สวัสดีค่ะทุกท่าน เนื่องจากจขกท.เห็นว่าช่วงนี้ประเทศนิวซีแลนด์กำลังเป็นหนึ่งในประเทศที่คนไทยกำลังสนใจไปเที่ยวกันค่อนข้างเยอะในฐานะที่เคยมีโอกาสไปอาศัยอยู่ที่นู้นช่วงหนึ่งเลยอยากลองแชร์ประสบการณ์เที่ยวสนุกๆของตัวเองดูบ้าง แต่ว่าถ้าจะให้พูดถึง road trip ก็เหมือนจะมีคนเล่าไปเยอะแล้วดังนั้นสำหรับกระทู้นี้จขกท.ขอเปลี่ยนแนวเป็นเล่าประสบการณ์การเดินป่าที่ Kepler Track ซึ่งเป็นหนึ่งในเก้าเส้นทางเดินป่าระยะไกลอันโด่งดังของนิวซีแลนด์ที่เรียกว่า Great Walks นั่นเองค่ะ
9 Great Walks คืออะไร อยู่ที่ไหนบ้าง
Great Walks รู้จักกันในนามเส้นเดินป่าที่ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดขายของการท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ ถ้าสมมติให้เป็นเวทีประกวดนางงาม Great Walks ทั้งเก้าที่ก็คงเปรียบเหมือนกับตัวแทนสาวสวยทั้งหมดเก้าคนของประเทศเลยก็ว่าได้ นอกจากจะเป็นเส้นเดินป่ายอดนิยมของทั้งคนในประเทศและนักท่องเที่ยวแล้วทุกเส้นยังได้รับการดูแลอย่างดีโดยหน่วยงานของรัฐที่เรียกว่า Department of Conservation (DOC) อีกด้วย เรียกง่ายๆว่า เดินง่าย ปลอดภัย และถ้าเรามีโชคมากพอเราอาจจะได้เห็น
สัตว์ป่าหายากของนิวซีแลนด์เป็นของแถมอีกด้วย!! ซึ่งระยะเวลาที่ใช้สำหรับการเดิน Great Walks ในแต่ละเส้นนั้นก็จะเริ่มจาก 3-4 วันไปจนถึงเกือบสิบวันเลย
แผนที่แสดงเส้นทาง Great Walks ทั้งหมดจากเกาะเหนือถึงเกาะใต้ (ภาพจาก wikipedia)
สำหรับที่เด่นๆซึ่งทุกคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้าง เช่น Tongariro Northern Circuit ที่เกาะเหนือซึ่งเราจะมีโอกาสได้เห็นวิวภูเขาไฟสวยๆ หรือจะเป็นเส้น Milford Track กับ Kepler Track ที่ปลายสุดของเกาะใต้ไม่ใกล้ไม่ไกลจาก Milford Sound ที่หลายคนชอบไปล่องเรือชมบรรยากาศภูเขานั่นเอง
ทุกเส้นใน Great Walks จะมีที่พัก (Huts) และจุดกางเต้นท์ (Campsites) ให้เป็นจุดๆ ซึ่งถ้าเราอยากพักก็ต้องทำการ
“จอง” ย้ำว่าต้องจองไม่ว่าจะนอนใน huts หรือกางเต้นท์เองก็แล้วแต่ และควรจองล่วงหน้าด้วยเพราะในเส้นที่ฮิตมากๆ เช่น Milford Track อาจจะเต็มยาวเป็นปีๆได้เลยทีเดียว (ถ้าจองไม่ได้ไม่ควรแอบเข้าไปพัก เพราะเขาจับได้แน่นอนมีการเช็คชื่อทุกจุด โดนจับได้ค่าปรับสูงเอาเรื่อง ทางที่ดีถ้าจองไม่ได้เลือกเดินเป็นบางส่วนที่สามารถจบในวันเดียวได้ดีกว่า)
โบรชัวของ Great Walks สามารถหาได้จาก i-site ทุกเมืองหรือดาวน์โหลดจากเว็บ
Note :
สำหรับคนที่อยากโหลดโบรชัวของ Great Walks สามารถเข้าดาวน์โหลดได้ที่
http://www.doc.govt.nz/great-walks
ข้อมูลทั่วไปของ Kepler Track
ระยะเวลา :
3-4 วัน
ระยะทาง :
~60 km (ขึ้นลงคนละด้าน)
จุดเริ่มต้น/สิ้นสุด :
Kepler Carpark/Rainbow Reach เลือกขึ้นลงได้ทั้งสองทาง ถ้าไม่อยากเดินครบลูปก็สามารถจอง shuttle bus รับส่งได้ทั้งสองที่
ภาพแสดง Elevation profile (ภาพจาก NZ tracker)
ความยาก :
ปานกลางในช่วงเวลาทั่วไปและยากในช่วงฤดูหนาว (ต้องการอุปกรณ์และประสบการณ์สำหรับลุยหิมะ)
** ดูข้อมูลเสริมสำหรับการเดินป่าช่วงฤดูหนาวได้ที่
http://www.doc.govt.nz/Documents/parks-and-recreation/tracks-and-walks/southland/kepler-track-winter-tramping.pdf **
คนนำทาง :
จขกท.ไม่คิดว่าจำเป็นเพราะเส้นทางเดินชัดเจนมากประกอบกับมีแผนที่ดังนั้นเราสามารถเดินเองได้สบายๆ แต่ถ้าอยากจ้างไกด์ก็สามารถทำได้ซึ่งแพงหูฉีก
ที่พัก : แบ่งเป็น 2 แบบ คือ huts กับ campsites
- Huts ราคาแพงกว่าแต่สะดวกสบาย มี Luxmore Hut, Iris Burn Hut และ Moturau Hut
- Campsites ถูกกว่า huts ,มี Brod Bay Campsite และ Iris Burn Campsite
หมายเหตุ
- ไม่ว่าเลือกพักแบบไหนจำเป็นต้องจองก่อนล่วงหน้าที่
https://booking.doc.govt.nz/Menu.aspx?sg=KEP
- สามารถเช็คว่าที่พักเรามีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรได้บ้างที่
http://www.doc.govt.nz/parks-and-recreation/places-to-go/fiordland/places/fiordland-national-park/things-to-do/tracks/kepler-track/description/
- ราคาที่พักช่วง low season จะราคาถูกกว่า
การเดินทาง :
- ขับรถมาเอง สามารถเดินทางมาที่เมือง Te Anau ได้เลยรวมทั้งจอดรถทิ้งไว้ได้ทั้ง Kepler Carpark หรือ Rainbow Reach
- ไม่มีรถยนต์ สามารถใช้บริการ Intercity Bus เดินทางระหว่างเมือง และใช้ shuttle bus ซึ่งมีหลายบริษัทรับส่งระหว่างช่วงเดินป่าได้ด้วย
สำหรับทริปนี้จขกท.เดินทางกับเพื่อนกันแค่สองคนแบบไม่มีรถยนต์ส่วนตัวเลยใช้บริการ Intercity Bus ระหว่างเมืองใหญ่ๆ (Christchurch to Queenstown) และใช้บริการของ Tracknet ระหว่าง Queenstown ไปกลับ Te Anau และรับส่งจากโรงแรมไปกลับ Kepler Track
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเดินทางได้ที่
Intercity Bus
https://www.intercity.co.nz
Tracknet
http://tracknet.net
จะไปเดินป่าต้องเตรียมอะไรบ้าง?
สิ่งสำคัญที่จขกท.เรียนรู้มาอย่างหนึ่งในการเดินป่าที่นิวซีแลนด์คือ
1. ไม่มีลูกหาบให้
2. ไม่สามารถหาซื้อของได้ระหว่างทาง (อย่าไปหวังว่าเจ้าหน้าที่จะมีอะไรขายให้เรา 555)
ดังนั้นการจัดกระเป๋าเท่าที่ “จำเป็น” และ “แบกเอง” ได้ถือว่าสำคัญมากเพราะคงไม่มีใครอยากไปนอนหมดเรี่ยวแรงกลางทางเพราะแบกไม่ไหวเนอะ 555 ซึ่งทาง DOC เองก็น่ารักมากเพราะมี list ของที่จำเป็นและตัวอย่างเมนูอาหารที่ควรพกไปไว้ให้ด้วยเสร็จสรรพ หน้าตาของเจ้า list ที่มีให้ก็จะเป็นแบบด้านล่างนี้(แต่ถ้าใครแพลนว่าจะไปเดินช่วงหน้าหนาว เขาก็จะมี list พิเศษแยกไว้ให้สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการเพิ่มในช่วงนั้นด้วย)
สามารถดู Check List ฉบับเต็มได้ที่
http://www.doc.govt.nz/Documents/parks-and-recreation/tracks-and-walks/southland/great-walks-pack-list.pdf
เมื่อเราได้ check list มาแล้วเราอาจจะเตรียมของมาเองเลยหรือจะซื้อเพิ่มหรือเช่าเอาก็ได้ (ของเดินป่าที่นิวซีแลนด์มีให้เลือกหลากหลายแต่ราคาบางอย่างก็ถูกบางอย่างก็แพงจขกท.เองก็ไม่สามารถตอบได้ว่าอะไรควรซื้อไม่ควร) แต่ถ้าจะซื้อตามเมืองใหญ่ๆเช่น Christchurch, Queenstown จะมีให้เลือกหลายร้าน ส่วนที่ Te Anau ที่จขกท.เจอนั้นมี 2 ร้านซึ่งมีบริการให้เช่าอุปกรณ์เดินป่าด้วย (ชุดครัวมีแค่ เตา และหม้อ ไม่รวมพวก ช้อนซ้อม จานชามส่วนตัว)
ร้านเช่าอุปกรณ์ในย่าน Te Anau
Bev’s Tramping Gear Hire
https://www.bevs-hire.co.nz
Kiwi Discovery
http://www.kiwidiscovery.com/great-walks-tracks/equipmental-rental/
ในส่วนของอาหารที่จขกท.พกไปนั้น เน้นไปทางของแห้งให้พลังงานและมีโปรตีนเช่น พวกถั่ว ชีส เนื้อแดดเดียว และ Degydrated meals ซึ่งมาในรูปแบบซอง ข้อดีคือ น้ำหนักเบามาก สารอาหารครบ ทำกินง่ายแค่เติมน้ำร้อนทิ้งไว้ไม่เกิน 15 นาทีก็ได้ทานแล้ว แต่ข้อเสียคือ ราคาค่อนข้างสูง หน้าตาไม่น่าทานเอาซะเลย(แต่จริงๆมันอร่อยอยู่นะ) พวก dehydrated meals สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของเดินป่าทั่วไปมีหลายราคาและหลายยี่ห้อ มีทั้งของคาว ของหวาน ข้าวเปล่าก็มี เลือกได้ตามสบาย

หน้าตาของ dehydrated meals อร่อยไม่สมกับหน้าตาเอาซะเลย
สิ่งที่ต้องระวังใน Kepler Track
Sandflies!!
เจ้าสิ่งมีชีวิตนี้คือแมลงหน้าตาคล้ายๆแมลงวันตัวกระจ้อยที่นอกจากสร้างความรำคาญแบบสุดๆแล้วมันยังกัดเจ็บอีกด้วย ใครนึกความร้ายกาจไม่ออกให้นึกถึงรอยกัดแบบยุงและคันยาวนานเหมือนโดนคุ่นที่ไทยกัด ซึ่งไอ้พวกนี้จะอยู่ตามแหล่งน้ำและออกมาเป็นฝูง(นึกภาพฝูงแมลงวันบนเขียงหมูในตลาด)เลือกกัดเฉพาะช่วงมีแสงเท่านั้น
วิธีแก้ : ซื้อยาพ่นกันแมลงได้ตามร้านขายยา ขายของเดินป่า
ลมพายุ
ถึงแม้ว่าจขกท.จะเลือกเดินในช่วงธันวาคมซึ่งเป็นฤดูร้อนแล้วก็ตามแต่ใช่ว่าอากาศจะดีเพราะที่นี่คือนิวซีแลนด์!! ซึ่งอากาศเปลี่ยนแปลงได้เร็วยิ่งกว่ามนุษย์เมนส์บางครั้งลมสามารถแรงเป็นพายุได้ง่ายๆโดยเฉพาะบนภูเขา
วิธีแก้ : เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ตามพยากรณ์อากาศและฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ในแต่ละจุดพักซึ่งเขาจะบอกเราว่าควรทำยังไงในกรณีที่อากาศแย่มากๆ
[CR] [กระทู้ชวนไปเหนื่อย] Kepler Track - พาเดินป่าระยะไกลสไตล์กีวี่ ที่ New Zealand !!
9 Great Walks คืออะไร อยู่ที่ไหนบ้าง
Great Walks รู้จักกันในนามเส้นเดินป่าที่ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดขายของการท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ ถ้าสมมติให้เป็นเวทีประกวดนางงาม Great Walks ทั้งเก้าที่ก็คงเปรียบเหมือนกับตัวแทนสาวสวยทั้งหมดเก้าคนของประเทศเลยก็ว่าได้ นอกจากจะเป็นเส้นเดินป่ายอดนิยมของทั้งคนในประเทศและนักท่องเที่ยวแล้วทุกเส้นยังได้รับการดูแลอย่างดีโดยหน่วยงานของรัฐที่เรียกว่า Department of Conservation (DOC) อีกด้วย เรียกง่ายๆว่า เดินง่าย ปลอดภัย และถ้าเรามีโชคมากพอเราอาจจะได้เห็นสัตว์ป่าหายากของนิวซีแลนด์เป็นของแถมอีกด้วย!! ซึ่งระยะเวลาที่ใช้สำหรับการเดิน Great Walks ในแต่ละเส้นนั้นก็จะเริ่มจาก 3-4 วันไปจนถึงเกือบสิบวันเลย
แผนที่แสดงเส้นทาง Great Walks ทั้งหมดจากเกาะเหนือถึงเกาะใต้ (ภาพจาก wikipedia)
สำหรับที่เด่นๆซึ่งทุกคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้าง เช่น Tongariro Northern Circuit ที่เกาะเหนือซึ่งเราจะมีโอกาสได้เห็นวิวภูเขาไฟสวยๆ หรือจะเป็นเส้น Milford Track กับ Kepler Track ที่ปลายสุดของเกาะใต้ไม่ใกล้ไม่ไกลจาก Milford Sound ที่หลายคนชอบไปล่องเรือชมบรรยากาศภูเขานั่นเอง
ทุกเส้นใน Great Walks จะมีที่พัก (Huts) และจุดกางเต้นท์ (Campsites) ให้เป็นจุดๆ ซึ่งถ้าเราอยากพักก็ต้องทำการ “จอง” ย้ำว่าต้องจองไม่ว่าจะนอนใน huts หรือกางเต้นท์เองก็แล้วแต่ และควรจองล่วงหน้าด้วยเพราะในเส้นที่ฮิตมากๆ เช่น Milford Track อาจจะเต็มยาวเป็นปีๆได้เลยทีเดียว (ถ้าจองไม่ได้ไม่ควรแอบเข้าไปพัก เพราะเขาจับได้แน่นอนมีการเช็คชื่อทุกจุด โดนจับได้ค่าปรับสูงเอาเรื่อง ทางที่ดีถ้าจองไม่ได้เลือกเดินเป็นบางส่วนที่สามารถจบในวันเดียวได้ดีกว่า)
Note :
สำหรับคนที่อยากโหลดโบรชัวของ Great Walks สามารถเข้าดาวน์โหลดได้ที่ http://www.doc.govt.nz/great-walks
ข้อมูลทั่วไปของ Kepler Track
ระยะเวลา :
3-4 วัน
ระยะทาง :
~60 km (ขึ้นลงคนละด้าน)
จุดเริ่มต้น/สิ้นสุด :
Kepler Carpark/Rainbow Reach เลือกขึ้นลงได้ทั้งสองทาง ถ้าไม่อยากเดินครบลูปก็สามารถจอง shuttle bus รับส่งได้ทั้งสองที่
ความยาก :
ปานกลางในช่วงเวลาทั่วไปและยากในช่วงฤดูหนาว (ต้องการอุปกรณ์และประสบการณ์สำหรับลุยหิมะ)
** ดูข้อมูลเสริมสำหรับการเดินป่าช่วงฤดูหนาวได้ที่ http://www.doc.govt.nz/Documents/parks-and-recreation/tracks-and-walks/southland/kepler-track-winter-tramping.pdf **
คนนำทาง :
จขกท.ไม่คิดว่าจำเป็นเพราะเส้นทางเดินชัดเจนมากประกอบกับมีแผนที่ดังนั้นเราสามารถเดินเองได้สบายๆ แต่ถ้าอยากจ้างไกด์ก็สามารถทำได้ซึ่งแพงหูฉีก
ที่พัก : แบ่งเป็น 2 แบบ คือ huts กับ campsites
- Huts ราคาแพงกว่าแต่สะดวกสบาย มี Luxmore Hut, Iris Burn Hut และ Moturau Hut
- Campsites ถูกกว่า huts ,มี Brod Bay Campsite และ Iris Burn Campsite
หมายเหตุ
- ไม่ว่าเลือกพักแบบไหนจำเป็นต้องจองก่อนล่วงหน้าที่ https://booking.doc.govt.nz/Menu.aspx?sg=KEP
- สามารถเช็คว่าที่พักเรามีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรได้บ้างที่ http://www.doc.govt.nz/parks-and-recreation/places-to-go/fiordland/places/fiordland-national-park/things-to-do/tracks/kepler-track/description/
- ราคาที่พักช่วง low season จะราคาถูกกว่า
การเดินทาง :
- ขับรถมาเอง สามารถเดินทางมาที่เมือง Te Anau ได้เลยรวมทั้งจอดรถทิ้งไว้ได้ทั้ง Kepler Carpark หรือ Rainbow Reach
- ไม่มีรถยนต์ สามารถใช้บริการ Intercity Bus เดินทางระหว่างเมือง และใช้ shuttle bus ซึ่งมีหลายบริษัทรับส่งระหว่างช่วงเดินป่าได้ด้วย
สำหรับทริปนี้จขกท.เดินทางกับเพื่อนกันแค่สองคนแบบไม่มีรถยนต์ส่วนตัวเลยใช้บริการ Intercity Bus ระหว่างเมืองใหญ่ๆ (Christchurch to Queenstown) และใช้บริการของ Tracknet ระหว่าง Queenstown ไปกลับ Te Anau และรับส่งจากโรงแรมไปกลับ Kepler Track
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเดินทางได้ที่
Intercity Bus https://www.intercity.co.nz
Tracknet http://tracknet.net
จะไปเดินป่าต้องเตรียมอะไรบ้าง?
สิ่งสำคัญที่จขกท.เรียนรู้มาอย่างหนึ่งในการเดินป่าที่นิวซีแลนด์คือ
1. ไม่มีลูกหาบให้
2. ไม่สามารถหาซื้อของได้ระหว่างทาง (อย่าไปหวังว่าเจ้าหน้าที่จะมีอะไรขายให้เรา 555)
ดังนั้นการจัดกระเป๋าเท่าที่ “จำเป็น” และ “แบกเอง” ได้ถือว่าสำคัญมากเพราะคงไม่มีใครอยากไปนอนหมดเรี่ยวแรงกลางทางเพราะแบกไม่ไหวเนอะ 555 ซึ่งทาง DOC เองก็น่ารักมากเพราะมี list ของที่จำเป็นและตัวอย่างเมนูอาหารที่ควรพกไปไว้ให้ด้วยเสร็จสรรพ หน้าตาของเจ้า list ที่มีให้ก็จะเป็นแบบด้านล่างนี้(แต่ถ้าใครแพลนว่าจะไปเดินช่วงหน้าหนาว เขาก็จะมี list พิเศษแยกไว้ให้สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการเพิ่มในช่วงนั้นด้วย)
สามารถดู Check List ฉบับเต็มได้ที่ http://www.doc.govt.nz/Documents/parks-and-recreation/tracks-and-walks/southland/great-walks-pack-list.pdf
เมื่อเราได้ check list มาแล้วเราอาจจะเตรียมของมาเองเลยหรือจะซื้อเพิ่มหรือเช่าเอาก็ได้ (ของเดินป่าที่นิวซีแลนด์มีให้เลือกหลากหลายแต่ราคาบางอย่างก็ถูกบางอย่างก็แพงจขกท.เองก็ไม่สามารถตอบได้ว่าอะไรควรซื้อไม่ควร) แต่ถ้าจะซื้อตามเมืองใหญ่ๆเช่น Christchurch, Queenstown จะมีให้เลือกหลายร้าน ส่วนที่ Te Anau ที่จขกท.เจอนั้นมี 2 ร้านซึ่งมีบริการให้เช่าอุปกรณ์เดินป่าด้วย (ชุดครัวมีแค่ เตา และหม้อ ไม่รวมพวก ช้อนซ้อม จานชามส่วนตัว)
ร้านเช่าอุปกรณ์ในย่าน Te Anau
Bev’s Tramping Gear Hire https://www.bevs-hire.co.nz
Kiwi Discovery http://www.kiwidiscovery.com/great-walks-tracks/equipmental-rental/
ในส่วนของอาหารที่จขกท.พกไปนั้น เน้นไปทางของแห้งให้พลังงานและมีโปรตีนเช่น พวกถั่ว ชีส เนื้อแดดเดียว และ Degydrated meals ซึ่งมาในรูปแบบซอง ข้อดีคือ น้ำหนักเบามาก สารอาหารครบ ทำกินง่ายแค่เติมน้ำร้อนทิ้งไว้ไม่เกิน 15 นาทีก็ได้ทานแล้ว แต่ข้อเสียคือ ราคาค่อนข้างสูง หน้าตาไม่น่าทานเอาซะเลย(แต่จริงๆมันอร่อยอยู่นะ) พวก dehydrated meals สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของเดินป่าทั่วไปมีหลายราคาและหลายยี่ห้อ มีทั้งของคาว ของหวาน ข้าวเปล่าก็มี เลือกได้ตามสบาย
สิ่งที่ต้องระวังใน Kepler Track
ภาพจาก https://theworldahead.blog/2017/03/14/the-sandfly-saga/
Sandflies!!
เจ้าสิ่งมีชีวิตนี้คือแมลงหน้าตาคล้ายๆแมลงวันตัวกระจ้อยที่นอกจากสร้างความรำคาญแบบสุดๆแล้วมันยังกัดเจ็บอีกด้วย ใครนึกความร้ายกาจไม่ออกให้นึกถึงรอยกัดแบบยุงและคันยาวนานเหมือนโดนคุ่นที่ไทยกัด ซึ่งไอ้พวกนี้จะอยู่ตามแหล่งน้ำและออกมาเป็นฝูง(นึกภาพฝูงแมลงวันบนเขียงหมูในตลาด)เลือกกัดเฉพาะช่วงมีแสงเท่านั้น
วิธีแก้ : ซื้อยาพ่นกันแมลงได้ตามร้านขายยา ขายของเดินป่า
ลมพายุ
ถึงแม้ว่าจขกท.จะเลือกเดินในช่วงธันวาคมซึ่งเป็นฤดูร้อนแล้วก็ตามแต่ใช่ว่าอากาศจะดีเพราะที่นี่คือนิวซีแลนด์!! ซึ่งอากาศเปลี่ยนแปลงได้เร็วยิ่งกว่ามนุษย์เมนส์บางครั้งลมสามารถแรงเป็นพายุได้ง่ายๆโดยเฉพาะบนภูเขา
วิธีแก้ : เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ตามพยากรณ์อากาศและฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ในแต่ละจุดพักซึ่งเขาจะบอกเราว่าควรทำยังไงในกรณีที่อากาศแย่มากๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น