หลายๆคนที่เป็นนักท่องโลกย่อมจะมีประเทศในดวงใจกันทั่งนั้น ว่าสักวันหนึ่งจะไปยืนจุดที่ฝันวันให้ได้ หนึ่งในจำนวนนั่นมีผมคนหนึ่งละครับที่ฝันไว้... หลายๆครั้งได้ยินในวัยเด็กมีผุ้คนได้กล่าวไว้ พอไปเห็นอะไหร่ที่มัน อลังการ ที่มันสดชื่น อากาศดีๆ ก็จะเอ่ยไว้ว่าเหมือนอยู่ใน สวิสเลย อะไหร่ๆที่มันสวยๆ จะนึกหรืออุทานแต่ประเทศสวิสอย่างเดียว เลยคิดในใจว่า สวิสนี้มันสวยงามจริงๆ หรือ
จึงพุ่งเป้าไปที่สวิส อย่างเดียว จะทำอย่างไหร่จะได้ไปสวิส เพราะว่าสวิสมันคงไม่มาหาเรา ฉะนั้นจึงต้องไปหามันครับ
ตอนแรกหาเพื่อนเที่ยวในกลุ่มว่าใครสนใจไปเที่ยวด้วยกันมั่ยคร่าวๆ 15 วันกับค่าใช้จ่าย xx,xxx ทุกคนส่ายหน้าไม่เหลือใคร หรือจะไปกับทัวร์ แต่ทัวร์ก็พาไปในที่ที่เขาจัดให้ มันก็ไม่ใช่แบบที่เราชอบอะ ..จึงล้มเลิกความคิดไปกับทัวร์ สงสัยงานจะมีลุยเดี่ยวเที่ยวคนเดียวแล้วละ...ถามถึงภาษาก็ได้แค่สั่งอาหารได้ / ถามทางได้ / น่าจะเอาอยู่ ล่ะนะ จึงทำการหา รร ให้ตรงกับค่าใช้จ่ายที่ตั้งไว้ มาจบลักษณะ รร ที่เป็นห้องลักษณะ ห้องเดี่ยวห้องน้ำรวม
ส่วนอาหาร ผมจะไปคนที่ไม่ชอบอาหาร ฝรั่งครับ ( หรือว่ามันแพง 555 ) เลยไปซื้อหม้อหุงข้าว ชาร์ป ใบเล็กๆ ราคา 480 บาท พร้อมข้าวสาร+ อาหารแห้ง ( ไตปลาแห้ง ) ติดกระเป๋าไปด้วย ครับ ( อยู่สวิส 15 วัน แถบไม่รู้จักอาหารสวิส เลยครับ นึกว่า ไตปลาแห้งเป็นอาหารสวิส ซะงั้น )
วางแผน ขอ VISA
ดูตั๋วสายการบินแต่ละสายการบินเปรียบเทียบเยอะพอสมควร ( ตั๋วเครื่องบินเป็นตัวแปรสำคัญในการลดค่าใช้จ่าย) สุดท้าย Swiss air ออกโปร ไปกลับ Bkk – Zurich กดราคาที่ 22000 รอไหร่รูดปรื๊ดๆ ( ทุกคนมีความฝัน ทำให้ฝันเป็นจริง บัตรเครดิตช่วยได้ 5555 ) จัดไปโดยยังไม่ได้ขอ วีซ่าเลย มั่นใจมาก วีซ่าตรูต้องผ่าน ในการยื่นเอกสารในการขอ วีซ่าผมยื่นผ่าน ศูนย์ TLS ครับ หลังจากกรอกเอกสารผ่าน Online ก็นัดวันยื่นเอกสาร พร้อม กับสแกนนิ้วมือ หลักฐานในการยื่นเพื่อขอ วีซ่า
หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินไปกลับ ( อันนี้ตอนไปถึง ตม สวิสเรียกดูด้วย )
ประกันการเดินทาง
หลักฐานการจอง โรงแรม ( พยายามหา รร ที่สามารถยกเลิกการจองภายหลังได้ครับ )
แผนการท่องเที่ยวแต่ละวันว่าไปไหนบ้าง
สมุดเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
รูปถ่าย 3.5 x 4 เห็นใบหน้าที่ชัดเจน ( ที่ศูนย์มีเครื่องถ่ายไว้บริการ แต่แอบแพงมากครับ )
หนังสือรับรองการทำงาน
ผมไปเดือน พค ไปยื่น เดือน กพ อีก 7 วันหลังจากยื่นแล้วได้วีซ่า ส่งมาที่ทำงาน เปิดดูได้วีซ่า 21 วัน วีซ่าน่าจะได้เท่ากับวันที่เราทำประกันการเดินทางครับผมทำวีซ่าการเดินทางไป 21 วัน วีซ่าก็ได้ 21 วัน
วีซ่าได้ แล้วรอวันบินกันได้เลยครับ
วันที่ 1 Bkk – Zurich เที่ยวบิน LX 181 Dep 12.40 Arr 19.30
บินวนไป 11 ชม เครื่องลงตรงเวลา เดินมั่นใจ ไปตม.พยายาม หาช่องที่ ตม ถามน้อยที่สุดหรือไม่ถามเลย ทุกคนผ่าน ถามไม่เยอะ พอถึงคิวผม ถามหนักมาก ( อุส่าเลือกช่อง ตม แล้วนะ) ชื่ออะไหร่ / มาทำไม / มากี่วัน / มาคนเดียวหรือ (ถามย้ำแบบไม่เชื่อว่ามาคนเดียว ) / ขอดูตั๋วเครื่องบินวันกลับ (สำคัญต้องมีติดตัวไว้ตอนเข้า ตม. ครับ ) ที่แรกที่ไปพักนอนที่ไหน (ใจดีจังสงสัยเป็นห่วงเรา 555 ) สุดท้าย ผ่านพร้อมกับ Have a good day !!
รับกระเป๋าพร้อมกับเดินไปหา sim card ผมเลือกใช้ของ swiss com เพราะ เน็ตสำคัญมาก เพราะใช้ในการหาเส้นทางขึ้นรถ ลงเรือ ขึ้นกระเช้า หาเส้นทาง ต่างๆ ผมเลือกใช้ App SBB ในการเดินทางในสวิส ( ขึ้นรถลงเรือไปเหนือล่องใต้ ขึ้นกระเช้า เข้าป่าเข้าดง App นี้เอาอยู่หมดครับ ) ในการเดินทางในสวิสผมเลือกใช้ Swiss pass 15 วันครับผมซื้อจากเมืองไทยครับผม
คืนแรกในสวิสผมนอนที่ Winterthur ซึ่งอยู่ห่างจาก Zurich ไป 15 นาทีครับ และห่างจาก สถานรถไฟ Winterthur 500 เมตรครับสำหรับคนที่ใช้กระเป๋าแบบล้อลากอาจจะไม่เหมาะกับบางพื้นที่ในสวิสนะครับ เพราะพื้นที่ทางเดินในบางที่จะเป็นพื้นไม่เรียบมีหินก้อนผสมกับซีเมนต์ ( แบบถนนยุคโบราณ )ไม่เหมาะกับกระเป๋าลากครับผม
วันที่ 2 Winterthur – Zermatt นั่งรถยาวไป 4 ชม. ( ใช้ App Sbb ในการต่อรถครับผม ) ผมเลือกที่พัก โรงแรมแถว Randa ห่างจาก Zermatt 20 นาที ที่เลือก รร นี้เพราะมีห้องน้ำในตัว ราคาต่อคืน ไม่ถึง 2000 พันข้อสำคัญอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Randa ไม่ถึง 100 เมตรครับ มาถึงตอนบ่ายแล้วเข้าที่พักแล้วนั่งรถไป Zermatt เพื่อที่จะไปดู Matterhorn แต่วันนี้ฟ้าปิดฝนตกทั้งวันครับผม ระหว่างทางไป Zermatt รถไฟจะลัดเลาะ ไปตามไหล่เขา บางช่วงหิมะยังตกปรอยๆอยู่เลยครับ
ไม่นานก็มาถึงตัวเมือง Zermatt พร้อมกับสายฝนลมหนาว ท้องฟ้าปิดมากันครบองค์ ยอด Matterhorn ไม่โพล่ให้เห็นแม่แต่น้อยครับ ได้แต่เดินเก็บภาพตัวเมือง Zermatt ในวันฝนโปรยๆ ได้บรรรยากาศ ไปอีกครับผม ฟินยาวๆไป
จบทริปอีกวัน แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ Matterhorn หวังว่าเราคงเจอกันนะจ๊ะ
วันที่ 3 Zermatt เต็มวัน วันนี้ตื่นมาตอน 6 โมงเช้า เปิดหน้าต่าง รร เห็นแสงอาทิตย์ครั้งแรกที่มาเหยียบ สวิส วันนี้อากาศดีมากท้องฟ้าเปิดทั้งวัน กินอาหารเช้า เสร็จ มั่วช้าอยู่ใย ขึ้นรถไฟ มุ่งสู่ Zermatt
เราเจอกันแล้วนะ Matterhorn
หลังจากนั้นเก็บภาพตัวเมืองไปเรื่อยๆ รอเที่ยงๆ จะขึ้นตีตั๋วรถไฟไปดูใกล้ๆกันครับ
รถไฟไต่ระดับความสูงไม่นาน ก็ถึงยอดเขาแล้วครับผม
ได้เวลาลา Matterhorn แล้วครับ ขอบคุณที่ทำให้เราเจอกันครับ Matterhorn
วันที่ 4 Randa to Geneve วันนี้เป็นอีกวันนั่งรถ ยาวไป 3.40 มาถึง Geneve ตอนบ่ายแล้วพร้อมกับน้องฝนโปรยๆอย่างต่อเนื่อง หลังจากเข้าห้องพัก เก็บกระเป๋าเสร็จก็ได้เวลาเที่ยวกันแล้วครับที่แรกที่ไปสำหรับบ่ายวันนี้คือ ปราสาท Chillon แถว Montreux
ปราสาท Chillon
Vevey
เสียดาย Lausanne ไม่ได้แวะเที่ยวครับฝนตกหนักมาก
วันที่ 5 Geneve - Interlaken วันนี้ช่วงเช้าจะเก็บตัวเมือง Geneve ก่อนจะนั่งรถไฟไป Intelaken ครับผม
น้ำผุ เจ็ทโด้
ถึงเวลาต้องลา Geneva แล้วครับผม นั่งรถยาวไปสถานีต่อไป Interlaken west รถไฟใช้เวลา 3 ชม กว่าก็มาเทียบ ชานชาลา Interlaken west เมืองซึ่งเป็นประตู่ สู่ Jungfraujoch ครับผม เข้า รร ทำภาระกิจเสร็จ ดูเวลา บ่ายกว่า ๆ ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปครับ ดูเวลาแล้วจับรถไฟไปลง สถานี Thun ใช้เวลา 30 นาทีก็ถึงครับผม เดินไปชมมุมสูงของ โบสถ์ประจำเมือง
หลังจากนั้นลงมาเดินเลียบริมน้ำ ซึ่งจะทำเป็นทางเลียบแม่น้ำมีม้านั่งให้นั่งพบปะพูดคุย วิ่งออกกำลังกาย ทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งมีฉากเป็นภูเขากั้นหลัง ชวนให้หน้าเดินยิ่งนัก
วันที่ 6 Interlaken – Basel – Rhinefall
วันนี้อีกวันกับการนั่ง รถไฟปลายทางอยู่ Basel ใช้เวลา 2 ชม สำหรับคนชอบเที่ยวและออกเที่ยวทุกวันและเที่ยวข้ามเมือง Swiss pass เป็นการตอบโจทย์ที่ใช่เลยครับ หลังจากออกจาก สถานีรถไฟ Basel แล้ว ( เพื่อนๆสามารถ ขอข้อมูลการท่องเที่ยวจากสถานีรถไฟได้เลยครับผม ) ก็เดินเที่ยวเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบชอบที่ไหนสวยก็แวะเที่ยวแวะถ่ายรูปครับผม
สถานีต่อไป น้ำตก Rhinefall
จบอีกวันครับผม
วันที่ 7 Inter laken - Lauterbrunnen - Grindelwald – First
วันนี้ขอเที่ยวแบบ ซึมซับบรรยากาศ กับ ธรรมชาติที่ Lauterbrunnen ขออยู่ที่นี้นานๆ หน่อยหลังจากเที่ยวติดต่อกันมาหลายวันครับผม
ต่อจากนั้นก็ไปกันต่อครับ ปลายทาง Grindelwald โดยต้นทางอยู่ที่ Lauterbrunnenใช้เวลา 36 นาที ถึงแล้วเดินอีกประมาณ 10 นาทีก็ถึงกระเช้าขึ้น สถานี First ครับผม
ต่อตอน 2 ครับ
[CR] 15 วันลุยเดี่ยวเที่ยว ( เกือบ )ทั่ว สวิส ตอน 1
จึงพุ่งเป้าไปที่สวิส อย่างเดียว จะทำอย่างไหร่จะได้ไปสวิส เพราะว่าสวิสมันคงไม่มาหาเรา ฉะนั้นจึงต้องไปหามันครับ
ตอนแรกหาเพื่อนเที่ยวในกลุ่มว่าใครสนใจไปเที่ยวด้วยกันมั่ยคร่าวๆ 15 วันกับค่าใช้จ่าย xx,xxx ทุกคนส่ายหน้าไม่เหลือใคร หรือจะไปกับทัวร์ แต่ทัวร์ก็พาไปในที่ที่เขาจัดให้ มันก็ไม่ใช่แบบที่เราชอบอะ ..จึงล้มเลิกความคิดไปกับทัวร์ สงสัยงานจะมีลุยเดี่ยวเที่ยวคนเดียวแล้วละ...ถามถึงภาษาก็ได้แค่สั่งอาหารได้ / ถามทางได้ / น่าจะเอาอยู่ ล่ะนะ จึงทำการหา รร ให้ตรงกับค่าใช้จ่ายที่ตั้งไว้ มาจบลักษณะ รร ที่เป็นห้องลักษณะ ห้องเดี่ยวห้องน้ำรวม
ส่วนอาหาร ผมจะไปคนที่ไม่ชอบอาหาร ฝรั่งครับ ( หรือว่ามันแพง 555 ) เลยไปซื้อหม้อหุงข้าว ชาร์ป ใบเล็กๆ ราคา 480 บาท พร้อมข้าวสาร+ อาหารแห้ง ( ไตปลาแห้ง ) ติดกระเป๋าไปด้วย ครับ ( อยู่สวิส 15 วัน แถบไม่รู้จักอาหารสวิส เลยครับ นึกว่า ไตปลาแห้งเป็นอาหารสวิส ซะงั้น )
วางแผน ขอ VISA
ดูตั๋วสายการบินแต่ละสายการบินเปรียบเทียบเยอะพอสมควร ( ตั๋วเครื่องบินเป็นตัวแปรสำคัญในการลดค่าใช้จ่าย) สุดท้าย Swiss air ออกโปร ไปกลับ Bkk – Zurich กดราคาที่ 22000 รอไหร่รูดปรื๊ดๆ ( ทุกคนมีความฝัน ทำให้ฝันเป็นจริง บัตรเครดิตช่วยได้ 5555 ) จัดไปโดยยังไม่ได้ขอ วีซ่าเลย มั่นใจมาก วีซ่าตรูต้องผ่าน ในการยื่นเอกสารในการขอ วีซ่าผมยื่นผ่าน ศูนย์ TLS ครับ หลังจากกรอกเอกสารผ่าน Online ก็นัดวันยื่นเอกสาร พร้อม กับสแกนนิ้วมือ หลักฐานในการยื่นเพื่อขอ วีซ่า
หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินไปกลับ ( อันนี้ตอนไปถึง ตม สวิสเรียกดูด้วย )
ประกันการเดินทาง
หลักฐานการจอง โรงแรม ( พยายามหา รร ที่สามารถยกเลิกการจองภายหลังได้ครับ )
แผนการท่องเที่ยวแต่ละวันว่าไปไหนบ้าง
สมุดเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
รูปถ่าย 3.5 x 4 เห็นใบหน้าที่ชัดเจน ( ที่ศูนย์มีเครื่องถ่ายไว้บริการ แต่แอบแพงมากครับ )
หนังสือรับรองการทำงาน
ผมไปเดือน พค ไปยื่น เดือน กพ อีก 7 วันหลังจากยื่นแล้วได้วีซ่า ส่งมาที่ทำงาน เปิดดูได้วีซ่า 21 วัน วีซ่าน่าจะได้เท่ากับวันที่เราทำประกันการเดินทางครับผมทำวีซ่าการเดินทางไป 21 วัน วีซ่าก็ได้ 21 วัน
วีซ่าได้ แล้วรอวันบินกันได้เลยครับ
วันที่ 1 Bkk – Zurich เที่ยวบิน LX 181 Dep 12.40 Arr 19.30
บินวนไป 11 ชม เครื่องลงตรงเวลา เดินมั่นใจ ไปตม.พยายาม หาช่องที่ ตม ถามน้อยที่สุดหรือไม่ถามเลย ทุกคนผ่าน ถามไม่เยอะ พอถึงคิวผม ถามหนักมาก ( อุส่าเลือกช่อง ตม แล้วนะ) ชื่ออะไหร่ / มาทำไม / มากี่วัน / มาคนเดียวหรือ (ถามย้ำแบบไม่เชื่อว่ามาคนเดียว ) / ขอดูตั๋วเครื่องบินวันกลับ (สำคัญต้องมีติดตัวไว้ตอนเข้า ตม. ครับ ) ที่แรกที่ไปพักนอนที่ไหน (ใจดีจังสงสัยเป็นห่วงเรา 555 ) สุดท้าย ผ่านพร้อมกับ Have a good day !!
รับกระเป๋าพร้อมกับเดินไปหา sim card ผมเลือกใช้ของ swiss com เพราะ เน็ตสำคัญมาก เพราะใช้ในการหาเส้นทางขึ้นรถ ลงเรือ ขึ้นกระเช้า หาเส้นทาง ต่างๆ ผมเลือกใช้ App SBB ในการเดินทางในสวิส ( ขึ้นรถลงเรือไปเหนือล่องใต้ ขึ้นกระเช้า เข้าป่าเข้าดง App นี้เอาอยู่หมดครับ ) ในการเดินทางในสวิสผมเลือกใช้ Swiss pass 15 วันครับผมซื้อจากเมืองไทยครับผม
คืนแรกในสวิสผมนอนที่ Winterthur ซึ่งอยู่ห่างจาก Zurich ไป 15 นาทีครับ และห่างจาก สถานรถไฟ Winterthur 500 เมตรครับสำหรับคนที่ใช้กระเป๋าแบบล้อลากอาจจะไม่เหมาะกับบางพื้นที่ในสวิสนะครับ เพราะพื้นที่ทางเดินในบางที่จะเป็นพื้นไม่เรียบมีหินก้อนผสมกับซีเมนต์ ( แบบถนนยุคโบราณ )ไม่เหมาะกับกระเป๋าลากครับผม
วันที่ 2 Winterthur – Zermatt นั่งรถยาวไป 4 ชม. ( ใช้ App Sbb ในการต่อรถครับผม ) ผมเลือกที่พัก โรงแรมแถว Randa ห่างจาก Zermatt 20 นาที ที่เลือก รร นี้เพราะมีห้องน้ำในตัว ราคาต่อคืน ไม่ถึง 2000 พันข้อสำคัญอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Randa ไม่ถึง 100 เมตรครับ มาถึงตอนบ่ายแล้วเข้าที่พักแล้วนั่งรถไป Zermatt เพื่อที่จะไปดู Matterhorn แต่วันนี้ฟ้าปิดฝนตกทั้งวันครับผม ระหว่างทางไป Zermatt รถไฟจะลัดเลาะ ไปตามไหล่เขา บางช่วงหิมะยังตกปรอยๆอยู่เลยครับ
ไม่นานก็มาถึงตัวเมือง Zermatt พร้อมกับสายฝนลมหนาว ท้องฟ้าปิดมากันครบองค์ ยอด Matterhorn ไม่โพล่ให้เห็นแม่แต่น้อยครับ ได้แต่เดินเก็บภาพตัวเมือง Zermatt ในวันฝนโปรยๆ ได้บรรรยากาศ ไปอีกครับผม ฟินยาวๆไป
จบทริปอีกวัน แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ Matterhorn หวังว่าเราคงเจอกันนะจ๊ะ
วันที่ 3 Zermatt เต็มวัน วันนี้ตื่นมาตอน 6 โมงเช้า เปิดหน้าต่าง รร เห็นแสงอาทิตย์ครั้งแรกที่มาเหยียบ สวิส วันนี้อากาศดีมากท้องฟ้าเปิดทั้งวัน กินอาหารเช้า เสร็จ มั่วช้าอยู่ใย ขึ้นรถไฟ มุ่งสู่ Zermatt
เราเจอกันแล้วนะ Matterhorn
หลังจากนั้นเก็บภาพตัวเมืองไปเรื่อยๆ รอเที่ยงๆ จะขึ้นตีตั๋วรถไฟไปดูใกล้ๆกันครับ
รถไฟไต่ระดับความสูงไม่นาน ก็ถึงยอดเขาแล้วครับผม
ได้เวลาลา Matterhorn แล้วครับ ขอบคุณที่ทำให้เราเจอกันครับ Matterhorn
วันที่ 4 Randa to Geneve วันนี้เป็นอีกวันนั่งรถ ยาวไป 3.40 มาถึง Geneve ตอนบ่ายแล้วพร้อมกับน้องฝนโปรยๆอย่างต่อเนื่อง หลังจากเข้าห้องพัก เก็บกระเป๋าเสร็จก็ได้เวลาเที่ยวกันแล้วครับที่แรกที่ไปสำหรับบ่ายวันนี้คือ ปราสาท Chillon แถว Montreux
ปราสาท Chillon
Vevey
เสียดาย Lausanne ไม่ได้แวะเที่ยวครับฝนตกหนักมาก
วันที่ 5 Geneve - Interlaken วันนี้ช่วงเช้าจะเก็บตัวเมือง Geneve ก่อนจะนั่งรถไฟไป Intelaken ครับผม
น้ำผุ เจ็ทโด้
ถึงเวลาต้องลา Geneva แล้วครับผม นั่งรถยาวไปสถานีต่อไป Interlaken west รถไฟใช้เวลา 3 ชม กว่าก็มาเทียบ ชานชาลา Interlaken west เมืองซึ่งเป็นประตู่ สู่ Jungfraujoch ครับผม เข้า รร ทำภาระกิจเสร็จ ดูเวลา บ่ายกว่า ๆ ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปครับ ดูเวลาแล้วจับรถไฟไปลง สถานี Thun ใช้เวลา 30 นาทีก็ถึงครับผม เดินไปชมมุมสูงของ โบสถ์ประจำเมือง
หลังจากนั้นลงมาเดินเลียบริมน้ำ ซึ่งจะทำเป็นทางเลียบแม่น้ำมีม้านั่งให้นั่งพบปะพูดคุย วิ่งออกกำลังกาย ทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งมีฉากเป็นภูเขากั้นหลัง ชวนให้หน้าเดินยิ่งนัก
วันที่ 6 Interlaken – Basel – Rhinefall
วันนี้อีกวันกับการนั่ง รถไฟปลายทางอยู่ Basel ใช้เวลา 2 ชม สำหรับคนชอบเที่ยวและออกเที่ยวทุกวันและเที่ยวข้ามเมือง Swiss pass เป็นการตอบโจทย์ที่ใช่เลยครับ หลังจากออกจาก สถานีรถไฟ Basel แล้ว ( เพื่อนๆสามารถ ขอข้อมูลการท่องเที่ยวจากสถานีรถไฟได้เลยครับผม ) ก็เดินเที่ยวเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบชอบที่ไหนสวยก็แวะเที่ยวแวะถ่ายรูปครับผม
สถานีต่อไป น้ำตก Rhinefall
จบอีกวันครับผม
วันที่ 7 Inter laken - Lauterbrunnen - Grindelwald – First
วันนี้ขอเที่ยวแบบ ซึมซับบรรยากาศ กับ ธรรมชาติที่ Lauterbrunnen ขออยู่ที่นี้นานๆ หน่อยหลังจากเที่ยวติดต่อกันมาหลายวันครับผม
ต่อจากนั้นก็ไปกันต่อครับ ปลายทาง Grindelwald โดยต้นทางอยู่ที่ Lauterbrunnenใช้เวลา 36 นาที ถึงแล้วเดินอีกประมาณ 10 นาทีก็ถึงกระเช้าขึ้น สถานี First ครับผม