ปรึกษาและขอคำแนะนำ แนวทางในการดูแลรักษาอาการตามองไม่เห็น

สวัสดีค่ะ มีเรื่องอยากปรึกษาท่านที่เคยมีประสบการณ์หรือมีคำแนะนำ หรือแนวทางในการรักษาอาการตามองไม่เห็นของคุณอาของเราค่ะ

เริ่มจากเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน คุณอาของเราอายุประมาณ 52 ปี เป็นคนแข็งแรงปกติทั่วไป มีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน
รับราชการอยู่ต่างจังหวัด คุณอาเป็นคนแข็งแรงมากค่ะ บุกป่าฝ่าดง ทำทุกอย่างได้เหมือนคนปกติทั่วไป ดูเผินๆเหมือนคนอายุยังไม่ถึง 50 ด้วยซ้ำ
และหลังจากที่ป่วย ก็พอทราบมาว่าก่อนหน้าที่จะป่วยว่าเค้ามีความเครียดจากปัญหาหลายๆอย่างค่ะ

อาการมองไม่เห็นของคุณอาเริ่มจาก ปัสสะวะไม่ออก เป็นอยู่ 2-3 วัน ก็เลยไปหาหมอที่รพ.ประจำจังหวัด คุณหมอให้แอดมิด
และแจ้งว่าน่าจะเป็นไตวายเฉียบพลัน ตอนนั้นคุณอายังมองเห็นได้ปกตินะคะ แต่หลังจากแอดมินในวันที่สอง
อาการเกือบเป็นปกติ แต่เค้าบ่นว่าปวดหัวบริเวณท้ายทอยมากๆ และเค้านอนหนุนหมอนสูงๆหายๆใบ แล้วหลับไป
ตื่นมาอีกทีคือมองอะไรไม่เห็นแล้วค่ะ มองไม่เห็นเลย เค้าบอกว่าเค้าจะเห็นเหมือนแสงขาวๆแค่นั้นเองค่ะ
แต่ภายนอก ตาเค้าเหมือนคนปกติทุกอย่างค่ะ และที่รพ.นั้น คุณหมอไม่สามารถสรุปสาเหตุของอาการนี้ได้ แต่ก็แจ้งว่ามีโอกาสที่จะเป็นเบาหวานขึ้นตา
จากนั้นทางรพ.ประจำจังหวัด ได้ส่งตัวคุณอาไปรักษาต่อที่เชียงใหม่ และที่เชียงใหม่ก็ยังไม่สามารถวินิจฉัยแบบฟันธงได้ว่าสาเหตุที่อยู่ๆก็มองไม่เห็นเกิดจากอะไรกันแน่

ทั้งนี้ ที่เชียงใหม่ คุณอาได้เป็นคนไข้ที่เป็น case study ให้นักศึกษาแพทย์ด้วยค่ะ
หลังจากที่รักษาได้พักใหญ่ๆ และเทียวไปเทียวมาที่รพ.ที่เชียงใหม่หลายๆรอบ
คุณหมอบอกว่า มีความเป็นไปได้ว่าที่ตาบอด เพราะไตวายเฉียบพลันแล้วเลือดไม่ไปเลี้ยงลูกตา ทำให้ตาบอด (อันนี้เราฟังมาจากอาสะใภ้อีกทีนะคะ ถ้าเราพูดผิดตรงไหนต้องขออภัยด้วยค่ะ) คุณหมอได้ให้ยามาทานและนัดติดตามผลเป็นระยะๆ
ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา อาการคุณอาคงที่มาโดยตลอด คือมองไม่เห็นยังไงก็ยังมองไม่เห็นเหมือนเดิมค่ะ

จนถึงตอนนี้ ผ่านมา 3 ปีแล้ว ช่วงแรกที่คุณอาได้กลับมาอยู่บ้าน เค้าเครียดมากค่ะ เคยพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ
ได้มีโอกาสคุยกับพยาบาลจิตเวช ที่ดูแลคุณอาอยู่ เค้าบอกว่ามีโอกาสที่จะตาบอดเพราะความเครียดด้วยเหมือนกันค่ะ
เราเองปีนึงได้เจอคุณอาแค่ครั้งสองครั้ง แต่ล่าสุดที่ไปเจอ เราสงสารและเห็นใจเค้ามาก
จากคนที่ปกติยิ้มแย้มแจ่มใส กลายเป็นคนตาบอด แต่ก็ดูเหมือนเค้าเริ่มจะยอมรับสภาพแล้วค่ะ ยิ้มแย้มแจ่มใสกว่าตอนที่มองไม่เห็นใหม่ๆ
แต่ในใจเราก็อยากให้เค้ากลับมามองเห็นได้ แม้จะเห็นแค่ลางๆก็ยังดี
ตอนนี้เราอยู่กรุงเทพ อยากจะรับคุณอาเข้ามารักษาต่อที่กรุงเทพ แต่ยังติดเรื่องครอบครัวคุณอาไม่สะดวกจะมาด้วย
และเหมือนครอบครัวเค้าจะหมดหวังแล้ว เพราะเวลาผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้วค่ะ

เราอยากทราบว่ามีใครพอจะมีประสบการณ์ในลักษณะนี้บ้างมั้ยคะ เรายังแอบมีความหวังว่ารพ.ในกรุงเทพเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมกว่า
เราอยากให้คุณอากลับมามองเห็นได้เหมือนเดิมค่ะ  เราเองก็รู้สึกผิด ว่าตอนที่เค้าป่วยแรกๆเราน่าจะพาเค้ามารักษาที่นี่
แต่ด้วยปัญหาและความไม่ลงตัวหลายๆอย่างในชีวิตตอนนั้น ทำให้ต้องปล่อยให้ครอบครัวเค้าเป็นคนตัดสินใจ
แต่ตอนนี้เราเริ่มลงตัวแล้ว เรามีเวลาสามารถพาเค้าไปหาหมอได้ เรื่องค่ารักษาเค้าเป็นข้าราชการ คิดว่าน่าจะใช้สิทธิ์ตรงนี้ได้
ถ้าหากยังพอความหวัง หรือมีแนวทางในการรักษา เราจะได้ไปคุยกับอาสะใภ้และครอบครัวเค้า เผื่อเค้าจะอนุญาตให้เราพาคุณอามาที่นี่ค่ะ

หรือหากท่านใดพอจะมีข้อมูลคุณหมอ หรือรพ.ที่สามารถใช้สิทธิ์ราชการรักษาเคสประมาณนี้ได้
หรือต้องการเสริมความรู้หรือมีข้อเสนอแนะใดๆก็ตาม สามารถแจ้งได้เลยค่ะ เผื่อให้เป็นวิทยาทานแก่ท่านอื่นๆด้วย
ขอบคุณมากๆค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่