สวัสดีครับ ผมชื่อแชมป์ ขณะที่เขียนกระทู้นี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยที่ผมจะเป็นตัวแทนของเพื่อน ๆ ร่วมทริปอีก 3 คนในการมาเล่าสิ่งที่ได้รับ และสิ่งที่ได้เจอตลอดทริปนี้ครับ
คอนเซปอย่างแรกในการเที่ยวครั้งนี้ของพวกเราคือ “Low Price High Experience” หรือก็คือการใช้เงินน้อยแต่ได้ประสบการณ์สูง ซึ่งเป็นคอนเซปที่อาจารย์ประจำวิชา GEN441 Culture and Excursion ได้ฝากมาให้คำนึงถึงในการออกทริปครั้งนี้ครับ
ส่วนคอนเซปอีกอย่างของพวกเราเลยคือ พวกเราจะไป “เล่นดนตรีเปิดหมวก” ซึ่งเป็นหนึ่งในความต้องการของ “เฟรม” เพื่อนของผมมานานแล้ว ซึ่งแน่นอนเราจะไปทำมัน และเราก็ได้นำกีตาร์ และคาฮองไปด้วย
--------------------- การวางแผน ---------------------
การวางแผนของเราจะเน้นเรื่องการเดินทางครับ โดยมีการจัดความสำคัญของแต่ละเรื่องให้สอดคล้องและเหมาะสม ดังนี้
วัน และเวลาในการออกเดินทาง : ให้ทุกคนว่าง และสะดวกตรงกันที่สุด
รูปแบบการเดินทาง : เป็นการเดินทางที่มีระยะเวลาเหมาะสม ไม่ซับซ้อนหลายต่อ
ราคา : ดูประกอบกับอีกทั้งสองข้อ ว่าเดินทางแบบไหน ด้วยอะไร ราคาไหนเหมาะสมสุด
สรุป เราเลือกการเดินทางด้วย รถทัวร์ของ “ภูกระดึงทัวร์” โดยออกเดินทางในวันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม เวลา 20.30 และจะกลับวันเสาร์ที่ 31 มีนาคม เวลา 18.50 ครับ
ในส่วนของการวางแผนด้านอื่น ๆ เช่น จะไปเที่ยวไหนบ้าง เราก็ไม่ได้วางแผนอะไรมากมายครับ อยากไปโดยให้ความรู้สึกในเวลานั้นพาพวกเราไป
ส่วนของที่พักพวกเราดูกันก่อนแล้วว่าว่างเยอะมาก เลยไม่ได้กังวลครับ
ก่อนที่จะเล่าเรื่องราวให้ทุกคนฟัง ผมอยากให้ทุกคนที่สะดวก รับชมวิดีโอความยาว 10 นาทีนี้กันก่อนครับ เป็นคลิปที่ผมตั้งใจทำมาก ๆ ครับแม้ปกติแล้วจะไม่ค่อยได้ตัดต่อวิดีโออะไรแบบนี้
โอเคครับเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
============= เริ่มออกเดินทาง =============
วันที่ 29 มีนาคม เวลา 20.30
ราขึ้นรถทัวร์เรียบร้อยพร้อมออกเดินทางจาก หมอชิต 2 แต่ดูจะมีปัญหาบางประการทำให้เราได้ออกเดินทางจากที่นี่จริง ๆ เวลา 22.30 ครับ
ตั๋วรถทัวร์ของพวกเราทั้ง 4 คนครับ
====================ถึงเชียงคาน====================
เช้าวันที่ 30 มีนาคม เวลา 07.30
เราถึงเชียงคานโดยสวัสดิภาพ แต่ก็ถึงช้ากว่ากำหนดประมาณ 3 ชม. แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นปัญหาอะไรครับ
หลังจากนั้นเราก็มุ่งตรงไปที่ “ถนนคนเดินเชียงคาน” เพื่อรับประทานมื้อเช้ากัน ซึ่งระหว่างทางก็จะมีชาวบ้านขี่ Sky lab มาแจกนามบัตรบ่อย ๆ หลายคันเลย โดยพวกเราก็ไม่ได้อยากขึ้นกัน เพราะพร้อมเดินกันจริง ๆ ซึ่งพวกเราก็ยินดีรับนามบัตรเหล่านั้นมาครับ
เช้านี้ที่เชียงคาน
หลังจากที่เรารับประทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไร ก็เลยเดินเล่นกันไปเรื่อย ๆ รับแดดอุ่น ๆ กับหมอกจาง ๆ ริมแม่น้ำโขง
หลังจากนั้นเราก็เลยเดินเล่นที่ถนนคนเดิน เพื่อหาที่พักไปด้วย ซึ่งก็ยังไม่เจอที่ใช่ จนกระทั่งมีมีคุณป้าท่านนึงเรียกเราไปถามว่าหาที่พักหรอ เค้าก็บอกว่า 800 บาทต่อคืนเท่านั้น พวกเราก็ไม่รีรอ เพราะราคาโอเค อีกทั้งยังเป็นโฮมสเตย์ ได้ลุ้นว่าจะเจอนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ อีก และจากตอนนั้น เราก็ได้รู้จักกับ พี่นิค ที่เป็นเจ้าของ “เชียงคาน ตะวันวา” แห่งนี้ ซึ่งบอกได้เลยว่าพี่นิคใจดีมาก และที่พักก็ดีมาก ๆ เช่นกัน ดูตามรูปได้เลย
การตกแต่งภายในที่พักจะเป็นการตกแต่งด้วย เครื่องมือเครื่องใช้สมัยก่อน รวมถึงภาพ หรือโปสเตอร์หนังเก่า ๆ
ป้าหนู ป้าคนนี้เป็นแนะนำที่พักที่นี่ให้พวกเราเอง
หลังจากนำข้าวของเก็บที่พักเรียบร้อย “เฟ่ต์” เพื่อนของผม ก็ได้พบกับ QR Code ที่ติดอยู่ตามเสาของเชียงคาน ก็เลยลอง Scan ดูแล้วพบว่ามันคือ Map ที่แสดง Location ของวันทั้ง 9 วัด พวกเราก็เลยตัดสินใจจะไปไหว้พระ 9 วัดกัน โดยจะเดินทางด้วย จักรยาน ครับ เราเลยได้ไปสอบถามป้าหนู ป้าที่แนะนำที่พักให้เรา เค้าก็แนะนำให้ไปเช่าที่ซอย 14 ครับ และเราก็ได้จักรยานมาในที่สุด คนละ 50 บาท คืนก่อน 3 ทุ่ม
==================== ไหว้พระ 9 วัด ====================
รายชื่อวัดที่เราได้เดินทางไปทั้ง 9 วัดมีดังนี้ครับ (เรียงลำดับตามที่พวกเราไป)
1. วัดมหาธาตุ
2. วัดป่าใต้
3. วัดศรีพนมมาศ
4. วัดป่ากลาง หรือ วัดมัชฌิมาราม
5. วัดสันติวนาราม
6. วัดศรีคุณเมือง
7. วัดโพนชัย
8. วัดภูช้างน้อย
9. วัดท่าคก
ต้องบอกเลยว่า การไปไหว้พระ 9 วัดของพวกเราในครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ และไม่เคยรับอะไรแบบนี้มาก่อน เนื่องจากเป็นการขี่จักรยานรวมระยะกว่า 20 กิโลเมตร (เพราะว่าหลง และอ้อมไปอ้อมมา) ซึ่งสนุกมากครับ พวกเราได้ยิ้มแย้ม เฮฮา หัวเราะกัน โดยต้องบอกเลยว่า แต่ละวัดมีความโดดเด่น และความหมายของแต่ละวัดเอง โดยพวกเราขอยกมา 2 วัดที่พวกเราได้ไปแล้วประทับใจนะครับ
==================== วัดป่าใต้ ====================
วัดนี้ที่พวกเราประทับใจก็คงเป็นเพราะได้ไปเจอกับชมรมผู้สูงอายุเชียงคานครับ เราได้พบกับคุณยายมากมาย มาร่วมทำของตกแต่งสำหรับงาน บุญพระเวส ซึ่งเป็นงานบุญที่จะจัดทุก ๆ เดือน 4 แต่ละวัดจัดไม่พร้อมกัน ซึ่งพวกเราได้เข้าไปนั่งทำร่วมกับคุณยาย ได้นั่งพูดคุย สนุกนาน เป็นเวลาหนึ่ง พอออกมาก็ได้รับทั้งความทรงจำ และความรู้ในเรื่องของการทำบุญพระเวส เช่น การทำของตกแต่งสำหรับงานนี้ จะต้องทำชนิดละ 1000 ชิ้นเป็นอย่างน้อย
==================== วัดภูช้างน้อย ====================
สิ่งที่ประทับใจมาก ๆ คงเป็นเส้นทางก่อนจะมาถึงวัดแห่งนี้ได้ครับ เนื่องจากพวกเราหลง และจังหวะนั้นเราก็ตามทาไปเรื่อย ๆ จนรู้ตัวอีกทีก็เข้าไปในป่าแล้ว ดูจาก Google map ก็มีเส้นทางให้ไป ระยะทาง 6 กิโลเมตร ซึ่งทางที่เราต้องไปนั้นเป็นเนินเขา พื้นผิวไม่สม่ำเสมอตลอดทาง ทางบางช่วงค่อนช้างชันมาก และขับยากมาก ๆ (จักรยานแม่บ้าน …) บอกเลยว่าสนุกมาก และเหนื่อยมากครับ ดูได้จากคลิปเลย ซึ่งเรามารู้ความจริงตอนจะถึงวัดแล้วคือ มันอยู่ใกล้จากจุดที่เราเริ่มเพียง 100 เมตร แต่พวกเราเล่นอ้อม ต้องเข้าป่าขึ้นเขา ซึ่งพวกเราไม่เสียดาย และพวกเราประทับใจครับ
==================== เปิดหมวก ====================
ช่วงค่ำพวกเราได้ไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน และหาอะไรกินกัน แต่ทว่า.. ฝนเริ่มลงเม็ด โดยที่เรายังไม่ได้เปิดหมวกกันเลย แต่เราก็ยังมีความหวังว่ามันจะไม่ตกหนัก และในที่สุดพวกเราก็ได้เปิดหมวกกันครับในช่วงเวลา 2 ทุ่ม ซึ่งมีเวลาประมาณ 1 ชม. เนื่องจากหลาย ๆ ร้านจะเริ่มปิด 3 ทุ่ม และหลายบ้านเริ่มจะเข้านอนพักผ่อนกัน และนั่นก็เป็น 1 ชม. ที่พวกเราได้ทำในสิ่งที่อยากทำครับ เล่นดนตรีเปิดหมวกร้องเพลงให้คนเดินไปเดินมาได้ฟัง ดีใจที่ได้เห็นคนยิ้มให้ หรือแม้กระทั่งมีเด็กมากวนด้วยการทำหน้าทะเล้นใส่อะไรงี้ 5555
==================== แก่งคุดคู้ ====================
ในวันที่ 2 (เสาร๋ที่ 31 มีนาคม)
พวกเราได้ออกเดินทางอีกครั้งด้วยการเช่าจักรยาน เพื่อไปยังแก่งคุดคู้ โดยมีระยทางประมาณ 6 กิโลเมตรครับ แต่เป็นทางไม่ค่อยยากลำบาก ขี่ตรง ๆ ไปเรื่อย ๆ ซึ่งก่อนที่เราจะถึงแก่งคุดคู้ เราก็ได้แวะที่วัดท่าแขกครับ
เมื่อไปถึงแก่งคุดคู้แล้วเราก็ไปเดินเล่น เก็บภาพ ต่างคนต่างได้พักผ่อน นั่งชมวิว ปล่อยไปตามความรู้ในแบบของแต่ละคนเองครับ
หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพครับ
--- สรุป ---
กระทู้นี้อาจจะไม่ได้มีความรู้มากมาย หรือได้เห็นภาพชัดเจนเท่าไหร่ แต่อยากจะมาถ่ายทอดความรู้สึกที่ได้รับออกมาจริง ๆ แค่นั้น พวกเราเชื่อว่า ทุก ๆ ที่มีความหมายในแบบของที่นั้น ๆ เอง และการท่องเที่ยวทำให้เราโตขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ความรู้ที่ได้ แต่มันทำให้เราเห็นอะไรมากขึ้น เห็นว่าจริง ๆ แล้วมีอะไรอีกเยอะที่เราไม่เคยเจอ บางทีการไปที่ไหนซ้ำ ๆ มันก็ไม่ใช่ว่าจะเหมือนเดิมเสมอไป ทุก ๆ อย่างเปลี่ยนแปลงไป
สุดท้ายนี้ถ้าถามว่าพวกเราได้อะไรจากการไปที่นี่ ก็คงเป็นความทรงจำ และประสบการณ์นี่แหละครับ และผมเชื่อว่าคงไม่มีใครได้รับสิ่งเหล่านี้ได้ดีกว่าการได้เจอด้วยตัวเอง
ขอบคุณทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านความรู้สึกที่พวกเราถ่ายทอดออกมานะครับ
ขอบคุณอาจารย์ที่ปรึกษารายวิชา GEN441 ทุกท่านเลยครับ
ขอบคุณเพื่อนร่วมทาง
สุดท้ายนี้
ขอฝากที่พักของพี่นิคมาไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
080-121 6803 080-121 6803 (พี่นิค ตะวันวา เชียงคาน รีสอร์ท)
ขอบคุณครับ
[CR] [เชียงคาน 2 วัน 1 คืน] เปิดหมวก ขี่จักรยานไหว้พระ 9 วัด แก่งคุดคู้
คอนเซปอย่างแรกในการเที่ยวครั้งนี้ของพวกเราคือ “Low Price High Experience” หรือก็คือการใช้เงินน้อยแต่ได้ประสบการณ์สูง ซึ่งเป็นคอนเซปที่อาจารย์ประจำวิชา GEN441 Culture and Excursion ได้ฝากมาให้คำนึงถึงในการออกทริปครั้งนี้ครับ
ส่วนคอนเซปอีกอย่างของพวกเราเลยคือ พวกเราจะไป “เล่นดนตรีเปิดหมวก” ซึ่งเป็นหนึ่งในความต้องการของ “เฟรม” เพื่อนของผมมานานแล้ว ซึ่งแน่นอนเราจะไปทำมัน และเราก็ได้นำกีตาร์ และคาฮองไปด้วย
--------------------- การวางแผน ---------------------
การวางแผนของเราจะเน้นเรื่องการเดินทางครับ โดยมีการจัดความสำคัญของแต่ละเรื่องให้สอดคล้องและเหมาะสม ดังนี้
วัน และเวลาในการออกเดินทาง : ให้ทุกคนว่าง และสะดวกตรงกันที่สุด
รูปแบบการเดินทาง : เป็นการเดินทางที่มีระยะเวลาเหมาะสม ไม่ซับซ้อนหลายต่อ
ราคา : ดูประกอบกับอีกทั้งสองข้อ ว่าเดินทางแบบไหน ด้วยอะไร ราคาไหนเหมาะสมสุด
สรุป เราเลือกการเดินทางด้วย รถทัวร์ของ “ภูกระดึงทัวร์” โดยออกเดินทางในวันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม เวลา 20.30 และจะกลับวันเสาร์ที่ 31 มีนาคม เวลา 18.50 ครับ
ในส่วนของการวางแผนด้านอื่น ๆ เช่น จะไปเที่ยวไหนบ้าง เราก็ไม่ได้วางแผนอะไรมากมายครับ อยากไปโดยให้ความรู้สึกในเวลานั้นพาพวกเราไป
ส่วนของที่พักพวกเราดูกันก่อนแล้วว่าว่างเยอะมาก เลยไม่ได้กังวลครับ
ก่อนที่จะเล่าเรื่องราวให้ทุกคนฟัง ผมอยากให้ทุกคนที่สะดวก รับชมวิดีโอความยาว 10 นาทีนี้กันก่อนครับ เป็นคลิปที่ผมตั้งใจทำมาก ๆ ครับแม้ปกติแล้วจะไม่ค่อยได้ตัดต่อวิดีโออะไรแบบนี้
โอเคครับเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
============= เริ่มออกเดินทาง =============
วันที่ 29 มีนาคม เวลา 20.30
ราขึ้นรถทัวร์เรียบร้อยพร้อมออกเดินทางจาก หมอชิต 2 แต่ดูจะมีปัญหาบางประการทำให้เราได้ออกเดินทางจากที่นี่จริง ๆ เวลา 22.30 ครับ
====================ถึงเชียงคาน====================
เช้าวันที่ 30 มีนาคม เวลา 07.30
เราถึงเชียงคานโดยสวัสดิภาพ แต่ก็ถึงช้ากว่ากำหนดประมาณ 3 ชม. แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นปัญหาอะไรครับ
หลังจากนั้นเราก็มุ่งตรงไปที่ “ถนนคนเดินเชียงคาน” เพื่อรับประทานมื้อเช้ากัน ซึ่งระหว่างทางก็จะมีชาวบ้านขี่ Sky lab มาแจกนามบัตรบ่อย ๆ หลายคันเลย โดยพวกเราก็ไม่ได้อยากขึ้นกัน เพราะพร้อมเดินกันจริง ๆ ซึ่งพวกเราก็ยินดีรับนามบัตรเหล่านั้นมาครับ
หลังจากที่เรารับประทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไร ก็เลยเดินเล่นกันไปเรื่อย ๆ รับแดดอุ่น ๆ กับหมอกจาง ๆ ริมแม่น้ำโขง
หลังจากนั้นเราก็เลยเดินเล่นที่ถนนคนเดิน เพื่อหาที่พักไปด้วย ซึ่งก็ยังไม่เจอที่ใช่ จนกระทั่งมีมีคุณป้าท่านนึงเรียกเราไปถามว่าหาที่พักหรอ เค้าก็บอกว่า 800 บาทต่อคืนเท่านั้น พวกเราก็ไม่รีรอ เพราะราคาโอเค อีกทั้งยังเป็นโฮมสเตย์ ได้ลุ้นว่าจะเจอนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ อีก และจากตอนนั้น เราก็ได้รู้จักกับ พี่นิค ที่เป็นเจ้าของ “เชียงคาน ตะวันวา” แห่งนี้ ซึ่งบอกได้เลยว่าพี่นิคใจดีมาก และที่พักก็ดีมาก ๆ เช่นกัน ดูตามรูปได้เลย
หลังจากนำข้าวของเก็บที่พักเรียบร้อย “เฟ่ต์” เพื่อนของผม ก็ได้พบกับ QR Code ที่ติดอยู่ตามเสาของเชียงคาน ก็เลยลอง Scan ดูแล้วพบว่ามันคือ Map ที่แสดง Location ของวันทั้ง 9 วัด พวกเราก็เลยตัดสินใจจะไปไหว้พระ 9 วัดกัน โดยจะเดินทางด้วย จักรยาน ครับ เราเลยได้ไปสอบถามป้าหนู ป้าที่แนะนำที่พักให้เรา เค้าก็แนะนำให้ไปเช่าที่ซอย 14 ครับ และเราก็ได้จักรยานมาในที่สุด คนละ 50 บาท คืนก่อน 3 ทุ่ม
==================== ไหว้พระ 9 วัด ====================
รายชื่อวัดที่เราได้เดินทางไปทั้ง 9 วัดมีดังนี้ครับ (เรียงลำดับตามที่พวกเราไป)
1. วัดมหาธาตุ
2. วัดป่าใต้
3. วัดศรีพนมมาศ
4. วัดป่ากลาง หรือ วัดมัชฌิมาราม
5. วัดสันติวนาราม
6. วัดศรีคุณเมือง
7. วัดโพนชัย
8. วัดภูช้างน้อย
9. วัดท่าคก
ต้องบอกเลยว่า การไปไหว้พระ 9 วัดของพวกเราในครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ และไม่เคยรับอะไรแบบนี้มาก่อน เนื่องจากเป็นการขี่จักรยานรวมระยะกว่า 20 กิโลเมตร (เพราะว่าหลง และอ้อมไปอ้อมมา) ซึ่งสนุกมากครับ พวกเราได้ยิ้มแย้ม เฮฮา หัวเราะกัน โดยต้องบอกเลยว่า แต่ละวัดมีความโดดเด่น และความหมายของแต่ละวัดเอง โดยพวกเราขอยกมา 2 วัดที่พวกเราได้ไปแล้วประทับใจนะครับ
==================== วัดป่าใต้ ====================
วัดนี้ที่พวกเราประทับใจก็คงเป็นเพราะได้ไปเจอกับชมรมผู้สูงอายุเชียงคานครับ เราได้พบกับคุณยายมากมาย มาร่วมทำของตกแต่งสำหรับงาน บุญพระเวส ซึ่งเป็นงานบุญที่จะจัดทุก ๆ เดือน 4 แต่ละวัดจัดไม่พร้อมกัน ซึ่งพวกเราได้เข้าไปนั่งทำร่วมกับคุณยาย ได้นั่งพูดคุย สนุกนาน เป็นเวลาหนึ่ง พอออกมาก็ได้รับทั้งความทรงจำ และความรู้ในเรื่องของการทำบุญพระเวส เช่น การทำของตกแต่งสำหรับงานนี้ จะต้องทำชนิดละ 1000 ชิ้นเป็นอย่างน้อย
==================== วัดภูช้างน้อย ====================
สิ่งที่ประทับใจมาก ๆ คงเป็นเส้นทางก่อนจะมาถึงวัดแห่งนี้ได้ครับ เนื่องจากพวกเราหลง และจังหวะนั้นเราก็ตามทาไปเรื่อย ๆ จนรู้ตัวอีกทีก็เข้าไปในป่าแล้ว ดูจาก Google map ก็มีเส้นทางให้ไป ระยะทาง 6 กิโลเมตร ซึ่งทางที่เราต้องไปนั้นเป็นเนินเขา พื้นผิวไม่สม่ำเสมอตลอดทาง ทางบางช่วงค่อนช้างชันมาก และขับยากมาก ๆ (จักรยานแม่บ้าน …) บอกเลยว่าสนุกมาก และเหนื่อยมากครับ ดูได้จากคลิปเลย ซึ่งเรามารู้ความจริงตอนจะถึงวัดแล้วคือ มันอยู่ใกล้จากจุดที่เราเริ่มเพียง 100 เมตร แต่พวกเราเล่นอ้อม ต้องเข้าป่าขึ้นเขา ซึ่งพวกเราไม่เสียดาย และพวกเราประทับใจครับ
==================== เปิดหมวก ====================
ช่วงค่ำพวกเราได้ไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน และหาอะไรกินกัน แต่ทว่า.. ฝนเริ่มลงเม็ด โดยที่เรายังไม่ได้เปิดหมวกกันเลย แต่เราก็ยังมีความหวังว่ามันจะไม่ตกหนัก และในที่สุดพวกเราก็ได้เปิดหมวกกันครับในช่วงเวลา 2 ทุ่ม ซึ่งมีเวลาประมาณ 1 ชม. เนื่องจากหลาย ๆ ร้านจะเริ่มปิด 3 ทุ่ม และหลายบ้านเริ่มจะเข้านอนพักผ่อนกัน และนั่นก็เป็น 1 ชม. ที่พวกเราได้ทำในสิ่งที่อยากทำครับ เล่นดนตรีเปิดหมวกร้องเพลงให้คนเดินไปเดินมาได้ฟัง ดีใจที่ได้เห็นคนยิ้มให้ หรือแม้กระทั่งมีเด็กมากวนด้วยการทำหน้าทะเล้นใส่อะไรงี้ 5555
==================== แก่งคุดคู้ ====================
ในวันที่ 2 (เสาร๋ที่ 31 มีนาคม)
พวกเราได้ออกเดินทางอีกครั้งด้วยการเช่าจักรยาน เพื่อไปยังแก่งคุดคู้ โดยมีระยทางประมาณ 6 กิโลเมตรครับ แต่เป็นทางไม่ค่อยยากลำบาก ขี่ตรง ๆ ไปเรื่อย ๆ ซึ่งก่อนที่เราจะถึงแก่งคุดคู้ เราก็ได้แวะที่วัดท่าแขกครับ
เมื่อไปถึงแก่งคุดคู้แล้วเราก็ไปเดินเล่น เก็บภาพ ต่างคนต่างได้พักผ่อน นั่งชมวิว ปล่อยไปตามความรู้ในแบบของแต่ละคนเองครับ
หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพครับ
--- สรุป ---
กระทู้นี้อาจจะไม่ได้มีความรู้มากมาย หรือได้เห็นภาพชัดเจนเท่าไหร่ แต่อยากจะมาถ่ายทอดความรู้สึกที่ได้รับออกมาจริง ๆ แค่นั้น พวกเราเชื่อว่า ทุก ๆ ที่มีความหมายในแบบของที่นั้น ๆ เอง และการท่องเที่ยวทำให้เราโตขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ความรู้ที่ได้ แต่มันทำให้เราเห็นอะไรมากขึ้น เห็นว่าจริง ๆ แล้วมีอะไรอีกเยอะที่เราไม่เคยเจอ บางทีการไปที่ไหนซ้ำ ๆ มันก็ไม่ใช่ว่าจะเหมือนเดิมเสมอไป ทุก ๆ อย่างเปลี่ยนแปลงไป
สุดท้ายนี้ถ้าถามว่าพวกเราได้อะไรจากการไปที่นี่ ก็คงเป็นความทรงจำ และประสบการณ์นี่แหละครับ และผมเชื่อว่าคงไม่มีใครได้รับสิ่งเหล่านี้ได้ดีกว่าการได้เจอด้วยตัวเอง
ขอบคุณทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านความรู้สึกที่พวกเราถ่ายทอดออกมานะครับ
ขอบคุณอาจารย์ที่ปรึกษารายวิชา GEN441 ทุกท่านเลยครับ
ขอบคุณเพื่อนร่วมทาง
สุดท้ายนี้
ขอฝากที่พักของพี่นิคมาไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
080-121 6803 080-121 6803 (พี่นิค ตะวันวา เชียงคาน รีสอร์ท)
ขอบคุณครับ