สวัสดีครับ ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อ ปุ้น เรียนวิศวะอยู่ชั้นปีที่3 นะครับ เป็นคนที่รักการปีนเขาและเดินป่าอย่างมาก
วันนี้จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ Trek Peak และ หิมาลัย ครั้งแรกของผมครับ
โดยเนื่องจากภูเขาลูกนี้อาจจะยากง่ายไม่เท่ากันสำหรับแต่ละคน
ดังนั้นกระทู้นี้ผมเขียนในฐานะมุมมองของคนที่มีความฟิตระดับที่วิ่ง 10 กิโล 1ครั้ง ต่อ 1สัปดาห์ครับ (Pace:5.48)
หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะคร้าบบ
Pangarchulla เป็นยอดเขาในย่าน Uttarakhand ของประเทศอินเดีย มีความสูง 4560 เมตร เป็นหนึ่งในยอดที่เหมาะสำหรับคนที่อยากเริ่มต้น trek peak หรือต้องการอะไรที่ท้าทายมากกว่าการเดินเทรคตามพาสต่างๆหรือเบสแคมป์ต่างๆครับ โดยจุดเด่นของยอดเขานี้คือ ทั้งยอดปกคลุมด้วยหิมะที่สวยงามในความหนาในระดับที่ยังเดินได้ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ technical skill ใดๆครับ รวมไปถึงบนยอดเขาจะสามารถเห็นยอดสำคัญต่างๆที่สูงระดับ 6000-7000 เมตร ได้เกือบหมดในย่านนี้ครับ ทำให้เห็นวิวที่อลังการได้ และอีกข้อที่สำคัญสุดท้ายของยอดนี้คือ มีค่าใช้จ่ายที่ถูกมากครับ
(ผมใช้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมตั๋วประมาณ 20000 บาทเท่านั้นครับ)
โดยเราเดินทางกัน 8 วันตั้งแต่ 7-15 ม.ย. 2018 เดินทางเองจนถึงเมือง Haridwar แล้วเลือกไปกับทัวร์อินเดียต่อ ทริปนี้มีโปรแกรมดังนี้
07 ม.ย. : บินจากกรุงเทพไปกรุงนิวเดลี (4.30ชม.) และนั่งรถไฟไปเมือง Haridwar (6ชม.)
08 ม.ย. : นั่งรถโฟร์วีลต่อไปยังเมือง Joshimath (11ชม.--- มันยาวนานมากกกก)
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
09 ม.ย. : เทรควันแรกไปยัง Campsite (3.30ชม. ขึ้นไปความสูง 2900 เมตร) [DAY1]
10 ม.ย. : เทรคไปยัง Base Camp (3.30ชม. ขึ้นไปความสูง 3400 เมตร) [DAY2]
11 ม.ย. : วัน Acclimatization หรือวันให้คุ้นเคยความสูง [DAY3]
12 ม.ย. : วัน summit (13ชม. ขึ้นยอดที่ความสูง 4560 เมตร และกลับลงมาที่ base camp) [DAY4]
13 ม.ย. : ลงจาก Base Camp ทีเดียวไปถึงเมือง Joshimath เลย (4ชม.) [DAY5]
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
14 ม.ย. : นั่งรถโฟร์วีลกลับไปยังเมือง Haridwar (12ชม. --- มันยาวนานกว่ารอบแรกกกก)
15 ม.ย. : นั่งรถไฟกลับกรุงนิวเดลี(6ชม.) และ บินตรงกลับกรุงเทพครับ(4.30ชม.)
**เนื่องจากผมไม่อยากถ่ายรูปในช่วงแรกเเพราะกลัวเปลืองแบต จึงขอเริ่ม [DAY1] กันวันที่ 9 ม.ย. วันเทรควันแรกเลยนะค้าบ
[DAY1] First Day Trek
หลังจากที่ก่อนหน้านั้นเดินทางมาแสนยาวนาน ทั้งเครื่องบิน รถไฟ รถโฟร์วีล อย่างเหน็ดเหนื่อย จนมาถึง Joshimath เพื่อค้างคืนนึง และเริ่มเดิน Trek ในวันแรกนี้ ก็ต้องโชคร้ายเปิดมาเจอฝนตกหนักครับ ทุกคนต้องรีบหยิบเสื้อกันฝน และก้มหน้าก้มตาเดิน จนซักพักกว่าฝนจะหยุดและเริ่มหยิบกล้องได้
เดินต่อไปเรื่อยๆจนถึง campsite ที่ความสูง 2900 เมตร
ทางเดินมีระดับความยาก ยากขึ้นทีละนิด สำหรับผมว่าน่าจะประมาณดอยหลวงเชียงดาวครับ
ในทีม มีชาวอินเดีย6คน ชาวไทย3คน และไกด์อีก 2 คนครับ (ไกด์เก่งมาก เขาเคยปีนเขา7000เมตรมาเพียบแล้ว)
ภูเขาที่เห็นตั้งแต่เริ่มเทรคชื่อ Dunagiri สูงประมาณ 7000 เมตร สวยเด่นอยู่ตลอดทริปครับ
ที่ Campsite ถ้าเรามองขึ้นไปจะเห็นจุดมุ่งหมายของเรา Pangarchulla อยู่ไกลๆ แต่ที่เห็นอยู่ไม่ใช่ยอดนะครับมันถูกบังอยู่
[DAY2] Campsite to Base Camp
ทางที่เดินก็ยังระดับเดียวกับเมื่อวานเพียงแค่หายใจลำบากขึ้น และ เริ่มเห็นหิมะเป็นหย่อมๆบ้าง
ลืมบอกไปครับว่า สำหรับคนที่ไม่อยากแบก Backpack หนักๆเอง สามารถจ้างให้ลาขนของให้เราได้ในราคาไม่แพงครับผม
ผ่านไปหน่อยจะถึงที่ราบสูง Khullara หรือ Base Camp ของเรานั่นเองครับ ที่ความสูง 3400 เมตร
วิวจากตรงนี้เป็นจุดที่ต้นไม้เริ่มหายไป ทำให้เห็นภูเขาสวยๆได้เต็มไปหมดเลยครับ เป็นที่ๆฟินไปอีก
[DAY3] Acclimatization
วันนี้เป็นวันชิวๆครับ เดินนิดเดียว พักซะเยอะ เป็นวันสำหรับให้เราคุ้นเคยกับความสูงตรงนี้เพื่อเตรียม Summit ยอด
เห็นวิวดีอย่างนี้ แต่ที่ถ่ายคือห้องน้ำนะครับ เราขุดหลุม และใช้บริการในเต้นทรงสูงอย่างนี้แหละครับ
ในช่วงเช้าอากาศดูโอเค เลยได้รูปภูเขามากมายครับ
ทั้งทริปจะเห็นภูเขาสวยๆนี้ตลอดเหมือนกันครับ แต่มันดันไม่มีชื่อ เรียกกันว่า unknown peak ครับ
แต่แล้วพอถึงช่วงบ่ายอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงไป และแปรปรวน มีทั้ง ฝน หิมะ และ ลูกเห็บมาครับ
แต่แล้วเมื่อทีมที่กำหนดซัมมิทก่อนทีมเรา1วันกลับมา พี่เขาก็มาเล่าประสบการณ์ติดพายุหิมะที่หนักหน่วงที่สุด เขาอยู่บนเขาถึง 15 ชม. และไม่มีใครในทั้งหมดเกือบ40คนที่ซัมมิทยอด Pangarchulla ได้เลยซักคน ทำให้เรากังวลหน้าสั่นกันไปหมด และ พยายามให้กำลังใจกันว่า พรุ่งนี้อาจจะอากาศดีและพวกเราจะต้องซัมมิทกันให้ได้หมดทุกคนในกลุ่ม
พิชิตยอดเขาหิมะ Pangarchulla 4560 m. แห่งย่าน Uttarakhand ที่อินเดีย
วันนี้จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ Trek Peak และ หิมาลัย ครั้งแรกของผมครับ
โดยเนื่องจากภูเขาลูกนี้อาจจะยากง่ายไม่เท่ากันสำหรับแต่ละคน
ดังนั้นกระทู้นี้ผมเขียนในฐานะมุมมองของคนที่มีความฟิตระดับที่วิ่ง 10 กิโล 1ครั้ง ต่อ 1สัปดาห์ครับ (Pace:5.48)
หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะคร้าบบ
Pangarchulla เป็นยอดเขาในย่าน Uttarakhand ของประเทศอินเดีย มีความสูง 4560 เมตร เป็นหนึ่งในยอดที่เหมาะสำหรับคนที่อยากเริ่มต้น trek peak หรือต้องการอะไรที่ท้าทายมากกว่าการเดินเทรคตามพาสต่างๆหรือเบสแคมป์ต่างๆครับ โดยจุดเด่นของยอดเขานี้คือ ทั้งยอดปกคลุมด้วยหิมะที่สวยงามในความหนาในระดับที่ยังเดินได้ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ technical skill ใดๆครับ รวมไปถึงบนยอดเขาจะสามารถเห็นยอดสำคัญต่างๆที่สูงระดับ 6000-7000 เมตร ได้เกือบหมดในย่านนี้ครับ ทำให้เห็นวิวที่อลังการได้ และอีกข้อที่สำคัญสุดท้ายของยอดนี้คือ มีค่าใช้จ่ายที่ถูกมากครับ
(ผมใช้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมตั๋วประมาณ 20000 บาทเท่านั้นครับ)
โดยเราเดินทางกัน 8 วันตั้งแต่ 7-15 ม.ย. 2018 เดินทางเองจนถึงเมือง Haridwar แล้วเลือกไปกับทัวร์อินเดียต่อ ทริปนี้มีโปรแกรมดังนี้
07 ม.ย. : บินจากกรุงเทพไปกรุงนิวเดลี (4.30ชม.) และนั่งรถไฟไปเมือง Haridwar (6ชม.)
08 ม.ย. : นั่งรถโฟร์วีลต่อไปยังเมือง Joshimath (11ชม.--- มันยาวนานมากกกก)
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
09 ม.ย. : เทรควันแรกไปยัง Campsite (3.30ชม. ขึ้นไปความสูง 2900 เมตร) [DAY1]
10 ม.ย. : เทรคไปยัง Base Camp (3.30ชม. ขึ้นไปความสูง 3400 เมตร) [DAY2]
11 ม.ย. : วัน Acclimatization หรือวันให้คุ้นเคยความสูง [DAY3]
12 ม.ย. : วัน summit (13ชม. ขึ้นยอดที่ความสูง 4560 เมตร และกลับลงมาที่ base camp) [DAY4]
13 ม.ย. : ลงจาก Base Camp ทีเดียวไปถึงเมือง Joshimath เลย (4ชม.) [DAY5]
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
14 ม.ย. : นั่งรถโฟร์วีลกลับไปยังเมือง Haridwar (12ชม. --- มันยาวนานกว่ารอบแรกกกก)
15 ม.ย. : นั่งรถไฟกลับกรุงนิวเดลี(6ชม.) และ บินตรงกลับกรุงเทพครับ(4.30ชม.)
**เนื่องจากผมไม่อยากถ่ายรูปในช่วงแรกเเพราะกลัวเปลืองแบต จึงขอเริ่ม [DAY1] กันวันที่ 9 ม.ย. วันเทรควันแรกเลยนะค้าบ
ทางเดินมีระดับความยาก ยากขึ้นทีละนิด สำหรับผมว่าน่าจะประมาณดอยหลวงเชียงดาวครับ