รู้สึกเครียดสิ้นหวังหมดแรงหมดกำลังใจที่จะทำอะไรดีๆเพื่อคนในครอบครัวให้มีชีวิตที่สบายและมีความสุข ฉันคิดนะว่าบ้านและครอบครัวคือความสุขแต่แปลกมันกลายเป็นเรื่องทุกข์สำหรับฉันฉันร้องไห้กับเรื่องที่บ้านมากที่สุดถึงทำงานเหนื่อยมีปัญหาที่ทำงานเคยร้องไห้กับพ่อแม่แต่เหมือนโดนว่ากลับมาทุกครั้งซึ่งฉันคิดว่าครอบครัวคือคนที่จะเข้าใจฉันมากที่สุดเป็นที่พึ่งสุดท้ายในชีวิตถ้าหากฉันมีปัญหาแต่ไม่เลยพอกลายเป็นแบบนี้ฉันรู้สึกเหมือนฉันไม่เหลือใครเลย ตอนนี้ฉันอยู่ในวัยที่เพิ่งเริ่มทำงานได้ปีตอนเรียนไม่ได้มีความสุขเท่าไรเคยคิดที่จะซิ่วเพราะไม่ชอบจริงๆแต่พ่อกับแม่ไม่อยากให้ซิ่วเรียนให้จบปีก็เลยอดทนเรียนต่อไปจนจบพอเรียนจบก็ต้องมีช่วงที่ต้องหางานทำในช่วงนั้นงานภายในจังหวัดไม่มีเปิดรับเลยต้องรอเนื่องจากพ่อกับแม่อยากให้ทำงานใกล้ๆบ้านฉันเคยไปสมัครงานที่รพ.แห่งหนึ่ง เป็นครั้งแรกที่ไปสมัครงานรพ. ฉันได้ที่2ในการคัดเลือกสอบนั้นฉันแพ้คนแรกเพราะเขามีประสบการทำงานมาก่อนและฉันก็แพ้ในอีกหลายๆสนามเพราะฉันไม่มีประสบการทำงาน ฉันหางานทำทุกวันตามเว็บประกาศเจอคลินิกที่ภาคกลางฉันตัดสินใจโทรไปถาม เขาให้ฉันส่งเอกสารไปเขาให้ไปลองทำงานก่อนทดลองงาน3เดือนถ้าผ่านเงินเดือนก็อัพเพิ่มตามทั่วไปตอนแรกพ่อกับแม่ฉันไม่อยากให้ฉันไป ฉันขอไปเพราะฉันอยากทำงานที่ผ่านมาฉันรู้สึกเครียดมากกับการไม่มีงานทำ แล้วอยู่บ้านแม่บอกฉันว่าไม่ต้องทำอะไรอยู่บ้านเฉยๆแม่ก็เลี้ยงได้แต่แค่ไม่มีเงินเก็บในตอนที่แกอารมณ์ดี ถ้าเมื่อไรที่แม่อารมณ์ไม่ดีแกก็จะพูดกดดันให้ฉันหางานทำ ฉันได้ไปทำงานภาคกลาง ฉันอาสาที่จะไปด้วยตนเองแต่แม่เป็นห่วงฉันจึงให้พ่อขนของขนรถมอเตอไซต์ไปส่งฉันที่ภาคกลาง เดิมบ้านฉันอยู่ภาคใต้ฉันรู้ว่าพ่อกับแม่เหนื่อยมากที่ต้องขับรถมาส่งฉัน ฉันทำงานที่คลินิกนั้นได้1เดือนฉันตัดสินใจลาออกเพราะฉันเครียดมากถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย ฉันโทรไปร้องไห้กับพ่อแม่ทุกวันแต่มันไม่ได้ทำให้ฉันดีขึ้นเลย ฉันกลับแย่กว่าเดิม เมื่อฉันลาออกพ่อกับแม่ต้องขึ้นมาขนของให้ฉันกลับบ้าน ฉันโดนแม่ว่าต่างๆนา ฉันรู้สึกแย่มากที่ทำให้พ่อกับแม่ลำบาก แม่บอกว่าเหนื่อยมากที่ต้องนั่งรถไกลแบบนี้ ต่อมาฉันได้งานทำที่รพ.ในจ.สุราด เป็นเช่นเดิมอีกพ่อกับแม่ก็ไปส่งฉันอีกฉันทำงานที่นั่นได้3เดือนฉันตัดสินใจลาออกเพื่อที่จะกลับมาหางานในจังหวัด ฉันรู้สึกแย่ในตัวเองมากฉันผิดหวังในตนเองที่ความอดทนต่ำ แม่บอกฉันเสมอว่าคนที่ไม่ทำงานคือคนที่ไม่มีคุณค่า แม่ของฉันกำพร้าพ่อกับแม่ตั้งแต่เด็ก แกได้มีโอกาสไปเจอร่างทรงในศาลเจ้าทำให้แม่นับถือท่านมาก แม่นับถือท่านเป็นพ่อแม่อยากให้ฉันนับถือด้วยแต่ฉันเฉยๆเพราะฉันไม่ชอบพิธีกรรม แม่อยากให้ฉันไปพบร่างทรงเราทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยมาก เช่นบางครั้งร่างทรงพูดกับแม่ฉันว่าบางครั้งสิ่งที่เห็นว่าดีมันอาจจะไม่ได้ดี สิ่งที่คาดหวังมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ไม่คาดหวังอาจจะได้ ซึ่งแม่ฉันก้เอามาเป็นประเด็นมาพูดในโต๊ะกินข้าวว่าก๋งไม่เคยพูดแบบนี้เลยไม่รู้ว่าเรื่องอะไรซึ่งฉันไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงเชื่อจนต้องเก็บมาคืดให้มันทุกข์ หลายครั้งที่แม่เชื่อร่างทรงจนต้องทะเลาะกับฉัน ส่วนพ่อมักจะพูดกับฉันว่าไม่แสดงความรักกับพ่อแม่ แต่ไปแสดงกับผัว ต่อไปก็จะเป็นเวรกรรมตอนมีลูก คือในบ้านฉันไม่ได้เป็นบ้านที่พูดจากันหวานๆออกจะห้วนๆตรงๆด้วยซ้ำแต่ไม่หยาบคาย พ่อไม่
เคยแสดงความรักกับฉันซึ่งฉันไม่เข้าใจว่าฉันผิดหรอที่ฉันถูกเลี้ยงมาแบบนี้ ตอนนี้ฉันตัดสินใจที่จะเรียนใหม่ฉันจะสอบหมอเพราะฉันอยากให้พ่อกับแม่สบายแต่บอกตามตรงทุกครั้งที่ฉันเจอแบบนี้ฉันทุกข์ใจมาก ไม่อยากจะทำอะไรดีๆอีกต่อไปแล้ว
ทำอย่างไรต่อไปดี?
เคยแสดงความรักกับฉันซึ่งฉันไม่เข้าใจว่าฉันผิดหรอที่ฉันถูกเลี้ยงมาแบบนี้ ตอนนี้ฉันตัดสินใจที่จะเรียนใหม่ฉันจะสอบหมอเพราะฉันอยากให้พ่อกับแม่สบายแต่บอกตามตรงทุกครั้งที่ฉันเจอแบบนี้ฉันทุกข์ใจมาก ไม่อยากจะทำอะไรดีๆอีกต่อไปแล้ว