ก่อนหน้านั้น นั่งเครียดเปิดดูข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเพื่อหาที่เที่ยวแบบเร่งด่วนเพราะทริป Porto ที่โปรตุเกสที่หมายมั่นว่าจะไปนั้น ล่มไม่เป็นท่าเพียงเพราะเราตัดสินใจช้าเกินไป และตั๋วเครื่องบินก็ราคาพุ่งแบบไม่เห็นใจกัน เสียงคนข้างๆดังมาว่า "เราไปเที่ยวฝรั่งเศสตอนใต้กันไหม จากนั้นก็ต่อไปที่ Cinque Terre ที่อิตาลี" ได้ฟังดังนั้นก็ตื่นเต้นแล้ว ทั้งๆที่ก็กังวลว่าเค้าจะขับรถไหวไหมเพราะระยะทางจากบ้านไปถึงอิตาลีนั้นไกลเหลือเกิน หลังจากได้รับการยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่า ขับไหวแน่ๆ ไม่ต้องห่วง เราเลยจองที่พักและตั้งหน้าตั้งตารอวันพักร้อนที่กำลังจะมาถึง

หลังจากแวะเที่ยวเล่นที่ฝรั่งเศสตอนใต้ที่เมืองนีซ(NICE)และเอซ(EZE)มาสองคืน ได้เวลามุ่งหน้าหาอิตาลีแล้วค่ะ

เราใช้เส้นทางด่วนที่ตัดลอดภูเขาหลายลูกตั้งแต่ฝรั่งเศสจนถึงอิตาลี ผ่านด่านเก็บตังค์นับไม่ถ้วน แทบไม่อยากคิดว่าค่าtoll fee ของทริปนี้จะแพงมหาโหดขนาดไหน พระอาทิตย์แวะมาทักทายพร้อมบอกลาไปตั้งแต่ยังไม่ทันห้าโมงเย็น เป็นการบอกลาที่เยือกเย็นเหมือนเกลียดกัน ขับรถตามจีพีเอสที่เปิดจากมือถือ ซึ่งใช้การได้ดีโดยไม่ต้องเสียตังค์เพิ่มเติม(มือถือเป็นซิมฝรั่งเศสแบบรายเดือน รวมแพกเกจทุกอย่างเรียบร้อย สามารถเอาไปใช้ต่างประเทศในเขตยุโรปได้เหมือนกับอยู่ที่ฝรั่งเศส เพิ่งมาใช้คุ้มก็ตอนออกนอกประเทศนี่แหละค่ะ)

ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงที่พักตอนที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีดำสนิท มองอะไรไม่เห็นแล้ว ต้องอาศัยแค่แสงจากหน้ารถเป็นเครื่องนำทาง
หมู่บ้านที่เราพักชื่อ Levanto ถ้าเดินทางมาจากฝรั่งเศสจะเป็นหมู่บ้านที่อยู่ก่อนถึง Monterosso เมืองแรกของ Cinque Terre เราเลือกพักที่นี่เพราะสะดวกในการจอดรถ ไม่ต้องขับรถขึ้นลงเขาให้ลำบาก

Vittorio เจ้าของที่พักรอเราอยู่ก่อนแล้ว เพราะเค้าถามเวลาที่เราจะมาถึง ซึ่งเราก็ตอบไปโดยประเมินเวลาจากจีพีเอส เขามาต้อนรับเราทันทีที่รถจอด กระเป๋ายังไม่ทันยกลงจากรถเลยด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าตามธรรมเนียมเจ้าบ้าน ก่อนจะส่งเราขึ้นห้องพัก ก็ได้ให้คำแนะนำมากมายในการเดินทางท่องเที่ยว ร้านอาหารแนะนำในเมือง  Do & Don't และตอนนี้เองที่ชื่อ Porto Venere หลุดออกมาจากปากเขา

Vittorio บอกเราว่าหมู่บ้าน Porto Venere นี้สวยมาก เป็นหมู่บ้านที่เค้าชอบมากเลยนะ เค้าแนะนำให้เราไป แน่ล่ะเมื่อเจ้าถิ่นแนะนำมาขนาดนี้ก็แปลว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง จริงไหม

Portovenere เป็นเมืองอยู่ในเขตจังหวัด La Spezia (ลา สเปเซีย) ประเทศ Italy (อิตาลี) ไม่ไกลจาก ชิงเคว่ แตเร่ (Cinque Terre) หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านตากอากาศได้รับการประกาศจาก UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1997


การเดินทางไป Portovenere เราจะนั่งรถไฟจาก Lavento  เช้าตรู่หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ ก็ขับรถจากที่พักไปจอดทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟ โดยมีบัตรจอดรถฟรีที่ Vittorio ให้มา เราซื้อตั๋วรถไฟแบบ Cinque Terre Pass ที่เดินทางไปกลับแวะขึ้นลงได้ทุกสถานี นั่งไปลงที่สถานี La Spezia Centrale แล้วเดินอีกประมาณ 5 นาที เพื่อไปต่อรถเมล์สาย P  ตรงถนน Viale Garibaldi (ช่วงนี้เดินหานานพอสมควร ถามคนท้องถิ่นแต่ก็ยังไม่แน่ใจว่ามายืนรอถูกป้ายหรือเปล่า) นั่งบนรสบัสซัก 30-40 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ ระหว่างทางวิวสวย ไม่เบื่อเลย

แนะนำให้ซื้อตั๋วรถเมล์ทั้งขาไปและขากลับ จะได้ไม่เสียเวลา ซึ่งตั๋วรถเมล์ซื้อได้ที่ร้าน Tobacco ที่สถานีรถไฟ La Spezia Centrale เลย ราคา 2.5 ยูโร ต่อเที่ยว เห็นว่าถ้าไปซื้อบนรถเมล์ตอนขึ้นไปแล้วราคาจะสูงเป็น 2 เท่า เรื่องจริงเป็นยังไงก็ไม่รู้ได้



Porto Venere เป็นเมืองเล็กๆที่น่ารักมาก เดินจากที่จอดรสบัสพอพ้นมุมถนน เราก็เจอวิวอาคารบ้านเรือนที่มีสีสันสดใสอยู่ตรงหน้า ขนาบด้วยทะเลที่มีเรือจอดอยู่มากมาย เดินเข้ามาในตัวหมู่บ้านจะเจอตรอกแคบๆสีแดงอิฐที่ซ่อนร้านรวงเอาไว้มากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ฝั่งที่เรียงหน้ากระดานอยู่ริมทะเลนั้น สีก็สวยไม่แพ้กัน มีร้านกาแฟน่านั่งอยู่หลายร้าน บางคนก็นิยมออกไปเดินตรงถนนที่ทอดยาวยื่นออกไปริมทะเล นั่งรับลม คอยถ่ายรูปนกนางนวลบินว่อนเหนือหัว ก็ชิลไปอีกแบบ





เรามุ่งหน้าเดินขึ้นเขาไปเพื่อชมปราสาทโดเรีย (Doria Castle) และ โบสถ์เซนต์ลอเรนซ์ (Saint Lawrence Church) ซึ่งอยู่ทางด้านหลังสุดของหมู่บ้านก่อนอื่นใด จากโบสถ์และปราสาทถือเป็นจุดชมเมืองยอดนิยม เราจะได้มองความงามของทะเลจากมุมสูงอย่างเต็มอิ่ม ถ้าอยากเข้าสำรวจปราสาทด้านบนก็จะเสียค่าเข้าชม ซึ่งงานนี้เราขอสละสิทธิ์เก็บเวลาไว้ไปเดินเล่นในตรอกดีกว่า








หลังจากเดินเล่นรอบๆ ถ่ายรูปไปมากโขแล้ว ก็มุ่งหน้าเดินต่อไปที่โบสถ์เซนต์ปีเตอร์(Saint Peter Church) ที่ตั้งเป็นป้อมปราการบนแหลมที่ยื่นออกไปในทะเล มุมนี้นักท่องเที่ยวต่อคิวถ่ายรูปกันเยอะมาก ด้านบนถ้าเดินออกไปตรงมุมเล็กๆในเขตของโบสถ์ เราอาจเห็นภาพเรือใบกำลังแล่นลู่ลม สวยเชียวค่ะ






จบจากโบสถ์ เราเดินย้อนกลับเข้าไปในเขตหมู่บ้าน แบ่งเวลาชมรอบๆอ่าวจอดเรือและเข้าไปเดินเลือกซื้อของฝากตามตรอกซอกซอยสีสด ของฝากแนะนำก็ไม่ใช่อะไรแปลกใหม่ แต่เป็นเส้นพาสต้าหลากสี หลากรูปแบบ อีกอย่างที่ชอบก็คือซอสเพสโต้ (Pesto Sause)ที่ทำจากใบกะเพรากับชีส เอามาทำสปาเก็ตตี้เบคอนกรอบซอสเพสโต้ ใส่พริกเพิ่มหน่อย อร่อยเหาะเลยค่ะ