สวัสดีค่ะ เห็นหัวข้อกระทู้อย่าพึ่งตกใจนะคะ เราจะมาตั้งเตือนสำหรับวัยรุ่นที่ท้องไม่พร้อมและไม่สามารถเลี้ยงเด็กที่ออกมามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้
เราไม่ใช่คนท้องเองนะคะ แต่เราคือลูกที่เกิดมาจากแม่ที่ท้องไม่พร้อม...
แม่เราท้องตั้งแต่เรียนมัธยมปลายทำให้เรียนไม่จบต้องออกมาก่อน คนที่เรียนไม่จบ บริษัทที่เงินเดือนสูงๆที่ไหนเขาจะรับคะ ข้อแรกเลยค่ะ ไม่มีเงิน
และด้วยความเป็นวัยรุ่นยังรักอิสระ ชอบเที่ยวกลางคืน ติดเพื่อน เที่ยวตลอด ข้อสอง ขาดความสนใจยังรักชีวิตวัยรุ่นของตัวเองอยู่การเลี้ยงลูกอยู่บ้านคงดูน่าเบื่อมากๆ
ตอนคุณท้อง ตอนคุณตัดสินใจที่จะไม่เอาออก เพราะด้วยความที่รักพ่อของเด็ก ปรึกษากันแล้วว่าสามารถเลี้ยงได้ แน่แหละค่ะใครๆก็เลี้ยงได้ แต่จะเลี้ยงให้มีคุณภาพได้หรือเปล่า ไม่รู้.. ใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง ถ้าเกิดคนที่คุณรักนักรักหนา ทิ้งไปล่ะ คุณสามารถเลี้ยงเขาให้มีคุณภาพชีวิตดีๆ ไม่ลำบากได้เปล่า และเมื่อเขาโตขึ้น คุณสามารถอธิบายให้เขาเข้าใจเรื่องการไม่มีพ่อได้ไหม ให้ความรักเขา ใส่ใจเขาได้มากพอไหมถ้าในตอนที่คนที่คนรักคนที่คิดจะเลี้ยงกับคุณทิ้งคุณไปแล้ว
คุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับเราก็แค่
1.มีการศึกษาดี
2.สภาพแวดล้อมดี
3.เป็นคนดี
4.ครอบครัวดีได้รับความรักเต็มที่
5.ร่างกายแข็งแรงถึงป่วยก็มีเงินรักษาได้สบาย
ทุกอย่างต้องใช้เงินนะคะ คุณมีพร้อมไหม กับการส่งลูกไปเรียนที่ดีๆ ไปที่สภาพแวดล้อมดีๆ การศึกษาสำคัญมากนะคะ ถ้าคุณไม่มีปัญญาส่งลูกไปที่ดีๆสภาพแวดล้อมดีๆได้ ก็จะเจอแต่เพื่อนในที่แบบๆนั้น เพื่อนอาจจะติดเหล้า เมายา ชู้สาว อาจจะเกิดปัญหาแบบๆเดิม ท้อง>>เลี้ยงไม่ได้>>ให้อยู่ในที่แบบเดิมๆ วนลูปไปเรื่อยๆ การที่คุณไม่สามารถเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพ นอกจากอนาคตคุณจะพังเพราะท้อง อนาคตในวันข้างหน้าอีก อาจจะต้องมานั่งเลี้ยงหลานทั้งๆที่ลูกตัวเองยังอายุไม่ถึง18ก็ได้นะคะ
อย่างน้อยก็สงสารคนที่ต้องมานั่งเลี้ยงลูกตัวเองแทนในตอนที่คุณออกไปเที่ยว ออกไปใช้ชีวิตวัยรุ่น คนที่ต้องมานั่งหาเงินค่าทำคลอด ค่าเลี้ยงดู ทั้งๆที่เขาเองควรอยู่บ้านเฉยๆ ได้รับเงินจากลูกเหมือนคนอื่นแล้ว
การทำแท้งในเมืองพุทธเป็นเรื่องบาป แต่เด็กที่เกิดมาแล้วไม่ได้คุณภาพชีวิตอย่างที่เขาต้องการเหมือนตายทั้งเป็นเลยนะคะ
ส่วนเรื่องของเราก็ ด้วยความที่แม่วัยรุ่นใช่ไหมคะ เขาเก็บเราไว้ก็เพราะตอนนั้นความรักของพ่อเราไงคะ แต่พอพ่อทิ้งไป...นั่นแหละค่ะ การเลี้ยงเราคือเรื่องน่าเบื่อทันที เขาก็รักชีวิตวัยรุ่นตัวเองอยู่ ชอบเที่ยว ติดเพื่อน รู้ไหม
ว่าตั้งแต่เด็กตอนอนุบาล เราจะอยู่บ้านคนเดียวตลอด มีทีวีเป็นเพื่อน จำไม่ได้ว่าหากินยังไง แต่จำได้แค่ว่าเสาร์-อาทิตย์วันที่ไม่ได้ไปเรียนจะอยู่บ้านคนเดียวเสมอ กว่ายายจะกลับมาก็ประมาณ1ทุ่ม
แล้วตอนที่เรียนยังกลับบ้านเองไม่ได้ ตั้งแต่อนุบาลถึงประถม เราจะได้กลับบ้าน5-6โมงเย็นตลอด ครูที่อยู่เวรต้องนั่งเป็นเพื่อนประจำ บางวันแม่ก็ลืมไปรับ ยายกลับเกือบๆ1ทุ่มนั่นแหละถึงจะมารับเรา
ตั้งแต่เด็กมีงานอะไรที่ให้ผู้ปกครองเซ็น แม่ไม่เคยสนใจ ไม่เคยเซ็น และทุกครั้งเราต้องปลอมชื่อเซ็นเองตลอด หรือจะเป็นการบ้าน ตั้งแต่อนุบาลก็จะไม่มีใครสอนเลย
ชีวิตในตอนเด็กก็จะประมาณนี้ มีเรื่องที่รุนแรงกว่านี้มากๆ รุนแรงเกินกว่าเด็กควรมาเจอ ขอไม่เล่าแล้วกันค่ะ
ครอบครัวเราไม่เคยใส่ใจ
เราไม่เคยได้รับกำลังใจดีๆจากที่บ้าน ไม่เคยมีใครถามว่าเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยไหม ไม่เคยชมเวลาเราทำอะไรดีๆ ไม่เคยได้รับคำว่าเก่งมาก จากบ้านคนที่เรารักเลย
เราไม่เคยได้รับคำพูดดีๆจากที่บ้านตั้งแต่เด็ก จะต้องมี มึ- กุ ตลอด เราไม่รู้ว่ามันเรื่องปกติไหม แต่เรารู้สึกไม่ดี ไม่ชอบคำพูดแบบนี้
ตอนนี้เราเรียนมัธยมปลายได้เงินใช้ไปโรงเรียนวันละ40บาท หักค่ารถแล้ว ข้าวเช้าที่ไม่มีให้กินจากบ้าน เราต้องใช้40บาทเพื่ออยู่ทั้งวัน ตั้งแต่มื้อเช้ายันมื้อเย็น คุณคิดว่าเราจะใช้ยังไงกับสังคมเมืองกรุง ที่ต้องจ่ายค่างานกลุ่ม ค่างานโรงเรียนอีก
เราเครียดจนเป็นโรคซึมเศร้า หาหมอคนเดียว หาอะไรเองหมด จนถึงตอนที่เราไม่มีเงินหาหมอแล้ว เราหยุดยาเอง จนเครียดมากๆ กินยานอนหลับจะฆ่าตัวตาย เพื่อนเราเป็นห่วงเรา เลยบอกแม่ อยากให้แม่ดูหน่อย แต่สิ่งที่เขามาบอกเราคือเราเป็นตัวปัญหา เป็นภาระให้คนอื่น สรุปเป็นความผิดเราที่เราเกิดมาหรอ เราเลือกเกิดไม่ได้ เราไม่ได้อยากเกิดมาเป็นภาระใคร เลือกได้อยากเกิดในครอบครัวที่เขาตั้งใจมีจริงๆ
บางครั้งก็อดน้อยใจไม่ได้เวลาไปบ้านเพื่อน
ได้ยินแม่เพื่อนพูดจาดีๆ ถามว่าเหนื่อยไหม เป็นไงบ้าง วันนี้เรียนเรื่องอะไรมา เรามองภาพนั้นแล้วรู้สึกอิจฉามากๆ เราไม่ได้เรียกร้องอะไรจากที่บ้านมากเลย คุณไม่มีเงินให้เราก็ไม่เป็นไร แต่สิ่งที่เราอยากได้คือความรัก ความเข้าใจ ที่เราไม่เคยได้รับมาตลอดชีวิตเลย...
พ่อแม่วัยรุ่นถ้าคิดว่าอนาคตเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพชีวิตดีไม่ได้ ทำแท้งเถอะค่ะ
เราไม่ใช่คนท้องเองนะคะ แต่เราคือลูกที่เกิดมาจากแม่ที่ท้องไม่พร้อม...
แม่เราท้องตั้งแต่เรียนมัธยมปลายทำให้เรียนไม่จบต้องออกมาก่อน คนที่เรียนไม่จบ บริษัทที่เงินเดือนสูงๆที่ไหนเขาจะรับคะ ข้อแรกเลยค่ะ ไม่มีเงิน
และด้วยความเป็นวัยรุ่นยังรักอิสระ ชอบเที่ยวกลางคืน ติดเพื่อน เที่ยวตลอด ข้อสอง ขาดความสนใจยังรักชีวิตวัยรุ่นของตัวเองอยู่การเลี้ยงลูกอยู่บ้านคงดูน่าเบื่อมากๆ
ตอนคุณท้อง ตอนคุณตัดสินใจที่จะไม่เอาออก เพราะด้วยความที่รักพ่อของเด็ก ปรึกษากันแล้วว่าสามารถเลี้ยงได้ แน่แหละค่ะใครๆก็เลี้ยงได้ แต่จะเลี้ยงให้มีคุณภาพได้หรือเปล่า ไม่รู้.. ใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง ถ้าเกิดคนที่คุณรักนักรักหนา ทิ้งไปล่ะ คุณสามารถเลี้ยงเขาให้มีคุณภาพชีวิตดีๆ ไม่ลำบากได้เปล่า และเมื่อเขาโตขึ้น คุณสามารถอธิบายให้เขาเข้าใจเรื่องการไม่มีพ่อได้ไหม ให้ความรักเขา ใส่ใจเขาได้มากพอไหมถ้าในตอนที่คนที่คนรักคนที่คิดจะเลี้ยงกับคุณทิ้งคุณไปแล้ว
คุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับเราก็แค่
1.มีการศึกษาดี
2.สภาพแวดล้อมดี
3.เป็นคนดี
4.ครอบครัวดีได้รับความรักเต็มที่
5.ร่างกายแข็งแรงถึงป่วยก็มีเงินรักษาได้สบาย
ทุกอย่างต้องใช้เงินนะคะ คุณมีพร้อมไหม กับการส่งลูกไปเรียนที่ดีๆ ไปที่สภาพแวดล้อมดีๆ การศึกษาสำคัญมากนะคะ ถ้าคุณไม่มีปัญญาส่งลูกไปที่ดีๆสภาพแวดล้อมดีๆได้ ก็จะเจอแต่เพื่อนในที่แบบๆนั้น เพื่อนอาจจะติดเหล้า เมายา ชู้สาว อาจจะเกิดปัญหาแบบๆเดิม ท้อง>>เลี้ยงไม่ได้>>ให้อยู่ในที่แบบเดิมๆ วนลูปไปเรื่อยๆ การที่คุณไม่สามารถเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพ นอกจากอนาคตคุณจะพังเพราะท้อง อนาคตในวันข้างหน้าอีก อาจจะต้องมานั่งเลี้ยงหลานทั้งๆที่ลูกตัวเองยังอายุไม่ถึง18ก็ได้นะคะ
อย่างน้อยก็สงสารคนที่ต้องมานั่งเลี้ยงลูกตัวเองแทนในตอนที่คุณออกไปเที่ยว ออกไปใช้ชีวิตวัยรุ่น คนที่ต้องมานั่งหาเงินค่าทำคลอด ค่าเลี้ยงดู ทั้งๆที่เขาเองควรอยู่บ้านเฉยๆ ได้รับเงินจากลูกเหมือนคนอื่นแล้ว
การทำแท้งในเมืองพุทธเป็นเรื่องบาป แต่เด็กที่เกิดมาแล้วไม่ได้คุณภาพชีวิตอย่างที่เขาต้องการเหมือนตายทั้งเป็นเลยนะคะ
ส่วนเรื่องของเราก็ ด้วยความที่แม่วัยรุ่นใช่ไหมคะ เขาเก็บเราไว้ก็เพราะตอนนั้นความรักของพ่อเราไงคะ แต่พอพ่อทิ้งไป...นั่นแหละค่ะ การเลี้ยงเราคือเรื่องน่าเบื่อทันที เขาก็รักชีวิตวัยรุ่นตัวเองอยู่ ชอบเที่ยว ติดเพื่อน รู้ไหม
ว่าตั้งแต่เด็กตอนอนุบาล เราจะอยู่บ้านคนเดียวตลอด มีทีวีเป็นเพื่อน จำไม่ได้ว่าหากินยังไง แต่จำได้แค่ว่าเสาร์-อาทิตย์วันที่ไม่ได้ไปเรียนจะอยู่บ้านคนเดียวเสมอ กว่ายายจะกลับมาก็ประมาณ1ทุ่ม
แล้วตอนที่เรียนยังกลับบ้านเองไม่ได้ ตั้งแต่อนุบาลถึงประถม เราจะได้กลับบ้าน5-6โมงเย็นตลอด ครูที่อยู่เวรต้องนั่งเป็นเพื่อนประจำ บางวันแม่ก็ลืมไปรับ ยายกลับเกือบๆ1ทุ่มนั่นแหละถึงจะมารับเรา
ตั้งแต่เด็กมีงานอะไรที่ให้ผู้ปกครองเซ็น แม่ไม่เคยสนใจ ไม่เคยเซ็น และทุกครั้งเราต้องปลอมชื่อเซ็นเองตลอด หรือจะเป็นการบ้าน ตั้งแต่อนุบาลก็จะไม่มีใครสอนเลย
ชีวิตในตอนเด็กก็จะประมาณนี้ มีเรื่องที่รุนแรงกว่านี้มากๆ รุนแรงเกินกว่าเด็กควรมาเจอ ขอไม่เล่าแล้วกันค่ะ
ครอบครัวเราไม่เคยใส่ใจ
เราไม่เคยได้รับกำลังใจดีๆจากที่บ้าน ไม่เคยมีใครถามว่าเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยไหม ไม่เคยชมเวลาเราทำอะไรดีๆ ไม่เคยได้รับคำว่าเก่งมาก จากบ้านคนที่เรารักเลย
เราไม่เคยได้รับคำพูดดีๆจากที่บ้านตั้งแต่เด็ก จะต้องมี มึ- กุ ตลอด เราไม่รู้ว่ามันเรื่องปกติไหม แต่เรารู้สึกไม่ดี ไม่ชอบคำพูดแบบนี้
ตอนนี้เราเรียนมัธยมปลายได้เงินใช้ไปโรงเรียนวันละ40บาท หักค่ารถแล้ว ข้าวเช้าที่ไม่มีให้กินจากบ้าน เราต้องใช้40บาทเพื่ออยู่ทั้งวัน ตั้งแต่มื้อเช้ายันมื้อเย็น คุณคิดว่าเราจะใช้ยังไงกับสังคมเมืองกรุง ที่ต้องจ่ายค่างานกลุ่ม ค่างานโรงเรียนอีก
เราเครียดจนเป็นโรคซึมเศร้า หาหมอคนเดียว หาอะไรเองหมด จนถึงตอนที่เราไม่มีเงินหาหมอแล้ว เราหยุดยาเอง จนเครียดมากๆ กินยานอนหลับจะฆ่าตัวตาย เพื่อนเราเป็นห่วงเรา เลยบอกแม่ อยากให้แม่ดูหน่อย แต่สิ่งที่เขามาบอกเราคือเราเป็นตัวปัญหา เป็นภาระให้คนอื่น สรุปเป็นความผิดเราที่เราเกิดมาหรอ เราเลือกเกิดไม่ได้ เราไม่ได้อยากเกิดมาเป็นภาระใคร เลือกได้อยากเกิดในครอบครัวที่เขาตั้งใจมีจริงๆ
บางครั้งก็อดน้อยใจไม่ได้เวลาไปบ้านเพื่อน
ได้ยินแม่เพื่อนพูดจาดีๆ ถามว่าเหนื่อยไหม เป็นไงบ้าง วันนี้เรียนเรื่องอะไรมา เรามองภาพนั้นแล้วรู้สึกอิจฉามากๆ เราไม่ได้เรียกร้องอะไรจากที่บ้านมากเลย คุณไม่มีเงินให้เราก็ไม่เป็นไร แต่สิ่งที่เราอยากได้คือความรัก ความเข้าใจ ที่เราไม่เคยได้รับมาตลอดชีวิตเลย...