เรื่องมีอยุ่ว่า
ผมอายุ 28 ปี ตอนนี้น่ะครับ งานที่ผมทำอยู่ปัจจุบันเป็นงานราชการ หรือป่าวไม่แน่ใจ อยุ่ในสังกัดของ กทม.เลยครับ ผมทำงานมา 5 ปีแล้ว ปัจจุบันยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่งอะไรเลย เป็นลูกจ้างชั่วคราวมา แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่คิดจะก้าวหน้าในการงานน่ะครับ ผมก็มีสมัครสอบ เลื่อนตำแหน่งในสายงานที่เกี่ยวข้องบ้าง แต่ทุกครั้งไม่ติด เพราะสู้..... เค้าไม่ได้ ที่บ้านผมก็ทำงานที่นี้กันทั้งบ้านครับ พ่อ บรรจุเรียบรร้อยแล้ว แต่แม่ผมเหมือนผมเลย ทำมานานมาก 10 ปีแล้วยังเป้นลูกจ้างชั่วคราวเหมือนผม ผมเลยมีความคิดว่า อยากหางานโรงงานทำดีกว่าเพราะก่อนมาทำที่นี้ผมก้อทำงานโรงงานมาก่อน มีบรรจุ มีโบนัส ปรับฐานเงินเดือนทุกปี มันคุ้มกับการทำงานอ่ะครับ ผมจึงเริ่มปรึกษาน้อง ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผม พอดีน้องผมคนนี้ไปสมัครงานโรงงานนี่พอดี แล้วชวนผมไปทำเพราะเงินดี โอเยอะ ผมเลยสนใจ คุยไปคุยมาไม่รุ้ไปคุยกันท่าไหนเรื่องถึงหูแม่ผม แม่ผมก็กอ้ทำท่าทีไม่พอใจ แล้วพูดเชิงเคืองๆว่า " ถ้าออกจากงานนี่จะไล่มันไปอยู่ที่อื่น ไอ้A (นามสมมุติ) ก็ออกไปคนล่ะ A นี้ คือน้องสาวผมจริงๆ ทำงานที่เดียวกับผมนี้แหละ จนมีแฟน แฟนมันเห็นและสงสารเพราะงานหนัก ตากแดด และกำลังมีเจ้าตัวน้อย เลยขอให้น้องผมลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว เปิดร้านขายชา ทั่วไป กำไรดีครับ ผมคุยกับน้องผมตลอด เป็นเรื่องปกติบางวันขายดี บางวันก็ไม่ได้บ้าง ต้องรุ้จักบริหารเงินดีๆ
น้องผมเลยตัดสินใจลาออกโดยปรึกษาพ่อ พ่อผมก็โอเครไม่ว่าอะไร เพราะ พ่อก็เห็นตรงกับผมว่า ถ้ามีงานดีๆก็ไปทำเถอะไม่ต้องมาทนอยู่หรอก เพราะโอกาสเจริญก้าวหน้า ก็พอๆรู้กันอยุ่น่ะครับว่า มันไม่ใช่ระบบเอกชนที่ ทำสามเดือนผ่านแล้วบรรจุ แบบนั้นไม่ใช่เลยครับ
แรกๆ แม่ผมพอรู้เรื่อง ว่า A ลาออก เคืองอยู่พักใหญ่ครับ บ่นทุกวันว่าจะออกทำไม แต่ผมกับAก็คิดไม่ต่างกันหรอกครับ ว่าความเป็นจริงมันเป็นยังงัย
แต่ทุกวันนี้ก็คุยกันปกติล่ะ พอถึงที่ผม แกก็อารมณ์ขึ้นทันที ผมก็อยกทำงานหาเงินเยอะๆ อยากมีโน้นมีนี้ เป็นของตัวเองบ้าง แต่ก็เข้าใจแหละครับ แกคงคิดว่างานที่ผมทำทุกวันนี้มัน มั่นคง สวัสดิการ(ถ้าบรรจุ)แล้วจะดี ผมเลยย้อนมามองทุกวันนี้ ผมทำมา5ปีแล้วยังไม่มีไรดีเลย ผมไม่ได้ค้านทุกอย่างที่แม่คิดน่ะครับ แต่ทำงานไปก็ไม่มีสวัสดิการอะไรเลย นอกจากประกันสังคม เงินเดือนน้อย ตากแดด ตากฝน อันนี้ทนได้ครับ เพราะถ้าทนไม่ได่ออกตั้งแต่วันแรกแล้ว ผมก็พูดคุยกับแม่หลายรอบแล้ว แบบดีๆ ใจเย็นๆ แกก็จะมีอาการ อารมณ์เสีย หงุดหงิดขึ้นมาทันที ไล่ผมจะไปทำที่ไหนก็ๆไป พูดประชดประชัน สารพัด ผมเลยทนทำอ่ะครับเพราะแกคงมีแผนในอนาคตของผมไว้แล้ว อีกอย่างไม่อยากทะเลาะกับแก
แต่ระยะหลังๆนี้ผมคิดจะออกจากกงานนี้เพราเหตุผลที่ผมบอกไปข้างต้นแหละครับ อีกอย่างก็ คนเห็นแก่ตัวก็เยอะ คนทำๆไป คนไม่ทำก็ไม่ทำจริงๆ คนทำงานดีก็ไม่ได้โตในหน้าที่การงาน ต่างกับพวกเลียแข้งเลียขา ตำแหน่งขึ้น เงินเดือนปรับ แล้วผมรู้สึกอึดอัดน่ะ ทำกับพ่อแม่ เหมือนต้องอยู่ในสายตาเค้าตลอด แต่ไม่ใช่ไม่ดีครับ ส่วนดีก็มี แต่บางทีเราก็อากส่วนตัวบ้าง ผมวุฒิน้อยน้อยด้วยแหละแค่ ม 3 ว่าจะไปลงเรียนเสริมเผื่ออนาคตมีงารการดีๆหรือโอกาสปรับตำแหน่งมีจะได้ขยับขยาย บางอย่างในงานผมก็ไม่ถนัด คนทีทำงานก็ญาติมั้ง เพื้อนพ่อแม่มั้ง ไม่ต้องห่วงเรื่องนินทาครับไว ยังกะจรวด สู้ผมไปทำงานที่ๆไม่รุ้จักใครเลยดีกว่า อันนนี้ตวามเห็นส่วนตัวน่ะ ผมยิ่งเป็นคนคิดมากด้วยเรื่องนิดเรื่องหน่อยเก็บมาคิดหมด อยากจะออกเป็นพนักงานเซเว่นยังดีกว่า ถึงงานหนัก วุ่นวาย แต่ผมก็เคยทำงานร้านอาหาร ทำตั้งแต่พนักงานต้อนรับ ยันล้างท่อระบายน้ำทิ้ง ผมว่าผมทำได้น่ะ แต่ถ้าออกไปผมว่าเกิดประเด็นแน่นอน ทำงานทุกวันนี้คิดจะลาออกวันล่ะหลายๆหน มันไม่รู้ดิครับ มันเบื่อแบบบอกไม่ถูก งานมันไม่มีอะไรหรอกครับ ถ้าคิดจะทำไปเรื่อยๆ ผมแค่ต้องการเจริญเติบโตในหน้าที่การงานบ้าง อย่างน้อยเราเหนื่อย มันก็ต้องคุ้มกับค่าแนงหน่อย เพราะทุกวันนี้มีความสุขอย่างเดียวไม่ได้ครับ ต้องมีตังใช้ด้วย
ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับแม่หรอกครับ แต่ก็อยากระบายออกบ้าง ก็เลยมาระบายในพันทิพนี้แหละครับ อย่าว่าผมเลยน่ะครับ พี่ๆมีอะไรแนะนำได้ครับ พูดคุยได้ครับ ผมต้องการกำลังใจมากกว่าครับ ผมก็ไม่คคนนี้ดื้อรั้นหรอกครับ แต่ถ้าใครเจอสถานการณืแบบผมก็มาแชร์กันได้น่ะครับ ไม่ดาม่าน่ะครับ ผมแค่จะแชร์ความรุ้สึกเท่านั้นเอง ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน่ะครับ ขอบคุณจริงๆครับ
แชร์ประสบการณ์การทำงาน
ผมอายุ 28 ปี ตอนนี้น่ะครับ งานที่ผมทำอยู่ปัจจุบันเป็นงานราชการ หรือป่าวไม่แน่ใจ อยุ่ในสังกัดของ กทม.เลยครับ ผมทำงานมา 5 ปีแล้ว ปัจจุบันยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่งอะไรเลย เป็นลูกจ้างชั่วคราวมา แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่คิดจะก้าวหน้าในการงานน่ะครับ ผมก็มีสมัครสอบ เลื่อนตำแหน่งในสายงานที่เกี่ยวข้องบ้าง แต่ทุกครั้งไม่ติด เพราะสู้..... เค้าไม่ได้ ที่บ้านผมก็ทำงานที่นี้กันทั้งบ้านครับ พ่อ บรรจุเรียบรร้อยแล้ว แต่แม่ผมเหมือนผมเลย ทำมานานมาก 10 ปีแล้วยังเป้นลูกจ้างชั่วคราวเหมือนผม ผมเลยมีความคิดว่า อยากหางานโรงงานทำดีกว่าเพราะก่อนมาทำที่นี้ผมก้อทำงานโรงงานมาก่อน มีบรรจุ มีโบนัส ปรับฐานเงินเดือนทุกปี มันคุ้มกับการทำงานอ่ะครับ ผมจึงเริ่มปรึกษาน้อง ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผม พอดีน้องผมคนนี้ไปสมัครงานโรงงานนี่พอดี แล้วชวนผมไปทำเพราะเงินดี โอเยอะ ผมเลยสนใจ คุยไปคุยมาไม่รุ้ไปคุยกันท่าไหนเรื่องถึงหูแม่ผม แม่ผมก็กอ้ทำท่าทีไม่พอใจ แล้วพูดเชิงเคืองๆว่า " ถ้าออกจากงานนี่จะไล่มันไปอยู่ที่อื่น ไอ้A (นามสมมุติ) ก็ออกไปคนล่ะ A นี้ คือน้องสาวผมจริงๆ ทำงานที่เดียวกับผมนี้แหละ จนมีแฟน แฟนมันเห็นและสงสารเพราะงานหนัก ตากแดด และกำลังมีเจ้าตัวน้อย เลยขอให้น้องผมลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว เปิดร้านขายชา ทั่วไป กำไรดีครับ ผมคุยกับน้องผมตลอด เป็นเรื่องปกติบางวันขายดี บางวันก็ไม่ได้บ้าง ต้องรุ้จักบริหารเงินดีๆ
น้องผมเลยตัดสินใจลาออกโดยปรึกษาพ่อ พ่อผมก็โอเครไม่ว่าอะไร เพราะ พ่อก็เห็นตรงกับผมว่า ถ้ามีงานดีๆก็ไปทำเถอะไม่ต้องมาทนอยู่หรอก เพราะโอกาสเจริญก้าวหน้า ก็พอๆรู้กันอยุ่น่ะครับว่า มันไม่ใช่ระบบเอกชนที่ ทำสามเดือนผ่านแล้วบรรจุ แบบนั้นไม่ใช่เลยครับ
แรกๆ แม่ผมพอรู้เรื่อง ว่า A ลาออก เคืองอยู่พักใหญ่ครับ บ่นทุกวันว่าจะออกทำไม แต่ผมกับAก็คิดไม่ต่างกันหรอกครับ ว่าความเป็นจริงมันเป็นยังงัย
แต่ทุกวันนี้ก็คุยกันปกติล่ะ พอถึงที่ผม แกก็อารมณ์ขึ้นทันที ผมก็อยกทำงานหาเงินเยอะๆ อยากมีโน้นมีนี้ เป็นของตัวเองบ้าง แต่ก็เข้าใจแหละครับ แกคงคิดว่างานที่ผมทำทุกวันนี้มัน มั่นคง สวัสดิการ(ถ้าบรรจุ)แล้วจะดี ผมเลยย้อนมามองทุกวันนี้ ผมทำมา5ปีแล้วยังไม่มีไรดีเลย ผมไม่ได้ค้านทุกอย่างที่แม่คิดน่ะครับ แต่ทำงานไปก็ไม่มีสวัสดิการอะไรเลย นอกจากประกันสังคม เงินเดือนน้อย ตากแดด ตากฝน อันนี้ทนได้ครับ เพราะถ้าทนไม่ได่ออกตั้งแต่วันแรกแล้ว ผมก็พูดคุยกับแม่หลายรอบแล้ว แบบดีๆ ใจเย็นๆ แกก็จะมีอาการ อารมณ์เสีย หงุดหงิดขึ้นมาทันที ไล่ผมจะไปทำที่ไหนก็ๆไป พูดประชดประชัน สารพัด ผมเลยทนทำอ่ะครับเพราะแกคงมีแผนในอนาคตของผมไว้แล้ว อีกอย่างไม่อยากทะเลาะกับแก
แต่ระยะหลังๆนี้ผมคิดจะออกจากกงานนี้เพราเหตุผลที่ผมบอกไปข้างต้นแหละครับ อีกอย่างก็ คนเห็นแก่ตัวก็เยอะ คนทำๆไป คนไม่ทำก็ไม่ทำจริงๆ คนทำงานดีก็ไม่ได้โตในหน้าที่การงาน ต่างกับพวกเลียแข้งเลียขา ตำแหน่งขึ้น เงินเดือนปรับ แล้วผมรู้สึกอึดอัดน่ะ ทำกับพ่อแม่ เหมือนต้องอยู่ในสายตาเค้าตลอด แต่ไม่ใช่ไม่ดีครับ ส่วนดีก็มี แต่บางทีเราก็อากส่วนตัวบ้าง ผมวุฒิน้อยน้อยด้วยแหละแค่ ม 3 ว่าจะไปลงเรียนเสริมเผื่ออนาคตมีงารการดีๆหรือโอกาสปรับตำแหน่งมีจะได้ขยับขยาย บางอย่างในงานผมก็ไม่ถนัด คนทีทำงานก็ญาติมั้ง เพื้อนพ่อแม่มั้ง ไม่ต้องห่วงเรื่องนินทาครับไว ยังกะจรวด สู้ผมไปทำงานที่ๆไม่รุ้จักใครเลยดีกว่า อันนนี้ตวามเห็นส่วนตัวน่ะ ผมยิ่งเป็นคนคิดมากด้วยเรื่องนิดเรื่องหน่อยเก็บมาคิดหมด อยากจะออกเป็นพนักงานเซเว่นยังดีกว่า ถึงงานหนัก วุ่นวาย แต่ผมก็เคยทำงานร้านอาหาร ทำตั้งแต่พนักงานต้อนรับ ยันล้างท่อระบายน้ำทิ้ง ผมว่าผมทำได้น่ะ แต่ถ้าออกไปผมว่าเกิดประเด็นแน่นอน ทำงานทุกวันนี้คิดจะลาออกวันล่ะหลายๆหน มันไม่รู้ดิครับ มันเบื่อแบบบอกไม่ถูก งานมันไม่มีอะไรหรอกครับ ถ้าคิดจะทำไปเรื่อยๆ ผมแค่ต้องการเจริญเติบโตในหน้าที่การงานบ้าง อย่างน้อยเราเหนื่อย มันก็ต้องคุ้มกับค่าแนงหน่อย เพราะทุกวันนี้มีความสุขอย่างเดียวไม่ได้ครับ ต้องมีตังใช้ด้วย
ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับแม่หรอกครับ แต่ก็อยากระบายออกบ้าง ก็เลยมาระบายในพันทิพนี้แหละครับ อย่าว่าผมเลยน่ะครับ พี่ๆมีอะไรแนะนำได้ครับ พูดคุยได้ครับ ผมต้องการกำลังใจมากกว่าครับ ผมก็ไม่คคนนี้ดื้อรั้นหรอกครับ แต่ถ้าใครเจอสถานการณืแบบผมก็มาแชร์กันได้น่ะครับ ไม่ดาม่าน่ะครับ ผมแค่จะแชร์ความรุ้สึกเท่านั้นเอง ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน่ะครับ ขอบคุณจริงๆครับ