รัฐ เอกชน ประชาสังคม รวมใจยกระดับการศึกษาออกแบบโรงเรียนร่วมพัฒนาสู่ความยั่งยืน

เสียงพร่ำบ่นมานานเกี่ยวกับระบบการศึกษาของไทย เช่นว่า ล้าสมัย ไม่พัฒนา เหลื่อมล้ำ เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ หรือ คุณภาพครูไม่ดี ฯลฯ กำลังจะหมดไป (หรือไม่) เพราะขณะนี้ภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งจริงจัง จัดทำโรงเรียนต้นแบบรูปแบบใหม่ โดยนำจุดแข็งของภาคเอกชนเข้ามาช่วยพัฒนา เช่น มุมมอง คอนเนกชั่น ความรวดเร็ว ทันสมัย และการบริหารจัดการ ผสมผสานกับเครือข่ายของรัฐด้วยความใกล้ชิดกับชุมชนท้องถิ่นเข้ามาเชื่อมโยงกัน


รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการไปดำเนินการคัดเลือกโรงเรียนที่มีความพร้อม เข้าสู่การพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการสถานศึกษาในรูปแบบโรงเรียนร่วมพัฒนา หรือ Partnership School ด้วยความร่วมมือกับภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคส่วนอื่น ๆ ร่วมกันขับเคลื่อนโรงเรียนให้มีคุณภาพมากขึ้น และเป็นสากลมากขึ้น โดยจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนให้เน้นการคิด การลงมือทำ มากกว่าการท่องจำ ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นในหลายด้าน อาทิ

หลักสูตรและการเรียนการสอน จะมีการออกแบบและยกระดับพัฒนาโรงเรียนอย่างเข้มข้น นอกเหนือจากหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รวมถึงการพัฒนาองค์ความรู้ครู การปรับหลักสูตรที่เหมาะสมกับความต้องการของท้องถิ่น ชุมชน บริบทและทิศทางของโลก โดยจะมีความยืดหยุ่นถึง 30% ทำให้โรงเรียนสามารถออกแบบหลักสูตรได้ตามความต้องการอย่างเต็มที่ อาทิ เน้นการทำฟาร์มเกษตร, การฝึกปฏิบัติพยาบาลที่สถานพยาบาลชุมชน การมีกิจกรรมนอกห้องเรียน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระดมความคิด หรือการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน เป็นต้น

งบประมาณ ยังคงได้รับการสนับสนุนงบประมาณหลักจากกระทรวงศึกษาธิการ แต่จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น งบอุดหนุนรายหัวสามารถปรับใช้ในโครงการประเภทอื่นได้ นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณอีกส่วนหนึ่งจากภาคเอกชนด้วย

การดำเนินงานและการบริหาร กระทรวงศึกษาธิการยังคงช่วยดูแลแก้ไขปัญหากฎระเบียบต่าง ๆ รวมทั้งการส่งเสริมในเรื่องคุณภาพมาตรฐาน แต่การบริหารงานจะอยู่ภายใต้การดูแลของผู้มีส่วนร่วมในระดับท้องถิ่นเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วยภาคเอกชน ผู้นำระดับท้องถิ่น ชุมชน ผู้ปกครอง และมหาวิทยาลัยในพื้นที่นั้น ๆ

โครงการนี้จะเริ่มดำเนินการในภาคเรียนที่ 1 เดือน พ.ค. ปีการศึกษา 2561  

ในระยะเริ่มต้นมีโรงเรียนที่เข้าร่วมทั้งหมด 40 โรงเรียน เป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 37 โรงเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 2 โรงเรียน และโรงเรียนสาธิต 1 โรงเรียน โดยมีภาคเอกชนให้การสนับสนุน 10 ราย


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนนานาชาติและมหาวิทยาลัยหลายแห่งให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอีกด้วย ซึ่งคาดว่าในระยะต่อไปจะมีมหาวิทยาลัยและหน่วยงานอื่น ๆ เข้ามาร่วมดำเนินงานเพิ่มขึ้น นับว่าเป็นความตื่นตัวในการพัฒนาการศึกษาของไทยอย่างเข้มแข็ง เพราะทุกฝ่ายตระหนักว่า โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ของคนในชุมชน จึงต้องอาศัยความร่วมมือกันพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่