Porsche 911 GT3 RS ใหม่ ตัวแรงไร้ระบบอัดอากาศ กดเวลาต่ำกว่า 7 นาที ที่ The Green Hell "Nürburgring-Nordschleife"

กระทู้ข่าว
สำหรับเพื่อนๆ คอมอเตอร์สปอร์ต ต่างรู้กันดีว่า สนามแข่งรถที่ขับยากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก นั้นอยู่ที่ เยอรมันนี กับสนามที่มีสมญาว่า The Green Hell
"Nürburgring-Nordschleife" ที่เป็น Track ที่มีระยะทางยาวกว่า 20.6 กม. และเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยว บนพื้นผิว Track ที่แคบ และขรุขระ
สนามนี้มีทุกรูปแบบความยาก  จึงทำให้บรรดานักแข่งและค่ายรถต่างๆ หลายคน หลายค่าย พยายามที่จะมาจารึกเวลาอันยอดเยี่ยมบนสนามแห่งนี้


ล่าสุดเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา Porsche 911 GT3 RS สปอร์ตจากสายการผลิตปกติ ได้ทำสถิติใหม่ ในการวิ่งทดสอบบนสนามระดับตำนาน Nürburgring-Nordschleife ประเทศเยอรมนี
โดยนักขับ Kévin Estre นักแข่งสังกัดทีมโรงงานปอร์เช่ สามารถพิชิต 1 รอบสนามได้ภายในระยะเวลาเพียง 6:56.4 นาที


ด้วยพละกำลังกว่า 520 แรงม้าของ GT3 RS ใหม่ นักขับสายเลือดฝรั่งเศสผู้นี้ ทำเวลาได้รวดเร็วกว่าสถิติเดิม บน GT3 RS รุ่นก่อนหน้าถึง 24 วินาที
ซึ่ง GT3 RS รุ่นล่าสุดนี้ นับเป็นรถสปอร์ตจากสายการผลิตปกติลำดับที่ 3 ของ Porsche ต่อจาก Porsche 918 Spyder และ Porsche 911 GT2 RS ที่สามารถทำเวลา ต่อรอบได้ต่ำกว่า 7 นาที บนสนามแข่งระดับตำนานอันเป็นเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าบรรดาสาวกผู้บูชาความแรง สุดหฤโหดนามว่า ‘Green Hell’ แห่งนี้


Estre นักแข่งวัย 29 ปี ลงทำการขับขี่ในรอบแรกเมื่อเวลา 11:40 น. ที่อุณหภูมิอากาศ 14 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิพื้นผิวสนาม 18 องศาเซลเซียส
นอกจากนี้การวิ่งในสนาม Nürburgring ครั้งนี้ Porsche 911 GT3 RS ได้ติดตั้งยาง Michelin Pilot Sport รุ่นล่าสุด ซึ่งยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 R ได้รับการอนุญาตให้วางจำหน่ายเฉพาะ ในภูมิภาคยุโรปผ่านตัวแทนจำหน่าย หรือศูนย์บริการยางรถยนต์ ที่ได้รับการคัดเลือกเท่านั้น รวมทั้งเป็นยางรถยนต์ที่แนะนำให้ใช้งานกับปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911 GT3 RS) และ ปอร์เช่ 911 จีที2 อาร์เอส (Porsche 911 GT2 RS)


สำหรับ Porsche 911 GT3 RS ถือกำเนิดขึ้นด้วยพื้นฐานของโครงสร้างตัวถังที่ใช้ในรถแข่งความเร็วสูง ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ขนาดความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 520 แรงม้า (383 กิโลวัตต์) เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ Geneva Motor Show เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.2 วินาที ทำความเร็วสูงสุดกว่า 312 กม./ชม.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่