ตื่นซิลูก! คำที่หมอบอกลูกในวันที่แม่ผ่าคลอด

สวัสดีค่ะ คุณแม่ๆ ตั้งครรภ์ ใกล้คลอด วางแผนจะผ่าคลอดบุตร
วันนี้แม่อบอุ่นจะมาแชร์ประสบการณ์การผ่าคลอดแบบบล็อคหลังกับลูกคนแรกกันค่ะ
แม่เลือกการผ่าคลอดแบบบล็อกหลัง แม่ก็ต้องทำใจกับเข็มที่โดนบล็อก และข้อมูลต่างๆ ที่บอกต่อกันต่างๆ
ว่า "ถ้าบล็อกหลังจะปวดหลังนะ และถ้าท้องไม่ลายจะแตกลายเป็นแผนที่แบบมีgps ติดตามตลอดไป"
ประโยคนี้ทำแม่เครียดหนักกว่าตอนผ่าคลอดอีกค่ะ
(เดี๋ยววันไหนแม่จะแชร์ประสบการณ์ท้องไม่ลายแตกให้นะคะ)

เข้าเรื่องกันเลย แม่ได้ทำการนัดคุณหมอผ่าคลอดไว้ในวันที่เรากำหนด จะฤกษ์ยามตามใจแม่ หรือจะสะดวกทางบ้านเลยค่ะ
เพราะแม่ก็ท้องแข็งถี่ด้วย

วันแรกของการผ่าคลอด
คุณหมอสูติฯนัดแม่ให้มาตอน 6 โมงเช้า อายุครรภ์ได้ 38 สัปดาห์พอดีเป๊ะๆเลยค่ะ
เมื่อคืนแม่ งดดื่มน้ำและทานอาหารรอบดึกประมาณ 8 ชั่วโมงด้วย
มาถึงก็ตรวจเช็คความดัน น้ำหนักตัวแม่ แม่นั่งรถเข็นส่งตัวห้องรอคลอด พยาบาลเข้ามาสอบถามข้อมูล
แพ้ยา แพ้อาหาร แถมช่วงเวลานั้นแม่มีไอและเสมหะ พอไอทีท้องแข็งที

ตอนแรกคุณหมอดูอาการว่าไอมากมั้ย ถ้ามากจะไม่ให้ผ่า แม่เกือบไม่ได้ผ่าคลอด
สุดท้ายได้ผ่าตามฤกษ์ตามสะดวกไป พยาบาลให้แม่เปลี่ยนชุดเป็นชุดผูกหลัง
พยาบาลเดินเข้ามา จับโกนขน สวนทวาร ไม่เกิน 5 นาที ยาออกฤทธิ์ทันทีเลยหละค่ะ
แล้วพยาบาลก็มาใส่น้ำเกลือให้โดยการใช้เข็มเบอร์ 20

จนกระทั่งเวลา 8:15 น. พยาบาลเข็นแม่เข้าห้องเชือด เอ้ย! ห้องคลอด
วิสัญญีแพทย์ให้แม่นอนตะแคงงอเข่าเป็นกุ้ง แนะนำให้คางชิดหน้าอก หลังตรง
ขณะที่ฉีดยาชา (มอร์ฟีน) เข้าไขกระดูก มีการกดลงที่กระดูกเพื่อหาพิกัดฉีดอีกด้วย
แม่โดนเข็มเบอร์ 27 ตอนตะแคงเจ็บท้อง เพราะติดพุงงอไม่ได้เลย พยาบาลต้องช่วยจับ
หลังจากฉีดยาแล้วแม่ต้องรีบนอนตรง แล้วเหยียดขาอย่างเร็วทันทีเพื่อที่ยาไม่ออกฤทธิ์ข้างเดียว
ซักพักพยาบาลจับถลกเสื้อถึงลิ้นปี่ จับขาท่ากบ ทำความสะอาดท้อง สวนสายปัสสาวะ มีผ้ากั้นด้านหน้า
สงสัยกลัวแม่เห็นฉากสยองขวัญ แขนสองข้างกางออก (สภาพตอนนี้เป็นคนหรือกบย่างกันแน่)

แม่ได้ยินเสียงพยาบาล คุณหมอ คุยกัน แล้วพยาบาลเอาอ็อกซิเจนครอบจมูกตัว เพราะแม่หายใจแทบไม่ทัน
ตรวจชีพจรหนีบนิ้ว ตัวแม่นี่สั่นสะท้าน ตอนคุณหมอกรีดไปที่ท้องหนาๆของแม่นั้น รู้นะว่าโดนลงมีดแล้ว แต่ไม่มีอาการเจ็บ
เพราะได้ยาชามาเรียบร้อยแล้ว

เวลาผ่านไปได้ซักพักซัก 5 นาทีได้ แม่ได้ยินเสียงคุณหมอบอกว่า
“คุณหมอบอกจะเจอลูกแล้วนะ” หลังจากนั้นคุณหมอกดไล่จากลิ้นปี่มาท้องเลยจ้าาาาาาาา
แม่ทั้งเจ็บและจุกมาก กว่าน้องจะออกมาได้  รู้ซึ้งถึงคำว่า “แม่” แต่ยังไม่ทันได้ซึ้งจริงจัง
ทันใดนั้นเองก็มีคุณหมอผู้หญิงอีกท่านพูดว่า “ตื่นซิลูก!!!”
ตัวแม่นี่ช็อคเลยหลังจากจุกมา ในใจคิดเกิดอะไรขึ้นกับลูกช้านนนนนน

ซักพักนึง ได้ยินเสียง “อุแว้” จนพยาบาลแซวในห้องผ่าตัด ร้องดังมาก (ปัจจุบันก็ยังเสียงดีอยู่)
ตัวแม่ร้องไห้น้ำตาไหลพราก ช่วงเวลานั้น แม่ลืมความเจ็บและจุกไปชั่วขณะ

พยาบาลพาลูกชายมาให้หอมหลังทำความสะอาดตัดสายรกสายใยของแม่ไป
แล้วพยาบาลมาถามแม่ “ดูซิคุณแม่ ลูกหน้ากเหมือนใคร”
พอแม่ได้เห็นเท่านั้น รู้เลยว่าลูกเหมือนใคร ดูเพศลูก ส่งเข้าตู้พาไปห้องเนอรเซอรี่
ส่วนตัวแม่นอนตัวสั่น คุณหมอสูติฯก็เย็บแผลผ่าคลอดค่ะ (ลืมบอกไปว่า แม่ผ่าแบบบิกินี่เย็บด้วยไหมละลายแผลสวยมาก)

แม่ใส่อ็อกซิเจนอีกรอบนึง หายใจไม่ออก หนาวสั่นอีกรอบคราวนี้หนักกว่าเดิมเพราะรกได้ออกไปแล้ว
แม่ต้องพยายามปรับตัว ควบคุมอุณหภูมิ ได้ผ้าห่มช่วยให้อบอุ่นร่างกาย เพื่อปรับอุณหภูมิร่างกาย
อาการนี้ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ รู้สึกว่านอนหนาวนานมากกกก
พอออกจากห้องผ่าตัด ทั้งง่วงทั้งเพลียทั้งสั่น พยาบาลใส่ผ้าอนามัยห่วงไล่น้ำคาวปลาออกให้ได้ 15 cc.
พยาบาลมีการเปลี่ยนผ้าอนามัยแบบห่วงให้ทุก 4 ชม.
พยาบาลจะมาเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ วัดความดันทุก 15 นาที คลำหน้าท้องเช็ดดูว่ามดลูกหดรัดตัว
หลังจากผ่าเสร็จต้องนอนราบ 12 ชม. แล้วจะมีพยาบาลมาปรับเอียงศรีษะให้ 30-40 Cm. แต่ไม่ให้ลุกค่ะ

แม่เป็นหมูหันโดนพลิกซ้าย-ขวา ยกขาซ้าย-ขวา ขยับไปมา ให้ทางบ้านช่วยเพื่อไม่ให้เป็นพังผืดขึ้นที่แผลผ่าคลอด
เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้และระบบไหลเวียนของเลือด ช่วยลดอาการบวมแถมแผลแห้งไวขึ้นอีกด้วยค่ะ
วันนี้งดอาหารทั้งวันได้แต่จิบน้ำค่ะ น้ำนมแม่ยังไม่มาเลยT^T

ว่างๆ แม่จะมาแชร์เทคนิคน้ำนมฟาร์มนมแม่ให้นะคะ

แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่