สวัสดีครับชาว Pantip วันนี้ผมขออนุญาตมาแนะนำที่พักแห่งใหม่ในหมู่บ้านแม่แมะ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
โฮมสเตย์ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านอันแสนสงบ โอบล้อมด้วยหุบเขาและต้นไม้ ที่ชื่อว่า
"โฮมสเตย์บ้านแม่แมะ ภูเมี่ยงคำ"
การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งสู่ดอยเชียงดาว ใช้ถนนเส้น 107 ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พอพ้นเขตอำเภอแม่แตง – เข้าสู้เขตอำเภอเชียงดาว ออกจากภูเขามาประมาณ 2 กม. ให้สังเกตฝั่งขวานะครับ
จะเห็นวัดศิริมงคลมีซุ้มประตูวัดใหญ่โตสวยงาม แสดงว่าเราใกล้ถึงที่หมายแล้วครับ ให้เตรียมชิดซ้ายไว้ได้เลย
จุดสังเกตุทางเข้าจะอยู่ก่อนถึงทางโค้งขวาเล็กน้อยนะครับแล้วก็ตรงกับทางกลับรถด้วย

หากท่านใดเลยมาเจอ โรงเรียนบ้านแม่นะหรือวัดศรีดอนชัย แสดงว่าเลยทางเข้ามาแล้วนะครับ
ให้กลับรถตรงเซเว่นแม่นะ ขับตรงมาจะเจอที่กลับรถครั้งที่1ให้เลยมาก่อนจนเจอที่กลับรถครั้งที่2
ให้กลับรถแล้วชิดซ้ายมาเจอป้าย เลี้ยวเข้าได้เลยครับ
หากท่านใดไม่มีรถส่วนตัวให้ขึ้นรถเมล์ที่ท่ารถช้างเผือก สายเชียงใหม่-ท่าตอน หรือ เชียงใหม่-ฝาง
ลงที่เซเว่นแม่นะและให้คนทางโฮมสเตย์มารับได้เลยครับ

ป้ายทางเข้าหมู่บ้านครับ
ทางขึ้นไปบนดอยประมาณ 9 กม. นะครับ เป็นทางขึ้นเขา แต่ถนนไม่โหดมาก ตรงตามทางไปเรื่อยๆได้เลยครับ ระหว่างทางจะเห็นป้ายบ้านต้นไม้แสดงว่ามาถูกทางแล้วครับ ถ้าเจอแยกแล้วไม่เห็นป้ายให้ชิดขวาไว้นะครับ

ถึงทางเข้าหมู่บ้านแล้วครับ
ตรงเข้าไปประมาณ 500 เมตร เลยโฮมสเตย์บ้านต้นไม้มาหน่อยนึงครับ ทางขึ้นที่พักจะโหดๆหน่อยนะครับ ทั้งชันและสูง
จนคนแถวๆนี้ตั้งฉายาให้โฮมสเตย์นี้ว่า”บ้านวิวสูง”เลยครับ

ทางขึ้นว่าโหดแล้ว ตอนลงโหดกว่าครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โฮมสเตย์นี้ปลูกต้นชาพันธุ์อัสสัมโบราณรอบๆที่พักเลยครับ ปลูกมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษโดยปราศจากสารพิษครับ
โดยใบชา(คนเหนือเรียกว่าใบเมี่ยง)คนท้องถิ่มนำมาดอง แล้วนำมาเคี้ยวเหมือนหมากครับ
หรือจะนำใบสดๆมายำหรือทำเมนูอื่นๆก็ได้ครับ โฮมสเตย์นี้จึงมีชื่อว่า "ภูเมี่ยงคำ" นั่นเองครับ
ขึ้นไปด้านบนจะเป็นระเบียงกว้าง ไว้เป็นที่ชมวิว ทานข้าว สังสรรค์กันได้เลยครับ

มุมสำหรับเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม

ถ่ายลงมาจากชั้นบน มีโต๊ะไว้ทานข้าวและเตาผิงไฟ
ห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 6ห้อง แต่ละห้องจุได้มากกว่า 4 คนครับ หากต้องการนอนรวมๆกันสามารถเพิ่มฟูกที่นอนได้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ห้องจะแบ่งเป็น2ฝั่ง ฝั่งละ3ห้อง โดยแต่ละฝั่งจะมีหนึ่งห้องด้านในสุดที่มีห้องน้ำในตัวครับ
ส่วนอีก4ห้องที่เหลือ มีห้องน้ำรวม อีก2ห้องครับ

ห้องน้ำรวม มี2ห้อง
ที่โฮมสเตย์มีบริการนวดผ่อนคลายโดยชาวบ้าน คิดราคา ชม.ละ 200 บาท
หรืออยากเล่นน้ำ ถ่ายรูปวิวรอบๆหมู่บ้านสามารถเดินเท้าไปได้เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในหมู่บ้านมีน้ำตกเล็กๆ
โดยต้องเดินไปทางเข้าโฮมสเตย์บ้านต้นไม้ลงไปครับ ด้านในจะมีที่พักหลายแห่งครับ ทั้งบ้านต้นไม้ เณอชีวา บ้านระเบียงน้ำ เป็นต้น
หรือหากมีเวลามากๆ สามารถเดินป่า ชมน้ำตกด้านบนได้อีกด้วย โดยจะมีชาวบ้านเป็นคนนำทางให้ คิดราคาครั้งละ300บาทครับ
โดยมีระยะทางไป-กลับ ประมาณ 6 กม. ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติจะมาพักแล้วเดินป่ากันเยอะมากเลยครับ
(ไม่มีรูปนะครับ พอดีมีเด็กเล็กไปด้วย เลยไม่ได้ไปเดินป่ากันครับ)

ทางลงไปน้ำตก

เล่นน้ำเสร็จ ต้องขึ้นมาลุยกันต่อ วิวพระอาทิตย์ตกยามเย็นสวยๆช่วยให้หายเหนื่อยไปนิดนึงครับ
อาหารมื้อเย็นที่นี่มีให้บริการนะครับหรือหากเตรียมวัตถุดิบมาเองก็สามารถประกอบอาหารกันได้เลยที่นี่มีอุปกรณ์เครื่องครัวพร้อมครับ
โดยด้านข้างที่พักกำลังต่อเติมครัวเพิ่มขึ้นมา เจ้าของบอกว่าจะทำเป็นที่ไว้สำหรับแขกที่จะใช้บริการนวดจับเส้น
หรือกลางคืนเอาไว้นั่งหนาวๆดูดาวได้ครับ

ยังต่อเติมไม่เสร็จนะครับ ตอนนี้เป็นครัวเตรียมอาหาร

เรียงจากซ้ายไปขวา พี่เก๋(ลูกชาย) แม่ศรี(เจ้าของ น้าหมอน(ผู้ช่วย)

อาหารเย็นมื้อนี้ ไข่เจียว ผัดผักกูด ต้มยำไก่ ลาบหมู

มีผลไม้ช่วยย่อยอีกด้วย
zzz ตอนกลางคืนจะเงียบสงบมากๆครับ อากาศจะค่อยๆเย็นลงเรื่อย
ช่วงที่ไปกลางเดือนเมษายน ตอน3ทุ่ม อยู่ที่24องศาฯ ยิ่งดึกยิ่งเย็นอีกครับzzz

ช่วงเช้ามีอาหารเช้าพร้อมกาแฟสดจากโครงการหลวงให้บริการครับ

ถ่ายแบบพาโนรามาจากริมระเบียง
หมู่บ้านแห่งนี้เหมาะกับการพักผ่อนมากๆ ได้พักร่างกายพักความคิด อยู่กับธรรมชาติ ไปแต่ละฤดูกาลก็จะไม่เหมือนกันครับ
ช่วงหน้าร้อนแบบนี้กลางวันจะไม่เย็นมาก กลางคืนเย็นสบายดีครับ ช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเจอหมอกฝน อากาศหนาว ต้นไม้เขียวขจี
ส่วนหน้าหนาวนี่คงจะฟินสุดๆละครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปล.1โฮมสเตย์นี้สร้างเสร็จและทำบุญไปเมื่อเดือนตุลาคม 2560 และกำลังปรับปรุงเรื่อยๆครับ
แต่สามารถเข้าพักได้และพร้อมให้บริการทุกท่านแล้วนะครับ
ปล.2 ขอออกตัวก่อนครับว่าไม่เคยทำรีวิวอะไรมาเลยครับ ใช้กล้องI Phoneถ่าย ภาพอาจจะไม่สวยเท่าไรครับ
ปล.3พอดีโฮมสเตย์นี้เป็นของครอบครัวรุ่นน้องที่เคยทำงานด้วยกันครับ แล้วครอบครัวผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวเชียงใหม่
เลยไปพักที่นี่ 1 คืน จึงมาแนะนำให้เพื่อนๆชาว Pantip เผื่อจะสนใจไปพักกันครับ
ค่าบริการ ท่านละ 600 บาท ติดต่อได้ที่ FB "โฮมสเตย์บ้านแม่แมะ ภูเมี่ยงคำ" โทร. 097-948-3448 (แม่ศรี) , 094-710-4253 (น้องเกด)
ขอจบการแนะนำเพียงเท่านี้ครับ หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
อันนี้กระทู้รีวิวหมู่บ้านแม่แมะเมื่อปี 59 มีรูปสวยๆเยอะเลยครับ (ขออนุญาติเจ้าของกระทู้ครับ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/35402073
ปิดท้ายด้วยบรรยากาศยามค่ำคืนที่โฮมสเตย์บ้านแม่แมะ ภูเมี่ยงคำครับ
เที่ยวเชียงใหม่เมื่อเมษา พาขึ้นดอย (โฮมสเตย์บ้านแม่แมะ ภูเมี่ยงคำ อ.เชียงดาว)
โฮมสเตย์ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านอันแสนสงบ โอบล้อมด้วยหุบเขาและต้นไม้ ที่ชื่อว่า "โฮมสเตย์บ้านแม่แมะ ภูเมี่ยงคำ"
การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งสู่ดอยเชียงดาว ใช้ถนนเส้น 107 ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หากท่านใดไม่มีรถส่วนตัวให้ขึ้นรถเมล์ที่ท่ารถช้างเผือก สายเชียงใหม่-ท่าตอน หรือ เชียงใหม่-ฝาง
ลงที่เซเว่นแม่นะและให้คนทางโฮมสเตย์มารับได้เลยครับ
ทางขึ้นไปบนดอยประมาณ 9 กม. นะครับ เป็นทางขึ้นเขา แต่ถนนไม่โหดมาก ตรงตามทางไปเรื่อยๆได้เลยครับ ระหว่างทางจะเห็นป้ายบ้านต้นไม้แสดงว่ามาถูกทางแล้วครับ ถ้าเจอแยกแล้วไม่เห็นป้ายให้ชิดขวาไว้นะครับ
ถึงทางเข้าหมู่บ้านแล้วครับ
ตรงเข้าไปประมาณ 500 เมตร เลยโฮมสเตย์บ้านต้นไม้มาหน่อยนึงครับ ทางขึ้นที่พักจะโหดๆหน่อยนะครับ ทั้งชันและสูง
จนคนแถวๆนี้ตั้งฉายาให้โฮมสเตย์นี้ว่า”บ้านวิวสูง”เลยครับ
ทางขึ้นว่าโหดแล้ว ตอนลงโหดกว่าครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขึ้นไปด้านบนจะเป็นระเบียงกว้าง ไว้เป็นที่ชมวิว ทานข้าว สังสรรค์กันได้เลยครับ
มุมสำหรับเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม
ถ่ายลงมาจากชั้นบน มีโต๊ะไว้ทานข้าวและเตาผิงไฟ
ห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 6ห้อง แต่ละห้องจุได้มากกว่า 4 คนครับ หากต้องการนอนรวมๆกันสามารถเพิ่มฟูกที่นอนได้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ห้องน้ำรวม มี2ห้อง
ที่โฮมสเตย์มีบริการนวดผ่อนคลายโดยชาวบ้าน คิดราคา ชม.ละ 200 บาท
หรืออยากเล่นน้ำ ถ่ายรูปวิวรอบๆหมู่บ้านสามารถเดินเท้าไปได้เลยครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทางลงไปน้ำตก
เล่นน้ำเสร็จ ต้องขึ้นมาลุยกันต่อ วิวพระอาทิตย์ตกยามเย็นสวยๆช่วยให้หายเหนื่อยไปนิดนึงครับ
อาหารมื้อเย็นที่นี่มีให้บริการนะครับหรือหากเตรียมวัตถุดิบมาเองก็สามารถประกอบอาหารกันได้เลยที่นี่มีอุปกรณ์เครื่องครัวพร้อมครับ
โดยด้านข้างที่พักกำลังต่อเติมครัวเพิ่มขึ้นมา เจ้าของบอกว่าจะทำเป็นที่ไว้สำหรับแขกที่จะใช้บริการนวดจับเส้น
หรือกลางคืนเอาไว้นั่งหนาวๆดูดาวได้ครับ
ยังต่อเติมไม่เสร็จนะครับ ตอนนี้เป็นครัวเตรียมอาหาร
เรียงจากซ้ายไปขวา พี่เก๋(ลูกชาย) แม่ศรี(เจ้าของ น้าหมอน(ผู้ช่วย)
อาหารเย็นมื้อนี้ ไข่เจียว ผัดผักกูด ต้มยำไก่ ลาบหมู
มีผลไม้ช่วยย่อยอีกด้วย
zzz ตอนกลางคืนจะเงียบสงบมากๆครับ อากาศจะค่อยๆเย็นลงเรื่อย
ช่วงที่ไปกลางเดือนเมษายน ตอน3ทุ่ม อยู่ที่24องศาฯ ยิ่งดึกยิ่งเย็นอีกครับzzz
ช่วงเช้ามีอาหารเช้าพร้อมกาแฟสดจากโครงการหลวงให้บริการครับ
ถ่ายแบบพาโนรามาจากริมระเบียง
หมู่บ้านแห่งนี้เหมาะกับการพักผ่อนมากๆ ได้พักร่างกายพักความคิด อยู่กับธรรมชาติ ไปแต่ละฤดูกาลก็จะไม่เหมือนกันครับ
ช่วงหน้าร้อนแบบนี้กลางวันจะไม่เย็นมาก กลางคืนเย็นสบายดีครับ ช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเจอหมอกฝน อากาศหนาว ต้นไม้เขียวขจี
ส่วนหน้าหนาวนี่คงจะฟินสุดๆละครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ค่าบริการ ท่านละ 600 บาท ติดต่อได้ที่ FB "โฮมสเตย์บ้านแม่แมะ ภูเมี่ยงคำ" โทร. 097-948-3448 (แม่ศรี) , 094-710-4253 (น้องเกด)
ขอจบการแนะนำเพียงเท่านี้ครับ หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
อันนี้กระทู้รีวิวหมู่บ้านแม่แมะเมื่อปี 59 มีรูปสวยๆเยอะเลยครับ (ขออนุญาติเจ้าของกระทู้ครับ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปิดท้ายด้วยบรรยากาศยามค่ำคืนที่โฮมสเตย์บ้านแม่แมะ ภูเมี่ยงคำครับ