คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 27
ลองถามๆดูครับ จากการได้อ่านกระทู้ที่เป็นหัวข้อทั้ง2ห้อง จะพบความขัดแย้งค่อนข้างรุนแรง ผมคิดว่าเป็นที่ต้นน้ำคือระบบการศึกษาเลยน่ะครับ ประเทศเราผลิตเด็ก(ที่ตอนนี้แก่แล้ว)โดยให้เครื่องมืออันเดียว แล้วให้เด็กใช้มันครอบจักรวาลซึ่งมันไม่น่าจะถูกต้องนัก และเป็นผลเสียต่อเด็กในระยะยาว ยาวไปถึงตอนที่เด็กเสียชีวิตไปแล้วด้วย
ผมก็ใช้เครื่องมือเดียวอันนั้นมาตลอดชีวิตเหมือนกัน และเพิ่งได้เครื่องมืออีกชิ้นก็ตอนจะ30แล้ว ผมเห็นชัดมากๆและเรียกมันว่า "การกดขี่อย่างชาญฉลาด"ได้เลย
ผมแค่ไม่อยากให้เด็กได้เครื่องมือนี้ช้าไปแบบผม และดำเนินชีวิตไปจนกระทั่งตายแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้น่ะครับ
ผมก็ใช้เครื่องมือเดียวอันนั้นมาตลอดชีวิตเหมือนกัน และเพิ่งได้เครื่องมืออีกชิ้นก็ตอนจะ30แล้ว ผมเห็นชัดมากๆและเรียกมันว่า "การกดขี่อย่างชาญฉลาด"ได้เลย
ผมแค่ไม่อยากให้เด็กได้เครื่องมือนี้ช้าไปแบบผม และดำเนินชีวิตไปจนกระทั่งตายแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้น่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
จะดีมั้ยถ้าการศึกษาภาคบังคับของประเทศเรา ให้เด็กๆทุกคนได้เรียนการนั่งสมาธิ เหมือนกับที่เด็กๆทุกคนได้เรียนวิชาวิทย์
เหมือนกับเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ไว้เป็นเครื่องมือในการเสาะแสวงหาความจริงของโลกที่ประสาทสัมผัสทั้ง5มองเห็น
ส่วนตัวผมมองเห็นโลกที่จิตมองเห็น ในตอนที่อายุเกือบจะ30แล้ว
ผมคิดว่า เด็กๆรุ่นใหม่ๆควรจะมีเครื่องมือทั้ง2อย่างตั้งแต่อายุยังน้อยๆ
โดยที่ไม่ต้องป้อนความเชื่ออะไรลงไป เพียงแค่สอนวิธีที่จะทำให้จิตสงบ แล้วเค้าจะมองเห็นเอง
เมื่อเห็นข้อมูลทั้ง2ด้าน แล้วเค้าจะคิดวิเคราะห์และดำเนินชีวิตต่อไปยังไงก็แล้วแต่เค้า
ผมเห็นความขัดแย้งในหลายๆกระทู้ ผมคิดว่ามันเกิดจากเด็กๆมีเครื่องมือเพียงอันเดียว แต่ใช้มันครอบจักรวาลน่ะครับ
ถ้าเด็กๆทุกคนมีเครื่องมือทั้ง2อย่างตั้งแต่อายุยังน้อยๆ มันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เด็กควรได้รับมั้ย?