ขอคำแนะนำและปรึกษาครับ (เรื่องเพื่อน)

- สวัสดีครับผู้อ่านที่เข้ามาอ่านในกระทู้นี้ ก่อนอื่นขอบอกล่าวก่อนว่าผมเพิ่งหัดเล่นพันทิปและนี่เป็นกระทู้แรก และ อาจทำอะไรตกหล่นหรือ พิมไม่ถูก คำศัพท์หลักไวยากรณ์ หรือใช้ภาษาไม่เหมาะ ก็ขออภัยผู้อ่านทุกท่านด้วยครับ

                  ผมมีเพื่อนสนิทคนนึงในรั้วมหาวิทยาลัย เนื่องด้วยคณะที่ผมเรียนมีผู้ชายน้อยกว่าผู้หญิงทำให้ผมต้องสนิทกับเพื่อนผู้ชายที่มีน้อยนิด จากที่ผมประสบมา สังคมมหาลัยเปลี่ยนแปลงเร็วมาก กลุ่มเพื่อนที่พบกันตอนปี 1 พออยู่ปีสูงๆ กลับไม่ใช่กลุ่มเดิมที่เรารู้จัก หลายๆคนเปลี่ยนแปลงไป บางคนก็ดีกับเรา บางคนก็ห่างเราไป ผมมีเพื่อนที่สนิทกันอยู่ใหญ่ๆเลย ประมาณ 8 คนที่ไปไหนมาไหนตลอด ในแปดคนนั้นเป็นผู้ชาย 3 คนรวมทั้งผม วันเวลาผ่านไปได้ปีกว่า เพื่อนผมในกลุ่มเริ่มที่จะมีปัญหากันจากจุดยืนและเหตุผลของตัวเอง ตัวผมเองค่อนข้างโชคดีที่ไม่ค่อยมีปัญหากับใครเท่าไร เนื่องด้วยเพราะผมมักเป็นคนชอบรับฟังคนอื่น และให้คำปรึกษาคนอื่น ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาผมจึงมักกลายเป็นคนกลางที่ต้องรับฟังปัญหาของแต่ละคน แต่เวลาตัวเองมีปัญหานี่จอดไม่ต้องแจวเลยครับ 555 การที่ผมมีจุดยืนแบบนี้ในคณะที่ผมศึกษาอยู่นั้น ทำให้คนอื่นอาจมองว่าผมเป็นนกสองหัว หรือ 3  4 5 หัวเลยก็ได้ และด้วยความที่มีคนมาปรับทุกข์ให้ฟังบ่อยๆ เลยกลายเป็นรู้เรื่องชาวบ้านเขาไปทั่ว ซึ่งเพื่อนในกลุ่มที่มีปัญหากันนั้น ก็มี แลัปัญหานั้น หลายครั้งที่ไม่ได้แก้กันด้วยการพูดคุย ทำให้มันพันกันมั่ว กลายเป็นคบกันไปเพราะคำว่าเพื่อน แต่ลึกๆก็ไม่ได้สนิทใจมาก มีนินทาด้วย นี่เป็นในส่วนของสมาชิกผู้หญิง
                     ในส่วนของผมที่เป็นผู้ชาย กับเพื่อนชาย อีก 2คนในคณะ เพื่อนผม 2 คนนี้ก็มีปัญหากัน แต่ก็คุยกันได้บ้างถ้ามีงานหรือพบเจอแต่ไม่ได้สนิทกันและ ไม่ได้ทะเลาะกันถึงขั้นแตกหัก ตัวผมเองก็เป็นคนกลางที่ต้องคอยคุยกับทั้ง 2 คน ขอเรียกเป็น นาย ก. และนาย ข. นะครับ นาย ก. ผมสนิทกับเขาค่อนข้างมากเนื่องด้วยนิสัยของนาย ก. เป็นคนที่ค่อนข้างห่วงเพื่อน เอาการเอางาน แต่อาจจะมีคิดเล็กคิดน้อยชอบคิดมากไปบ้าง นาย ข. เป็นคนที่ไม่ค่อยห่วงคนอื่นมากเท่ากับนาย ก. คือจะไม่ถึงกับคิดมาก ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนที่ผมค่อนข้างสนิทมาก สำหรับตัวผมเอง ด้วยความที่นาย ก. เป็นคนชอบเที่ยวและมักชวนผมไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ  แต่ไม่ค่อยได้ชวนนาย ข. เพราะความไม่สนิท ทำให้ผมมักจะไปเที่ยวกับนาย ก. อยู่บ่อยครั้ง จะมีไปเที่ยวกับนาย ข. บ้างแต่ไม่บ่อยเท่านาย ก. ที่ไปเที่ยวบ่อยจนบางครั้งมีคนแซวว่าเป็นคู่เกย์ แต่จริงๆผมเป็นแค่เพื่อน สำหรับนาย ข. ผมไปเที่ยวนานๆที ซึ่งมักจะไปเดี่ยวๆกัน ตัวผมเองถือคติที่ว่า เพื่อนนั้น ใครชวนก่อนไปก่อน และไม่เกี่ยงที่จะไปซำ้ ถ้าเกิดคนแรกชวนผมไปที่นึง แล้วนาย ข. ชวนผมไปที่ๆซำ้กับที่ไปกับนาย ก. ซึ่งนาย ข. ก็ไม่รู้ว่าผมเคยมาเที่ยวกับนาย ก. ซึ่งในระยะหลังๆนั้น นาย ก. และนาย ข. จากที่เคยมีปัญหากัน ความสนิทก็ลดลงและค่อยๆห่างกันตามชั้นปีที่สูงขึ้น ทำให้ผมเป็นเหมือนตัว Y ที่ปลายทั้ง 2 คือเพื่อนทั้ง2คน โดยมีผมเป็นคนกลาง ที่สนิทกับทั้ง 2 คนแต่ไม่สามารถทำให้ทั้ง  2 คนสนิทกันได้ จนมาวันนึงที่ผมได้ไปเที่ยวเล่นกับนาย ก. หลังจากนั้นด้วยความที่รุ้สึกเหนื่อยตอนก่อนจะแยกย้ายก็เลยบอกไปว่า หยุดยาวนี้ว่าจะพักผ่อนซะหน่อย  (เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมาที่มีหยุดยาว)  และพอ2วันต่อมา นาย ข. ก็มาชวนผมไปเที่ยวบ้าง แต่นาย ก. มารู้จากเพื่อนของนาย ข. อีกทีว่าผมไปเที่ยวกับนาย ก. (เข้าใจว่าเพื่อนคงคุยกันแล้วไปเห็นในคอมเม้นที่คุยเล่นกันของผม) ทำให้นาย ก. ไม่พอใจว่า ตัวเขานั้นไม่ได้ถูกกับนาย ข. เท่าไรนักทำไมถึงไปสนิทกับนาย ข. เรื่องราวก็กลายเป็นใหญ่โตมากขึ้นจนผมกับนาย ก. ทะเลาะกัน มุมนึงอาจะเป็นความผิดของผมเอง(จขกท.) ที่เลือกจับปลา 2 มือ รักษาเพื่อนไว้ทั้งคู่แต่เพื่อนทั้งคู่ดันไม่ถูกกัน  แต่วิธีการของเราไม่ได้ถูกใจคนอื่นเท่าไรนัก ถ้ามองในมุมความรักก็คงแบบ ผมเป็นผู้ชาย มีเมียน้อย และเมียหลวงที่ต้องเทคแคร์ทั้งคู่ แต่บอกอีกคนไม่ได้ว่าเราห่วงคนนี้นะ แต่จะพยายามทำดีกับทั้ง 2 คนให้เท่าๆกัน มากบ้างน้อยบ้างตามโอกาส ผมค่อนข้างแคร์เพื่อนมาก แต่ติดนิสัยเสียตรงที่ ไม่ค่อยพูด และไม่ค่อยกล้าปฏิเสธคน และเวลาใครชวนไปเที่ยวนั้น ใครจะดีหรือเคยทำไม่ดีกับผม ผมก็ไปเพราะคิดว่าเออ เพื่อนชวนผมนนะ เลยมองจากภายนอกกลายเป็น ใครชวนไปไหนก็ไป
                  -  เลยขอความเห็นว่าผมควรทำไงดีครับ ตอนนี้มืดมากเลย เพราะตอนนี้ด้วยความที่ต่างฝ่ายต่างร้อนผมเองเคยจะหักกับนาย ก. เพราะด้วยความคิดผม คือ ใครเป็นเพื่อนก็จะพยายามรักษาไว้ให้มากที่สุด จะไม่เอียนเอง ไปใครแน่ แต่เขากลับมองว่าผมให้เวลากับอีกคนนึงมากกว่า

หมายเหตุ ผมและเพื่อนนั้นค่อนข้างจะสนิทกัน เลยอยากขอคำแนะนำจากเพื่อนๆพี่ๆน้องที่เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆผมว่ามีทางออกแบบไหน ไม่อยากจะตัดเพื่อนหรือมองว่าแค่เพื่อนในรั้วมหาลัยเอาไรมาก เนื่องจาก จขกท. เป็นคนค่อนข้างมีเพื่อนน้อย และสองคนนี้ จขกท. ค่อนข้างที่จะให้เกียรติ คือ ไม่นินทาเพื่อน ไม่ลับหลัง จริงใจมาก แค่เวลา ปฏิบัตกับ 2 คนนี้นั้น จขกท ต้องทำคนละคน สลับกัน เนื่องจากเป็นคนกลาง เหมือน นัดเจอเมียน้อย เมียหลวงห้ามรู้ อะไรแบบนี้อะครับ แต่จะไม่เอาเรื่องของอีกคนไปเล่าให้อีกคนฟังเด็ดขาด

ปล. รุ้สึกเหนื่อยมากเลยครับ แล้วก็ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่