แม่มณีในทวิภพ กับเกศสุรางค์ในบุพเพสันนิวาสใครเก่งกว่ากันคะ?

เทียบกันหมัดต่อมัด แม่มณี(Ver สิเรียม) vs เกศสุรางค์(Ver ละคร) vs แม่บัวนิราศสองภพ(อันนี้แถม)....จัดอันดับตามความเห็นข้าพเจ้า

ภูมิหลัง:
1.แม่มณี : ลูกชนชั้นสูง(ถ้าจำไม่ผิดเป็นลูกทูต) เดินทางไปต่างประเทศกับพ่อบ่อย มารยาทเป๊ะไหวพริบสูง ความเรียบร้อยในยุคปัจจุบันนางคือผ้าที่ผับไว้(แต่พอย้อนกลับมาในอดีตเจอผู้หญิงสมัยนั้นเป็นเสมือนผ้าที่พับไว้แล้วรีดซ้ำนางเลยดูแก่นแก้ว)
2.เกศสุรางค์ : ลูกชนชั้นกลาง จบโทประวัติศาสตร์ฝรั่งเศษ แต่มารยาทกาลเทศไม่ดีต้องปรับปรุง ดูเป็นหญิงแก่นแก้วแม้ในยุคปัจจุบัน
3.แม่บัว : ไฮโซตกอับ เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่สุด ปากร้าย ทำอะไรไม่เป็นคล้ายๆเด็กพ่อแม่ตามใจ

ความรู้ด้านประวัติศาสตร์:
1.เกศสุรางค์:เก่งที่สุดในตอนต้นเรื่อง นางจบโทประวัติศาสตร์มา
2.แม่มณี:ตอนต้นเรื่องรู้แค่คร่าวๆ แต่ตอนใกล้จบเก่งกว่าเกศสุรางค์เพราะนางไป Up level โดยใช้กระจกวิเศษกลับมายังปัจจุบันเพื่อไปอ่านประวัติศาสตร์
3.แม่บัว: ไม่ค่อยรู้อะไรสักอย่าง รู้อยู่สองอย่างคือ "กรุงศรีจะแตก" และ "พากูไปพระเจ้าตากด่วน" ดีนะที่เรื่องสองเรื่องที่รู้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ตอนใกล้จบหลังนางกลับมายุคปัจจุบันแล้วนางศึกษาจนกลายเป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์

ไหวพริบ+มารยาท
1.แม่มณี : มารยาทดีลูกจักผู้หลักผู้ใหญ่ ไหวพริกการพูดระดับที่พระเอกที่เป็นทูตไม่เคยเถียงชนะเธอ มีทั้งคารมและลูกอ้อน รู้จักใช้ไหวพริกในการทำให้คนอื่นๆรักเธอ
2.เกศสุรางค์ : กระโดกกระเดก ไหวพริกกลางๆ
3.แม่บัว : ปากเสียจนผมงงว่ามันรอดชีวิตมาได้ยังไงยันจบเรื่อง

ไอเท็ม
1.แม่มณี : กระจบวิเศษ อำนาจเหนือกว่าคัมภีร์กฤษณะกาลีร้อยเล่มรวมกันอีกนะออเจ้า
2.แม่บัว : นาฬิกาถ่ายรูปได้(หรือมือถือหว่าจำไม่ได้) แต่ She ก็ใช้เสียคุ้มเลย
3.เกศสุรางค์ : ไม่มีห่าอะไรสักอย่างเลยนะออเจ้า

ความสามารถในการเอาตัวรอด
1.แม่บัว : แกร่งจริงๆรายนี้ ขโมยกินไก่ไหว้เจ้า ออเจ้าก็ทำมาแล้ว
2.แม่มณี : มีความสามาถทำให้คนรักสูง
3.เกศสุรางค์ : นิสัยชอบสอดรู้ทำเอาเกือบตายมาหลายครั้ง มีสกิลหายตัวแต่พอใช้จริงไปเดินชนกระถางต้นไม้เฉยเลย T-T

งานบ้านงานเรือน
1.เกศสุรางค์ : ทำเป็นแทบทุกอย่าง
2.แม่มณี : ทำไม่ค่อยเป็นแต่เรียนรู้เร็ว
3.แม่บัว : จะซักผ้ายังเรียกหา "เครื่องซักผ้า" เลย

ภาษา
1.แม่มณี : ไม่ต้องสงสัย รับทูตได้ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส ดีกรีลูกทูต
2.เกศสุรางค์ : ชำนาญภาษาฝรั่งเศสเป็นพิเศษ แต่ภาษาอื่นงูๆปลาๆ
3.แม่บัว : รู้แค่ภาษาอังกฤษ

สกิลการทูต
1.แม่มณี : ได้รับความไว้ใจจากราชทูตให้รับแขกบ้านแขกเมือง
2.เกศสุรางค์ : ยุให้พระเพทราชายึดอำนาจ (ถือว่าเป็นสกิลทูตที่ไม่ค่อยดีนะออเจ้า)
3.แม่บัว : สกิลการทูตติดลบ... ทำให้คนดีๆอย่างอาเหลียงกลายเป็นคนชั่วหันมายิงพระเอกได้

ระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
1.แม่มณี : ยุค รศ112 สู้กันด้วยการทูตไม่ค่อยมีใครตาย ปลอดภัยแน่นอน 100%
2.เกศสุรางค์ : อยู่ยุคล้มอำนาจราชวงศ์ปราสาททอง มีสิทธิตายปานกลางถ้าเลือกข้างผิด (ดีที่พระเอกเลือกข้างถูก)
3.แม่บัว : อยู่ยุคกรุงแตก...แค่นี้ไม่ต้องบรรยายต่อ

การปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่ย้อนไป
1.แม่มณี : ปรับตัวได้ตั้งแต่ต้นเรื่อง
2.เกศสุรางค์ : ตั้งหลักได้กลางๆเรื่อง
3.แม่บัว : โดนด่าว่าบ้าตั้งแต่ต้นยันจบ ขนาดตอนใกล้จบย้อนกลับมาปัจจุบันแล้วยังโดนด่าว่าบ้าอีก สรุปไม่เคยปรับตัวเลยไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบัน

สถานะทางสังคม
1.แม่มณี : ชนชั้นสูงที่เป็นที่รัก
2.เกศสุรางค์ : ชนชั้นสูงที่เป็นที่รังเกลียด(ตอนต้นเรื่อง - กลางเรื่อง)
3.แม่บัว : ทาส+คนบ้า

ความสัมพันธ์กับพระเอก
1.แม่มณี : พระเอกรักตั้งแต่แรกพบ เรียก "แม่มณีจ๋า"
2.เกศสุรางค์ : พระเอกเกลียดจนไม่อยากนึกถึง ด่า "เจ้าเป็นคนกำเริบเสิบสาน...(มีต่อ)"
3.แม่บัว : พระเอกมองเป็นตัวน่ารังเกลียด เรียก "อีบ้า"

อำนาจในบ้าน
1.แม่มณี : ผู้คุมเกมส์ ขู่พระเอกให้กินยาได้
2.เกศสุรางค์ : ผู้ตามเกมส์ ต้องทำดีกับคนในบ้านให้คนเลิกเกลียดนาง
3.แม่บัว : เป็นทาส

ความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์
1.แม่มณี : เป็นหนึ่งในชิ้นส่วนของประวัติศาสตร์ที่จะขาดไม่ได้(เป็นผู้ช่วยพระเอก)
2.เกศสุรางค์ : นั่งดูอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ
3.แม่บัว : ไม่ต้องมีก็ได้


แถมๆ ยิ่งเขียนยิ่งมันส์

ตอนจบ
1.แม่มณี : ได้อยู่กับพระเอกแบบได้ไปกราบลาแม่ก่อน
2.เกศสุรางค์ : ได้อยู่กับพระเอก แต่ไม่ได้ไปลาแม่ (อันที่จริงนางก็ไปกราบลานะแต่ไปแค่วิญญาณแม่เลยไม่รู้เรื่อง)
3.แม่บัว : ผมงงอยู่เกือบ 10 ปีว่าสรุปนางย้อนกลับไปได้มั้ย จนไปดูย้อนหลังเห็นภาพกรอบเล็กๆใน end credit เป็นภาพนางยืนคู่กับเทียนฉากหลังเป็นราชวังธนบุรีสรุปก็คือได้กลับ... แต่แหมมมมม จะสมหวังทั้งทีแทนทียังสมหวังแค่1/8ของขนาดจอทีวีทำไมผู้กำกับถึงได้โหดกับนางขนาดนี้นะ

แถมๆ นึกได้ก็เขียนต่อ

การเลือกข้าง
1.แม่มณี : เลือกอยู่ข้างสยามอย่างภาคภูมิใจเคียงคู่กับพระเอก
2.เกศสุรางค์ : เลือกอยู่ข้างกบฎแบบโดนมัดมือชก ดีนะที่เป็นข้างที่ชนะ
3.แม่บัว : พระเอกตัวหาเรื่องให้แม่บัวโดยแท้ แรกเริ่มก็เป็นลูกพระยาพลเทพผู้ทรยศ ต่อมาก็ไปทูลเชิญพระเจ้าอุทุมพรให้สึกออกมาเอาบังล์ลังก์จนถูกจับไปประหาร พอกรุงแตกพระเอกดันต้องจำใจไปเข้าร่วมกับ "พระองค์เจ้าศรีสังข์" จนโดนทหารพระเจ้าตากไล่ฆ่า สรุปชีวิตอัปปรีย์ทั้งพระทั้งนาง

กดมาดูอีกที คนชอบความเห็นเราเยอะแฮะ งั้นแถมให้อีก

คิดว่าพระเอกเป็นใครเมื่อครั้งแรกพบ
1.แม่มณี : รู้ชื่อพร้อมตำแหน่งที่จะได้รับในอนาคต... นางเตรียมตัวมาดีจริงๆ
2.เกศสุรางค์ : ใครไม่รู้ แต่อุ้ย!!! หล่อจัง.... รายนี้สัญชาติญาญล้วนๆ
3.แม่บัว : คิดว่าพระเอกเป็นหัวหน้าแก๊งค้ายาบ้า.... นางคิดว่านางตกน้ำที่อยุธยาแล้วพุ่งมาโผล่ชายแดน(คิดได้ไงวะ)

พัฒนาการด้านความสัมพันธ์ของพระเอกต่อนางเอก
1.แม่มณี : รัก > รักมาก > รักมากๆ > รักมากที่สุด
2.เกศสุรางค์ : แค้น > เกลียด > รำคาญ > เฉยๆ > แอบมีใจ > รัก > รักยิ่งชีพ(เอามีดจ่อคอตัวเองคงรักยิ่งชีพแหละ)
3.แม่บัว : ตายซะเถอะ (เข้าใจผิด คิดว่าเป็นพม่า) > อีบ้า > เกลียด > รำคาญ > เฉยๆ > รัก > รักยิ่งชีพ (หมื่นเทียรบทจะรักก็รักหมดใจเลยนะออเจ้า)

ความรวดเร็วในการรู้ตัวว่าได้หลุดเข้ามาในอดีต
1.แม่มณี : รู้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ทะลุกระจกมา ...ไอนี่ก็เร็วไป
2.เกศสุรางค์ : รู้ประมาณวันที่สองของการทะลุมิติมา ...สมเหตุสมผลดี
3.แม่บัว : จำไม่ได้ว่าใช้เวลากี่วัน แต่ที่รู้ๆขนาดพระเอกพาพายเรือรอบกรุงศรีอยุธยา she ก็ยังไม่รู้เรื่องและคิดว่าตัวเองอยู่ตะเข็บชายแดน

เมนูสุดเด็ดประจำเรื่อง
1.เกศสุรางค์ : มะม่วงน้ำปลาหวาน หมู่สโล่ง ทองหยิบทองหยอด กุ้งเผาซีฟู๊ด หมูกะทะ
2.แม่มณี : ขนมหวานฉบับแม่คุณหลวง
3.แม่บัว : หนูย่างสูตรต้นตำหรับพ่อครัวเทียน... เฮ้ย!!! อีบัว!!! อย่าอ้วกสิ!!! ปัดโธ่เสียของหมด!!!