อ้างอิงจากกระทู้ก่อน เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตในหมู่บ้าน การเดินสาย ชุมสายอะไรนี่แหละ มีเจ้าหน้าที่มาประชาสัมพันธ์แล้วไม่ได้มีการตอบรับ
ขออนุญาตเเนะนำเรื่องนึงว่า เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ในหมู่บ้าน ซึ่งขอแนะนำให้สำหรับทุกคน ทุกหน่วยงานเลย ไม่ได้จะสอนจระเข้ว่ายน้ำ แต่มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามจริงๆ ค่ะ หากคุณสามารถปรับหรือพัฒนาได้ รับรองได้ว่าคุณจะได้รับความสำเร็จขึ้นอีกขั้น หากคุณไม่ย่อท้อกับมัน นั่นคือ
การสื่อสารกับชาวบ้าวแถวบ้านนอก ชาวบ้านที่ด้อยการศึกษา และพบปะสังคมที่แท้จริง ด้านนอกน้อย บางทีต้องเรียบเรียงประโยคในการสนทนานิดนึง เขาไม่ได้เจอสังคมใหญ่แบบพวกเรานะคะ การศึกษาน้อย หลายๆ คน จบแค่ ป.1 ป.2 และทำงานตรงนั้นมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย
ไม่ได้ออกไปเรียนรู้ การสื่อสาร การเข้าสังคมแบบอื่นมากนัก นอกจากจากคุยในเรื่องเกี่ยวกับงานและสิ่งรอบตัว เขาไม่เข้าใจอะไรได้ง่ายๆ แบบพวกเรา เนื่องจากเราเคยประชุมร่วมกับชาวบ้าน มี อบต. มาเสนอโครงการพัฒนานู่นนี่ แค่ในชาวบ้านช่วยกันยกมือ ลงมติจะพัฒนาเรื่องใดก่อน
ชาวบ้านยังไม่เข้าใจเลยค่ะ ว่าให้เลือกแค่ข้อเดียว ถ้าคุณไม่บอก อบต. ใช้เวลาเป็น ชม. ซึ่งตอนนั้นเราช่วยพูดบ้างนิดหน่อย แล้วเฝ้าดูพฤติกรรมพวกเขา มันเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้ามจริงๆ นะคะ
อยากจะบอกว่า การที่เราจะต้องอธิบายบางอย่าง ให้คนที่เขาไม่เคยรู้จักในสิ่งที่คุณรู้เลย คุณต้องอธิบายให้เห็นภาพ เสมือนคุณสอนเด็กอนุบาลเลยค่ะ อย่าคิดว่าการอธิบายแบบเด็กอนุบาลมันเป็นการดูหมิ่นสติปัญญาเขา หากมีคนคิดแบบนี้อยู่เลิกคิดเลยนะคะ เพราะมันจะไม่ช่วยอะไรคุณเลย เเล้วคนที่ไม่เข้าใจ ก็ไม่เข้าใจต่อไป นั่นคือ วิธีการที่จะสามารถสื่อสารให้คนในหมู่บ้านลักษณะนี้เข้าใจค่ะ
เราขอเเนะนำวิธีง่ายๆ เวลาเข้าใจประสัมพันธ์ โครงการอะไรก็ตามในหมู่บ้าน ไม่ใช่เเค่เรื่องสายโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตนะคะ โครงการอะไรก็ตาม ถือแม้ว่าสิ่งที่คุณทำ คุณอาจมองเป็นแค่ธุรกิจ แต่ในบริษัทของคุณ ต้องมีปณิธาน หรือวิสัยทัศน์ ที่เกี่ยวกับการพัฒนาชุมชนมั่งแหละค่ะ
ซึ่งอยากคุณทำได้ ไม่ใช่แค่ธุรกิจคุณขยายตัว แต่สังคมและชีวิตของคนที่คุณไปแนะนำมันก็พัฒนาและเติบโตเช่นกัน ดังนั้นเราก็แนะนำวิธีการคุยกับชาวบ้านให้นะคะ เนื่องจากในกระทู้ก่อนหน้านี้พูดถึงเรื่องอินเตอร์เน็ตเลยขอหยิบยกเป็นกรณีตัวอย่าง ดังนี้
1. เวลาเข้าไปประชาสัมพันธ์ อย่าไปแบบเซลล์แมน บ้านต่อบ้าน เห็นเลยว่าอาจจะเมื่อยปากคุณมากค่ะ เเละเสียเวลามาก ให้ติดต่อ อบต. หรือ ผู้ใหญ่บ้าน เขาจะเรียกประชุมชาวบ้านให้ ว่าจะให้มารวมกันที่ ร.ร. หรือ วัดก็ว่ากันไป ข้อดีคือ ประหยัดเวลา/ไม่ต้องอธิบายซ้ำไปซ้ำมา/อยากมีชาวบ้านบางคนไม่เข้าใจ จะมีชาวบ้านส่วนที่เข้าใจช่วยคุณพูดอธิบาย ในประโยคที่พวกเขาสื่อสารกันเองง่าย เรียกว่า แปลไทยเป็นไทยอีกที / ลดภาระ เบาแรงพวกคุณได้เยอะ
2. เตรียมสื่อในการอธิบาย ในนึกภาพเสมือนคุณกำลังพรีเซ็นต์โปรเจคใหญ่ต่อผู้บริหารเลย (สำคัญคือ คนต้องมั่นใจในสินค้าคุณมากๆ ) ที่โรงเรียนมีโปรเจคเตอร์ ให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยยืมให้ ที่วัดไม่แน่ใจว่ามีมั๊ย ถ้าไม่มีเดี๋ยวเราจะซื้อถวายวัดไว้ให้ เดี๋ยวกลับบ้านจะไปถามหลวงปู่ดูให้ค่ะ มีสื่ออะไร ขนมา อย่าคิดแค่มาขายของ ให้คิดว่ามาให้ความรู้ มาให้โอกาสในการพัฒนา ช่องทางขยายอาชีพ ทำใจให้เป็นผู้ให้เยอะๆ ไอเดียจะมาเอง ไม่สะดวกหอบคอมมา เอาแค่ไวท์บอร์ด ขนาดกลางพกขึ้นรถได้ รูปภาพสี รูปเพจ เว็บไซค์ โซเชียล ที่คิดว่าชาวบ้านน่าจะสนใจ ปริ้นท์เเล้วเคลือบไว้ก็ได้ เก็บไว้ไปใช้ประชาสัมพันธ์หมู่บ้านอื่นได้ด้วย พูดไว้ก็วาดไปเหมือนสอนวาดรูป สอนวิทยาศาสตร์ โยงนั่นโยงนี่ เขียนมายแมปปิ้งให้เขาดูไปเลย
3. การศึกษาการตลาด/อาชีพของชาวบ้านแถวนั้น เช่น เห็นมีบ่อปลาเยอะๆ มีปลูกผัก มีปลูกมะม่วง ปลูกกล้วย ปลูกขนุน บลาๆๆๆ ยกตัวอย่าง บ้านเราเลย เวลาทำบ่อปลา แม่จะปลูกสิ่งที่ตัวเองชอบ พ่อชอบ เราชอบ เเละเพื่อนๆ ชอบไว้ตามบ่อปลา ปลูกที่ก็ปลูกหลายต้น เผื่อต้นนี้ไม่ได้กินก็กินต้นนั้นได้ แม่เราเก็บมะม่วงขายโลละ 20 บาท เนี้ยะ อยู่กรุงเทพขายลูกละ 20 บาท เข้! หาวิธีต่อยอดอาชีพให้เขามีลูกค้า หรือแนะนำให้พ่อค้าแม่ค้าต่างถิ่นเดินทางมาหาเขา แนะนำการโฆษณาสินค้าใน Facebook ให้เขามองออกว่าทำยังไง แล้วเขาก็สามารถทำเป็นได้เหมือนกัน เมื่อเขารู้สึกว่ามันง่าย เขาจะชวนกันทำเอง ผู้ใหญ่ชาวบ้านที่มาประชุมส่วนมากจะเป็นแม่บ้าน แล้วแม่บ้านบางคนจะมีศิลปะในการพูดโน้มน้าวคนอื่นเก่งมาก มีพรรคมีพวก หาคนนั้นให้เจอแล้วทำให้เขาเห็นเสมือนที่คุณเห็นให้ได้ ทุกอาชีพของเขาเป็นไปได้ ทำอะไรไม่เป็น บอกไปเลย Google Youtube บอกไว้หมดแล้ว แล้วมีอะไรเป็นปัจจัยหลักคือ สินค้าของคุณไง "อินเตอร์เน็ต"
4. สรุปเเพ็คเกจมาให้พร้อมว่าเบ็ดเสร็จต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ฟรีค่าติดตั้งนะ แต่ต้องใช้อย่างน้อย 1 ปี เสียแค่เดือนละกี่บ้าน True Vision สมัยก่อนยังฮิตติดกันได้เลย มี Internet ทำอะไรได้มากกว่าแค่ดู TV เป็นร้อยช่อง มีสังคม มีอัลบั้มภาพชีวิต ที่ไม่ต้องเสียเงินล้างรูปเก็บไว้ดู เนี่ยเห็นมะ เขายังขายได้เลย สินค้าของคุณเจ๋งกว่าตั้งเยอะ แต่อธิบายไม่เข้าใจก็ไร้ค่าบอกเลยค่ะ
5. โฆษณาช่องทางการติดต่อคุณ ให้เขารู้สึกว่า เข้าหาคุณได้เสมอเมื่อลำบาก ก็พวก Facebook fanpage / Line Office / จะตั้ง Line Group ประจำหมู่ก็ได้นะ เวลาติดต่อเข้าไปที แต่ละบ้านจะได้แจ้งนัด วันเดียวกันได้ ประหยัดเวลาไม่ต้องมาหลายรอบ หรือจะนัดชาวบ้านเข้าไปดูวันที่ นี้ๆๆ นะ ชาวบ้านคนบ้านนอกถูกใจใครนี่จะอวยสุดๆ บอกเลย
***ยกตัวอย่าง ทำไมคนอีสานรักคุณทักษิณ อันนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองนะคะ เราไม่ได้อยู่ฝ่ายใด เราขอเสนอหลักแนวคิด เขาเป็นคนฉลาดมากค่ะ ใช้จิตวิทยาในการช่วยเหลือคน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าคนอีสานรักเขามาแค่ไหน นั่นคือเขาซื้อใจคนจนคนลำบากเป็นค่ะ เพราะเขารู้ว่าคนบ้านนอกคนจน ใครช่วยให้พ้นความลำบากได้ ชาวบ้านจะจงรักภักดีและนับเป็นบุญคุณมาก *** การทำธุรกิจก็เช่นกันค่ะ อมยิ้ม04
ประโยชน์ชัดๆ เลยนะ ฝ่ายขายที่เข้าไปได้ผลงานต่อบริษัท / หน่วยงานไหนชาวบ้านชอบ ก็ได้ฐานลูกค้ายกหมู่บ้าน/ กำไรจากการโฆษณาที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย คือ ประทับใจของชาวบ้าน จะแนะนำปากต่อปาก "นี่ไงแกบอกผู้ใหญ่บ้านรวมตัวคุยกันแบบหมู่ชั้นสิ ดีมาก นี่นะ ขายของผ่านเน็ต มีลูกค้ามาเหมามะม่วงทั้งสวน กำไรๆ เป็นแสนๆ เลยแก" โอ๊ยยยยย ใครได้ฟังก็ตาวาวทั้งนั้นแหละค่ะ ที่บอกนี่คือไม่ใช่สมมติฐานนะคะ เห็นมากับตาค่ะ / ชื่อเสียงเกียรติคุณเข้าบริษัท ตามที่โฆษณาปาวๆ ในโรงภาพยนตร์ หรือ TV เลยค่ะ เเล้วเกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาสังคม หมู่บ้าน เศรษกิจชุมชน คิดใหญ่ ก็ได้ใหญ่ค่ะ สำคัญคือ ขอเถอะ ขอให้สู้ และพร้อมทุ่ม ทำได้มีปังแน่นอนค่ะ
จุดเริ่มต้นของเราที่ตั้งกระทู้นี้ เเค่ต้องการประโยชน์สำหรับตัวเอง แต่ไม่ได้ต้องการให้เป็นประโยชน์กับแค่ตัวเองค่ะ เหมือนเวลาที่เราเจออะไรดีๆ มา เราก็อยากเผื่อแผ่คนรอบข้าง คนรู้จัก คนบ้านเดียวกัน ทุกคนคือสายสัมพันธ์ทั้งปัจจุบันและอนาคต ซึ่งพื้นฐานตั้งอยู่กับสิ่งง่ายๆ ที่เรียกว่า "น้ำใจ"
-----ฝากไว้เท่านี้นะคะ------
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย รู้เขารู้เรา รบร้อยพัน ชนะพันครั้ง
ป.ล. หมู่บ้านที่เราหมายถึง ไม่ใช่หมู่บ้านจัดสรรนะคะ แต่หมายถึง หมู่ที่.... 1 2 3 4 อะไรแบบนี้ค่ะ
วิธีโฆษณา สื่อสาร กับชาวบ้าน บ้านนอก ด้อยการศึกษา พบปะสังคมภายนอกค่อยข้างน้อย
ขออนุญาตเเนะนำเรื่องนึงว่า เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ในหมู่บ้าน ซึ่งขอแนะนำให้สำหรับทุกคน ทุกหน่วยงานเลย ไม่ได้จะสอนจระเข้ว่ายน้ำ แต่มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามจริงๆ ค่ะ หากคุณสามารถปรับหรือพัฒนาได้ รับรองได้ว่าคุณจะได้รับความสำเร็จขึ้นอีกขั้น หากคุณไม่ย่อท้อกับมัน นั่นคือ
การสื่อสารกับชาวบ้าวแถวบ้านนอก ชาวบ้านที่ด้อยการศึกษา และพบปะสังคมที่แท้จริง ด้านนอกน้อย บางทีต้องเรียบเรียงประโยคในการสนทนานิดนึง เขาไม่ได้เจอสังคมใหญ่แบบพวกเรานะคะ การศึกษาน้อย หลายๆ คน จบแค่ ป.1 ป.2 และทำงานตรงนั้นมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย
ไม่ได้ออกไปเรียนรู้ การสื่อสาร การเข้าสังคมแบบอื่นมากนัก นอกจากจากคุยในเรื่องเกี่ยวกับงานและสิ่งรอบตัว เขาไม่เข้าใจอะไรได้ง่ายๆ แบบพวกเรา เนื่องจากเราเคยประชุมร่วมกับชาวบ้าน มี อบต. มาเสนอโครงการพัฒนานู่นนี่ แค่ในชาวบ้านช่วยกันยกมือ ลงมติจะพัฒนาเรื่องใดก่อน
ชาวบ้านยังไม่เข้าใจเลยค่ะ ว่าให้เลือกแค่ข้อเดียว ถ้าคุณไม่บอก อบต. ใช้เวลาเป็น ชม. ซึ่งตอนนั้นเราช่วยพูดบ้างนิดหน่อย แล้วเฝ้าดูพฤติกรรมพวกเขา มันเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้ามจริงๆ นะคะ
อยากจะบอกว่า การที่เราจะต้องอธิบายบางอย่าง ให้คนที่เขาไม่เคยรู้จักในสิ่งที่คุณรู้เลย คุณต้องอธิบายให้เห็นภาพ เสมือนคุณสอนเด็กอนุบาลเลยค่ะ อย่าคิดว่าการอธิบายแบบเด็กอนุบาลมันเป็นการดูหมิ่นสติปัญญาเขา หากมีคนคิดแบบนี้อยู่เลิกคิดเลยนะคะ เพราะมันจะไม่ช่วยอะไรคุณเลย เเล้วคนที่ไม่เข้าใจ ก็ไม่เข้าใจต่อไป นั่นคือ วิธีการที่จะสามารถสื่อสารให้คนในหมู่บ้านลักษณะนี้เข้าใจค่ะ
เราขอเเนะนำวิธีง่ายๆ เวลาเข้าใจประสัมพันธ์ โครงการอะไรก็ตามในหมู่บ้าน ไม่ใช่เเค่เรื่องสายโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตนะคะ โครงการอะไรก็ตาม ถือแม้ว่าสิ่งที่คุณทำ คุณอาจมองเป็นแค่ธุรกิจ แต่ในบริษัทของคุณ ต้องมีปณิธาน หรือวิสัยทัศน์ ที่เกี่ยวกับการพัฒนาชุมชนมั่งแหละค่ะ
ซึ่งอยากคุณทำได้ ไม่ใช่แค่ธุรกิจคุณขยายตัว แต่สังคมและชีวิตของคนที่คุณไปแนะนำมันก็พัฒนาและเติบโตเช่นกัน ดังนั้นเราก็แนะนำวิธีการคุยกับชาวบ้านให้นะคะ เนื่องจากในกระทู้ก่อนหน้านี้พูดถึงเรื่องอินเตอร์เน็ตเลยขอหยิบยกเป็นกรณีตัวอย่าง ดังนี้
1. เวลาเข้าไปประชาสัมพันธ์ อย่าไปแบบเซลล์แมน บ้านต่อบ้าน เห็นเลยว่าอาจจะเมื่อยปากคุณมากค่ะ เเละเสียเวลามาก ให้ติดต่อ อบต. หรือ ผู้ใหญ่บ้าน เขาจะเรียกประชุมชาวบ้านให้ ว่าจะให้มารวมกันที่ ร.ร. หรือ วัดก็ว่ากันไป ข้อดีคือ ประหยัดเวลา/ไม่ต้องอธิบายซ้ำไปซ้ำมา/อยากมีชาวบ้านบางคนไม่เข้าใจ จะมีชาวบ้านส่วนที่เข้าใจช่วยคุณพูดอธิบาย ในประโยคที่พวกเขาสื่อสารกันเองง่าย เรียกว่า แปลไทยเป็นไทยอีกที / ลดภาระ เบาแรงพวกคุณได้เยอะ
2. เตรียมสื่อในการอธิบาย ในนึกภาพเสมือนคุณกำลังพรีเซ็นต์โปรเจคใหญ่ต่อผู้บริหารเลย (สำคัญคือ คนต้องมั่นใจในสินค้าคุณมากๆ ) ที่โรงเรียนมีโปรเจคเตอร์ ให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยยืมให้ ที่วัดไม่แน่ใจว่ามีมั๊ย ถ้าไม่มีเดี๋ยวเราจะซื้อถวายวัดไว้ให้ เดี๋ยวกลับบ้านจะไปถามหลวงปู่ดูให้ค่ะ มีสื่ออะไร ขนมา อย่าคิดแค่มาขายของ ให้คิดว่ามาให้ความรู้ มาให้โอกาสในการพัฒนา ช่องทางขยายอาชีพ ทำใจให้เป็นผู้ให้เยอะๆ ไอเดียจะมาเอง ไม่สะดวกหอบคอมมา เอาแค่ไวท์บอร์ด ขนาดกลางพกขึ้นรถได้ รูปภาพสี รูปเพจ เว็บไซค์ โซเชียล ที่คิดว่าชาวบ้านน่าจะสนใจ ปริ้นท์เเล้วเคลือบไว้ก็ได้ เก็บไว้ไปใช้ประชาสัมพันธ์หมู่บ้านอื่นได้ด้วย พูดไว้ก็วาดไปเหมือนสอนวาดรูป สอนวิทยาศาสตร์ โยงนั่นโยงนี่ เขียนมายแมปปิ้งให้เขาดูไปเลย
3. การศึกษาการตลาด/อาชีพของชาวบ้านแถวนั้น เช่น เห็นมีบ่อปลาเยอะๆ มีปลูกผัก มีปลูกมะม่วง ปลูกกล้วย ปลูกขนุน บลาๆๆๆ ยกตัวอย่าง บ้านเราเลย เวลาทำบ่อปลา แม่จะปลูกสิ่งที่ตัวเองชอบ พ่อชอบ เราชอบ เเละเพื่อนๆ ชอบไว้ตามบ่อปลา ปลูกที่ก็ปลูกหลายต้น เผื่อต้นนี้ไม่ได้กินก็กินต้นนั้นได้ แม่เราเก็บมะม่วงขายโลละ 20 บาท เนี้ยะ อยู่กรุงเทพขายลูกละ 20 บาท เข้! หาวิธีต่อยอดอาชีพให้เขามีลูกค้า หรือแนะนำให้พ่อค้าแม่ค้าต่างถิ่นเดินทางมาหาเขา แนะนำการโฆษณาสินค้าใน Facebook ให้เขามองออกว่าทำยังไง แล้วเขาก็สามารถทำเป็นได้เหมือนกัน เมื่อเขารู้สึกว่ามันง่าย เขาจะชวนกันทำเอง ผู้ใหญ่ชาวบ้านที่มาประชุมส่วนมากจะเป็นแม่บ้าน แล้วแม่บ้านบางคนจะมีศิลปะในการพูดโน้มน้าวคนอื่นเก่งมาก มีพรรคมีพวก หาคนนั้นให้เจอแล้วทำให้เขาเห็นเสมือนที่คุณเห็นให้ได้ ทุกอาชีพของเขาเป็นไปได้ ทำอะไรไม่เป็น บอกไปเลย Google Youtube บอกไว้หมดแล้ว แล้วมีอะไรเป็นปัจจัยหลักคือ สินค้าของคุณไง "อินเตอร์เน็ต"
4. สรุปเเพ็คเกจมาให้พร้อมว่าเบ็ดเสร็จต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ฟรีค่าติดตั้งนะ แต่ต้องใช้อย่างน้อย 1 ปี เสียแค่เดือนละกี่บ้าน True Vision สมัยก่อนยังฮิตติดกันได้เลย มี Internet ทำอะไรได้มากกว่าแค่ดู TV เป็นร้อยช่อง มีสังคม มีอัลบั้มภาพชีวิต ที่ไม่ต้องเสียเงินล้างรูปเก็บไว้ดู เนี่ยเห็นมะ เขายังขายได้เลย สินค้าของคุณเจ๋งกว่าตั้งเยอะ แต่อธิบายไม่เข้าใจก็ไร้ค่าบอกเลยค่ะ
5. โฆษณาช่องทางการติดต่อคุณ ให้เขารู้สึกว่า เข้าหาคุณได้เสมอเมื่อลำบาก ก็พวก Facebook fanpage / Line Office / จะตั้ง Line Group ประจำหมู่ก็ได้นะ เวลาติดต่อเข้าไปที แต่ละบ้านจะได้แจ้งนัด วันเดียวกันได้ ประหยัดเวลาไม่ต้องมาหลายรอบ หรือจะนัดชาวบ้านเข้าไปดูวันที่ นี้ๆๆ นะ ชาวบ้านคนบ้านนอกถูกใจใครนี่จะอวยสุดๆ บอกเลย
***ยกตัวอย่าง ทำไมคนอีสานรักคุณทักษิณ อันนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองนะคะ เราไม่ได้อยู่ฝ่ายใด เราขอเสนอหลักแนวคิด เขาเป็นคนฉลาดมากค่ะ ใช้จิตวิทยาในการช่วยเหลือคน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าคนอีสานรักเขามาแค่ไหน นั่นคือเขาซื้อใจคนจนคนลำบากเป็นค่ะ เพราะเขารู้ว่าคนบ้านนอกคนจน ใครช่วยให้พ้นความลำบากได้ ชาวบ้านจะจงรักภักดีและนับเป็นบุญคุณมาก *** การทำธุรกิจก็เช่นกันค่ะ อมยิ้ม04
ประโยชน์ชัดๆ เลยนะ ฝ่ายขายที่เข้าไปได้ผลงานต่อบริษัท / หน่วยงานไหนชาวบ้านชอบ ก็ได้ฐานลูกค้ายกหมู่บ้าน/ กำไรจากการโฆษณาที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย คือ ประทับใจของชาวบ้าน จะแนะนำปากต่อปาก "นี่ไงแกบอกผู้ใหญ่บ้านรวมตัวคุยกันแบบหมู่ชั้นสิ ดีมาก นี่นะ ขายของผ่านเน็ต มีลูกค้ามาเหมามะม่วงทั้งสวน กำไรๆ เป็นแสนๆ เลยแก" โอ๊ยยยยย ใครได้ฟังก็ตาวาวทั้งนั้นแหละค่ะ ที่บอกนี่คือไม่ใช่สมมติฐานนะคะ เห็นมากับตาค่ะ / ชื่อเสียงเกียรติคุณเข้าบริษัท ตามที่โฆษณาปาวๆ ในโรงภาพยนตร์ หรือ TV เลยค่ะ เเล้วเกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาสังคม หมู่บ้าน เศรษกิจชุมชน คิดใหญ่ ก็ได้ใหญ่ค่ะ สำคัญคือ ขอเถอะ ขอให้สู้ และพร้อมทุ่ม ทำได้มีปังแน่นอนค่ะ
จุดเริ่มต้นของเราที่ตั้งกระทู้นี้ เเค่ต้องการประโยชน์สำหรับตัวเอง แต่ไม่ได้ต้องการให้เป็นประโยชน์กับแค่ตัวเองค่ะ เหมือนเวลาที่เราเจออะไรดีๆ มา เราก็อยากเผื่อแผ่คนรอบข้าง คนรู้จัก คนบ้านเดียวกัน ทุกคนคือสายสัมพันธ์ทั้งปัจจุบันและอนาคต ซึ่งพื้นฐานตั้งอยู่กับสิ่งง่ายๆ ที่เรียกว่า "น้ำใจ"
-----ฝากไว้เท่านี้นะคะ------
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย รู้เขารู้เรา รบร้อยพัน ชนะพันครั้ง
ป.ล. หมู่บ้านที่เราหมายถึง ไม่ใช่หมู่บ้านจัดสรรนะคะ แต่หมายถึง หมู่ที่.... 1 2 3 4 อะไรแบบนี้ค่ะ