ถ้าผมเล่าแล้ววกไปวนมาแล้วก็ถ้าเล่าๆอยู่แล้วออกทะเล ขอโทษด้วยนะครับ ฮืออ
ทุกคนเคยโดยคาดหวังจาก ผปค. บ้างไหมครับ ว่าต้องเข้าที่นี่ๆ คณะนี้นะ จบมาจะได้ทำงานดีๆ ??
ผมขอเกริ่นก่อนครับ ผมเองตอน ม.ต้น เรียนโปรแกรมอังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบมากๆ ตั้งแต่ ตอน ป.3 ก็เรียนไป พอจะเข้า ม.ปลายก็สอบเลือกสายอีกที่นี้ทำไง เลือกอันดับ 3 อันดับ ในหัวผมคิดไว้แล้วแหละว่า 1.คณิต-อังกฤษ 2 ศิลป์ญี่ปุ่น 3 ธุรกิจ เพราะ3อย่างนี้ก็เป็นสิ่งที่ผมชอบอยู่แล้ว แต่ตอนนั้น ผปค ผมเหมือนโดนเป่าหูจากญาติๆว่าต้องแบบเอา วิทย์-คณิต สิจะได้เข้าที่ดีๆ หมอ วิศวะ ซึ่งเอาจริงๆ ผมไม่ชอบ2วิชานี้ ถ้าเลือกได้ตอนเข้า คณิต-อังกฤษ ผมยังอยากให้มีแต่ภาษาด้วยซ้ำ เพราะเลขอะที่ผมชอบจริงก็แค่ บวก ลบ คูณ หาร เปอร์เซ็นต์ ร้อยละ กำไร ขาดทุน อยู่แค่นี้ ผมก็ต้องจำใจเลือก 3 อันดับใหม่ เป็น 1 คณิต-วิทย์ 2 คณิต-อังกฤษ 3 ธุรกิจ แต่ผลสอบออกมา ผมรู้สึกดีมากๆ ที่ไม่ได้วิทย์ คณิต แต่ได้ 2อันหลังแทน ผมก็เลือก คณิต-อังกฤษ พอจบ ม.6 ปุ๊บ เกรดผมก็กลางๆก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น 3.01 และสิ่งที่ผมทนตั้งแต่ ป.1-ม.6 12 ปี ที่วันนึงก็นั่งไปเหอะ 5-6 วิชา เป็นยังงี้ตั้งแต่ประถม ยัน จบม.ปลาย หนักหน่อยก็มีข้อสอบเก็บคะแนนหลังเลิกเรียน บางวันคาบเย็นๆเลิก 16.30 อ่ออีกอย่างจบม.6 เทอมสุดท้ายที่ผมเรียนผมจำได้อะ 15-16 วิชานี่แหละ
ที่นี้ของผมปีที่แล้วจริงๆก็ได้ไปสมัครหลายที่ ผมได้ ม. แห่งนึง ได้โลจิสติกส์ กับอีกที่ บริหารธุรกิจอังกฤษ ได้ในเวลาไล่เลี่ยกันมั้งถ้าจำไม่ผิด
โดยส่วนตัวผมชอบนะทั้ง 2 เลยเพราะเป็นเป้าหมายผมตั้งแต่ก่อน จบ ม.ปลาย ตอนนั้นคิดแบบเด็ก ม.ปลายเลยว่าเราได้ภาษา แล้วก็งานบริหารก็คิดว่าน่าจะได้ออกไปพบปะผู้คนบ้าง ส่วนโลจิสติกส์ ก็เป็นการนำเข้า-ส่งออกอยู่แล้ว ซึ่งถ้าให้ผมออกไปข้างนอกผมชอบนะชอบพบปะผู้คน แต่ตอนนั้นก็มีคนมาห้ามผมซึ่งก็คือญาติๆบอกไม่เอาสิ ลองไปที่อื่นดูก่อนไหม แต่ตอนนั้นมันมีระยะเวลาวันในการจ่ายค่าเทอมทั้ง 2 ม. ที่ได้เลยไม่ได้ชำระค่าเทอมไป ลงไปอีกหลายที่สุดท้าย มาจบที่ การจัดการการบิน(ENG) ที่เรียนอยู่ในปัจจุบัน ผมก็ชอบนะแต่ถามว่าเท่า 2อันแรกไหมก็ลดลั่นกันลงมา ซึ่งถ้าผมย้อนกลับไปได้ก็ยังอยากเลือก 2 อันแรกนะ มันดูเป็นตัวตนของผมมากกว่า
ทั้งหมดที่ผมเล่าผมก็เกิดคำถามดังนี้
1. ควรลดรายวิชาลงดีไหม ???
เพราะเดี๋ยวนี้เวลาผมไปใช้ BTS ตอนเช้าบ้าง ตอนเย็นบ้าง สิ่งที่ผมเห็นแล้วแบบสงสารสุดๆ
คือเด็กตัวน้อยๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้ผมแทบจะแยกไม่ออกแล้วไหน เด็กประถมหรือม.ต้น ตัวใกล้เคียงกันมากกกกกกกก
พร้อมภาพชินตากับกระเป๋าสะพายตุงๆ ที่สะพายอยู่ข้างหลัง บางที่ก็เห็นเด็กมาขึ้น BTS ตัวเล็ก เดินเข้ามาแบบเหมือนจะเดินไม่ไหว บางคนดีน้อยก็มี ผปค ที่จะหิ้วกระเป๋าของเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคุณแม่ของน้องๆ เหล่านี่ ที่มือนึงก็สนใจลูก มือนึงก็สนใจกระเป๋ากลัวมันจะหล่นกลัวมันจะไปโดนใคร เพราะสะพายข้างเดียว ผปค บางท่านก็หิ้วกระเป๋าพอเข้ามาปุ๊บก็วางไว้ที่พื้นเลยครับ ดูก็รู้ว่าหนักแค่ไหน แล้วก็อย่างที่บอกไว้ตอนต้น ผมจบ ม.6 มา 15-16 วิชาในเทอมสุดท้าย ถามว่าได้เอามาใช้อะไรให้เกิดประโยชน์บ้างไหม เหมือนเรียนว่านแห ไปอะใครได้ก็ได้ ใครไม่ได้ก็เกรดไม่ดี ผมนึกภาพออกเลยถ้าผมจบวิทย์-คณิตนะ ไม่มีทางที่จะได้3.01 แน่นอนวิชามันกดเกรดมากๆ
2 ควรลดการสอบลงดีไหม ??
เราสอบอะไรกันอะเด็กๆเลย ONET ป.6 ม.3 ม.6 GAT-PAT 9วิชา (กสพท ผมจะละไว้เพราะมันเป็นสายเฉพาะ) ล่าสุดเลยสาธิตแห่งนึง เด็ก ป.1 สมัคร 2000กว่า รับ 100 คน แม่เจ้าขนาดนี้เด็กป.1 สมัยนี้ขนาดนี้ ดูผู้สื่อข่าว ไปสัมภาษณ์ ผปค ก็บอกมาอ่อก็ ให้เขาติว 6 วัน พัก วันนึงบ้าง ไปติวพิเศษ บลาๆ เห็นแล้วสงสารเด็กมากๆเลย คนที่ได้ก็ได้เข้าไป แล้วคนที่ไม่ได้ละ เหมือนเขาแบก ความรู้สึกของ ผปค ที่มาลงตัวเด็ก
ปล. ผมเห็นเยอะมากๆครับ คนที่จบแล้วทำงานข้ามไปคนละสายงานที่เราจบมา อย่างญาติห่างๆ ผมคนนึงจบวิศวะ จุฬา สุดท้ายตอนนี้หันไปเป็นนักบินแล้ว
เหตุผลที่คนจบแล้วข้ามสายงานมาเกิน 80% โดน ผปค บังคับทั้งๆที่ตัวเขาเองก็ไม่ได้ชอบเลย
สุดท้ายนี้ฝากถึง ผปค ทุกท่านนะครับ
เข้าใจครับว่าสมัยนี้การแข่งขันมันสูง อย่าไปบังคับเขาว่าต้องแบบนี้ๆ 100 % บังคับได้ครับแต่ลดร่อนลงมาบ้าง ถ้าเขาชอบอะไรก็ไปให้สุดครับ อย่าครึ่งๆกลางๆ อย่างผมงี้ชอบภาษาอังกฤษมาก ตั้งแต่ตอนผมอยู่ ป.3 จนถึงตอนนี้ เวลามีชาวต่างชาติมาถาม ผมก็กล้าตอบครับ ไม่ใช่ยืนหัวเราะหรือยืนโบกมือ บ๊ายบาย เห็นในสิ่งที่เขาทำแล้วมีความสุข ดีกว่าเห็นเขาโดนเราบังคับแล้วไม่มีความสุขนะครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
การศึกษาไทยและค่านิยมของ ผปค.
ทุกคนเคยโดยคาดหวังจาก ผปค. บ้างไหมครับ ว่าต้องเข้าที่นี่ๆ คณะนี้นะ จบมาจะได้ทำงานดีๆ ??
ผมขอเกริ่นก่อนครับ ผมเองตอน ม.ต้น เรียนโปรแกรมอังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบมากๆ ตั้งแต่ ตอน ป.3 ก็เรียนไป พอจะเข้า ม.ปลายก็สอบเลือกสายอีกที่นี้ทำไง เลือกอันดับ 3 อันดับ ในหัวผมคิดไว้แล้วแหละว่า 1.คณิต-อังกฤษ 2 ศิลป์ญี่ปุ่น 3 ธุรกิจ เพราะ3อย่างนี้ก็เป็นสิ่งที่ผมชอบอยู่แล้ว แต่ตอนนั้น ผปค ผมเหมือนโดนเป่าหูจากญาติๆว่าต้องแบบเอา วิทย์-คณิต สิจะได้เข้าที่ดีๆ หมอ วิศวะ ซึ่งเอาจริงๆ ผมไม่ชอบ2วิชานี้ ถ้าเลือกได้ตอนเข้า คณิต-อังกฤษ ผมยังอยากให้มีแต่ภาษาด้วยซ้ำ เพราะเลขอะที่ผมชอบจริงก็แค่ บวก ลบ คูณ หาร เปอร์เซ็นต์ ร้อยละ กำไร ขาดทุน อยู่แค่นี้ ผมก็ต้องจำใจเลือก 3 อันดับใหม่ เป็น 1 คณิต-วิทย์ 2 คณิต-อังกฤษ 3 ธุรกิจ แต่ผลสอบออกมา ผมรู้สึกดีมากๆ ที่ไม่ได้วิทย์ คณิต แต่ได้ 2อันหลังแทน ผมก็เลือก คณิต-อังกฤษ พอจบ ม.6 ปุ๊บ เกรดผมก็กลางๆก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น 3.01 และสิ่งที่ผมทนตั้งแต่ ป.1-ม.6 12 ปี ที่วันนึงก็นั่งไปเหอะ 5-6 วิชา เป็นยังงี้ตั้งแต่ประถม ยัน จบม.ปลาย หนักหน่อยก็มีข้อสอบเก็บคะแนนหลังเลิกเรียน บางวันคาบเย็นๆเลิก 16.30 อ่ออีกอย่างจบม.6 เทอมสุดท้ายที่ผมเรียนผมจำได้อะ 15-16 วิชานี่แหละ
ที่นี้ของผมปีที่แล้วจริงๆก็ได้ไปสมัครหลายที่ ผมได้ ม. แห่งนึง ได้โลจิสติกส์ กับอีกที่ บริหารธุรกิจอังกฤษ ได้ในเวลาไล่เลี่ยกันมั้งถ้าจำไม่ผิด
โดยส่วนตัวผมชอบนะทั้ง 2 เลยเพราะเป็นเป้าหมายผมตั้งแต่ก่อน จบ ม.ปลาย ตอนนั้นคิดแบบเด็ก ม.ปลายเลยว่าเราได้ภาษา แล้วก็งานบริหารก็คิดว่าน่าจะได้ออกไปพบปะผู้คนบ้าง ส่วนโลจิสติกส์ ก็เป็นการนำเข้า-ส่งออกอยู่แล้ว ซึ่งถ้าให้ผมออกไปข้างนอกผมชอบนะชอบพบปะผู้คน แต่ตอนนั้นก็มีคนมาห้ามผมซึ่งก็คือญาติๆบอกไม่เอาสิ ลองไปที่อื่นดูก่อนไหม แต่ตอนนั้นมันมีระยะเวลาวันในการจ่ายค่าเทอมทั้ง 2 ม. ที่ได้เลยไม่ได้ชำระค่าเทอมไป ลงไปอีกหลายที่สุดท้าย มาจบที่ การจัดการการบิน(ENG) ที่เรียนอยู่ในปัจจุบัน ผมก็ชอบนะแต่ถามว่าเท่า 2อันแรกไหมก็ลดลั่นกันลงมา ซึ่งถ้าผมย้อนกลับไปได้ก็ยังอยากเลือก 2 อันแรกนะ มันดูเป็นตัวตนของผมมากกว่า
ทั้งหมดที่ผมเล่าผมก็เกิดคำถามดังนี้
1. ควรลดรายวิชาลงดีไหม ???
เพราะเดี๋ยวนี้เวลาผมไปใช้ BTS ตอนเช้าบ้าง ตอนเย็นบ้าง สิ่งที่ผมเห็นแล้วแบบสงสารสุดๆ
คือเด็กตัวน้อยๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้ผมแทบจะแยกไม่ออกแล้วไหน เด็กประถมหรือม.ต้น ตัวใกล้เคียงกันมากกกกกกกก
พร้อมภาพชินตากับกระเป๋าสะพายตุงๆ ที่สะพายอยู่ข้างหลัง บางที่ก็เห็นเด็กมาขึ้น BTS ตัวเล็ก เดินเข้ามาแบบเหมือนจะเดินไม่ไหว บางคนดีน้อยก็มี ผปค ที่จะหิ้วกระเป๋าของเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคุณแม่ของน้องๆ เหล่านี่ ที่มือนึงก็สนใจลูก มือนึงก็สนใจกระเป๋ากลัวมันจะหล่นกลัวมันจะไปโดนใคร เพราะสะพายข้างเดียว ผปค บางท่านก็หิ้วกระเป๋าพอเข้ามาปุ๊บก็วางไว้ที่พื้นเลยครับ ดูก็รู้ว่าหนักแค่ไหน แล้วก็อย่างที่บอกไว้ตอนต้น ผมจบ ม.6 มา 15-16 วิชาในเทอมสุดท้าย ถามว่าได้เอามาใช้อะไรให้เกิดประโยชน์บ้างไหม เหมือนเรียนว่านแห ไปอะใครได้ก็ได้ ใครไม่ได้ก็เกรดไม่ดี ผมนึกภาพออกเลยถ้าผมจบวิทย์-คณิตนะ ไม่มีทางที่จะได้3.01 แน่นอนวิชามันกดเกรดมากๆ
2 ควรลดการสอบลงดีไหม ??
เราสอบอะไรกันอะเด็กๆเลย ONET ป.6 ม.3 ม.6 GAT-PAT 9วิชา (กสพท ผมจะละไว้เพราะมันเป็นสายเฉพาะ) ล่าสุดเลยสาธิตแห่งนึง เด็ก ป.1 สมัคร 2000กว่า รับ 100 คน แม่เจ้าขนาดนี้เด็กป.1 สมัยนี้ขนาดนี้ ดูผู้สื่อข่าว ไปสัมภาษณ์ ผปค ก็บอกมาอ่อก็ ให้เขาติว 6 วัน พัก วันนึงบ้าง ไปติวพิเศษ บลาๆ เห็นแล้วสงสารเด็กมากๆเลย คนที่ได้ก็ได้เข้าไป แล้วคนที่ไม่ได้ละ เหมือนเขาแบก ความรู้สึกของ ผปค ที่มาลงตัวเด็ก
ปล. ผมเห็นเยอะมากๆครับ คนที่จบแล้วทำงานข้ามไปคนละสายงานที่เราจบมา อย่างญาติห่างๆ ผมคนนึงจบวิศวะ จุฬา สุดท้ายตอนนี้หันไปเป็นนักบินแล้ว
เหตุผลที่คนจบแล้วข้ามสายงานมาเกิน 80% โดน ผปค บังคับทั้งๆที่ตัวเขาเองก็ไม่ได้ชอบเลย
สุดท้ายนี้ฝากถึง ผปค ทุกท่านนะครับ
เข้าใจครับว่าสมัยนี้การแข่งขันมันสูง อย่าไปบังคับเขาว่าต้องแบบนี้ๆ 100 % บังคับได้ครับแต่ลดร่อนลงมาบ้าง ถ้าเขาชอบอะไรก็ไปให้สุดครับ อย่าครึ่งๆกลางๆ อย่างผมงี้ชอบภาษาอังกฤษมาก ตั้งแต่ตอนผมอยู่ ป.3 จนถึงตอนนี้ เวลามีชาวต่างชาติมาถาม ผมก็กล้าตอบครับ ไม่ใช่ยืนหัวเราะหรือยืนโบกมือ บ๊ายบาย เห็นในสิ่งที่เขาทำแล้วมีความสุข ดีกว่าเห็นเขาโดนเราบังคับแล้วไม่มีความสุขนะครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ