ฝากแปะไว้นะครับ เผื่อมีผู้สนใจ ติดตามต่อได้ที่ FB
https://www.facebook.com/Epilepsynote/
ผมถือว่าปัญหาเรื่องโรคซึมเศร้าเป็นคลื่นใต้น้ำที่มองไม่เห็นของผู้ที่มีโรคลมชัก อีกทั้งด้วยสภาพสังคมและวัฒนธรรมบ้านเรา ภาวะนี้มักไม่ถูกเปิดเผยโดยตัวผู้ที่ประสบเอง เนื่องจากถูกเชื่อมโยงไปถึงภาวะอาการป่วยทางจิต ซึ่งสังคมบ้านเรายังยอมรับเรื่องเหล่านี้ได้น้อย วันนี้ผมจะนำข้อมูลที่แสดงเป็นตัวเลขให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างโรคลมชักและโรคซึมเศร้านะครับ
โรคซึมเศร้า (Major depressive disorder) กับอารมณ์ซึมเศร้า (Depressive mood)
ทุกคนสามารถมีอารมณ์ซึมเศร้าได้ครับ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคซึมเศร้า อารมณ์ซึมเศร้าที่เกิดมักเป็นระยะเวลาไม่นานและมักไม่มีผลกระทบต่อเนื่องต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ส่วนโรคซึมเศร้ามักมีอาการต่อเนื่องติดต่อกันเป็นระยะเวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การขาดงาน หรือ การลดประสิทธิภาพของการทำงาน เป็นต้น
ลักษณะผู้ที่มีโรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้ามักมีอาการดังต่อไปนี้
1. มีอารมณ์เศร้า ซึ่งอารมณ์เศร้าจะมีอยู่เกือบตลอดทั้งวันและเป็นทุกวัน บางวันอาจเป็นมากบางวันอาจเป็นน้อย
2. ความสนใจหรือความเพลิดเพลินในกิจกรรมต่างๆที่เคยทำแทบทั้งหมดลดลงอย่างมาก
3. เบื่ออาหารจนน้ำหนักลดลงหรือบางรายอาจมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น กินมากจนน้ำหนักเพิ่ม (เช่น 2-3 กิโลกรัมต่อเดือน)
4. นอนไม่หลับ หรือหลับมากแทบทุกวัน ส่วนใหญ่จะนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย หลับดึกแต่จะตื่นเช้า 1-2 ชั่วโมงก่อนเวลาปกติที่เคยตื่น และไม่สดชื่น
5. ทำอะไรช้า พูดช้า เดินเหิน เคลื่อนไวช้าลง แต่มีบางรายก็มีหงุดหงิด กระสับกระส่าย ทำอะไรเหมือนรีบเร่ง
6. อ่อนเพลียหรือไร้เรี่ยวแรง ทั้งวันและแทบทุกวัน
7. รู้สึกตนเองไร้ค่าหรือรู้สึกผิดมากเกินควร
8. สมาธิหรือความคิดอ่านช้าลดลง
9. คิดอยากตายไม่อยากมีชีวิตอยู่ คิดถึงเรื่องการตายอยู่เรื่อยๆหรือบางรายพยายามฆ่าตัวตายหรือมีแผนฆ่าตัวตาย
ผมนำเกณฑ์การวินิจฉัยโรคซึมเศร้ามาให้ดู โดยอาการที่กล่าวมาทั้งหมดอาจไม่มีความจำเป็นต้องมีครบทุกข้อ สิ่งที่ผมนำมาข้างต้นเพื่อผู้ที่สงสัยว่าอาจมีโรคซึมเศร้าใช้เป็นแนวทางในการค้นคว้า ส่วนการวินิจฉัยและการรักษามีความจำเป็นที่ต้องปรึกษาจิตแพทย์หรือแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้นะครับ
โรคลมชักและโรคซึมเศร้า (ตามลำดับตัวเลข)
1 – เป็นอัตราการฆ่าตัวตายโดยเฉลี่ยของประชาการทั่วไป คิดเป็น 1% ของประชาการทั้งหมด ขณะที่ 5% เป็นอัตราการฆ่าตัวตายในผู้ที่มีโรคลมชัก
3 – เป็นโอกาสการพบประวัติเป็นโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ (มากกว่า 50 ปี) ที่มีโรคลมชัก โดยพบว่ามีประวัติโรคซึมเศร้าในผู้ที่มีโรคลมชักกลุ่มนี้มากกว่าปกติถึง 3.7 เท่า
4 – เป็นโอกาสการเกิดอารมณ์ซึมเศร้าในเด็กที่มีโรคลมชัก โดยพบว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดอารมณ์ซึมเศร้ามากกว่าปกติถึง 4 เท่า
5 – เป็นโอกาสการเกิดการพยายามฆ่าตัวตาย ในผู้ที่มีโรคลมชักหรืออาการชักที่มีอายุมากกว่า 10 ปี โดยพบว่ามีความเสี่ยงต่อพยายามฆ่าตัวตายมากกว่าปกติถึง 5 เท่า
6 – เป็นอัตราการเกิดโรคซึมเศร้าในประชาการทั่วไป โดยสามารถพบได้คิดเป็น 6% ของประชากรทั้งหมด
7 – เป็นโอกาสการพบประวัติเป็นโรคซึมเศร้าในผู้ที่ได้รับเพิ่งได้รับการวินิจฉัยโรคลมชัก โดยพบว่ามีประวัติโรคซึมเศร้าในผู้ที่มีโรคลมชักกลุ่มนี้มากกว่าปกติถึง 7 เท่า
11 – เป็นผู้ที่มีโรคซึมเศร้าในผู้ที่มีโรคลมชักโดยเฉลี่ย คิดเป็น 11% ของผู้ที่มีโรคลมชักทั้งหมด
62 – เป็นอัตราการเกิดโรคซึมเศร้าของผู้ที่มีโรคลมชักตลอดช่วงอายุขัย โดยคิดเป็น 62% ของผู้ที่มีโรคลมชักทั้งหมด
สุดท้าย...
ผมนำหัวข้อนี้มาเสนอให้ผู้ที่สนใจได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ อีกด้านนึงยังพบว่าผู้ที่มีอาการชักซ้ำบ่อยๆ พบว่าเมื่อรักษาโรคซึมเศร้าที่พบร่วมจะส่งผลทำให้อาการชักดีขึ้นและควบคุมอาการชักได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การปล่อยโรคซึมเศร้าทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษายังส่งผลให้การรักษาโรคลมชักไม่ประสบผลสำเร็จ
โรคลมชักและโรคซึมเศร้า
ผมถือว่าปัญหาเรื่องโรคซึมเศร้าเป็นคลื่นใต้น้ำที่มองไม่เห็นของผู้ที่มีโรคลมชัก อีกทั้งด้วยสภาพสังคมและวัฒนธรรมบ้านเรา ภาวะนี้มักไม่ถูกเปิดเผยโดยตัวผู้ที่ประสบเอง เนื่องจากถูกเชื่อมโยงไปถึงภาวะอาการป่วยทางจิต ซึ่งสังคมบ้านเรายังยอมรับเรื่องเหล่านี้ได้น้อย วันนี้ผมจะนำข้อมูลที่แสดงเป็นตัวเลขให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างโรคลมชักและโรคซึมเศร้านะครับ
โรคซึมเศร้า (Major depressive disorder) กับอารมณ์ซึมเศร้า (Depressive mood)
ทุกคนสามารถมีอารมณ์ซึมเศร้าได้ครับ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคซึมเศร้า อารมณ์ซึมเศร้าที่เกิดมักเป็นระยะเวลาไม่นานและมักไม่มีผลกระทบต่อเนื่องต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ส่วนโรคซึมเศร้ามักมีอาการต่อเนื่องติดต่อกันเป็นระยะเวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การขาดงาน หรือ การลดประสิทธิภาพของการทำงาน เป็นต้น
ลักษณะผู้ที่มีโรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้ามักมีอาการดังต่อไปนี้
1. มีอารมณ์เศร้า ซึ่งอารมณ์เศร้าจะมีอยู่เกือบตลอดทั้งวันและเป็นทุกวัน บางวันอาจเป็นมากบางวันอาจเป็นน้อย
2. ความสนใจหรือความเพลิดเพลินในกิจกรรมต่างๆที่เคยทำแทบทั้งหมดลดลงอย่างมาก
3. เบื่ออาหารจนน้ำหนักลดลงหรือบางรายอาจมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น กินมากจนน้ำหนักเพิ่ม (เช่น 2-3 กิโลกรัมต่อเดือน)
4. นอนไม่หลับ หรือหลับมากแทบทุกวัน ส่วนใหญ่จะนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย หลับดึกแต่จะตื่นเช้า 1-2 ชั่วโมงก่อนเวลาปกติที่เคยตื่น และไม่สดชื่น
5. ทำอะไรช้า พูดช้า เดินเหิน เคลื่อนไวช้าลง แต่มีบางรายก็มีหงุดหงิด กระสับกระส่าย ทำอะไรเหมือนรีบเร่ง
6. อ่อนเพลียหรือไร้เรี่ยวแรง ทั้งวันและแทบทุกวัน
7. รู้สึกตนเองไร้ค่าหรือรู้สึกผิดมากเกินควร
8. สมาธิหรือความคิดอ่านช้าลดลง
9. คิดอยากตายไม่อยากมีชีวิตอยู่ คิดถึงเรื่องการตายอยู่เรื่อยๆหรือบางรายพยายามฆ่าตัวตายหรือมีแผนฆ่าตัวตาย
ผมนำเกณฑ์การวินิจฉัยโรคซึมเศร้ามาให้ดู โดยอาการที่กล่าวมาทั้งหมดอาจไม่มีความจำเป็นต้องมีครบทุกข้อ สิ่งที่ผมนำมาข้างต้นเพื่อผู้ที่สงสัยว่าอาจมีโรคซึมเศร้าใช้เป็นแนวทางในการค้นคว้า ส่วนการวินิจฉัยและการรักษามีความจำเป็นที่ต้องปรึกษาจิตแพทย์หรือแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้นะครับ
โรคลมชักและโรคซึมเศร้า (ตามลำดับตัวเลข)
1 – เป็นอัตราการฆ่าตัวตายโดยเฉลี่ยของประชาการทั่วไป คิดเป็น 1% ของประชาการทั้งหมด ขณะที่ 5% เป็นอัตราการฆ่าตัวตายในผู้ที่มีโรคลมชัก
3 – เป็นโอกาสการพบประวัติเป็นโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ (มากกว่า 50 ปี) ที่มีโรคลมชัก โดยพบว่ามีประวัติโรคซึมเศร้าในผู้ที่มีโรคลมชักกลุ่มนี้มากกว่าปกติถึง 3.7 เท่า
4 – เป็นโอกาสการเกิดอารมณ์ซึมเศร้าในเด็กที่มีโรคลมชัก โดยพบว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดอารมณ์ซึมเศร้ามากกว่าปกติถึง 4 เท่า
5 – เป็นโอกาสการเกิดการพยายามฆ่าตัวตาย ในผู้ที่มีโรคลมชักหรืออาการชักที่มีอายุมากกว่า 10 ปี โดยพบว่ามีความเสี่ยงต่อพยายามฆ่าตัวตายมากกว่าปกติถึง 5 เท่า
6 – เป็นอัตราการเกิดโรคซึมเศร้าในประชาการทั่วไป โดยสามารถพบได้คิดเป็น 6% ของประชากรทั้งหมด
7 – เป็นโอกาสการพบประวัติเป็นโรคซึมเศร้าในผู้ที่ได้รับเพิ่งได้รับการวินิจฉัยโรคลมชัก โดยพบว่ามีประวัติโรคซึมเศร้าในผู้ที่มีโรคลมชักกลุ่มนี้มากกว่าปกติถึง 7 เท่า
11 – เป็นผู้ที่มีโรคซึมเศร้าในผู้ที่มีโรคลมชักโดยเฉลี่ย คิดเป็น 11% ของผู้ที่มีโรคลมชักทั้งหมด
62 – เป็นอัตราการเกิดโรคซึมเศร้าของผู้ที่มีโรคลมชักตลอดช่วงอายุขัย โดยคิดเป็น 62% ของผู้ที่มีโรคลมชักทั้งหมด
สุดท้าย...
ผมนำหัวข้อนี้มาเสนอให้ผู้ที่สนใจได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ อีกด้านนึงยังพบว่าผู้ที่มีอาการชักซ้ำบ่อยๆ พบว่าเมื่อรักษาโรคซึมเศร้าที่พบร่วมจะส่งผลทำให้อาการชักดีขึ้นและควบคุมอาการชักได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การปล่อยโรคซึมเศร้าทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษายังส่งผลให้การรักษาโรคลมชักไม่ประสบผลสำเร็จ