ปีที่ผ่านมา กรุงเทพฯได้เปิดห้องสมุดใหม่ แถวราชดำเนิน ใกล้กับอนุสาวรีประชาธิปไตย แถว ๆ แยกคอกวัว เรียกได้ว่าเป็นใจกลางกรุง ฯ ที่ค่อนข้างจะเดินทางสะดวก  แต่ที่เยี่ยมไปกว่านั้น คือ ไม่เสียค่าบริการ เข้าฟรี มีให้บริการต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ยืมหนังสือ, ใช้อินเตอร์เน็ตฟรี ไม่ว่าจะเพื่อบันเทิง หรือเพื่อค้นหาข้อมูลต่าง ๆ หรือว่าเป็นสถานที่ไว้อ่านหนังสือ ถือได้ว่าเป็นแหล่งความรู้ที่จัดเต็มทั้งไทยและเทศ ไว้ให้ประชาชนอย่างเรา


      
      หอสมุดกรุงเทพฯ เปิดให้บริการวันอังคาร - วันอาทิตย์ ** ปิดทุกวันจันทร์
      เปิดบริการตั้งแต่ 08:00 - 21:00 น. และวันอาทิตย์ปิด 20:00 น.


       พิกัด: บริเวณสี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง ใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

     จุดสังเกต : ตีกสีครีม ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ร่วมสมัย พร้อมกับป้าย BANGKOK CITY LIBRARY หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร

     การเดินทาง : หากนำรถส่วนตัวมา ตั้ง Map มาที่หอสมุดได้เลยค่ะ หาง่ายมาก แต่ขอแนะนำว่าให้เดินทางด้วยรถประจำทางอย่างรถเมล์หรือรถ Taxi จะดีกว่า เพราะที่จอดรถหายาก
                       รถเมล์สายที่ผ่านหน้าหอสมุดกรุงเทพฯ  2, 2ส, 15,32, 33, 35, 44, 47, 59, 60, 68, 70, 79, 82, 157ร, 171, 183, 201, 203, 503,
     509, 511, 511, 556 ฯ
  
                   การใช้บริการของที่นี่ง่ายมากค่ะ เพียงใช้บัตรประชาชน (Smart Card) เสียบช่องผ่านประตู ก็สามารถเข้าใช้บริการได้เลย มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการอย่างดีค่ะ หากเป็นชาวต่างชาติ ต้องใช้ Passport แทนค่ะ


                 ว่าแต่ สำหรับใครใช้บริการครั้งแรก ควรอ่านข้อปฎิบัติหรือสอบถามประชาสัมพันธ์ก่อนน้า เพราะที่นี่เค้ามีกฎระเบียบอยู่เหมือนกัน อย่างเช่น ห้ามนำสิ่งของบางอย่างเข้าไป เช่น กล้องถ่ายรูป ฯ หรือการใช้ Wifi จะต้องลงทะเบียนก่อน เป็นต้น

                 สะดวกสบายมาก ๆ แถมยังมีเจ้าหน้าที่คอยรับฝากของอีกด้วย ดีงามสุด ๆ

ภายในหอสมุดฯ มี 4 ชั้น (รวมชั้น M)



  ชั้น 1 ซึ่งเป็นโถงประชาสัมพันธ์ โซนสืบค้นข้อมูล ห้องสมุดสำหรับผู้พิการ ห้องฉายภาพยนตร์ และร้าน D.E.D Thailand (เป็นคาเฟ่เปิดใหม่)



สำหรับร้าน D.E.D ที่เปิดใหม่ ครั้งนี้เราได้มีโอกาสมาลอง จัดว่าดีงามไม่แพ้หอสมุดเลยค่ะ


ด้วยความที่คาเฟ่อยู่ในหอสมุดฯ เลย สามารถเดินเข้าจากหอสมุด หรือจะเข้าทางหน้าร้านก็ได้



หลังจากเข้าไปในร้าน สัมผัสได้ถึงสีสันสดใส ที่ตกแต่งทันสมัย ดูดี ภายในร้านถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก เป็นโซนนั่งทานอาหาร



หรือจะนั่งทำงานสบาย ๆ ตรงโซนหมอนอิงตามสไตล์ไทย ๆ ที่มีทั้งปลั๊กพร้อม Wifi Free รวมถึงภายในร้านยังตกแต่งด้วยภาพวาดที่ดูแล้วให้ความสบายตา
      


ส่วนตัวเราชอบ เพราะเหมือนได้อีกบรรยากาศนึง หลังจากนั่งอ่านหนังสือมา แบบเพลีย ๆ ก็ได้มาผ่อนคลาย หาของกินแบบเพลิน ๆ
ครั้งนี้เราก็ได้ลองทานกับเพื่อน ๆ หลายเมนูอยู่ เพราะที่นี่ขายราคาไม่แพงเลยค่ะ



เมนูที่ได้ทาน อย่าง เมนูเด็ดชีสสาดกระเพราหมูแสบ (65.-), เด็ดมาซะหมั่นแห้งติดเกาะ (70.-)และเด็ดแฮมชีสซี่ (65.-): เมนูเด็ดของร้านนี้เป็นการนำแป้งสูตรพิเศษของทางร้านมาผสมผสานกับเมนูอาหารไทยต่าง ๆ โดยรวมแล้วถือได้ว่าแปลกใหม่ ไม่เคยทานที่ไหนมาก่อนค่ะ

สายหวานอย่างเรา ต้องไม่พลาดเมนูเค้กของทางร้านแน่นอน


แนะนำชีสเค้กเมืองนอก(70-.) และซิลกี้แมงโก้ (50.-) : ขอบอกว่าดีมาก ไปแล้วต้องห้ามพลาด นอกจากนี้ยังมีเค้กอื่น ๆ มากมายอย่าง เค้กแครอท, เค้กกล้วยหอม , บราวนี่ ฯ



เครื่องดื่มอย่างอิตาเลี่ยนโซดาของร้านนี้ ก็เพิ่มความสดชื่นได้ดีเลยค่ะ



เอาภาพหน้าร้านมาฝากค่ะ



ทางร้านเปิดให้บริการวันอังคาร - วันอาทิตย์ เช่นเดียวกับหอสมุดเลยค่ะ

  ชั้น M : เป็นโซนของเด็กและโซนสืบค้นหนังสือออนไลน์ มีที่ให้นั่งเล่นเยอะเหมือนกันค่ะ



  ชั้น 2  : ชั้นนี้จะมีโซนค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือต่างประเทศ นิยาย การ์ตูนต่าง ๆ อีกทั้งยังมีโซนให้นั่งทำงานแบบเงียบ ๆ หรือจะเป็นมุมสงบนั่งอ่านหนังสือ



ชั้น 3 : เป็นโซนหนังสือหายาก พวกวรรณคดี จดหมายเหตุ ฯ

   ครั้งแรกของเราถือว่าประทับใจมากค่ะ และเรียกได้ว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เป็นแหล่งความรู้ใหม่ ๆ หลากหลายช่องทาง ที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก แถมยังเหมาะกับทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนที่จะมาค้นคว้าข้อมูลหลังเลิกเรียน หรือจะเป็นผู้ใหญ่มาพักผ่อน นั่งอ่านหนังสือชิล ๆ หรือวัยทำงานหามุมสงบนั่งทำงาน สบาย ๆ ที่นี่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีค่ะ

ปล. ขออภัยหากสีภาพค่อนข้างแตกต่างกัน เนื่องจากในห้องสมุดเราใช้โทรศัพท์มือถือถ่าย ส่วนคาเฟ่เราใช้กล้องถ่ายจ้า ^_^