หากเพื่อนๆคนไหนยังไม่ได้อ่าน 2 EP ที่ผ่านมา สามารถเข้าไปอ่านได้ตาม link ด้านล่างครับ
https://pantip.com/topic/37567759 : EP1 Busan
https://pantip.com/topic/37579489 : EP2 Jinhae
เขาว่ากันว่า ถ้าเมืองคลาสสิคของญี่ปุ่นคือเกียวโต สำหรับเกาหลีคงเป็นคยองจู เพราะเป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่สมัยอาณาจักรชิลลาซึ่งเป็นอาณาจักรที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลี บ้านเราคงคุ้นชื่อเมืองนี้จากซีรีส์เกาหลีเรื่อง ซอนต๊อก ราชินี 3 แผ่นดิน ด้วยความเป็นเมืองเก่านี่เองทำให้เป็นที่สนใจของทั้งช่วเกาหลีและชาวต่างชาติ รวมถึงคนไทย ซึ่งในช่วงดอกพอตกดนี้ คยองจูมีชื่อเสียงในความสวยงาน และยังเป็นที่จัดงานวิ่งมาราธอนประจำปีในช่วงนี้ด้วยครับ
ข้อแนะนำในการเที่ยวคยองจู
1. การเดินทางใช้รถบัส การเดิน หรือปั่นจักรยาน เป็นหลัก พื้นที่ค่อนข้างกว้างใหญ่มาก หากใครอยากมาศึกษาประวัติศาสตร์เชิงลึก เที่ยววันเดียวไม่หมดแน่ๆครับ
2. วันอากาศดี แดดจะแรง จะร้อนมาก เตรียมร่ม ทาครีมกันแดดให้พร้อมครับ
#Bomunho Lake
การเดินทาง : จากป้ายรถเมล์ตรงข้าม Gyeongju bus terminal นั่งรถบัสสาย 10 ลงป้าย Bomunho lake
ค่าเข้าชม : ฟรี
Level : 4
หลังจากนั่งรถออกมาจาก Gyeongju bus terminal รถก็ค่อยๆเคลื่อนตัวผ่านส่วนชนบทของเมือง ซึ่งจะเห็นทุ่งนากว้างสุดลูกหูลูกตา ตลอดทางจะมีดอกพอตกดขึ้นทำให้ดูสดชื่นมาก การเดินทางไป Bomunho Lake นี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาที อยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปประมาณ 10 km ครับ ด้วยความที่มันกว้างมาก ทำให้ผมงงว่าจะลงตรงไหนดี เลยเดามั่วๆตามจุดที่คนลงเยอะที่สุด ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสวนสนุกครับ ต้องเดินย้อนกลับมาเล็กน้อยก่อนจะถึงจุดหมายที่ต้องการ
รอบทะเลสาบนี้มีกิจกรรมต่างๆให้เลือกสนุกกระจายเป็นจุดๆ มีตั้งแต่รีสอร์ท สวนสนุก (ซึ่งเปิดให้เล่นบางส่วนแล้ว) เส้นทาง trekking จุดชมวิว จักรยานน้ำ โอ๊ย เยอะแยะไปหมดครับ มาที่ทะเลสาบนี้สามารถอยู่ได้ทั้งวันสบายๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนกันเยอะแม้ในช่วงเช้าขนาดนี้
ด้านบนเป็นทางเดินด้านหนึ่งของทะเลสาบ ซึ่งให้เฉพาะเดินเท้าเท่านั้นไม่สามารถเอารถเข้าไปได้

ที่เห็นไกลๆคือรางรถไฟเหาะซึ่งยังอยู่ในช่วงก่อสร้าง ถ้าปีหน้าใครได้มาลองไปเล่นดูนะครับ น่าจะเสียว สนุก และสวยมากๆ
เดินมาสักพัก เหงื่อเริ่มเกาะเต็มหลัง จั๊กแร้เปียกเป็นดวงๆ (5555 บอกทำไม) ผมเพิ่งจะมาถึงขอบทะเลสาบ TT ดูจากเส้นทางข้างหน้าแล้วคงใช้เวลาอีกพักใหญ่ แต่ถ้าจะเดินกลับก็ใช้เสลาเท่าๆกัน นั่นมีทางเดียวคือเดินต่อครับ ถ้าหากเพื่อนๆเหนื่อย ระหว่างทางจะมีคาเฟ่และร้านอาหารไว้บริการ สามารถแวะเข้าไปทานเพื่อเติมพลังก่อนได้

หากมีเรี่ยวแรงเหลือ ลองไปปั่นเรือเป็ดก็ได้นะครับ แต่กลางวันแบบนี้คงจะร้อนหน่อย ถ้ามีเวลาอยู่ที่นี่ทั้งวันแนะนำให้ปั่นตอนเย็นๆครับ

บรรยากาศริมทะเลสาบดีมาาาาาาาก ลมพัดมาตลอด ทำให้ความร้อนที่เข้ามาคุกคามเมื่อสักครู่หายไปอย่างปลิดทิ้ง

ความดีงามของที่แห่งนี้คือเป็นที่ที่ทัวร์ไม่ค่อยลงครับ ทำให้บรรยากาศไม่อึกทึกครึกโครมเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ผู้มาเที่ยวจะมาเป็นครอบครัว มีอาหารปิ่นโตมาปิคนิคกัน เป็นภาพที่อบอุ่นน่ารักดี อีกส่วนหนึ่งเป็นคุณตาคุณยายวัยเกษียณมาเดิน trekking กัน นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คล้ายคนญี่ปุ่นครับ คุณตาคุณยายที่นี่ดูแข็งแรงมาก เดินกันฉับๆผมนี่ตามไม่ทันเลย
หลังจากเดินมาโผล่อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบ ผมดูเวลาแล้วเห็นว่าต้องไปจุดต่อไปแล้ว ไม่งั้นคงไม่จบแน่ๆ เลยออกมารอรถบัสเพื่อไปยังจุดต่อไปครับ
[CR] Cherry Blossom Korea 2018 : เมื่อซากุระบานที่เกาหลี EP.3 : Gyeongju
หากเพื่อนๆคนไหนยังไม่ได้อ่าน 2 EP ที่ผ่านมา สามารถเข้าไปอ่านได้ตาม link ด้านล่างครับ
https://pantip.com/topic/37567759 : EP1 Busan
https://pantip.com/topic/37579489 : EP2 Jinhae
เขาว่ากันว่า ถ้าเมืองคลาสสิคของญี่ปุ่นคือเกียวโต สำหรับเกาหลีคงเป็นคยองจู เพราะเป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่สมัยอาณาจักรชิลลาซึ่งเป็นอาณาจักรที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลี บ้านเราคงคุ้นชื่อเมืองนี้จากซีรีส์เกาหลีเรื่อง ซอนต๊อก ราชินี 3 แผ่นดิน ด้วยความเป็นเมืองเก่านี่เองทำให้เป็นที่สนใจของทั้งช่วเกาหลีและชาวต่างชาติ รวมถึงคนไทย ซึ่งในช่วงดอกพอตกดนี้ คยองจูมีชื่อเสียงในความสวยงาน และยังเป็นที่จัดงานวิ่งมาราธอนประจำปีในช่วงนี้ด้วยครับ
ข้อแนะนำในการเที่ยวคยองจู
1. การเดินทางใช้รถบัส การเดิน หรือปั่นจักรยาน เป็นหลัก พื้นที่ค่อนข้างกว้างใหญ่มาก หากใครอยากมาศึกษาประวัติศาสตร์เชิงลึก เที่ยววันเดียวไม่หมดแน่ๆครับ
2. วันอากาศดี แดดจะแรง จะร้อนมาก เตรียมร่ม ทาครีมกันแดดให้พร้อมครับ
#Bomunho Lake
การเดินทาง : จากป้ายรถเมล์ตรงข้าม Gyeongju bus terminal นั่งรถบัสสาย 10 ลงป้าย Bomunho lake
ค่าเข้าชม : ฟรี
Level : 4
หลังจากนั่งรถออกมาจาก Gyeongju bus terminal รถก็ค่อยๆเคลื่อนตัวผ่านส่วนชนบทของเมือง ซึ่งจะเห็นทุ่งนากว้างสุดลูกหูลูกตา ตลอดทางจะมีดอกพอตกดขึ้นทำให้ดูสดชื่นมาก การเดินทางไป Bomunho Lake นี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาที อยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปประมาณ 10 km ครับ ด้วยความที่มันกว้างมาก ทำให้ผมงงว่าจะลงตรงไหนดี เลยเดามั่วๆตามจุดที่คนลงเยอะที่สุด ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสวนสนุกครับ ต้องเดินย้อนกลับมาเล็กน้อยก่อนจะถึงจุดหมายที่ต้องการ
รอบทะเลสาบนี้มีกิจกรรมต่างๆให้เลือกสนุกกระจายเป็นจุดๆ มีตั้งแต่รีสอร์ท สวนสนุก (ซึ่งเปิดให้เล่นบางส่วนแล้ว) เส้นทาง trekking จุดชมวิว จักรยานน้ำ โอ๊ย เยอะแยะไปหมดครับ มาที่ทะเลสาบนี้สามารถอยู่ได้ทั้งวันสบายๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนกันเยอะแม้ในช่วงเช้าขนาดนี้
ด้านบนเป็นทางเดินด้านหนึ่งของทะเลสาบ ซึ่งให้เฉพาะเดินเท้าเท่านั้นไม่สามารถเอารถเข้าไปได้
ที่เห็นไกลๆคือรางรถไฟเหาะซึ่งยังอยู่ในช่วงก่อสร้าง ถ้าปีหน้าใครได้มาลองไปเล่นดูนะครับ น่าจะเสียว สนุก และสวยมากๆ
เดินมาสักพัก เหงื่อเริ่มเกาะเต็มหลัง จั๊กแร้เปียกเป็นดวงๆ (5555 บอกทำไม) ผมเพิ่งจะมาถึงขอบทะเลสาบ TT ดูจากเส้นทางข้างหน้าแล้วคงใช้เวลาอีกพักใหญ่ แต่ถ้าจะเดินกลับก็ใช้เสลาเท่าๆกัน นั่นมีทางเดียวคือเดินต่อครับ ถ้าหากเพื่อนๆเหนื่อย ระหว่างทางจะมีคาเฟ่และร้านอาหารไว้บริการ สามารถแวะเข้าไปทานเพื่อเติมพลังก่อนได้
หากมีเรี่ยวแรงเหลือ ลองไปปั่นเรือเป็ดก็ได้นะครับ แต่กลางวันแบบนี้คงจะร้อนหน่อย ถ้ามีเวลาอยู่ที่นี่ทั้งวันแนะนำให้ปั่นตอนเย็นๆครับ
บรรยากาศริมทะเลสาบดีมาาาาาาาก ลมพัดมาตลอด ทำให้ความร้อนที่เข้ามาคุกคามเมื่อสักครู่หายไปอย่างปลิดทิ้ง
ความดีงามของที่แห่งนี้คือเป็นที่ที่ทัวร์ไม่ค่อยลงครับ ทำให้บรรยากาศไม่อึกทึกครึกโครมเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ผู้มาเที่ยวจะมาเป็นครอบครัว มีอาหารปิ่นโตมาปิคนิคกัน เป็นภาพที่อบอุ่นน่ารักดี อีกส่วนหนึ่งเป็นคุณตาคุณยายวัยเกษียณมาเดิน trekking กัน นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คล้ายคนญี่ปุ่นครับ คุณตาคุณยายที่นี่ดูแข็งแรงมาก เดินกันฉับๆผมนี่ตามไม่ทันเลย
หลังจากเดินมาโผล่อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบ ผมดูเวลาแล้วเห็นว่าต้องไปจุดต่อไปแล้ว ไม่งั้นคงไม่จบแน่ๆ เลยออกมารอรถบัสเพื่อไปยังจุดต่อไปครับ