงจดเป็นเครื่องสำอางแทน มิฉะนั้น ครีมมหัศจรรย์ดังกล่าวจะไม่สามารถถึงมือผู้บริโภคได้ ต้องให้
แพทย์เป็นผู้สั่งจ่ายยาเท่านั้น ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงการรักษาได้ยาก และไม่มีโอกาสหายจากความเจ็บป่วย
ทั้งนี้ดิฉันมีคำถามเพียงไม่กี่ข้อ ที่สงสัยใคร่รู้ และขอคำแนะนำจากเพื่อนสมาชิกดังต่อไปนี้
1) ทำไมสินค้าดังกล่าวจึงไม่ระบุครั้งที่ผลิต วันเดือนปีที่ผลิต และวันหมดอายุ (ทุกอย่างใส่ไข่ปลา ..... แต่ละไว้ไม่พิมพ์ตามรูป)
ทั้งๆ ที่มีเลขรับแจ้งที่ขอแล้วเรียบร้อยตีพิมพ์ไว้ข้างกล่อง
2) จริงหรือไม่ว่า “หากสินค้าได้รับเลขใบรับแจ้งจากอย. สินค้านั้นๆ สามารถละเว้นการระบุข้อมูลการผลิตในข้อ 1 ได้”
ทั้งนี้ผู้จัดจำหน่าย และตัวแทนได้กล่าวอ้าง และให้ความรู้สมาชิก และผู้ใช้ดังกล่าว โดยมีเหตุผลว่าไม่สามารถระบุ
วันหมดอายุได้ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้จะเปิดผลิตภัณฑ์ใช้เมื่อไร
3) การเลี่ยงโฆษณาสรรพคุณในการรักษาโรคผ่านแผ่นพับ (Brochure) แต่แจ้งว่าเป็นครีมยกกระชับ โดยอ้างว่า
ครีมดังกล่าวเปรียบเสมือนยาสีฟัน ที่จริงๆ แล้วสรรพคุณคือ ใช้ทำความสะอาดฟัน แต่คนทั่วๆ ไปส่งต่อ
องค์ความรู้หลังจากการค้นพบโดยบังเอิญว่า สามารถนำไปขจัดคราบหน้าเตารีด ขัดไฟหน้ารถยนต์
ทาบรรเทาพิษน้ำร้อนลวกได้เป็นต้น จึงให้สมาชิกที่ได้รับการอบรมบอกต่อๆ กัน การกระทำดังกล่าว
เมื่อผู้บริโภคฟ้องร้องจนถึงการนำจับ จะสามารถเอาผิดต่อผู้ให้ข้อมูล ผู้จัดสัมมนา และตัวแทนได้หรือไม่
(ตัวแทนอ้างว่า ตราบใดที่ไม่มีหลักฐาน เพียงแต่การบอกต่อ ก็จะไม่มีผลใดๆ ตามมา
ทั้งๆ ที่การขายเน้นไปที่การรักษาโรค)
4 ส่วนผสมดังกล่าว มีประสิทธิภาพใดที่ส่งผลต่อการรักษาโรคต่างๆ ข้างต้นได้หรือไม่
หากกระทู้นี้มีประโยชน์ ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งของคำถาม จะขอความกรุณาให้ดันเป็นกระทู้แนะนำ
เพื่อเผยแพร่ข้อมูลอันถูกต้องแก่ผู้บริโภคด้วยค่ะ
ขอบพระคุณ
ขอความช่วยเหลือ “ดูสารประกอบ และสรรพคุณ” ครีมทาผิวมหัศจรรย์ที่หวนกลับมาคืนชีพอีกครั้งในทุกภูมิภาค
โดยข้างกล่องมีเลขใบรับแจ้งที่ตรวจสอบในเบื้องต้นจากหน่วยงานว่าจดแจ้งเป็น “เครื่องสำอาง” และเคยโดนจับเป็น
คดีใหญ่ที่โคราชในปีพ.ศ.2557 โดยการกลับมาในครั้งนี้ ได้แพร่กระจายมาที่ภาคอีสานเป็นเครือข่ายใหญ่ นำทีมเอง
โดยคุณหมอ (ขอสงวนชื่อ และนามสกุล) ในการทำการตลาด และจัดสัมมา”ให้แก่สมาชิก และผู้บริโภคที่กำลังจะซื้อ
และซื้อผลิตภัณฑ์นี้ใช้” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งต่อครีมมหัศจรรย์นี้ไปเพื่อบรรเทาทุกข์กับคนที่กำลังเจ็บป่วยจาก
อาการของโรคหลายๆ โรค โดยระบุว่าหลังจากใช้ครีมมหัศจรรย์ดังกล่าวพบผลข้างเคียงอันน่ามหัศจรรย์ที่บำบัดโรคได้
จากส่วนประกอบที่ผสม และทำปฏิกิริยากัน
เนื้อหาของสรรพคุณนั้นคือ เป็นครีมที่สามารถทารักษาตาได้ทั้งต้อเนื้อ ต้อกระจก ริดสีดวงทวารหนัก
ปรับโครงสร้างกระดูกจากคนชราหลังค่อมให้หายขาดกลับมามีสภาพเดิมคือ หลังตรง ไม่คดไม่งออีกต่อไป
รักษาอาการข้อเสื่อมกระดูกผุ อีกทั้งยังรักษาอาการปวดร้าวจากกระดูกเสื่อมในวัยผู้สูงอายุได้ นอกจากนี้ยัง
สามารถใช้เป็นครีมทาส้นเท้าแตกหายได้หายเพียง 1 วันและหายขาดไม่กลับมาเป็นอีก คนที่ผิวมือ และ
ผิวใต้ฝ่าเท้าหยาบกระด้างเมื่อทาครีมเพียงบางๆ ผิวที่หยาบกร้านจะกลับคืนเป็นผิวที่อ่อนนุ่มเพียงชั่วข้ามวัน
อย่างไรก็ตามในส่วนของสรรพคุณข้างกล่องกลับเขียนว่า Firming & Lifting Cream โดยทีมงาน
ที่จัดอบรมตัวแทนขาย (รวมทั้งคุณหมอ) อ้างว่า ไม่สามารถจะจดทะเบียนขอ เลขอย. ได้ในประเทศไทย
จึงขอเลี่ยงจดเป็นเครื่องสำอางแทน มิฉะนั้น ครีมมหัศจรรย์ดังกล่าวจะไม่สามารถถึงมือผู้บริโภคได้ ต้องให้
แพทย์เป็นผู้สั่งจ่ายยาเท่านั้น ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงการรักษาได้ยาก และไม่มีโอกาสหายจากความเจ็บป่วย
ทั้งนี้ดิฉันมีคำถามเพียงไม่กี่ข้อ ที่สงสัยใคร่รู้ และขอคำแนะนำจากเพื่อนสมาชิกดังต่อไปนี้
1) ทำไมสินค้าดังกล่าวจึงไม่ระบุครั้งที่ผลิต วันเดือนปีที่ผลิต และวันหมดอายุ (ทุกอย่างใส่ไข่ปลา ..... แต่ละไว้ไม่พิมพ์ตามรูป)
ทั้งๆ ที่มีเลขรับแจ้งที่ขอแล้วเรียบร้อยตีพิมพ์ไว้ข้างกล่อง
2) จริงหรือไม่ว่า “หากสินค้าได้รับเลขใบรับแจ้งจากอย. สินค้านั้นๆ สามารถละเว้นการระบุข้อมูลการผลิตในข้อ 1 ได้”
ทั้งนี้ผู้จัดจำหน่าย และตัวแทนได้กล่าวอ้าง และให้ความรู้สมาชิก และผู้ใช้ดังกล่าว โดยมีเหตุผลว่าไม่สามารถระบุ
วันหมดอายุได้ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้จะเปิดผลิตภัณฑ์ใช้เมื่อไร
3) การเลี่ยงโฆษณาสรรพคุณในการรักษาโรคผ่านแผ่นพับ (Brochure) แต่แจ้งว่าเป็นครีมยกกระชับ โดยอ้างว่า
ครีมดังกล่าวเปรียบเสมือนยาสีฟัน ที่จริงๆ แล้วสรรพคุณคือ ใช้ทำความสะอาดฟัน แต่คนทั่วๆ ไปส่งต่อ
องค์ความรู้หลังจากการค้นพบโดยบังเอิญว่า สามารถนำไปขจัดคราบหน้าเตารีด ขัดไฟหน้ารถยนต์
ทาบรรเทาพิษน้ำร้อนลวกได้เป็นต้น จึงให้สมาชิกที่ได้รับการอบรมบอกต่อๆ กัน การกระทำดังกล่าว
เมื่อผู้บริโภคฟ้องร้องจนถึงการนำจับ จะสามารถเอาผิดต่อผู้ให้ข้อมูล ผู้จัดสัมมนา และตัวแทนได้หรือไม่
(ตัวแทนอ้างว่า ตราบใดที่ไม่มีหลักฐาน เพียงแต่การบอกต่อ ก็จะไม่มีผลใดๆ ตามมา
ทั้งๆ ที่การขายเน้นไปที่การรักษาโรค)
4 ส่วนผสมดังกล่าว มีประสิทธิภาพใดที่ส่งผลต่อการรักษาโรคต่างๆ ข้างต้นได้หรือไม่
หากกระทู้นี้มีประโยชน์ ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งของคำถาม จะขอความกรุณาให้ดันเป็นกระทู้แนะนำ
เพื่อเผยแพร่ข้อมูลอันถูกต้องแก่ผู้บริโภคด้วยค่ะ
ขอบพระคุณ