คนเป็นแฟนกันแต่ทัศนคติ สังคม ความคิดต่างกัน ความรักจะยืนยาวไหม

เรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนคบกันมาสามปีกว่าแล้ว จะเข้าปีที่สี่ เรามีความสุขมากเมื่อเราอยู่ด้วยกัน ทำไรดีๆด้วยกัน แฟนเราเรียนโทอยู่ กทม ส่วนเราอยู่เชียงใหม่
เราเรียนจบมหาลัยเดียวกัน เพราะอยู่จังหวัดเดียวกัน พอเราเรียนจบ เราก้ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่เชียงใหม่เรากะแฟนเราอยู่ห่างกัน เกือบสามปีแล้วแฟนเราก้ใกล้จะจบแล้ว เราอยากให้แฟนมาอยู่ด้วยกัน ช่วยกันทำงานธุรกิจส่วนตัวด้วยกัน เพราะรายได้ก็พอไปได้ ไม่ได้ทำให้เราสองคนลำบากอะไรเลย แต่แล้ววันนี้ก้มาถึง คือแฟนเราจะเรียนจบแล้ว แฟนขอทำงานต่อที่ กทม
แฟนเราเขาเลือกหน้าที่การงานก่อนครอบครัวก่อนคนที่เขารัก เราสนับสนุนเขานะ แต่ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิง เราดูแลธุรกิจคนเดียวไม่ค่อยไหว เราวางแพลนอนาคตของเราสองคนกันไว้ว่า จะเก็บเงินซื้อบ้าน เราก็อยากให้แฟนเรากลับมาอยู่เชียงใหม่ด้วยกัน แต่แฟนเราเขาอยากทำงานที่ กทม เขาอยากมีหน้าที่การงานอยู่ที่ กทม ซึ่งที่จริงอยู่เชียงใหม่ก้ไม่ได้มีปัญหาอะไรสำหรับเราคิดว่าการที่เราอยู่ด้วยกัน อยู่ใกล้กัน มันดีมาก เวลาเราเดือดร้อน เราลำบากอย่างน้อยเราก้มีแฟนค่อยช่วยเหลือเราได้ เราบอกแฟนว่า ถ้ามีครอบครัว เราอยากอยู่ด้วยกัน ไม่อยากให้ไกลกัน ครอบครัวคือต้องอยู่ดูแลกันและกันวันที่เราเหนื่อย
แต่ในความคิดแฟนเรา แยกกันอยู่ก้ได้ อยู่ไกลกันก้ได้ นานๆเจอกันที แบบนี้ครอบครัวจะอบอุ่นไหมคะ ความสัมพันธ์จะโอเคไหม อีกอย่างสังคมแฟนเรากะสังคมเราไม่เหมือนกันเลย แฟนเราชอบเข้าสังคม ชอบเจอเพื่อนๆ กินเลี้ยงกัน เรามักจะทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยมาก แต่แฟนเราก้บอกว่าเป็นสังคมของเขา
ทุกวันนี้คุยกันเรื่องสังคม เรื่องขอให้กลับมาข่วยกันทำงานที่เขียงใหม่ เราสองคนจะต้องทะเลาะกันตลอดเลย สังคมเราต่างกัน ทัศนคติเราต่าง การใช้ชีวิตเราต่างกัน  เราต้องทำยังไงดี เราหนักใจมาก
เรารักกันมากแต่ทัศนคติในอนาคตเราไม่ตรงกันเลย