ใครยังไม่ได้อ่าน Part 1 ไปอ่านได้ที่
https://pantip.com/topic/37589638
13.4.61
Jade Dragon Snow Mountain
…วันนี้เราจะไปพิชิตภูเขาหิมะมังกรกัน โดยเรานัดกับทัวร์ไว้ตอน 7 โมงเช้า เปิด Wechat ดูแผนที่ที่ไกด์ส่งมาให้ 2 กิโลกว่าจากที่พัก แล้วไปเปิด chat ของเจ๊ที่ติดต่อทัวร์แกส่งข้อความเสียงมาว่า “Don't to be late please” ตอนนั้นเวลาประมาณ 6.40 กับระยะทาง 2 กิโลกว่า อิ๊บอ๋ายแล้ววว นาทีนั้นเราวิ่งจนลืมไปเลยว่าอยู่บนความสูง 2000 กว่าเมตร 555 สายไป 5 นาที มาถึงคนขึ้นรถกันครบบบบ ขอโทษทุกคนด้วยค้าบบบบ TT
ระหว่างทางไกด์ก็จะแนะนำเกี่ยวกับทัวร์(ภาษาจีนล้วนๆ) เราก็นั่งมึนไปเรื่อย นั่งรถมาสักพักก็จะมาถึงจุดแรกที่เขาจะจอดให้เราถ่ายรูป โชคดีของเราที่เจอคนไทย 2 คน และเจอวัยรุ่นสาวจีนที่พูดอังกฤษได้ เขาก็เหมือนคอยเป็นล่ามให้พวกเราตลอดทริปนี้ น่ารักมากๆ
ตรงนี้ก็จะมีหินก้อนใหญ่สลักความสูง 3100 เมตรให้ถ่ายรูป กับวิวด้านหลังเป็นภูเขาหิมะ สวยมากกกกกกกกก
ไปกันต่อ รถตู้พาเรามาส่งที่ Blue Moon Valley ซึ่งจะมีรถกอล์ฟบริการแวะชมตามจุดต่างๆต้องซื้อตั๋ว ราคา 50 หยวน แต่เขาไม่ได้บังคับนะ ถ้าไม่ซื้อก็เดินชมได้ แต่เราแนะนำให้ซื้อดีกว่า เพราะมันก็ไกลกันพอสมควร แล้ววิวมันคุ้มมากจริงๆ
ได้ตั๋วแล้วก็ไปกันเลยยย
ไปชมจุดแรกกันก่อน น้ำใสมากกกกกกกกก อยากโดดลงไปจริงๆ
แค่จุดแรกก็ไม่อยากไปต่อละ อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ สวยมากจริงๆ
ขึ้นรถกอล์ฟไปกันต่อ..
จุดที่สอง สวยไม่แพ้จุดแรก
และจุดสุดท้าย จุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปให้เราด้วยนะ แล้วจะให้พวงกุญแจมา ไปรับรูปได้ที่ทางออก รูปเล็กใส่พวงกุญแจให้ฟรี แต่ถ้าจะเอารูปใหญ่ต้องเสียเงินเพิ่ม
จากนั้นเราก็กลับไปขึ้นรถบัส ไปกินมื้อเที่ยงกัน ฟรี รวมอยู่ในทัวร์แล้ว ลืมบอกไปว่าทัวร์ในราคา 450 หยวนรวมอะไรบ้าง ก็จะมีรถรับส่ง เสื้อกันหนาวสีแดงตัวใหญ่ๆที่เห็นนั่นแหละ อ็อกซิเจนกระป๋อง อาหารเที่ยง ค่า cable car ขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยก ประมาณนี้
และนี่คือมื้อกลางวันของเรา ฮอทพอทอีกแล้ว และมีข้าวด้วย ได้กินข้าวมื้อแรกตั้งแต่มาจีน น้ำตาจิไหล..
กินอิ่มแล้วก็ง่วง เอ้ยย เดี๋ยวๆ ไปลุยภูเขาหิมะมังกรหยกกันนน
พอมาถึงจุดจอดรถ ไกด์ก็นัดเวลากลับและสถานที่ที่มาเจอกัน แจกเสื้อกันหนาวและสาธิตการใช้อ็อกซิเจนกระป๋อง ซึ่งเรามีประสบการณ์จากแชงกรีล่ามาแล้ว สบายยยย
พร้อมแล้ว ...ไปกันเลย
คนเยอะมากๆ ถามว่าแถวอยู่ไหน บอกเลยว่า ไม่มี 555
เมื่อผ่านจุดตรวจตั๋วแล้ว เราก็ต้องเดินไปขึ้นรถ Shuttle Bus ของทางอุทยานกันต่อ
เมื่อลงรถแล้วก็มาต่อแถวรอขึ้นกระเช้ากันเลยยย
ขึ้นกระเช้ามาแล้วววว กระเช้าที่นี่เร็วกว่าที่แชงกรีล่า และต่อเดียวถึงยอดเลย
เริ่มเห็นภูเขาหิมะแล้ววว
ในที่สุดเราก็ขึ้นมาถึง โอ้โห... คนอย่างเยอะ 555
..ภูเขาหิมะมังกรหยก เป็นที่รู้จักบอกต่อเล่าขานมาตั้งแต่คนโบราณแล้ว ว่าเป็นที่รู้จักกันในนามของ ภูเขาหิมะเทพเจ้ามังกรหยก (The Holy Dragon Snow Mountain) มาตั้งแต่ต้นราชวงศ์ถัง
เดี๋ยวเราจะขึ้นด้านบนกันนน
เดินมาครึ่งทาง เหนื่อยเอาเรื่อง 555
ใกล้แล้ว...
สถานที่ท่องเที่ยวระดับ AAAAA
ในที่สุดเราก็เดินขึ้นมาถึงจุดที่สูงที่สุดของภูเขาหิมะมังกรหยกที่ระดับความสูง 4680 เมตรจากระดับน้ำทะเล
สวยมากๆ แต่คนก็มากเช่นกัน
ถ่ายรูปกันอยู่นาน ก็ได้เวลากลับกันแล้ว ขากลับก็เหมือนเดิมลงจากกระเช้าก็นั่งรถ Shuttle Bus มาที่เดิม และก็ขึ้นรถตู้ของทัวร์กลับมาส่งที่จุดเดิมที่ขึ้นเมื่อเช้า เราก็กลับที่พักไปพักซักแปป เย็นๆเราก็ออกมาเดินเล่นตระเวนกินสตรีทฟู้ดในเมืองเก่ากัน..
..เดินมาเจอร้านนี้ กลิ่นหอมชวนหิวมากกก
จะเป็นเต้าหู้ปรุงด้วยพริกหม่าล่าอีกเช่นเคย
เราก็จัดมาเลยหนึ่งถ้วย รสชาดอร่อยเลยนะ แต่กินมากๆก็เลี่ยนอะ 555
มาต่อกันที่ร้านนี้ ร้านเดียวกันกับปลาหมึกเมื่อวานนั่นแหละ เขามีหลายเมนู รอบนี้ลองสั่งไก่ทอดใส่พริกหม่าล่าบ้าง
ไก่กรอบๆ มีรสเผ็ดนิดๆ อร่อยมาก
ร้านต่อมา เฟร้นฟราย เหมือนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา
เห็นคนกินกันเยอะก็เลยลองชิมดูบ้าง คือไม่ต้องกินข้าวกันละ
ร้านนี้ว่าจะไม่แวะ แต่ต้องแวะก็เพราะยอมความทุ่มทุนของคนขายจริงๆ พี่แกทั้งตะโกนร้องเพลง ตีระฆังเรียกลูกค้า ท่าทางมาเต็มจริงๆ 555
อุดหนุนนมจามรีมา 1 ขวด รสชาดก็คล้ายนมรสจืดบ้านเราแหละ
หลังจากที่ตระเวนกินกันจนอิ่มก็เดินกลับที่พัก โบกมือลาลี่เจียง สมกับเป็นเมืองมรดกโลก..
พรุ่งนี้เราก็ต้องเดินทางกลับคุนหมิงแล้ว โดยพรุ่งนี้ไฟลท์ของเรา 8 โมง เราได้ให้ที่พักติดต่อแท็กซี่ให้มารับตอน 6 โมงเช้าเพื่อไปส่งสนามบินในราคา 100 หยวน เจอกันที่คุนหมิง...
[CR] แบกเป้ไปตะลุยภูเขาหิมะที่จีน...คุนหมิง แชงกรีล่า ลี่เจียง 5 วัน 4 คืน [Part 2]
ใครยังไม่ได้อ่าน Part 1 ไปอ่านได้ที่
https://pantip.com/topic/37589638
13.4.61
Jade Dragon Snow Mountain
…วันนี้เราจะไปพิชิตภูเขาหิมะมังกรกัน โดยเรานัดกับทัวร์ไว้ตอน 7 โมงเช้า เปิด Wechat ดูแผนที่ที่ไกด์ส่งมาให้ 2 กิโลกว่าจากที่พัก แล้วไปเปิด chat ของเจ๊ที่ติดต่อทัวร์แกส่งข้อความเสียงมาว่า “Don't to be late please” ตอนนั้นเวลาประมาณ 6.40 กับระยะทาง 2 กิโลกว่า อิ๊บอ๋ายแล้ววว นาทีนั้นเราวิ่งจนลืมไปเลยว่าอยู่บนความสูง 2000 กว่าเมตร 555 สายไป 5 นาที มาถึงคนขึ้นรถกันครบบบบ ขอโทษทุกคนด้วยค้าบบบบ TT
ระหว่างทางไกด์ก็จะแนะนำเกี่ยวกับทัวร์(ภาษาจีนล้วนๆ) เราก็นั่งมึนไปเรื่อย นั่งรถมาสักพักก็จะมาถึงจุดแรกที่เขาจะจอดให้เราถ่ายรูป โชคดีของเราที่เจอคนไทย 2 คน และเจอวัยรุ่นสาวจีนที่พูดอังกฤษได้ เขาก็เหมือนคอยเป็นล่ามให้พวกเราตลอดทริปนี้ น่ารักมากๆ
ตรงนี้ก็จะมีหินก้อนใหญ่สลักความสูง 3100 เมตรให้ถ่ายรูป กับวิวด้านหลังเป็นภูเขาหิมะ สวยมากกกกกกกกก
ไปกันต่อ รถตู้พาเรามาส่งที่ Blue Moon Valley ซึ่งจะมีรถกอล์ฟบริการแวะชมตามจุดต่างๆต้องซื้อตั๋ว ราคา 50 หยวน แต่เขาไม่ได้บังคับนะ ถ้าไม่ซื้อก็เดินชมได้ แต่เราแนะนำให้ซื้อดีกว่า เพราะมันก็ไกลกันพอสมควร แล้ววิวมันคุ้มมากจริงๆ
ได้ตั๋วแล้วก็ไปกันเลยยย
ไปชมจุดแรกกันก่อน น้ำใสมากกกกกกกกก อยากโดดลงไปจริงๆ
แค่จุดแรกก็ไม่อยากไปต่อละ อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ สวยมากจริงๆ
ขึ้นรถกอล์ฟไปกันต่อ..
จุดที่สอง สวยไม่แพ้จุดแรก
และจุดสุดท้าย จุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปให้เราด้วยนะ แล้วจะให้พวงกุญแจมา ไปรับรูปได้ที่ทางออก รูปเล็กใส่พวงกุญแจให้ฟรี แต่ถ้าจะเอารูปใหญ่ต้องเสียเงินเพิ่ม
จากนั้นเราก็กลับไปขึ้นรถบัส ไปกินมื้อเที่ยงกัน ฟรี รวมอยู่ในทัวร์แล้ว ลืมบอกไปว่าทัวร์ในราคา 450 หยวนรวมอะไรบ้าง ก็จะมีรถรับส่ง เสื้อกันหนาวสีแดงตัวใหญ่ๆที่เห็นนั่นแหละ อ็อกซิเจนกระป๋อง อาหารเที่ยง ค่า cable car ขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยก ประมาณนี้
และนี่คือมื้อกลางวันของเรา ฮอทพอทอีกแล้ว และมีข้าวด้วย ได้กินข้าวมื้อแรกตั้งแต่มาจีน น้ำตาจิไหล..
กินอิ่มแล้วก็ง่วง เอ้ยย เดี๋ยวๆ ไปลุยภูเขาหิมะมังกรหยกกันนน
พอมาถึงจุดจอดรถ ไกด์ก็นัดเวลากลับและสถานที่ที่มาเจอกัน แจกเสื้อกันหนาวและสาธิตการใช้อ็อกซิเจนกระป๋อง ซึ่งเรามีประสบการณ์จากแชงกรีล่ามาแล้ว สบายยยย
พร้อมแล้ว ...ไปกันเลย
คนเยอะมากๆ ถามว่าแถวอยู่ไหน บอกเลยว่า ไม่มี 555
เมื่อผ่านจุดตรวจตั๋วแล้ว เราก็ต้องเดินไปขึ้นรถ Shuttle Bus ของทางอุทยานกันต่อ
เมื่อลงรถแล้วก็มาต่อแถวรอขึ้นกระเช้ากันเลยยย
ขึ้นกระเช้ามาแล้วววว กระเช้าที่นี่เร็วกว่าที่แชงกรีล่า และต่อเดียวถึงยอดเลย
เริ่มเห็นภูเขาหิมะแล้ววว
ในที่สุดเราก็ขึ้นมาถึง โอ้โห... คนอย่างเยอะ 555
..ภูเขาหิมะมังกรหยก เป็นที่รู้จักบอกต่อเล่าขานมาตั้งแต่คนโบราณแล้ว ว่าเป็นที่รู้จักกันในนามของ ภูเขาหิมะเทพเจ้ามังกรหยก (The Holy Dragon Snow Mountain) มาตั้งแต่ต้นราชวงศ์ถัง
เดี๋ยวเราจะขึ้นด้านบนกันนน
เดินมาครึ่งทาง เหนื่อยเอาเรื่อง 555
ใกล้แล้ว...
สถานที่ท่องเที่ยวระดับ AAAAA
ในที่สุดเราก็เดินขึ้นมาถึงจุดที่สูงที่สุดของภูเขาหิมะมังกรหยกที่ระดับความสูง 4680 เมตรจากระดับน้ำทะเล
สวยมากๆ แต่คนก็มากเช่นกัน
ถ่ายรูปกันอยู่นาน ก็ได้เวลากลับกันแล้ว ขากลับก็เหมือนเดิมลงจากกระเช้าก็นั่งรถ Shuttle Bus มาที่เดิม และก็ขึ้นรถตู้ของทัวร์กลับมาส่งที่จุดเดิมที่ขึ้นเมื่อเช้า เราก็กลับที่พักไปพักซักแปป เย็นๆเราก็ออกมาเดินเล่นตระเวนกินสตรีทฟู้ดในเมืองเก่ากัน..
..เดินมาเจอร้านนี้ กลิ่นหอมชวนหิวมากกก
จะเป็นเต้าหู้ปรุงด้วยพริกหม่าล่าอีกเช่นเคย
เราก็จัดมาเลยหนึ่งถ้วย รสชาดอร่อยเลยนะ แต่กินมากๆก็เลี่ยนอะ 555
มาต่อกันที่ร้านนี้ ร้านเดียวกันกับปลาหมึกเมื่อวานนั่นแหละ เขามีหลายเมนู รอบนี้ลองสั่งไก่ทอดใส่พริกหม่าล่าบ้าง
ไก่กรอบๆ มีรสเผ็ดนิดๆ อร่อยมาก
ร้านต่อมา เฟร้นฟราย เหมือนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา
เห็นคนกินกันเยอะก็เลยลองชิมดูบ้าง คือไม่ต้องกินข้าวกันละ
ร้านนี้ว่าจะไม่แวะ แต่ต้องแวะก็เพราะยอมความทุ่มทุนของคนขายจริงๆ พี่แกทั้งตะโกนร้องเพลง ตีระฆังเรียกลูกค้า ท่าทางมาเต็มจริงๆ 555
อุดหนุนนมจามรีมา 1 ขวด รสชาดก็คล้ายนมรสจืดบ้านเราแหละ
หลังจากที่ตระเวนกินกันจนอิ่มก็เดินกลับที่พัก โบกมือลาลี่เจียง สมกับเป็นเมืองมรดกโลก..
พรุ่งนี้เราก็ต้องเดินทางกลับคุนหมิงแล้ว โดยพรุ่งนี้ไฟลท์ของเรา 8 โมง เราได้ให้ที่พักติดต่อแท็กซี่ให้มารับตอน 6 โมงเช้าเพื่อไปส่งสนามบินในราคา 100 หยวน เจอกันที่คุนหมิง...