[CR] Huawei P20 Pro หลังจากลองใช้มาอาทิตย์นึงครับ

Huawei P20 Pro หลังจากลองใช้มาอาทิตย์นึงครับ

สวัสดีครับเพื่อนๆ หลังจากใช้ Huawei P20 Pro มาได้สัปดาห์นิดๆ ก็เลยอยากมารีวิวความรู้สึก ข้อดี และข้อสังเกตุของเจ้า P20 Pro ครับ ออกตัวก่อนนะครับว่า เครื่องก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น P20 Pro คือ S9 Plus ครับ ดังนั้นเนื้อหาบางอย่าง อาจมีอ้างอิง S9 Plus บ้างครับ

จริงๆแล้วตอนที่จอง จองสี Twilight ไปครับ ได้ยินคนพูดถึงเยอะมาก แต่สุดท้ายเค้าบอกว่าของยังไม่มา ผมเลยขอเปลี่ยนเป็นสีดำครับ ซึ่งจริงๆแล้ว ค่อนข้างแฮปปี้นะครับ

ในส่วนของตัวบอดี้ จับค่อนข้างถนัดมือครับ เรียกได้ว่าไม่รู้สึกแตกต่างเมื่อเทียบกับ S9 Plus ครับ ติ่งด้านบน ไม่ได้ดูใหญ่จนน่าเกลียดครับ แต่ คหสต รู้สึกไม่ชอบลำโพงเม็ดกลมๆมีรูๆๆๆ ที่อยู่บนติ่งอ่ะครับ เห็นละนึกถึงฝาท่ออ่ะ - -*

ในส่วนของสี ตัวเครื่องสีดำ ดำทั้งหน้าจอและขอบอลูมิเนียมครับ ส่วนสีด้านหลังถูกใจมากๆครับ เพราะถึงแม้ไม่ใช่ Twilight แต่สีดำ ไม่ได้ดำเงาเหมือนไอโฟนครับ แต่เป็นดำเหลือบเงินเหมือน HTC U11 ครับ ชอบๆๆๆๆ

ส่วนท้ายของเครื่องก็ตามนั้นครับ ไม่มีพอร์ทหูฟัง 3.5มม ผมไม่ใช่คนชอบฟังเพลงครับ แต่ชอบใส่หูฟังเล่นเกมส์ เวลาต้องใช้พอร์ท USB ในการเสียบหูฟัง ก็แอบเซ็งที่มันชาร์จไปเล่นไปไม่ได้ครับ เล่นเกมส์กินแบตอย่าง PUBG ได้ไม่เกิน 2 ชม. ต้องพักชาร์จแบตครับ (เล่นไป Line call กับเพื่อนไปด้วย) .....หรือจริงๆแล้วเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเล่นเกมส์ป่าวหว่า -..-

เจ้ากล้อง 3 กล้องออกแบบตำแหน่งมาได้ค่อนข้างดีครับ แต่สำหรับผมถนัดถือด้วยมือซ้าย ปลายนิ้วชี้จะชอบโดนเลนส์ครับ อ้ออีกอย่าง ตัวกล้องนูนออกมาค่อนข้างเยอะครับ ไม่กล้าใช้แบบไม่ใส่เคสเลย กลัววางไปแล้วกระแทกพื้นครับ

ไหนก็พูดถึงเรื่องกล้องแล้ว ด้วยความอยากรู้ว่ากล้องแต่ละตัว ทำอะไรได้บ้าง เลยลองเอาเทปกาวแปะทีละรู แล้วดูว่าฟังก์ชั่นใช้ไม่ได้บ้างครับ ได้ความว่า
รูบนสุดใช้ช่วยในการซูม 3x / 5x ในบางครั้งครับ คือที่บอกว่าบางครั้ง เพราะบางครั้งปิดไว้ก็ยังซูมได้ แต่ใช้เป็นกล้องตัวล่าง บางครั้งก็ถ่ายไม่ได้เพราะติดเทปเต็มจอ ตอนนี้กำลังลองอยู่ครับ ว่าสภาวะไหนที่กล้องจะสั่งให้ใช้ตัวบน
รูกลางใช้สำหรับการถ่ายทั่วไป ทุกโหมดถ่ายได้หมดยกเว้นขาวดำ ถ้าปิดไว้คือถ่ายได้แต่ขาวดำครับ
รูล่างสุดคือโมโนโครมหรือขาวดำครับ ใช้ในเรื่องเดียวเท่านั้น
มีข้อสังเกตุว่าโหมดหน้าชัดหลังเบลอใช้กล้องกลางเท่านั้น และยังสามารถถ่ายได้แม้เอาเทปปิดรูบนและรูล่าง เลยคิดว่าหน้าชัดหลังเบลอ จริงๆแล้วน่าจะไม่ได้ทำงานร่วมกับกล้องอีก 2 ตัวที่เหลือครับ

มาถึงการเริ่มต้นใช้งานเครื่องบ้างครับ ตอนเปิดเครื่องครั้งแรก มีแนะนำซอฟท์แวร์ให้โหลด เลือกได้ว่าจะลงอะไร ไม่ลงอะไร ประทับใจตรงมี Bigo Live แนะนำด้วย ประหนึ่งรู้จักผมเป็นการส่วนตัว ฮ่าๆๆๆ

ตอนที่ผม setup เครื่อง ไม่ได้เลือกลงแอพอะไรเลยครับ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังมีแถมมาให้อยู่ดีในส่วนของ Top Apps และ Games ครับ แต่ไม่เป็นไร เพราะสามารถลบได้ครับ

ในส่วนของเมม ตัวเครื่องให้มา 128GB สามารถใช้ได้จริง ณ ตอนเปิดเครื่องที่ 115GB ครับ บางส่วนสามารถเคลียร์เพิ่มได้อีกเช่น วีดีโอและรูปที่ติดมากับเครื่องครับ (ตอนแรกก็เหวอนะ วีดีโอไรฟะ ติดมา 375MB...นึกว่าโดนซะละ)
ในส่วนของ RAM ตัวเครื่องให้มา 6GB แต่ idle อยู่ที่ 2GB และระบบกันไว้อีก 500MB สรุปว่าเหลือใช้ได้จริงประมาณ 3.5GB ครับ
คหสต. เนื้อที่ที่เหลือค่อนข้างโอเคครับ ไม่หนักเครื่องจนเกินไป ในส่วนของ RAM ก็บริหารจัดการได้ดีครับ
ปล. S9 Plus มักจะกัน RAM ไว้ให้ระบบประมาณ 1GB ในขณะที่ P20 Pro กันไว้แค่ 500MB จึงทำให้ P20 Pro มีแรมเหลือไว้ใช้มากกว่า ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะ Kirin ใช้ resource น้อยกว่า Exynos หรือเปล่าครับ

มาดูเรื่องกล้องบ้างครับ

สีสันของ S9 Plus มีความสดมากกว่า P20 Pro ครับ แต่อย่างไรก็ตาม White Balance ยังไม่ถูกต้องซะทีเดียวครับ

อีกหนึ่งทีเด็ดของกล้อง P20 Pro คือความสามารถในการถ่ายภาพในที่มืดครับ โดยการถ่ายกลางคืนนั้นสามารถทำได้จากทั้งโหมดออโต้ และโหมดกลางคืน ซึ่งโหมดกลางคืนสามารถปรับ iso และ ความเร็วชัตเตอร์เองได้ด้วย โดยที่ตัวโทรศัพท์จะช่วยกันการสั่นให้

เลยลองเอา S9 Plus มาเปรียบเทียบด้วยการถ่ายออโต้ และโหมดโปรดูบ้าง โดยปรับชัตเตอร์สปีดไปที่ 10 วินาทีครับ

S9 Plus สามารถดึงสีออกมาได้สดกว่า (ถึงแม้จะมี White Balance เพี้ยนไปบ้าง) แต่ P20 Pro สามารถเก็บรายละเอียดท้องฟ้าและเมฆได้ดีมากๆครับ คหสต ค่อนข้างเอนเอียงความชอบไปทาง P20 Pro ทั้งโทน และอารมณ์ของภาพนะครับ ^^”


ฟังก์ชั่นสุดท้ายที่เห็นแล้วรู้สึกว่า เห้ยยยยย เจ๋งโคดดด ของ P20 Pro คือ PrivateSpace ครับ คือฟังก์ชั่นการแบ่งโปรไฟล์ของเครื่องเป็น 2 โปรไฟล์ คล้ายๆกับ Secure Folder ของทาง Samsung ครับ แต่ที่บอกว่า P20 Pro เจ๋งก็คือวิธีการเข้าโหมด PrivateSpace ครับ สามารถเข้าได้ 2 วิธีด้วยกันคือ สแกนนิ้ว โดยการเลือกนิ้วที่ไว้เข้าโหมดนี้โดยเฉพาะ หรือ เขียนแพทเทิรน์ปลดล็อค โดยเป็นแพทเทิร์นที่แยกจากการปลดล็อคปกติ!!! เห้ยยยยยย เนียนสุดๆๆๆๆ

สุดท้ายนี้ใช้งานมา ยังมีข้อสังเกตุบางอย่างที่ยังขัดใจและรู้สึกว่า ถ้าในอนาคตปรับปรุงได้จะดีมากๆครับ
1.    P20 Pro มี Always-On เหมือนของ Samsung แต่เจ้า P20 Pro สามารถแสดงได้แต่ เวลา วันที่ (นัดหมาย หากมี) และแบตเตอรี่ แต่ไม่สามารถแสดงมิสคอล ไลน์ เฟสบุ้ค และอื่นๆได้เหมือนของ Samsung ครับ ทำให้สุดท้ายแล้ว ต้องหยิบเครื่องมาเปิดดูอยู่ดี
2.    ฟังก์ชั่นการถ่ายรูปย้อนแสงหรือ HDR เป็นโหมดแยกออกมาต่างหาก ทำให้เวลาจะถ่ายต้องคิดก่อนว่าจะย้อนหรือไม่ย้อน ต้องเปลี่ยนโหมดก่อน ตั้งออโต้ไม่ได้ ในขณะที่ S9 Plus มารวมกันในโหมดออโต้เลยครับ
3.     ไม่มีพอร์ท 3.5มม ครับ ตำเกมส์ได้ไม่นาน ต้องกลับไปทำงานต่อ (-..-")
4.    การถ่ายเซลฟี่ของ P20 Pro ปรับหน้าเนียนไปหน่อย แม้จะปรับเลเวลลงมาเยอะมากๆแล้ว คหสต และ คหขม (ความเห็นของเมีย) มองว่า S9 Plus ยังถ่ายภาพเซลฟี่ได้สวยกว่า P20 Pro ครับ


ไว้ถ้ามีโอกาสจะมารีวิวด้านอื่นๆให้ฟังอีกนะครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ