[CR] Cherry blossom in South Korea 2018 : เมื่อซากุระบานที่เกาหลี EP 1 : BUSAN

สวัสดีเดือนที่ (โคตร) ร้อนที่สุดในไทยครับ ร้อนๆอย่างนี้เพื่อนๆคงอยากหนีไปพักยกกันสักที่ไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศไทย ยิ่งในเดือนที่มีวันหยุดยาวแบบนี้ ยิ่งไม่ควรปล่อยเวลาท่องเที่ยวอันมีค่าให้หลุดหายไป เพราะการท่องเที่ยวนอกจากจะเป็นการพักผ่อนแล้ว ยังเป็นการชาร์จพาวเวอร์แบงค์ของตัวคุณเองให้สามารถสู้ชีวิตจริงได้ดีขึ้นด้วย ใครที่มีวันลาแล้วยังไม่ได้ใช้ แนะนำว่าขอให้ใช้กันนะครับ ไม่ต้องเกรงใจเจ้านายครับ เพราะนี่คือสิทธิ์ที่เรา “ต้อง” ใช้ แต่จะไปเที่ยวไกลแค่ไหน ยังไงก็คำนึงถึงงบประมาณและความพร้อมด้วยนะครับ  

ผมเคยรีวิวการท่องเที่ยวมาบ้างแล้ว ตาม Link ข้างล่างนี้ เพื่อนๆสามารถติดตามได้เผื่อจะเป็นแนวทางวางแผนเที่ยวครับ
https://pantip.com/topic/36339704 : Cherry Blossom in Kyoto Part 1
https://pantip.com/topic/36342187 : Cherry Blossom in Kyoto Part 2
https://pantip.com/topic/36345893 : Cherry Blossom in Kyoto Part 3

สำหรับครั้งนี้ผมจะมารีวิวการไปชมดอกซากุระหรือดอกพอตกด(ตามที่คนเกาหลีเรียก) ในประเทศเกาหลีใต้ ประเทศที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มหัศจรรย์ที่สุดประเทศหนึ่งในโลก ใครจะรู้ครับว่าประเทศที่เป็นแบบอย่างเทคโนโลยีล้ำสมัย แหล่งกำเนิดบอยแบนด์และซีรีย์สุดฮิตที่ดึงดูดสาวกเมืองไทยมาหลายสิบปี จะมีอดีตที่ขมขื่นและยากจนขั้นสุด แต่ใช้เวลาเพียงครึ่งศตวรรษในการฟื้นฟูก่อนที่จะผงาดมาทัดเทียมมหาอำนาจอย่างญี่ปุ่น เกริ่นนำมาเพียงเท่านี้คิดว่าคงพอให้เพื่อนๆรู้สึกสนใจความเป็นมาของประเทศนี้มากขึ้นมาไม่มากก็น้อย ซึ่งสามารถไปหาอ่านต่อได้นะครับ อยากบอกว่าประเทศเขาน่าสนใจมากทีเดียว

สำหรับดอกพอตกด หรือ ซากุระเกาหลีนั้น มีลักษณะที่ไม่แตกต่างจากญี่ปุ่นครับ การบานจะเริ่มบานจากตอนใต้ของประเทศแล้วค่อยๆไล่ขึ้นบน ตั้งแต่ช่วงเริ่มบานจนกระทั่งถึงช่วง full bloom จะกินเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะเริ่มร่วงจนหมดในอีกสัปดาห์ต่อมาครับ โดยเดือนที่เริ่มต้นคือสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนมีนาคมไล่ไปจนถึงช่วงกลางเดือนเมษายน แต่ในแต่ละปีอาจจะมีความแตกต่างกันของระยะเวลาบานขึ้นกับสภาพอากาศในปีนั้นๆ สามารถติดตามการพยากรณ์ได้ซึ่งมักจะออกมาประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ครับ (ดูจะกระชั้นชิดไปหน่อยเมื่อเทียบกับญี่ปุ่นซึ่งโปรโมทเทศกาลซากุระชัดเจนกว่ามาก) ในการเดินทางครั้งนี้ ผมเริ่มต้นวันที่ 31 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2561 เที่ยวไล่ขึ้นไปจากปูซานไปสิ้นสุดที่โซลครับ
ที่มา :  https://blog.indiway.com/spring-korea-cherry-blossom-festivals

ข้อคำนึงเล็กน้อยสำหรับการไปชมดอกพอตกดที่เกาหลีใต้
1. การเดินทางไปแต่ละเมืองจะต่างจากญี่ปุ่นคือ ใช้ intercity bus เป็นหลัก เพราะรถไฟด่วน KTX ไม่ได้เข้าถึงเมืองที่จะชมโดยตรงและสะดวกอย่างญี่ปุ่น แต่การใช้รถโดยสารก็ไม่ยุ่งยากหรือน่ากลัวอย่างที่คิดครับ

2. หลีกเลี่ยงการไปชมในวันหยุดเพราะต้องเจอกับคลื่นมหาชนอย่างมหาศาล นอกจากสถานที่ชมจะแน่นแล้ว intercity bus ในข้อ 1 ก็โคตรจะแน่นด้วยครับ โดยเฉพาะที่ Jinhae ซึ่งเป็นที่ที่ดังมากที่หนึ่งจะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ต่อแถวขึ้นรถบัสยาวเหยียดจนรอนานเป็นชั่วโมงทั้งขาไปและขากลับ จึงขอแนะนำว่า ณ ที่นี้เลยว่า “เลี่ยงเสาร์อาทิตย์เท่าที่จะทำได้” แต่ถ้าอีกวันจะมืดฟ้ามัวดินหรือฟ้าฝนเทลงมาก็ไปกันวันหยุดนี่ล่ะครับ ดีกว่าเดินตากฝนหนาวก็หนาวแถมไม่สนุกอีก

3. เตรียมเสื้อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศครับ เช่น ถ้าปูซาน คยองจู อากาศจะอุ่นกว่าโซล ยิ่งถ้าวันที่มีแดดเปรี้ยงนี่ยังกับอยู่เมืองไทย แต่ในวันฟ้าครึ้มก็หนาวถึงเย็นเยือกได้เลย ตอนผมอยู่โซลอากาศ 6 องศาแถมมีลมพัดอีก 5555 เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้เตรียมเสื้อกันหนาว เสื้อกันฝน ร่ม ครีมกันแดด ไปให้พร้อมครับ

4. การเที่ยวชมเน้นการเดินเป็นหลัก อย่าลืมฟิตร่างกาย และแนะนำจัดวันไว้สำหรับพักด้วยถ้าไปหลายๆวันครับ

5. แนะนำว่าควรพักที่เดียว แล้วใช้การเดินทางไปยังเมืองข้างเคียงแทนการพักหลายๆที่ เพื่อที่จะสามารถโยกย้ายแผนการเที่ยวได้ เช่นครั้งนี้ผมพักปูซานทั้งหมด 5 วัน เที่ยวในปูซาน 3 วัน ไปจินเฮ และคยองจูอย่างละหนึ่งวัน จากนั้นพักที่แทกูและโซล ตามลำดับ เท่าที่ทราบไม่มีเว็บไซต์ที่ update การบานของดอกพอตกตหรือใบไม้เปลี่ยนสีเหมือนในญี่ปุ่น ผมทำตามคำแนะนำของเพื่อนๆในพันทิพย์ว่าให้เช็คจาก instargram ดูเป็นวันๆไปว่าขณะนี้ที่จะไปมีคนเช็คอินถ่ายกับดอกพอตกดที่บานระดับไหนแล้ว ก็พอจะช่วยให้คาดการณ์การเดินทางได้ครับ

ก่อนจะเริ่มกันต้องขอแจ้งก่อนว่า นี่เป็นทริปชมดอกพอตกดเป็นหลักไม่เน้นกินหรือช้อปปิ้งครับ และอาจมีที่เที่ยวที่น่าสนใจเผื่อเป็นตัวเลือกในการไปเที่ยวในฤดูอื่นๆแทรกไว้ด้วยครับ

ในการรีวิวครั้งนี้ขออนุญาตสอดแทรกความเห็นส่วนตัวในการให้คะแนนความตื่นตาตื่นใจในสถานที่และความงดงามของดอกพอตกดเป็นระดับดังนี้ครับ
Level 1 : ไปยาก ลำบากโคตร ไม่สวย
Level 2 : ไปไม่ทรมาน ลำบากนิดหน่อย สวย standard
Level 3 : ไปง่าย เดินกลางๆ สวย standard
Level 4 : ไปง่าย เดินกลางๆ สวยดี
Level 5 : ไปง่าย เดินน้อย โคตรสวย
(อันนี้คิดขึ้นมาขำๆครับไม่มีการศึกษาวิจัยรับรอง เป็น คหสต ล้วนๆ)

ผมเดินทางจากไทยไปลงที่ปูซานโดยสายการบิน Korean Air (Gimhae international airport) เริ่มต้นการท่องเที่ยวในวันที่ 31 มีนาคม 2561 สำหรับสถานที่ชมดอกพอตกดในปูซานนั้นสามารถใช้ subway และ local bus ตามแผนภาพนี้ครับ

การใช้ subway ในเกาหลีเหมือนญี่ปุ่นครับ เพียงแต่เน้นใช้บัตร T money ซึ่งเป็นบัตรเติมเงินเอนกประสงค์ที่ใช้ได้ทั้ง subway, local bus, ซื้อของตามร้านสะดวกซื้อ บลาๆๆๆ ซึ่งสามารถซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปไป ราคาขึ้นกับร้านและลวดลายของบัตรครับ เท่าที่ลองหาข้อมูลมาไม่ค่อยมีบัตร city one day หรือ two day pass ตามเมืองต่างๆ ครับ ถ้าใครเคยมีประสบการณ์ในการซื้อตั๋วประเภทนี้ ฝากแชร์ต่อหน่อยนะครับ เผื่อไว้เป็นข้อมูลใช้รอบหน้า 555 สามารถเติมเงินในบัตรได้จากร้านค้าหรือตู้เติมอัตโนมัติในสถานีก็ได้ครับ
Gamcheon Culture Village
การเดินทาง : subway Line 1 ลงสถานี Toseong exit 6 แล้วเลี้ยวขวามุมถนน ผ่าน Busan Cancer Center เดินไปจนพบกับป้ายรถเมล์แรก แล้วขึ้นรถบัสสาย Saha 1-1, Seogu 2, Seogu 2-2 ลงป้าย Gamcheon Elementary school (คนส่วนใหญ่ลงป้ายนี้ ไม่ต้องกลัวลงผิดครับ แถมมีเสียงประกาศเป็นภาษาอังกฤษบอกด้วย) ตอนแรกคิดว่าจะเดินไปถึงทางเข้าหมู่บ้าน แต่พิจารณาจากความชันของเนินแล้ว...ลาก่อยครับ 5555 ไม่แนะนำให้เดินไปจากใจจริงครับถึงแม้คุณจะผ่านการวิ่งมาราธอนแล้วก็เถอะ
ค่าเข้าชม : 2,000 วอน
Level : 4

Gamcheon Culture Villiage เป็นหมู่บ้านที่สร้างขึ้นบนเนินเขา ตัวบ้านแต่ละหลังตั้งลดหลั่นระดับลงมา ทำให้ดูแปลกตาและสวยงาม หมู่บ้านนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "Machu Picchu of Busan" ตรอกซอกซอยที่ตัดผ่านชุมชนนี้ได้รับการตกแต่งอย่างมีชีวิตชีวาด้วยจิตรกรรมฝาผนังและประติมากรรมที่สร้างขึ้นโดยชาวบ้านที่อยู่อาศัย มีมุมชิคๆมากมายให้เหล่าฮิปเตอร์มาถ่ายรูปกันครับ

เมื่อลงจากป้ายรถเมล์เดินขึ้นเนินมาหน่อยจะพบกับวิวแรกดังภาพนี้ครับ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นมุมมหาชนมุมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวะชพากันรัวถ่ายภาพ ความเก๋อยู่ตรงรูปปั้นเงาคนที่เหมือนกับแผ่นกระจกสะท้อนวิวที่เห็นครับ จากนั้นเราเข้ามาเดินในหมู่บ้านกัน

ภายในหมู่บ้านจะมีร้านค้า ร้านกาแฟน่ารักๆให้จิบชมวิวไปด้วย ความดีงามของประเทศนี้คือกาแฟอร่อยแบบไม่ต้องลุ้น เข้าร้านไหนรสชาติถูกปากหมดครับ แก้วนี้เป็น cappuccino ราคา 4,500 วอน ลุงคนขายพูดอังกฤษได้นิดหน่อย ส่วนใหญ่ผมใช้การชี้เอา 5555

ระหว่างทางมีพิพิธภัณฑ์หมู่บ้าน Gamcheon เป็นอาคารหลังเล็กๆ ให้เขาไปชมด้วยครับ แต่วันที่มาผมถึงบ่ายกว่าๆ เลยขอผ่านครับ (สายความรู้ไม่ถนัด 555) เดินไปเรื่อยๆก็จะมาถึงจุดที่ฮิตที่สุด นั่นคือมุมถ่ายภาพกับเจ้าชายน้อย ซึ่งเมื่อมองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นทิวเขาที่มีดอกพอตกดด้วย วิวนี้ฮิตแค่ไหนลองดูคิวครับ

คนปริมาณล้านแปดรอต่อคิวกันร่วมชั่วโมง แต่ละคนก็ใช้เวลากันอย่างเต็มที่เสียด้วย TT ใครมีเวลาจำกัดอาจจะต้องทำใจไว้คราวหน้านะครับ

หลังจากบอกลาเจ้าชายน้อย ผมก็ค่อยๆไต่ขึ้นเนินเขาทีละน้อย จุดหมายอยู่ที่ยอดเนิน เพราะจากป้ายรถเมล์จะเห็นว่าบนเนินเขาจะมีต้นพอตกดบานเรียงรายอยู่ ตอนนี้คนเริ่มบางตาลงครับ เพราะระยะทางก็เอาเรื่องและความชันก็เริ่มทำให้ข้อเข่าเริ่มตึง เมื่อมาถึงก็จะพบกับวิวนี้ครับ

แม้จะลำบากเล็กน้อยแต่แนะนำให้ขึ้นมาชมนะครับ โดยเฉพาะในช่วง full bloom มากๆจะสวยมากๆ สามารถเลือกเดินย้อนกลับทางเดิมหรือเดินวนต่อตามถนนก็ได้ครับ ผมเลือกเดินต่อซึ่งบอกกันตามเนื้อผ้าว่าจากจุดตรงนี้ไม่ค่อยจะมีอะไรให้ชมแล้ว ถ้าย้อนเวลากลับไปอยากเดินกลับทางเก่ามากกว่า เผื่อมาดูใจเจ้าชายน้อยด้วยครับ

Busan tower and Yongdusan Park
การเดินทาง : subway Line 1 ลงสถานี Nampo exit 1,3 เดินไปตามป้ายจะเจอทางขึ้นเป็นบันไดเลื่อนยาวมากๆ
ค่าเข้าชม : สวนฟรี แต่มีค่าขึ้นชมวิวบนหอคอย 5,000 วอน
Level : 3

ถ้ามาปูซานแล้วไม่ได้มาที่ Busan tower ก็...
ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ ต่างคนต่างก็มีแผนของตัวเอง 55555 แต่โดยส่วนตัวแล้วอยากให้มา โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงพระอาทิตย์ตก จะเห็นแสงสีทองฉาบเมืองทั้งเมืองครับ และเมื่อชมวิวเสร็จแล้วก็สามารถเดินช้อปต่อที่ถนน Gwangbok-ro ได้อีกด้วย
จุดชมดอกพอตกดอยู่ด้านหน้าของสวนแต่ต้นไม่ได้ขึ้นกันอย่างแน่นหนานัก ออกจะห่างๆและกระจายกัน ทำให้ถ่ายรูปออกมาดูไม่ค่อยฟูเท่าไหร่ แต่เป็นที่ที่เหมาะกับการมาเดินเล่นแบบสงบๆมาก

หนุ่มสาวคู่นี้ไม่ได้ใส่แค่เสื้อคู่แต่ยังใส่รองเท้าคู่ด้วย 55555 แดงแป๊ดเห็นไกลสักร้อยเมตร รูปข้างล่างเป็นภาพหน่ายจากบนหอคอยครับ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวเกาหลี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่