เราเป็นคนชอบโพสต์เฟสค่ะ จนใครหลายคนเคยแซวว่า ถ้ามีศัตรู น่าจะยิงไม่ผิดคน มีทั้งรูป โลเคชั่น ตลอดทางที่แวะ 55
แต่ถ้าใครที่เป็นเพื่อนเฟสกับเรา จะรู้ว่า เรามักจะโพสต์แต่สิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ทัศนคติในเชิงบวกต่อปัญหาต่างๆ การทำงาน ความสัมพันธ์อันดีกับคนอื่น การออกกำลังกาย ซึ่งในระยะหลังๆ เราเริ่มเห็นว่า เพื่อนๆมาออกกำลังกายกันมากขึ้น มีเพื่อนคนนึง ถามเราเกี่ยวกับการออกกำลังกาย และเราก็พยายามไปพร้อมๆกัน อีกคนก็เริ่มวิ่งออกกำลังกาย จนปัจจุบัน ลงแข่งฟูลมาราธอนไปแล้ว ทั้งๆที่เรายังลงแค่มินิมาราธอนอยู่เลย บอกตรงๆ ดีใจค่ะ ที่เราได้นำสิ่งดีๆมาสู่ชีวิตคนใกล้ตัว
แต่สิ่งดีๆ ไม่ได้มีเฉพาะคนใกล้ตัวนะคะ เราคิดเสมอว่า สิ่งดีๆ ทำกับใครก็ได้ ทุกคนสมควรได้รับเท่าเทียมกัน กับสองเหตุการณ์ที่สิ่งดีๆจากเรา แผ่ไปหาคนอื่น และกระตุ้นให้คนอื่นทำแบบเดียวกันด้วย
ครั้งแรก เราไปติดต่อที่ เทเลวิซ จะมีบัตรคิวค่ะ และบัตรคิวจะมีสองประเภท เราก็ดูและหยิบบัตรที่เกี่ยวกับเรื่องที่เราจะติดต่อ ภายในร้านมีป้าสองคนมาถึงก่อนเราค่ะ และหยิบบัตรคิวไปแล้วเช่นกัน พอพนักงานเชิญลูกค้าไปที่เคาเตอร์ ป้าสองคนก็เดินไปหาพนักงาน แต่น้องบอกว่า ป้าหยิบบัตรผิดนะคะ รบกวนหยิบบัตรใหม่ ป้าก็งงๆ แล้วก็จะเดินไปหยิบบัตรแบบเดียวกับเรา เราเลยยื่นบัตรของเราให้กับป้าและเดินไปหยิบบัตรใหม่ เท่านั้นแหละ พี่ผู้ชายที่มีคิวต่อจากเรา ยื่นบัตรคิวของพี่เขาให้เรา และขอแลกบัตรกัน เพราะพี่เขาบอกเขามาทีหลัง รู้สึกดีนะคะ ทำสิ่งดีๆ และได้สิ่งดีๆตอบแทนมา
อีกครั้ง เราไปซื้อของที่ห้างดอกบัว ของเราเยอะค่ะ แทบจะเต็มรถเข็น พอดีมีพี่คนนึงมาต่อคิวหลังเรา พี่เขามีของแค่สองชิ้น เราก็เลยให้พี่เขาจ่ายเงินก่อน เพราะถ้ารอเราคงนาน และสิ่งที่เกิดตามหลังจากนั่นมาคืออะไรคะ พี่ผู้หญิงที่อยู่คิวถัดไปจากเรา ของเยอะเช่นกันค่ะ และพี่ก็บอกให้คนที่ต่อคิวด้านหลัง ซึ่งซื้อของแค่ชิ้นเดียว จ่ายตังค์ก่อน เราหันไปมองพี่ผู้หญิงคนนั้น และเราก็ยิ้มให้กัน
เราว่ามันดีมากๆ ถ้าความดีที่เราทำ มันสามารถถ่ายทอดและเป็นเชื้อโรค แพร่กระจายไปสู่คนรอบๆข้าง ทำสิ่งดีๆ หลายคนอาจจะอยากทำ แต่ยังไม่กล้า พอมีคนทำให้ดู เขาอาจจะทำแบบเดียวกันก็ได้นะคะ เช่นเดียวกับกรณีของเรา อยากชวนใครๆมาทำดี แค่เรื่องเล็กๆ แต่มันอาจดีต่อใจได้มากมายก็ได้นะคะ
สิ่งดีๆ เรื่องดีๆ ก็คล้ายจะเป็นโรคติดต่อได้นะ ว่าไหม?
แต่ถ้าใครที่เป็นเพื่อนเฟสกับเรา จะรู้ว่า เรามักจะโพสต์แต่สิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ทัศนคติในเชิงบวกต่อปัญหาต่างๆ การทำงาน ความสัมพันธ์อันดีกับคนอื่น การออกกำลังกาย ซึ่งในระยะหลังๆ เราเริ่มเห็นว่า เพื่อนๆมาออกกำลังกายกันมากขึ้น มีเพื่อนคนนึง ถามเราเกี่ยวกับการออกกำลังกาย และเราก็พยายามไปพร้อมๆกัน อีกคนก็เริ่มวิ่งออกกำลังกาย จนปัจจุบัน ลงแข่งฟูลมาราธอนไปแล้ว ทั้งๆที่เรายังลงแค่มินิมาราธอนอยู่เลย บอกตรงๆ ดีใจค่ะ ที่เราได้นำสิ่งดีๆมาสู่ชีวิตคนใกล้ตัว
แต่สิ่งดีๆ ไม่ได้มีเฉพาะคนใกล้ตัวนะคะ เราคิดเสมอว่า สิ่งดีๆ ทำกับใครก็ได้ ทุกคนสมควรได้รับเท่าเทียมกัน กับสองเหตุการณ์ที่สิ่งดีๆจากเรา แผ่ไปหาคนอื่น และกระตุ้นให้คนอื่นทำแบบเดียวกันด้วย
ครั้งแรก เราไปติดต่อที่ เทเลวิซ จะมีบัตรคิวค่ะ และบัตรคิวจะมีสองประเภท เราก็ดูและหยิบบัตรที่เกี่ยวกับเรื่องที่เราจะติดต่อ ภายในร้านมีป้าสองคนมาถึงก่อนเราค่ะ และหยิบบัตรคิวไปแล้วเช่นกัน พอพนักงานเชิญลูกค้าไปที่เคาเตอร์ ป้าสองคนก็เดินไปหาพนักงาน แต่น้องบอกว่า ป้าหยิบบัตรผิดนะคะ รบกวนหยิบบัตรใหม่ ป้าก็งงๆ แล้วก็จะเดินไปหยิบบัตรแบบเดียวกับเรา เราเลยยื่นบัตรของเราให้กับป้าและเดินไปหยิบบัตรใหม่ เท่านั้นแหละ พี่ผู้ชายที่มีคิวต่อจากเรา ยื่นบัตรคิวของพี่เขาให้เรา และขอแลกบัตรกัน เพราะพี่เขาบอกเขามาทีหลัง รู้สึกดีนะคะ ทำสิ่งดีๆ และได้สิ่งดีๆตอบแทนมา
อีกครั้ง เราไปซื้อของที่ห้างดอกบัว ของเราเยอะค่ะ แทบจะเต็มรถเข็น พอดีมีพี่คนนึงมาต่อคิวหลังเรา พี่เขามีของแค่สองชิ้น เราก็เลยให้พี่เขาจ่ายเงินก่อน เพราะถ้ารอเราคงนาน และสิ่งที่เกิดตามหลังจากนั่นมาคืออะไรคะ พี่ผู้หญิงที่อยู่คิวถัดไปจากเรา ของเยอะเช่นกันค่ะ และพี่ก็บอกให้คนที่ต่อคิวด้านหลัง ซึ่งซื้อของแค่ชิ้นเดียว จ่ายตังค์ก่อน เราหันไปมองพี่ผู้หญิงคนนั้น และเราก็ยิ้มให้กัน
เราว่ามันดีมากๆ ถ้าความดีที่เราทำ มันสามารถถ่ายทอดและเป็นเชื้อโรค แพร่กระจายไปสู่คนรอบๆข้าง ทำสิ่งดีๆ หลายคนอาจจะอยากทำ แต่ยังไม่กล้า พอมีคนทำให้ดู เขาอาจจะทำแบบเดียวกันก็ได้นะคะ เช่นเดียวกับกรณีของเรา อยากชวนใครๆมาทำดี แค่เรื่องเล็กๆ แต่มันอาจดีต่อใจได้มากมายก็ได้นะคะ