ผลงานชิ้นแรกฝากติชมได้จ้ะ
บทที่1 จุดเริ่มต้น
ชายคนหนึ่งพยายามจะฆ่าตัวตายเพื่อหนีจากความเจ็บปวด คืนที่มืดมิดและเงียบสงัด ยิ่งซ้ำเติมความรู้สึกปวดร้าวว่ามันอ้างว้างเพียงใดในหัวใจ เค้ารู้สึกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาในชีวิต มันหนักเกินไปที่คนคนหนึ่งคนควรจะแบกรับเอาไว้ ยาเม็ดสีฟ้าจะช่วยทำให้เค้าหลับไปได้ตลอดกาลถูกวางลงบนฝ่ามือ ในปริมาณที่มากกว่าชีวิตคนคนหนึ่งควรจะกิน น้ำตาไหลรินอาบแก้ม เสียงสะอึกสะอื้น สั่นสะเทือน อัดอั้นอยู่ในใจ และไม่สามารถจะปลดปล่อยออกมาได้เป็นถ้อยคำ กล้ามเนื้อแขนพยายามออกแรงเพื่อยกผงยาอัดเม็ดทรงกลมสีฟ้าขึ้นมา
“นี่นายจะจบแค่นี้...นายจะจบด้วยเรื่องแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” มีเสียงบางเสียงแล่นเข้ามาในหัวของอดัมส์
อดัมส์อ่อนแรงและทิ้งแขนทั้งสองลงข้างกาย ยาเม็ดสีฟ้าเคลื่อนผ่านฝ่ามือไหลลงพื้น เค้าใช้แรงทั้งหมดที่มีอยู่ยืนหยัดร่างของตัวเองเอาไว้
“ใช่สิ! เราจะมาจบแค่นี้จริง ๆ เหรอ?” เขาหัวเราะทั้งน้ำตา ทั้งความเสียใจและดีใจ ปะปน และขัดแย้งอยู่ข้างใน อดัมส์ล้มเลิกความคิดจะฆ่าตัวตาย และยังติดใจกับเสียงที่ดังเข้ามาช่วยเค้าไว้ตอนนั้น
เวลา 08:00 น.
กริ๊ง!!!!!!!!–เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น อดัมส์หยิบมือถือขึ้นมาดู
เขาพยายามเคลื่อนไหวขยับร่างกาย และลุกขึ้นมาจากเตียง
“เกิดอะไรขึ้นกับเราเนี่ย? ทำไมเราขยับร่างกายไม่ได้?”—อดัมส์สงสัยและตกใจ
ชายหนุ่ม ผิวขาว ผมดำ นัยน์ตาดำสนิท ปรากฏตัวขึ้นมาปลายเตียงของอดัมส์
อดัมส์ตกใจกับสิ่งที่ตัวเองเห็น เค้าไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง ว่าสิ่งที่เค้ากำลังเห็นอยู่นั้นเป็นความจริง
“เราคงจะฝันไป”—อดัมส์พยายามจะขยับตัวอีกครั้ง และสิ่งที่เค้าอยากทำก็คือ…ตบหน้าตัวเองแรง ๆ
“หุ หุ !!!” ชายผิวขาวหัวเราะ เขาก้าวเดินออกจากจุดเดิม และเริ่มเข้ามาใกล้อดัมส์มากขึ้นเรื่อย ๆ
“แก…แกเป็นใคร?”—อดัมส์ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ—และรู้สึกสับสนในตัวเองเช่นกัน เขาสงสัยว่าตัวเองสามารถขยับปากและออกเสียงได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้ยังเส้นยึด ตะคริวเหน็บ อย่างกับเป็นอัมพาตอยู่เลย
กรี้ง!!!!! ตึง!!!!!!
อดัมส์ลืมตาขึ้นมา และก็พบว่าตัวเองนั้นนอนอยู่บนพื้น แน่นอน เค้ารู้ดีว่าเสียงนาฬิกาปลุกโง่ ๆ นั่น ทำเค้าตกใจจนตกลงมาจากเตียงไม่เป็นท่า
แสงสีทองส่องผ่านผ้าม่านที่เคลื่อนไหวตามสายลมไปมาทางช่องหน้าต่าง รุ่งอรุณที่สดใสเริ่มเลือนรางตามธรรมชาติของเวลา
“ใช่สิ..เมื่อคืนเราเกือบจะจบชีวิตตัวเองไปแล้ว” เขาพูดกับตัวเอง
เขาลุกขึ้นจากพื้นและเดินตรงไปที่ระเบียง ประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่างโลกส่วนตัวและโลกภายนอกถูกเลื่อนเปิดออก ขาขวาจากการก้าวจนคุ้นชินค่อย ๆ ยก ปลายเท้าสัมผัสกับอุณหภูมิพื้นด้านนอกที่แตกต่าง
เรื่องราวที่ผ่านมาของอดัมส์ ไม่ว่าจะเรื่องความรัก ความผิดหวัง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นก้าวมาสู่จุดที่ไม่มีวันสิ้นสุด
“เหมือนจะจบ แต่มันไม่เคยจบสักทีสินะ” เสียงอ่อนโยนดังมาจากข้างหลังของอดัมส์
อดัมส์หันหลังกลับไปมองตามสัญชาตญาณ
“นายคนนั้นที่เจอกันในฝันนี่”—อดัมส์ตกใจและสับสนกับสิ่งที่ตัวเองเห็น
“ชักจะหนักแล้วนะเรา”—อุ้งมือขวาถูกยกขึ้นสัมผัสกับหน้าผาก อดัมส์ก้มหน้าลงเล็กน้อยและก็คิดว่า เค้าคงจะบ้าไปแล้วที่เห็นอะไรแบบนี้ ที่นี่ และตอนนี้
“นายไม่ได้ฝันไปหรอก อดัมส์”—ชายผิวขาวซีดสัมผัสที่ข้อมือของอดัมส์ เขากุมข้อมือของอดัมส์ และดึงมันลงมาจากหน้าผาก และนี่เป็นวินาทีแรกที่สายตาทั้งสองคู่สัมผัสบรรจบกัน อุณหภูมิจากร่างกายของชายผิวขาวที่ส่งต่อผ่านผิวหนังของอดัมส์ทำให้เค้ามั่นใจว่า…เค้าไม่ได้ฝันไป
“เรียกฉันว่า ยู”
“ยู....”— อดัมส์ตั้งสติเพื่อให้ตัวเองมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป หรือกำลังเห็นภาพหลอน
“เอ่อ…ยู ที่แปลว่า You ภาษาอังกฤษหรือ ตัว U ที่เป็นตัวอักษรครับ”—อดัมส์
“แปลได้ตามสบายแบบที่นายชอบเลย”—ยูยิ้ม
อดัมส์: “คือ…ที่นี่มันบ้านของผม ห้องของผม เอ่อ…แล้วคุณเข้ามา..ได้ยังไงเนี่ย?…แบบนี้เข้าข่ายการบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวนะครับ”— อดัมส์มึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจับต้นชนปลายไม่ถูก ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่
“แต่ที่แน่ ๆ สิ่งที่หมอนั่นพูด มันตรงกับที่เรารู้สึกอยู่จริง ๆ”—เขาพยายามตั้งสติ
ยูเดินไปริมระเบียง พร้อมมองออกไปด้านนอก แขนทั้งสองข้างเกยอยู่ขอบระเบียง เปรียบเสมือนการเชื้อเชิญให้อดัมส์เข้ามายืนอยู่ข้าง ๆ
“ผิดหวังมาเหรอไง?”—ยูถามด้วยความเป็นห่วง
อดัมส์: “อืม..ครับ ก็ประมาณนั้น”—อดัมส์เข้าไปยืนข้าง ๆ ยูตามสัญชาตญาณความรู้สึกของตัวเอง—ไม่ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกแล้ว
“ฉันไม่อยากจะทำให้เสียเวลา และฉันก็รู้ว่าสักวันนายจะเข้าใจมันได้เอง เกิดอะไรขึ้นกับเธอล่ะ?”
ด้วยความอัดอั้นตันใจจากเรื่องราวต่าง ๆ ที่อดัมส์เพิ่งเจอมา อดัมส์ร้องไห้โฮออกมา น้ำตาของลูกผู้ชายไหลลงมาเป็นสายน้ำ
“ฉันเสียใจ ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกครั้งที่รักใคร มันก็จบ…จบลงแบบเดิม เสียใจเหมือนเดิม…ทุกครั้ง”—อดัมส์ปาดน้ำตา
“ฉันอยากฟังเรื่องของเธอ เธอยินดีที่จะเล่าให้ฟังไหม..”—ยูหันไปมอง—อดัมส์พยักหน้า
“ทุกครั้งที่มีความรัก ไม่ว่าใคร สุดท้ายก็ต้องเสียใจ ไม่ว่าจะใครหน้าไหนก็เหมือน ๆ กันหมด”—อดัมส์สะอึกสะอื้น
“ที่เหมือนกันนี่หมายถึงอะไรเหรอ?”—ยูถามด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์
“พวกเค้าทำให้ฉันเสียใจ”—เสียงสะอื้นของอดัมส์ไหลมาพร้อมกับน้ำตา
“ฉันพยายามที่สุดแล้ว…ได้เท่านี้จริง ๆ”—อดัมส์เอามือเช็ดน้ำตา
ในขณะที่ยูกำลังตั้งใจฟังอดัมส์พร่ำทุกข์ ท้องฟ้าก็เปลี่ยนสี พื้นดินสั่นสะเทือนเสมือนโลกนี้กำลังจะล่มสลายลง แสงเจิดจ้าที่ไม่สามารถหาทิศทางได้ สว่างขึ้นเรื่อย ๆ แล้วแสงนั้นก็ดับลง
สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าอดัมส์ คือวันที่เขาบอกเลิกกับแฟน เขามองเห็นตัวเองและแฟนเก่าปรากฏอยู่ตรงหน้า
“ไม่ต้องตกใจนะ ฉันเป็นคนนำเธอย้อนเวลามาเอง”—ยูพูด
“และสิ่งที่ฉันอยากบอกกับเธอ คือ ที่เธอเห็นอยู่นั้นมันเป็นความจริง ก็จริง อยู่ แต่เราไม่สามารถแก้ไขผู้คน และเหตุการณ์ให้เปลี่ยนไปได้ แล้วเธอจะเข้าใจมันหลังจากนี้”—ยูผลักอดัมส์ อดัมส์หายเข้าไปในร่างของตัวเองอีกคนที่เค้าเห็นอยู่ตรงหน้า
“เห้ย!!! เดี๋ยว!!!”—อดัมส์ตะโกน—เขาเข้าไปเป็นตัวเองในอดีตที่แสนโหดร้ายในวันที่เค้าบอกเลิกกับแฟน
“เต็มที่นะ หลังจากนี้ สิ่งที่เธอเห็น เสียงที่ได้ยิน ทุกสัมผัสและความรู้สึกมันอาจจะเหมือนจริงมาก และถ้าเธอยิ่งรู้สึกว่ามันจริงมากเท่าไหร่ มันก็จะดีกับเธอเท่านั้น”—ยู
ภาพในวันนั้นมันเหมือนจริงเสียจนอดัมส์เองก็ไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ยูสร้างขึ้นมา เธอคนนั้น ที่เคยเป็นที่รักของอดัมส์ปรากฏอยู่ตรงหน้า—“ใช่เธออยู่ต่อหน้าผมแล้ว… “
“เราเลิกกันเถอะ”—อดัมส์พูด
“ใช่...ผมเป็นคนบอกเลิกเธอ...และผมแค่...ต้องการจะรู้ว่าตัวเองนั้นยังสำคัญ...ทุกครั้งที่บอกเลิก เธอเองจะเป็นคนตามมาง้อผมเสมอ...แต่...ครั้งนี้...มันเกิดอะไรขึ้น? ผมรู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไป ผมหวงเธอที่เธอต้องออกไปทำกิจกรรมกับเพื่อนของเธอบ่อย ๆ ผมก็แค่ต้องการให้เธออยู่ข้าง ๆ ผม มีเวลาให้กับผมบ้างเท่านั้นเอง และสิ่งที่ผมพูดไปอาจจะทำให้เธอเสียใจทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน”—อดัมส์
เจนนิเฟอร์ยอมรับคำบอกเลิกของอดัมส์ และเธอก็เดินจากไป ภาพที่อดัมส์เห็นเลือนรางหายไป ภาพเดิมตอนที่อดัมส์กำลังบอกเลิกกับแฟนหวนกลับมาปรากฏในมโนทัศน์ของเขาเองอีกครั้ง
“เห็นแล้วใช่ไหมหละ…จากนี้ ฉันจะทำให้เธอได้เห็นอีกมิติที่เธอควรจะต้องเห็น เพื่อตัวเธอเองนะอดัมส์”—ยูผลักอดัมส์เข้าไปหาเจนนิเฟอร์ อดัมส์หายไปในร่างหญิงสาวแสนสวยราวกับเป็นวิญญาณ
สิ่งที่อดัมส์เห็นคือตัวเองในวันที่กำลังจะบอกเลิกเจนนิเฟอร์ และตัวเค้าเองกำลังจะพูดคำนั้นออกไป แต่ในครั้งนี้ ภาพ เสียง ความรู้สึก และสัมผัสที่มีเสมือนตัวเขาเองกลายเป็นหนึ่งเดียวกับเจนนิเฟอร์
“เลิกกันเถอะ”—เสียงที่เจนนิเฟอร์ได้ยิน
เจนนิเฟอร์พยักหน้า มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้ยินจากปากของอดัมส์ มันเป็นแบบนี้มาตลอด หลายครั้ง และเสมอมาที่เธอคบกับอดัมส์ เธอมักจะถูกบอกเลิกบ่อย ๆ เธอเจ็บปวด และเธอไม่สามารถจะทนกับความรู้สึกซ้ำ ๆ แบบนี้ได้อีกต่อไป ถ้าเธอไม่ตัดสินใจ ให้มันจบในวันนี้ มันจะมีครั้งต่อไป และถ้าเป็นแบบนี้ต่อ ๆ ไป สัก 2 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี ชีวิตเธอก็คงต้องแย่แน่ ๆ
ยูปรากฏกายเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์
“ฉันเข้าใจเธอทุกอย่าง เจนนิเฟอร์…สิ่งที่เธอทำไปอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องที่สุด แต่มันก็ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้แล้ว เพราะถ้าเป็นฉันโตมาเหมือนเธอ ถูกเลี้ยงดูมาเหมือนกับเธอ เจอเรื่องราวทุกอย่างเหมือน ๆ กับเธอ…ฉันเองก็คงจะทำแบบเธอเช่นกัน”—ยูพูด
“ฉันเจ็บปวด และฉันไม่อยากจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ซ้ำ ๆ อีก ฉันต้องการมีสังคมของตัวเองบ้าง”—เจนนิเฟอร์พูด
“เธอต้องการจะพูดอะไรกับอดัมส์เพื่อให้เค้าให้อภัยเธอได้บ้าง?”—ยู
“ฉันขอโทษในสิ่งที่ฉันทำ บางครั้งมันอาจทำให้เธอเจ็บปวด เสียใจ และฉันไม่สามารถจะทนเห็นเธอเป็นแบบนี้เพราะฉันอีกได้จริง ๆ ขอบคุณที่รักกันเสมอมา และฉันก็เคยรักเธอเช่นกัน”—เจนนิเฟอร์กล่าว
แสงสีขาวสว่างจ้าปิดบังสายตาของเจนนิเฟอร์ และทุกอย่างก็หายไปกับความรู้สึกเจ็บปวดที่อดัมส์เคยมี ภาพอดัมส์ในวันนั้น ในเวอร์ชั่นที่ได้เรียนรู้มิติที่ตัวเองมองข้ามไปปรากฏอยู่ต่อหน้า ตัวเขาเองในปัจจุบัน และเขา(อดัมส์ในอดีต) กำลังเลือนรางหายไป
“เดี๋ยวก่อน!!!”—อดัมส์คนปัจจุบันร้องเรียกตัวเองในอดีต
“สิ่งที่นายเจอมาฉันเองก็เข้าใจดี ต่อไปนี้อย่าบอกเลิกใครที่เรารักเพื่อพิสูจน์ความสำคัญของตัวเองอีกล่ะ สักวันนายเองก็จะผ่านมันมาได้แบบฉันในวันนี้ นายจะเจอผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต บางครั้งนายเองก็อาจจะสับสน อาจจะไม่รู้ว่าสิ่งที่ต้องเจอหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร นายอาจต้องร้องไห้อีกครั้ง หรืออาจจะต้องเสียใจ แต่นายจะผ่านมันไปได้ แล้วสุดท้ายมันจะทำให้นายเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม รักตัวเองมาก ๆ ล่ะ”
ภาพที่อดัมส์เห็นในเหตุการณ์นั้นเลือนหายไปกับสายลมแห่งกาลเวลา ฝ่ามือที่อบอุ่นของยูวางบนไหล่ซ้ายของอดัมส์อย่างอ่อนโยน
“เป็นยังไงบ้าง? เมื่อมองย้อนกลับไปในวันนั้นแล้วยังรู้สึกแย่อยู่อีกไหม?”—ยูถาม
อดัมส์: “ไม่แล้วหละ....ขอบคุณมากนะ ยู”
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้น อดัมส์ลืมตาตื่นขึ้นมาและก็พบว่าตัวเองนั้นอยู่บนเตียง เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันอาจจะเป็นแค่ความฝันแต่มันก็เหมือนจริงมาก ๆ บางครั้งเราเองอาจไม่เคยรู้อะไรเลยก็ได้ ว่าอะไรที่จริง หรือไม่จริง หรือพวกเราเองอาจจะเป็นสิ่งที่สมมติขึ้นมาทั้งหมด ทั้งโลกนี้ และจักรวาล
Your Dream EP1
ชายคนหนึ่งพยายามจะฆ่าตัวตายเพื่อหนีจากความเจ็บปวด คืนที่มืดมิดและเงียบสงัด ยิ่งซ้ำเติมความรู้สึกปวดร้าวว่ามันอ้างว้างเพียงใดในหัวใจ เค้ารู้สึกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาในชีวิต มันหนักเกินไปที่คนคนหนึ่งคนควรจะแบกรับเอาไว้ ยาเม็ดสีฟ้าจะช่วยทำให้เค้าหลับไปได้ตลอดกาลถูกวางลงบนฝ่ามือ ในปริมาณที่มากกว่าชีวิตคนคนหนึ่งควรจะกิน น้ำตาไหลรินอาบแก้ม เสียงสะอึกสะอื้น สั่นสะเทือน อัดอั้นอยู่ในใจ และไม่สามารถจะปลดปล่อยออกมาได้เป็นถ้อยคำ กล้ามเนื้อแขนพยายามออกแรงเพื่อยกผงยาอัดเม็ดทรงกลมสีฟ้าขึ้นมา
“นี่นายจะจบแค่นี้...นายจะจบด้วยเรื่องแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” มีเสียงบางเสียงแล่นเข้ามาในหัวของอดัมส์
อดัมส์อ่อนแรงและทิ้งแขนทั้งสองลงข้างกาย ยาเม็ดสีฟ้าเคลื่อนผ่านฝ่ามือไหลลงพื้น เค้าใช้แรงทั้งหมดที่มีอยู่ยืนหยัดร่างของตัวเองเอาไว้
“ใช่สิ! เราจะมาจบแค่นี้จริง ๆ เหรอ?” เขาหัวเราะทั้งน้ำตา ทั้งความเสียใจและดีใจ ปะปน และขัดแย้งอยู่ข้างใน อดัมส์ล้มเลิกความคิดจะฆ่าตัวตาย และยังติดใจกับเสียงที่ดังเข้ามาช่วยเค้าไว้ตอนนั้น
เวลา 08:00 น.
กริ๊ง!!!!!!!!–เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น อดัมส์หยิบมือถือขึ้นมาดู
เขาพยายามเคลื่อนไหวขยับร่างกาย และลุกขึ้นมาจากเตียง
“เกิดอะไรขึ้นกับเราเนี่ย? ทำไมเราขยับร่างกายไม่ได้?”—อดัมส์สงสัยและตกใจ
ชายหนุ่ม ผิวขาว ผมดำ นัยน์ตาดำสนิท ปรากฏตัวขึ้นมาปลายเตียงของอดัมส์
อดัมส์ตกใจกับสิ่งที่ตัวเองเห็น เค้าไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง ว่าสิ่งที่เค้ากำลังเห็นอยู่นั้นเป็นความจริง
“เราคงจะฝันไป”—อดัมส์พยายามจะขยับตัวอีกครั้ง และสิ่งที่เค้าอยากทำก็คือ…ตบหน้าตัวเองแรง ๆ
“หุ หุ !!!” ชายผิวขาวหัวเราะ เขาก้าวเดินออกจากจุดเดิม และเริ่มเข้ามาใกล้อดัมส์มากขึ้นเรื่อย ๆ
“แก…แกเป็นใคร?”—อดัมส์ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ—และรู้สึกสับสนในตัวเองเช่นกัน เขาสงสัยว่าตัวเองสามารถขยับปากและออกเสียงได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้ยังเส้นยึด ตะคริวเหน็บ อย่างกับเป็นอัมพาตอยู่เลย
กรี้ง!!!!! ตึง!!!!!!
อดัมส์ลืมตาขึ้นมา และก็พบว่าตัวเองนั้นนอนอยู่บนพื้น แน่นอน เค้ารู้ดีว่าเสียงนาฬิกาปลุกโง่ ๆ นั่น ทำเค้าตกใจจนตกลงมาจากเตียงไม่เป็นท่า
แสงสีทองส่องผ่านผ้าม่านที่เคลื่อนไหวตามสายลมไปมาทางช่องหน้าต่าง รุ่งอรุณที่สดใสเริ่มเลือนรางตามธรรมชาติของเวลา
“ใช่สิ..เมื่อคืนเราเกือบจะจบชีวิตตัวเองไปแล้ว” เขาพูดกับตัวเอง
เขาลุกขึ้นจากพื้นและเดินตรงไปที่ระเบียง ประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่างโลกส่วนตัวและโลกภายนอกถูกเลื่อนเปิดออก ขาขวาจากการก้าวจนคุ้นชินค่อย ๆ ยก ปลายเท้าสัมผัสกับอุณหภูมิพื้นด้านนอกที่แตกต่าง
เรื่องราวที่ผ่านมาของอดัมส์ ไม่ว่าจะเรื่องความรัก ความผิดหวัง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นก้าวมาสู่จุดที่ไม่มีวันสิ้นสุด
“เหมือนจะจบ แต่มันไม่เคยจบสักทีสินะ” เสียงอ่อนโยนดังมาจากข้างหลังของอดัมส์
อดัมส์หันหลังกลับไปมองตามสัญชาตญาณ
“นายคนนั้นที่เจอกันในฝันนี่”—อดัมส์ตกใจและสับสนกับสิ่งที่ตัวเองเห็น
“ชักจะหนักแล้วนะเรา”—อุ้งมือขวาถูกยกขึ้นสัมผัสกับหน้าผาก อดัมส์ก้มหน้าลงเล็กน้อยและก็คิดว่า เค้าคงจะบ้าไปแล้วที่เห็นอะไรแบบนี้ ที่นี่ และตอนนี้
“นายไม่ได้ฝันไปหรอก อดัมส์”—ชายผิวขาวซีดสัมผัสที่ข้อมือของอดัมส์ เขากุมข้อมือของอดัมส์ และดึงมันลงมาจากหน้าผาก และนี่เป็นวินาทีแรกที่สายตาทั้งสองคู่สัมผัสบรรจบกัน อุณหภูมิจากร่างกายของชายผิวขาวที่ส่งต่อผ่านผิวหนังของอดัมส์ทำให้เค้ามั่นใจว่า…เค้าไม่ได้ฝันไป
“เรียกฉันว่า ยู”
“ยู....”— อดัมส์ตั้งสติเพื่อให้ตัวเองมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป หรือกำลังเห็นภาพหลอน
“เอ่อ…ยู ที่แปลว่า You ภาษาอังกฤษหรือ ตัว U ที่เป็นตัวอักษรครับ”—อดัมส์
“แปลได้ตามสบายแบบที่นายชอบเลย”—ยูยิ้ม
อดัมส์: “คือ…ที่นี่มันบ้านของผม ห้องของผม เอ่อ…แล้วคุณเข้ามา..ได้ยังไงเนี่ย?…แบบนี้เข้าข่ายการบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวนะครับ”— อดัมส์มึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจับต้นชนปลายไม่ถูก ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่
“แต่ที่แน่ ๆ สิ่งที่หมอนั่นพูด มันตรงกับที่เรารู้สึกอยู่จริง ๆ”—เขาพยายามตั้งสติ
ยูเดินไปริมระเบียง พร้อมมองออกไปด้านนอก แขนทั้งสองข้างเกยอยู่ขอบระเบียง เปรียบเสมือนการเชื้อเชิญให้อดัมส์เข้ามายืนอยู่ข้าง ๆ
“ผิดหวังมาเหรอไง?”—ยูถามด้วยความเป็นห่วง
อดัมส์: “อืม..ครับ ก็ประมาณนั้น”—อดัมส์เข้าไปยืนข้าง ๆ ยูตามสัญชาตญาณความรู้สึกของตัวเอง—ไม่ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกแล้ว
“ฉันไม่อยากจะทำให้เสียเวลา และฉันก็รู้ว่าสักวันนายจะเข้าใจมันได้เอง เกิดอะไรขึ้นกับเธอล่ะ?”
ด้วยความอัดอั้นตันใจจากเรื่องราวต่าง ๆ ที่อดัมส์เพิ่งเจอมา อดัมส์ร้องไห้โฮออกมา น้ำตาของลูกผู้ชายไหลลงมาเป็นสายน้ำ
“ฉันเสียใจ ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกครั้งที่รักใคร มันก็จบ…จบลงแบบเดิม เสียใจเหมือนเดิม…ทุกครั้ง”—อดัมส์ปาดน้ำตา
“ฉันอยากฟังเรื่องของเธอ เธอยินดีที่จะเล่าให้ฟังไหม..”—ยูหันไปมอง—อดัมส์พยักหน้า
“ทุกครั้งที่มีความรัก ไม่ว่าใคร สุดท้ายก็ต้องเสียใจ ไม่ว่าจะใครหน้าไหนก็เหมือน ๆ กันหมด”—อดัมส์สะอึกสะอื้น
“ที่เหมือนกันนี่หมายถึงอะไรเหรอ?”—ยูถามด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์
“พวกเค้าทำให้ฉันเสียใจ”—เสียงสะอื้นของอดัมส์ไหลมาพร้อมกับน้ำตา
“ฉันพยายามที่สุดแล้ว…ได้เท่านี้จริง ๆ”—อดัมส์เอามือเช็ดน้ำตา
ในขณะที่ยูกำลังตั้งใจฟังอดัมส์พร่ำทุกข์ ท้องฟ้าก็เปลี่ยนสี พื้นดินสั่นสะเทือนเสมือนโลกนี้กำลังจะล่มสลายลง แสงเจิดจ้าที่ไม่สามารถหาทิศทางได้ สว่างขึ้นเรื่อย ๆ แล้วแสงนั้นก็ดับลง
สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าอดัมส์ คือวันที่เขาบอกเลิกกับแฟน เขามองเห็นตัวเองและแฟนเก่าปรากฏอยู่ตรงหน้า
“ไม่ต้องตกใจนะ ฉันเป็นคนนำเธอย้อนเวลามาเอง”—ยูพูด
“และสิ่งที่ฉันอยากบอกกับเธอ คือ ที่เธอเห็นอยู่นั้นมันเป็นความจริง ก็จริง อยู่ แต่เราไม่สามารถแก้ไขผู้คน และเหตุการณ์ให้เปลี่ยนไปได้ แล้วเธอจะเข้าใจมันหลังจากนี้”—ยูผลักอดัมส์ อดัมส์หายเข้าไปในร่างของตัวเองอีกคนที่เค้าเห็นอยู่ตรงหน้า
“เห้ย!!! เดี๋ยว!!!”—อดัมส์ตะโกน—เขาเข้าไปเป็นตัวเองในอดีตที่แสนโหดร้ายในวันที่เค้าบอกเลิกกับแฟน
“เต็มที่นะ หลังจากนี้ สิ่งที่เธอเห็น เสียงที่ได้ยิน ทุกสัมผัสและความรู้สึกมันอาจจะเหมือนจริงมาก และถ้าเธอยิ่งรู้สึกว่ามันจริงมากเท่าไหร่ มันก็จะดีกับเธอเท่านั้น”—ยู
ภาพในวันนั้นมันเหมือนจริงเสียจนอดัมส์เองก็ไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ยูสร้างขึ้นมา เธอคนนั้น ที่เคยเป็นที่รักของอดัมส์ปรากฏอยู่ตรงหน้า—“ใช่เธออยู่ต่อหน้าผมแล้ว… “
“เราเลิกกันเถอะ”—อดัมส์พูด
“ใช่...ผมเป็นคนบอกเลิกเธอ...และผมแค่...ต้องการจะรู้ว่าตัวเองนั้นยังสำคัญ...ทุกครั้งที่บอกเลิก เธอเองจะเป็นคนตามมาง้อผมเสมอ...แต่...ครั้งนี้...มันเกิดอะไรขึ้น? ผมรู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไป ผมหวงเธอที่เธอต้องออกไปทำกิจกรรมกับเพื่อนของเธอบ่อย ๆ ผมก็แค่ต้องการให้เธออยู่ข้าง ๆ ผม มีเวลาให้กับผมบ้างเท่านั้นเอง และสิ่งที่ผมพูดไปอาจจะทำให้เธอเสียใจทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน”—อดัมส์
เจนนิเฟอร์ยอมรับคำบอกเลิกของอดัมส์ และเธอก็เดินจากไป ภาพที่อดัมส์เห็นเลือนรางหายไป ภาพเดิมตอนที่อดัมส์กำลังบอกเลิกกับแฟนหวนกลับมาปรากฏในมโนทัศน์ของเขาเองอีกครั้ง
“เห็นแล้วใช่ไหมหละ…จากนี้ ฉันจะทำให้เธอได้เห็นอีกมิติที่เธอควรจะต้องเห็น เพื่อตัวเธอเองนะอดัมส์”—ยูผลักอดัมส์เข้าไปหาเจนนิเฟอร์ อดัมส์หายไปในร่างหญิงสาวแสนสวยราวกับเป็นวิญญาณ
สิ่งที่อดัมส์เห็นคือตัวเองในวันที่กำลังจะบอกเลิกเจนนิเฟอร์ และตัวเค้าเองกำลังจะพูดคำนั้นออกไป แต่ในครั้งนี้ ภาพ เสียง ความรู้สึก และสัมผัสที่มีเสมือนตัวเขาเองกลายเป็นหนึ่งเดียวกับเจนนิเฟอร์
“เลิกกันเถอะ”—เสียงที่เจนนิเฟอร์ได้ยิน
เจนนิเฟอร์พยักหน้า มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้ยินจากปากของอดัมส์ มันเป็นแบบนี้มาตลอด หลายครั้ง และเสมอมาที่เธอคบกับอดัมส์ เธอมักจะถูกบอกเลิกบ่อย ๆ เธอเจ็บปวด และเธอไม่สามารถจะทนกับความรู้สึกซ้ำ ๆ แบบนี้ได้อีกต่อไป ถ้าเธอไม่ตัดสินใจ ให้มันจบในวันนี้ มันจะมีครั้งต่อไป และถ้าเป็นแบบนี้ต่อ ๆ ไป สัก 2 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี ชีวิตเธอก็คงต้องแย่แน่ ๆ
ยูปรากฏกายเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์
“ฉันเข้าใจเธอทุกอย่าง เจนนิเฟอร์…สิ่งที่เธอทำไปอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องที่สุด แต่มันก็ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้แล้ว เพราะถ้าเป็นฉันโตมาเหมือนเธอ ถูกเลี้ยงดูมาเหมือนกับเธอ เจอเรื่องราวทุกอย่างเหมือน ๆ กับเธอ…ฉันเองก็คงจะทำแบบเธอเช่นกัน”—ยูพูด
“ฉันเจ็บปวด และฉันไม่อยากจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ซ้ำ ๆ อีก ฉันต้องการมีสังคมของตัวเองบ้าง”—เจนนิเฟอร์พูด
“เธอต้องการจะพูดอะไรกับอดัมส์เพื่อให้เค้าให้อภัยเธอได้บ้าง?”—ยู
“ฉันขอโทษในสิ่งที่ฉันทำ บางครั้งมันอาจทำให้เธอเจ็บปวด เสียใจ และฉันไม่สามารถจะทนเห็นเธอเป็นแบบนี้เพราะฉันอีกได้จริง ๆ ขอบคุณที่รักกันเสมอมา และฉันก็เคยรักเธอเช่นกัน”—เจนนิเฟอร์กล่าว
แสงสีขาวสว่างจ้าปิดบังสายตาของเจนนิเฟอร์ และทุกอย่างก็หายไปกับความรู้สึกเจ็บปวดที่อดัมส์เคยมี ภาพอดัมส์ในวันนั้น ในเวอร์ชั่นที่ได้เรียนรู้มิติที่ตัวเองมองข้ามไปปรากฏอยู่ต่อหน้า ตัวเขาเองในปัจจุบัน และเขา(อดัมส์ในอดีต) กำลังเลือนรางหายไป
“เดี๋ยวก่อน!!!”—อดัมส์คนปัจจุบันร้องเรียกตัวเองในอดีต
“สิ่งที่นายเจอมาฉันเองก็เข้าใจดี ต่อไปนี้อย่าบอกเลิกใครที่เรารักเพื่อพิสูจน์ความสำคัญของตัวเองอีกล่ะ สักวันนายเองก็จะผ่านมันมาได้แบบฉันในวันนี้ นายจะเจอผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต บางครั้งนายเองก็อาจจะสับสน อาจจะไม่รู้ว่าสิ่งที่ต้องเจอหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร นายอาจต้องร้องไห้อีกครั้ง หรืออาจจะต้องเสียใจ แต่นายจะผ่านมันไปได้ แล้วสุดท้ายมันจะทำให้นายเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม รักตัวเองมาก ๆ ล่ะ”
ภาพที่อดัมส์เห็นในเหตุการณ์นั้นเลือนหายไปกับสายลมแห่งกาลเวลา ฝ่ามือที่อบอุ่นของยูวางบนไหล่ซ้ายของอดัมส์อย่างอ่อนโยน
“เป็นยังไงบ้าง? เมื่อมองย้อนกลับไปในวันนั้นแล้วยังรู้สึกแย่อยู่อีกไหม?”—ยูถาม
อดัมส์: “ไม่แล้วหละ....ขอบคุณมากนะ ยู”
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้น อดัมส์ลืมตาตื่นขึ้นมาและก็พบว่าตัวเองนั้นอยู่บนเตียง เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันอาจจะเป็นแค่ความฝันแต่มันก็เหมือนจริงมาก ๆ บางครั้งเราเองอาจไม่เคยรู้อะไรเลยก็ได้ ว่าอะไรที่จริง หรือไม่จริง หรือพวกเราเองอาจจะเป็นสิ่งที่สมมติขึ้นมาทั้งหมด ทั้งโลกนี้ และจักรวาล