[CR]Hello lady...สวัสดีแดนอังกอร์:เที่ยวเสียมเรียบ กัมพูชา(6วัน 5คืน)

สวัสดีค่ะ วันนี้พวกเราจะมารีวิวทริปการไปเที่ยวเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชากันค่ะ ขอบอกก่อนเลยว่าทริปนี้ มีผู้ร่วมทริปมีทั้งหมด3คนเป็น3สาว 3สไตล์ ซึ่งตอนนี้พวกเราก็เป็นนักศึกษาชั้นปีที่4แล้ว อีกไม่นานแต่ละคนก็คงต้องแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองกันแล้ว ในวันหยุดยาวของมหา’ลัยแบบนี้ถือเป็นโอกาสดีที่3สาวอย่างพวกเราจะไป Back Pack Trip ด้วยกัน คอนเซปต์ของการไปเที่ยวครั้งนี้ก็คือ “Low price high experience” เงินน้อยๆหลายร้อยประสบการณ์ พวกเราก็จัดไป 6วัน 5คืนเต็ม เอาประสบการณ์ให้เต็มอิ่มไปเลย!!!!

ก่อนจะไปกัมพูชาเราก็ควรจะต้องทราบข้อมูลคร่าวๆของประเทศนี้กันก่อน

สกุลเงิน: เป็นสกุลเงินเรียวและดอลลาร์(1ดอลลาร์=4,000เรียว) เงินไทยก็สามารถใช้ได้บ้างนะคะแต่เรทอาจไม่ดีเท่ากับเงินดอลลาร์

ภาษา: ภาษาที่ใช้กันก็คือภาษากัมพูชา(บางคำก็คล้ายๆภาษาไทยเลยค่ะ) คนกัมพูชาส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ บางคนก็สามารถพูดภาษาไทยได้ค่ะ

การเดินทาง: ในการเดินทางท่องเที่ยวในเสียมเรียบ รถสาธารณะ เช่น พวกรถประจำทางยังไม่สะดวกเท่าไหร่ การท่องเที่ยวจึงต้องทำการจ้างเหมารถพาเที่ยวก็จะมีทั้งรถยนต์และ3ล้อ หรืออยากปั่นจักรยานเที่ยวก็ได้เหมือนกันค่ะ (พวกเราเลือกวิธีจ้างเหมารถนะคะ เพราะมีแพลนไปหลายที่ และบางที่ก็อยู่ไกล)

สภาพอากาศ: เนื่องจากพวกเราไปกันหลายวัน จึงทำการเช็คสภาพอากาศเพื่อหาแผนสำรองสำหรับกรณีฉุกเฉินค่ะ ปรากฎว่าช่วงที่พวกเราจะไปพายุเข้าค่ะ T.T แต่ The show must go on! ยังไงก็ต้องไปค่ะ พวกเราเลยเตรียมเสื้อกันฝนไปเผื่อ เพราะไม่ว่ายังไงเราก็จะไปค่ะ ฮ่าๆๆ แหม...มาตั้งไกลจะพลาดได้ไง เนอะอมยิ้ม22อมยิ้ม36

สิ่งที่ควรระวัง: สิ่งที่จะต้องระวังเมื่อเดินชมปราสาทหรือสถานที่ต่างๆ เราไม่ควรออกนอกเส้นทาง เพราะในกัมพูชายังมีกับดักระเบิดหลงเหลืออยู่จากสงครามเขมรแดง ถึงจะมีการเก็บกู้ไปเยอะแล้วแต่ก็ยังไม่ 100%  เพราะฉะนั้นเวลาเดินทางไปไหนเราจึงไม่ควรออกนอกเส้นทางนะคะ ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า^^

เมื่อพร้อมแล้วก็เก็บกระเป๋าออกเดินทางกันเลย!!!

วันที่1
เช้านี้พวกเรามารอขึ้นรถบ่อนที่หน้าโลตัสบางปะกอก เนื่องจากคอนเซปต์ของพวกเรา Low price ใช่ไหมคะ พวกเราเลยเลือกการเดินทางโดยรถบ่อนไปลงที่ปอยเปต แล้วนั่งแท็กซี่เข้าไปในเสียมเรียบ เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย เวลาที่นัดกับรถไว้ก็คือ 6.00 น.ค่ะ ประมาณ 6 โมงนิดๆรถก็จะมาถึงแล้ว รถที่เราขึ้นจะเป็นรถบัส 2 ชั้นสภาพดีเลยทีเดียว เนื่องจากวันที่พวกเราไปเป็นวันหยุด ก็กลัวว่าจะไม่มีที่นั่งจึงได้ทำการโทรจองที่นั่งมาก่อน(เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้นั่งชัวร์ๆ)

เมื่อขึ้นรถมาก็จะมีพนักงานมาขอ Passport ของเราไปค่ะ พร้อมเก็บเงิน 400 บาท Passportจะมีการคืนให้ตอนอยู่บนรถ

วิวนอกหน้าต่างยามเช้าก็จะประมาณนี้ค่ะ หลังจากนั้นก็หลับยาวไปเลยค่ะ ZZzzz… หลับๆตื่นๆอยู่พักใหญ่ก็จะถึงแล้วว  

ด่านชายแดนปอยเปต
พวกเราลงจากรถเวลาประมาณ 10.30 น. แม้จะนานกว่าที่คิดไปนิดนึงก็เพราะเป็นวันหยุดยาวนั่นเอง

เนื่องจากพวกเรามารถบ่อนถ้าจะให้ Low priceจริงๆ ก็ต้องเข้าไปเช็คชื่อและรับเงินคืนที่บ่อนค่ะ ซึ่งพวกเรา3สาวไม่มีเคยไปเข้าบ่อนมาก่อนเลยค่ะ และนี่คือครั้งแรกของพวกเรา ขอบอกเลยว่าตื่นเต้นมากๆ >0< แต่ก่อนจะเข้าบ่อนเราก็ต้องผ่าน ด่านตม.ตรงปอยเปตก่อนซะก่อน

บริเวณด่าน ตม.ตรงนี้ถ้าจะมองให้น่ารักก็น่ารักนะคะ เพราะเราจะได้เห็นคุณลุงคุณป้าคุณตาคุณยาย รีบก้าวเท้าเดินจ้ำอ้าวเข้า ตม.กันเป็นแถวเลย นับเป็นภาพที่หาได้ยากเลยทีเดียวค่ะ เพราะตอนแรกเห็นนั่งรถมาด้วยกันก็ธรรมดา แต่พอลงรถมานึกว่านักวิ่งมาราธอน 555555


เมื่อผ่านด่าน ตม.ตรงปอยเปตมาแล้วเราก็ต้องนั่งรถ 2 แถวเข้าไปที่บ่อนอีกที( 2แถวนั่งฟรีนะคะ เหมือนเป็นรถที่ให้บริการกับลูกค้าของบ่อน รถจะมาเรื่อยๆเลยนะคะ)

เมื่อเข้าไปที่บ่อนแล้วก็ทำการเช็คชื่อค่ะ เราก็จะได้คูปองทานอาหารคนละ 100 บาท ถ้าเราอยู่ในบ่อนครบ1ชั่วโมงจะได้เงินคืน300บาทค่ะ เท่ากับว่าจ่ายค่ารถบ่อนไป100บาท แล้วได้คูปองกินข้าวอีกคนละ100บาท(ถูกเหมือนได้ฟรีเลยยยย><) หลังได้คูปองมาพวกเราก็ไปเดินเล่น(ใช่ค่ะ! พวกเราเดินเล่นในบ่อนกันค่ะ) ระหว่างเดินเล่นในบ่อนก็จะมีน้ำดื่มต่างๆคอยให้บริการอยู่ด้วย(คุ้มไปอี๊กกกกกก) หลังจากเดินเล่นจนเพลินเดินไปเดินมาก็ครบ1ฃั่วโมงแล้ว เร็วมากๆเลย ก็จะมีเจ้าหน้าที่เอาเงินมาคืนเรา300บาท แล้วเราก็ไปทานข้าวกัน(จริงๆทานก่อนครบ1ชั่วโมงได้นะคะ)
ส่วนกับข้าวในบ่อนนี่ต้องบอกเลยว่าอร่อยและสะอาดมากๆเลย พวกเราทำการรวมคูปองทั้งหมดไว้ด้วยกันแล้วนำไปซื้อกับข้าวก็จะทำให้ได้กินอาหารหลากหลาย ทั้งขนมจีบ ฮะเก๋า กับข้าวอีก 3 อย่าง ส่วนข้าวเปล่าฟรีค่ะ ^0^


เมื่อเติมพลังกันเต็มหลอดแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อทันที แต่กว่าจะได้ออกจากบ่อนก็ตอนบ่ายโมงตรงค่ะ ซึ่งด่านต่อไปก็คือเราจะต้องข้ามแดน ตม.เข้าสู่ประเทศกัมพูชากันแล้ว
แต่ๆๆๆ มันมีเรื่องเล่าขานอยู่ว่า...ก่อนเข้า ตม.เราต้องจ่ายเงินให้กับ ตม.คนละ 100 บาท และพวกเราก็รู้มาว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง พวกเราจึงตกลงกันแล้วว่าถ้าเจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บเงิน พวกเราจะไม่จ่ายเด็ดขาด!!!

เมื่อพวกเราด่านก็เดินเข้าไปข้างในทันที พอเข้ามาปุ๊ปเราจะต้องเขียนใบเพื่อขอข้ามแดน ในใบต้องระบุ ชื่อ-นามสกุล แล้วกรอกว่าเราจะมากี่วัน เมื่อกรอกเสร็จแล้วก็ยื่นใบให้กับเจ้าหน้าที่ที่เค้าท์เตอร์ได้เลย

และแล้ว...เวลานี้ก็มาถึง!! เมื่อเจ้าหน้าที่บอกเราว่า “ค่าพาสปอร์ตใหม่คนละ100บาท” พวกเราก็ได้แต่มองหน้ากันคิดในใจ เอาแล้วววว แต่สุดท้ายพวกเราก็ทำตามแผนที่เราวางไว้ นั่นคือไม่จ่ายนั่นเอง คนอื่นๆที่เข้ามาเมื่อเจ้าหน้าที่เรียกเก็บเงิน ก็จะจ่ายกันจนเป็นเรื่องปกติ(แต่จริงๆแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนะคะ) แต่ยังไงพวกเราก็ยืนยันที่จะไม่จ่ายค่ะ เมื่อไม่มีใครยอมใครเพื่อนเลยพูดขึ้นมาว่า
“ไม่เป็นไร เรายืนอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน”สักพัก ตม.เขาก็มองหน้ากัน แล้วสุดท้ายก็คืนพาสปอร์ตให้กับพวกเรา
(บทจะคืนก็คืนง่ายๆเลยค่ะ ประหลาดใจ) Mission Complete ไปหนึ่งแล้วววว เย่ๆๆๆๆ

หลังจากนั้นพวกเราก็เดินข้ามไปฝั่งกัมพูชาเพื่อขึ้นรถTaxiที่ทำการจองไว้ (เนื่องจากพวกเรากลัวโดนฟันราคา จึงทำการจองรถแท็กซี่ไว้ในราคาเหมา $30 เท่านั้น!! ) แล้วนัดแนะจุดขึ้นรถกับคนขับเพื่อเข้าเสียมเรียบ ระหว่างทางที่เราเดินออกจากด่านก็จะมีคนมากมาย เดินเข้ามาหาเราเต็มไปหมด แต่ด้วยความที่พวกเราได้ทำการจองรถไว้แล้ว เราเลย Say No! ตลอดทางแล้วเดินตรงดิ่งอย่างเดียวเลยยย
แค่ข้ามไปทางฝั่งกัมพูชาก็จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกร้อนขึ้นมาทันที แถมด้วยเสียงแตรรถ ปี๊นๆ ถี่มากกกก บีบกันตลอดเลยทีเดียวก็ว่าได้


ส่วนรถที่เราจองไว้เป็นรถยี่ห้อLexus สะอาดและนั่งสบายสุดๆ พี่คนขับก็จะขับอย่างชิวๆเรื่อยๆ แวะซื้อกาแฟบ้าง แวะเติมน้ำมันบ้าง กว่าจะถึงก็ห้าโมงเย็นนู่นแหนะ 555555 พวกเราได้ขึ้นรถตอน 13.45น.ใช้เวลานั่งรถไป3ชั่วโมงกว่า(แต่จริงๆแล้วมันไม่นานขนาดนี้นะคะ) พี่คนขับก็จะมาส่งถึงที่พักเลยค่ะ ซึ่งพวกเราจองที่พักกันไว้แถวๆPub Street แต่ที่พักของพวกเราไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ร้องไห้  เลยขออนุญาตข้ามไปนะคะ

วันนี้พวกเรามาถึงก็เย็นมากแล้ว น่าจะไปเที่ยวไกลมากไม่ได้ พวกเราเลยตัดสินใจไปเดินเล่นที่ Lucky mall อยากเห็นว่าห้างของบ้านเขาเป็นอย่างไรบ้าง ระหว่างทางก็เดินชมวิว ทิวทัศน์ ชมรถชมผู้คนไปเรื่อยๆเลยค่ะ

และแล้วก็มาถึงงงง Lucky mall ตืนเต้นมากกกกกก เพราะเจอพี่คนนึงกำลังทำความสะอาดกระจกอยู่ 55555555(ไม่ได้เห็นนาน)


ภายในห้างก็จะคล้ายๆกับห้างในสมัยเก่าในบ้านเราค่ะ มีร้านอาหารนิดหน่อย ด้านล้างเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตมาร์เก็ต และที่นี่มี Miniso ด้วยนะคะ ราคาพอๆกับที่ไทยเลย สามารถแวะช็อปกันได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ

จริงๆแล้วพวกเรามาที่นี่ก็เพื่อหาข้าวกินกันค่ะ แต่เมื่อไม่มีอะไรที่ถูกใจ พวกเราเลยตัดสินใจเปลี่ยนแผนไป Old market ด้วยความที่ขี้เกียจเดินเลยเรียกตุ๊กๆให้ไปส่งในราคา $2

แต่คนขับตุ๊กๆพาพวกเรามาลงตรงPub Street ซึ่งสามารถเดินทะลุไปที่Old market ได้เหมือนกัน เป้าหมายตอนนี้ของเราคือ มื้อเย็นราคาเบาๆ เราเลยต้องเดินออกไปจาก Pub Streetไปนิดนึง ก็จะเจอกับStreet food เป็นรถเข็นยาวเป็นทางเลย ราคาก็ย่อมเยาว์สุดๆ เริ่มต้นที่ราคา $1.5 มีให้เลือกหลายร้านเลย

พวกเราเลือกร้านนี้เพราะยังมีโต๊ะว่าง ฮ่าๆๆๆๆ

ส่วนอาหารที่สั่งมาก็คือ แกงกะหรี่ อาม็อก และลกลัก ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของกัมพูชาทั้งนั้นเลย
ถ้าถามว่าอะไรอร่อยต้องยกให้ "ลกลัก" เลยค่ะ หัวใจ


จากในรูป "ลกลัก" ก็คือ จานสีส้มๆสีสดใสๆทำจากเนื้อ แต่รสชาติคล้ายๆกับผัดน้ำมันหอยใส่ซอสมะเขือเทศ
ทานกับน้ำจิ้มพริกไทยใส่มะนาว อร่อยเหาะเลยค่ะ อมยิ้ม02

เมื่อเติมพลังกันอิ่มหนำสำราญแล้วเราก็เข้าไปเดินในPub street กันต่อเลยค่ะ สำหรับใครที่กินเบียร์ได้ หรือชอบกินเบียร์คงจะปลื้มปริ่มสุดๆ เพราะเบียร์ที่นี่ถูกมากกกกกกกกกกกกกกกกกก(ก ไก่ ยาวๆเลยค่ะ) ถูกกว่าน้ำเปล่าอีกเพราะราคาเพียงแค่ $0.5 เท่านั้น(ประมาณ 15-16 บาท)

บรรยากาศในPub street จะคล้ายๆกับถนนข้าวสารบ้านเราเลยค่ะ แต่จะไม่ครึกครื้นเท่า แต่ก็น่ารักและมีเสน่ห์ไปอีกแบบนะคะ  

สำหรับวันแรกของพวกเราขอชิวๆไปก่อนนะคะ เม่าบัลเล่ต์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่