:: กระทู้รีวิวเกี่ยวกับการเดินทางตลอด 10 วันในยูนนาน ประเทศจีน คุณหมิง ต้าลี่ ลี่เจียง ภูเขามังกรหยก หุบเขาเสือกระโจน แชงกรีล่า ภูเขาหิมะเหมยลี่ ธารน้ำแข็งหมินหยง โดยที่ไปคนเดียว พูดจีนไม่ได้ และไม่ได้ไปกับทัวร์ ::
กระทู้ทั้งหมด ตอนที่ 6 ยูนนาน หุบเขาเสือกระโจน Tiger Leaping Gorge PART 2
https://pantip.com/topic/37717156
...รูปที่จะได้เห็นต่อไปนี้ เป็นรูปที่จบหลังกล้อง ในตอนแรกผมว่าจะแต่งรูป แต่คิดไปคิดมาอยากให้ทุกคนเห็นเหมือนกับสิ่งที่ผมเห็นมากกว่า (ช่วงแรกของกระทู้อากาศอาจจะขมุกขมัว แต่ช่วงหลังรับรองครับว่า เด็ด!!!)...
รายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทาง ที่พัก ความยากง่าย อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมผมใส่ไว้ในท้ายกระทู้ของตอนที่ 6 นะครับ
วันที่ 5 หุบเขาเสือกระโจนTiger Leaping Gorge PART 1 ...รีวิวมาได้เกือบครึ่งทางของทริปแล้ว...
ในคืนก่อนผมซื้อตั๋วรถบัสจากอาม่า (เจ้าของที่พัก Mama Naxi Guesthouse) มาในราคา 40 หยวนต่อเที่ยว ตามกำหนดการรถจะออกเวลา 7.15 น. วันนี้จะได้ทำตามความฝันเสียที รูปถ่ายที่มองแล้วมองเล่าเป็นเดือนๆ ผมรีบลุกมาจากเตียงเวลาประมาณหกโมงเช้า ลุกขึ้นมาอาบน้ำ (ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ แต่เป็นเรื่องปกติสำหรับผมที่ต้องอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง ถ้าคนอื่นตื่นมาเห็นคงจะคิดว่าผมบ้าล่ะมั้ง) แต่เหตุผมหลักๆ ที่ต้องตื่นมาอาบน้ำเพราะผมของผมค่อนข้างบาง เวลาตื่นนอนจะเรียบแปล้ เวลาถ่ายรูปคงตลกไม่ใช่น้อย
หลังจากเก็บของเสร็จผมลงไปชั้นล่าง อาม่าได้จัดเตรียมน้ำชาร้อนๆ และขนมที่คล้ายขนมเปี๊ยะบ้านเรา ผมรีบยัดมันเข้าไปในปาก เพราะไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น จะมีข้าวกินมั้ย หรือถ้ามีจะกินได้หรือไม่ จึงต้องรีบตุนเอาไว้ก่อน หลังจากนั้นจึงร่ำลาอาม่า ก่อนจากกันผมได้บอกกับเธอเป็นภาษาอังกฤษว่า เธอเหมือนอาม่าของผมเลย เธอยิ้มและหัวเราะ พร้อมดึงผมไปกอดสักหนึ่งที ตลอดระยะเวลาสามคืนกับการต้อนรับอันแสนอบอุ่น ถ้าหากมีคนไหนมายังลี่เจียง ผมอยากจะขอแนะนำที่นี่
เช้านี้มีผม และชาวอังกฤษอีกสองคน ได้ออกเดินทางร่วมกัน ทั้งสองคนบอกว่าเคยไปเมืองไทยแล้วชอบมาก ทั้งอาหาร ผู้คน ทะเล ถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีก เป้าหมายของทั้งสองคนคือ One day trip แค่ไปจุดที่มีรูปปั้นเสือกระโจนแล้วจะกลับทันที ผมพยายามชวนให้ไปเทรคกิ้งด้วยกัน แต่นี่คือวันสุดท้ายที่อยู่ในจีนของพวกเขา
ประมาณ 2 กิโลเมตรที่อากงพาเราเดินมาตามถนนเพื่อขึ้นรถมินิบัส รถคันนี้จะตรงไปยัง TLG โดยตรงไม่แวะที่ไหน และไม่ต้องไปขึ้นที่ bus station ที่อยู่ไกลจากเมืองไปอีกหลายกิโล บนรถมีกันประมาณ 7 คน วันนี้ฟ้าปิดฝนตกปรอยๆ เราได้ออกมานอกตัวเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ ทางเริ่มเป็นเหวและหุบเขาลึก ผมเริ่มกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศถึงขนาดที่ว่าเปิดดูการพยากรณ์อากาศแทบเกือบทุกเว็บ แต่จะเลือกเชื่อเฉพาะเว็บที่บอกว่าวันนี้อากาศแจ่มใสเท่านั้น เหมือนเป็นการหลอกตัวเองหน่อยๆ แต่ก็นั่นแหละ สำหรับคนชอบถ่ายภาพ ฟ้ายิ่งเปิด ภาพยิ่งสวย
เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอากาศขมุกขมัว
หลังจากทานกาแฟ กลไกของร่างกายก็เริ่มทำงาน ความรู้สึกปวดฉี่มากขึ้นเรื่อยๆ พยายามอดทนจนเต็มกระเพาะปัสสาวะ เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ไม่มีทีท่าว่ารถจะหยุดจอดที่ไหนสักแห่ง สุดท้ายจึงรีบเปิด google translate และมุ่งไปหาคนขับทันที “weishengjian” ผมพูดถึงสองครั้ง คนขับตอบกลับมาว่า “yes” และรีบจอดรถ ถ้ารู้ว่าคนขับจะพูดภาษาอังกฤษได้ผมคงพูดไปนานแล้ว พอลงจากรถจึงรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ โดยไม่อายพวกฝรั่งที่อยู่บนรถ
เราพักประมาณ 10 นาทีหลังจากนั้นจึงเดินทางต่อ รวมระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึงปากทางเข้า TLG ณ ที่นี้เราต้องซื้อตั๋วเข้าอุทยาน ราคา 65 หยวน ( เวลาเปิด 8.30-18.00 และสามารถใช้ student card ได้ถ้าอายุไม่เกิน 25 ในราคา 32.5 หยวน ) หลังจากนั้นเรากลับขึ้นรถบัสประมาณ 100 เมตรจากที่ขายตั๋ว คนขับรถทิ้งผมไว้ที่จุดเริ่มต้นของ upper trail ตามอินเตอร์เน็ตจะบอกให้ฝากกระเป๋าไว้ที่ Jane guesthouse แต่มันอยู่จุดกึ่งกลางระหว่างที่ขายตั๋วกับจุดเริ่มต้นเดิน ผมคิดว่าจะเดินย้อนกลับไปแต่โชคดีที่มองเห็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษที่เขียนว่า luggage จึงเดินเข้าไปถามและทราบว่าสามารถฝากกระเป๋าได้ในราคา 15 หยวน ที่ฝากกระเป๋าจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ ก่อนถึงจุดเริ่มต้น upper trail ประมาณ 30 เมตร และอย่าลืมขอนามบัตรมาด้วยเผื่อเวลาตอนกลับจะได้ยื่นให้คนขับรถดูว่าต้องเอากระเป๋าที่นี่
จุดเริ่มต้น upper trail
ประวัติคร่าวๆ ของหุบเขาเสือกระโจน
หุบเขาเสือกระโจน (Tiger leaping Gorge or Hutiao Gorge) 100 km ทางตะวันตกเฉียงเหนือของลี่เจียง และเป็นเส้นทางเดินที่อยู่ระหว่างภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) 5,396 เมตร และภูเขาหิมะฮาบา (Haba snow mountain) 5,596 เมตร เป็นหนึ่งในหุบเขาที่ลึกที่สุดในโลก มีแม่น้ำจินชา (Jinsha river) ไหลอยู่เบื้องล่าง
ตามตำนานเล่าว่า มีเสือตัวหนึ่งหนีการไล่ล่าของนายพราน จนมาถึงจุดที่แคบที่สุดของแม่น้ำ จึงได้ปีนก้อนหินแล้วกระโดดไปอีกฝั่งหนึ่ง จึงเป็นที่มาของชื่อหุบเขาเสือกระโจน
หากดูตามรูปจะพบว่า แม่น้ำจะแบ่งออกเป็นสามส่วน ไม่ใช่ตามความสูง (เหมือนตอนแรกที่ผมเข้าใจ) แต่เป็นตามทาง โดยถ้านับจากที่ขายตั๋ว จะเป็น upper, บริเวณ Tina GH middle, ถัดจากนั้นจะเป็น lower
การเยี่ยมชม แบ่งเป็น 2 เส้นทางหลักๆ คือ lower road และ upper trail
Lower road รถบัสจะไปหยุดที่ จุดชมวิวบริเวณ upper ต่อไปยัง middle และ lower gorge
Upper trail เป็นเส้นทางปีนเขาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และจุดสิ้นสุดจะอยู่ที่ Tina guest house และ middle tiger leaping gorge แต่จะมีทางลงไปชมวิวด้านล่างจะเล่าให้ฟังภายหลัง
หลังจากฝากกระเป๋าแบคแพคใบใหญ่ๆเรียบร้อย ผมก็เริ่มการปีนเขาเสียที เช้านี้ฟ้ายังคงปิด แต่ก็มีเค้ารางๆว่าจะเปิดในไม่ช้า และตามพยากรณ์อากาศฟ้าจะเปิดในช่วงบ่ายๆ ถือว่าเป็นโชคดีที่แดดไม่ค่อยร้อนแล้วกัน ทางเดินเริ่มแรกจะเป็นถนนคอนกรีต วิวยังไม่ค่อยตระการตาเสียเท่าไหร่ แต่ทางมีแต่ขึ้นกับขึ้น เป้าหมายแรกคือ 3.5 กิโลเมตรจากจุดเริ่มต้น Naxi guest house
จุดเริ่มต้นของการ trekking เบื้องล่างคือ แม่น้ำจินชา (Jinsha river)
สิ่งก่อสร้างขนาดเล็กเทียบกับภูเขาขนาดใหญ่
ทางเดินช่วงแรกจะเป็นถนนคอนกรีต
กลายเป็นทางหินขนาดเล็กริมหน้าผา
ระหว่างที่เดินป้ายไม่ค่อยชัดประกอบกับช่วงนี้เป็น low season นักท่องเที่ยวไม่ได้เยอะมาก ทำให้ผมเดินออกนอกทางเนื่องจากโดนคนขี่ลาชี้ให้ไปอีกทางหนึ่ง (ผมจำได้ว่าคนนี้เคยเสนอลาให้ผมก่อนหน้านี้ แต่ผมก็ได้ปฏิเสธไป ไม่รู้เพราะหมั่นไส้ หรือว่าการสื่อสารที่ผิดพลาดจึงทำให้ผมเดินหลงทาง แต่ก็นั่นหล่ะ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิต) หลงอยู่ประมาณครึ่งชม. โชคดีที่มีชาวบ้านตะโกนบอกว่าไม่ใช่ทางนี้ จึงจำใจต้องเดินย้อนกลับไป พร้อมกับเจ็บใจนิดๆ (หากจะมาที่นี่ผมแนะนำว่าให้โหลดแอพ
mapme เซฟเก็บไว้ เชื่อถือได้ทางแม่นยำ ไม่ต้องเดินหลงถึง 3 ครั้งแบบผม เดี๋ยวจะเล่าอีกสองครั้งที่เหลือภายหลัง)
เมื่อเข้าสู่เส้นทางที่ถูกต้องจากถนนคอนกรีตก็กลับกลายเป็นทางดินขนาด 1 คนเดิน ประกอบกับการใช้ลาในเส้นทางเดียวกัน ทางเดินชันค่อนข้างมากและเป็นทางขึ้นอย่างเดียว ประกอบกับอากาศเบาบาง ผมต้องพักอยู่หลายครั้งเหมือนกัน และก็เป็นครั้งที่สองที่ผมเดินออกนอกทาง เนื่องจากคิดว่าเป็นทางลัด จึงเดินออกนอกเส้นทางหลัก โชคยังดีที่มีคนเดินตามหลังผมและก็บอกให้ผมกลับมาที่เดิม ไม่งั้นคงต้องเดินข้ามเขาอีกลูกแน่ๆ และผมพึ่งมาสังเกตว่าจะมีลูกศรสีๆ ชี้บอกว่าเรามาถูกทางแล้วตลอดจนถึง จุดหมายปลายทาง ให้เดินตามเส้นทางนี้ (เส้นทางที่ถูกต้อง ดูตาม mapme ได้เลยทางคดเคี้ยวเหมือนของจริงเป๊ะ)
เส้นทางที่ถูกต้อง มักจะมีคนขี่ลาเดินตามมาติดๆ
มองผ่านทิวสน เส้นทางยังอีกไกลนัก
สังเกตุบริเวณกลางภาพจะเห็นทางเดินเล็กๆ ในป่าใหญ่
เดินมาได้สักพัก เราเดินมาสูงขึ้นเห็นแม่น้ำจินชา (Jinsha river) ไหลอยู่เบื้องล่างและวิวภูเขาที่เริ่มสูงและชัดเจนมากยิ่งขึ้นไกลสุดลูกหูลูกตา ทำให้บรรเทาความเหนื่อยไปได้บ้าง แต่ก็นั่นหล่ะ 3.5 km ความรู้สึกช่างนานเหลือเกิน ผมใช้เวลาประมาณ 2 ชม. จนมาถึง naxi family guesthouse เพื่อกินข้าวกลางวัน ผมสั่งง่ายๆ เป็นข้าวผัด น้ำโค้ก และซื้อน้ำเปล่าเพิ่มอีกขวดนึง ความจริงแล้วที่นี่สามารถพักค้างคืนได้ ผมทานข้าวอย่างรวดเร็วเพราะขณะนี้เวลาประมาณเที่ยงครึ่ง
เป้าหมายแรกเราอยู่ที่นั่น
ถึงแล้ว Naxi Family Guesthouse
[CR] 10 DAYS ILLEGAL VACATION YUNNAN : ตอนที่ 5 Tiger Leaping Gorge PART 1
กระทู้ทั้งหมด ตอนที่ 6 ยูนนาน หุบเขาเสือกระโจน Tiger Leaping Gorge PART 2 https://pantip.com/topic/37717156
...รูปที่จะได้เห็นต่อไปนี้ เป็นรูปที่จบหลังกล้อง ในตอนแรกผมว่าจะแต่งรูป แต่คิดไปคิดมาอยากให้ทุกคนเห็นเหมือนกับสิ่งที่ผมเห็นมากกว่า (ช่วงแรกของกระทู้อากาศอาจจะขมุกขมัว แต่ช่วงหลังรับรองครับว่า เด็ด!!!)...
รายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทาง ที่พัก ความยากง่าย อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมผมใส่ไว้ในท้ายกระทู้ของตอนที่ 6 นะครับ
วันที่ 5 หุบเขาเสือกระโจนTiger Leaping Gorge PART 1 ...รีวิวมาได้เกือบครึ่งทางของทริปแล้ว...
ในคืนก่อนผมซื้อตั๋วรถบัสจากอาม่า (เจ้าของที่พัก Mama Naxi Guesthouse) มาในราคา 40 หยวนต่อเที่ยว ตามกำหนดการรถจะออกเวลา 7.15 น. วันนี้จะได้ทำตามความฝันเสียที รูปถ่ายที่มองแล้วมองเล่าเป็นเดือนๆ ผมรีบลุกมาจากเตียงเวลาประมาณหกโมงเช้า ลุกขึ้นมาอาบน้ำ (ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ แต่เป็นเรื่องปกติสำหรับผมที่ต้องอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง ถ้าคนอื่นตื่นมาเห็นคงจะคิดว่าผมบ้าล่ะมั้ง) แต่เหตุผมหลักๆ ที่ต้องตื่นมาอาบน้ำเพราะผมของผมค่อนข้างบาง เวลาตื่นนอนจะเรียบแปล้ เวลาถ่ายรูปคงตลกไม่ใช่น้อย
หลังจากเก็บของเสร็จผมลงไปชั้นล่าง อาม่าได้จัดเตรียมน้ำชาร้อนๆ และขนมที่คล้ายขนมเปี๊ยะบ้านเรา ผมรีบยัดมันเข้าไปในปาก เพราะไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น จะมีข้าวกินมั้ย หรือถ้ามีจะกินได้หรือไม่ จึงต้องรีบตุนเอาไว้ก่อน หลังจากนั้นจึงร่ำลาอาม่า ก่อนจากกันผมได้บอกกับเธอเป็นภาษาอังกฤษว่า เธอเหมือนอาม่าของผมเลย เธอยิ้มและหัวเราะ พร้อมดึงผมไปกอดสักหนึ่งที ตลอดระยะเวลาสามคืนกับการต้อนรับอันแสนอบอุ่น ถ้าหากมีคนไหนมายังลี่เจียง ผมอยากจะขอแนะนำที่นี่
เช้านี้มีผม และชาวอังกฤษอีกสองคน ได้ออกเดินทางร่วมกัน ทั้งสองคนบอกว่าเคยไปเมืองไทยแล้วชอบมาก ทั้งอาหาร ผู้คน ทะเล ถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีก เป้าหมายของทั้งสองคนคือ One day trip แค่ไปจุดที่มีรูปปั้นเสือกระโจนแล้วจะกลับทันที ผมพยายามชวนให้ไปเทรคกิ้งด้วยกัน แต่นี่คือวันสุดท้ายที่อยู่ในจีนของพวกเขา
ประมาณ 2 กิโลเมตรที่อากงพาเราเดินมาตามถนนเพื่อขึ้นรถมินิบัส รถคันนี้จะตรงไปยัง TLG โดยตรงไม่แวะที่ไหน และไม่ต้องไปขึ้นที่ bus station ที่อยู่ไกลจากเมืองไปอีกหลายกิโล บนรถมีกันประมาณ 7 คน วันนี้ฟ้าปิดฝนตกปรอยๆ เราได้ออกมานอกตัวเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ ทางเริ่มเป็นเหวและหุบเขาลึก ผมเริ่มกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศถึงขนาดที่ว่าเปิดดูการพยากรณ์อากาศแทบเกือบทุกเว็บ แต่จะเลือกเชื่อเฉพาะเว็บที่บอกว่าวันนี้อากาศแจ่มใสเท่านั้น เหมือนเป็นการหลอกตัวเองหน่อยๆ แต่ก็นั่นแหละ สำหรับคนชอบถ่ายภาพ ฟ้ายิ่งเปิด ภาพยิ่งสวย
หลังจากทานกาแฟ กลไกของร่างกายก็เริ่มทำงาน ความรู้สึกปวดฉี่มากขึ้นเรื่อยๆ พยายามอดทนจนเต็มกระเพาะปัสสาวะ เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ไม่มีทีท่าว่ารถจะหยุดจอดที่ไหนสักแห่ง สุดท้ายจึงรีบเปิด google translate และมุ่งไปหาคนขับทันที “weishengjian” ผมพูดถึงสองครั้ง คนขับตอบกลับมาว่า “yes” และรีบจอดรถ ถ้ารู้ว่าคนขับจะพูดภาษาอังกฤษได้ผมคงพูดไปนานแล้ว พอลงจากรถจึงรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ โดยไม่อายพวกฝรั่งที่อยู่บนรถ
เราพักประมาณ 10 นาทีหลังจากนั้นจึงเดินทางต่อ รวมระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึงปากทางเข้า TLG ณ ที่นี้เราต้องซื้อตั๋วเข้าอุทยาน ราคา 65 หยวน ( เวลาเปิด 8.30-18.00 และสามารถใช้ student card ได้ถ้าอายุไม่เกิน 25 ในราคา 32.5 หยวน ) หลังจากนั้นเรากลับขึ้นรถบัสประมาณ 100 เมตรจากที่ขายตั๋ว คนขับรถทิ้งผมไว้ที่จุดเริ่มต้นของ upper trail ตามอินเตอร์เน็ตจะบอกให้ฝากกระเป๋าไว้ที่ Jane guesthouse แต่มันอยู่จุดกึ่งกลางระหว่างที่ขายตั๋วกับจุดเริ่มต้นเดิน ผมคิดว่าจะเดินย้อนกลับไปแต่โชคดีที่มองเห็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษที่เขียนว่า luggage จึงเดินเข้าไปถามและทราบว่าสามารถฝากกระเป๋าได้ในราคา 15 หยวน ที่ฝากกระเป๋าจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ ก่อนถึงจุดเริ่มต้น upper trail ประมาณ 30 เมตร และอย่าลืมขอนามบัตรมาด้วยเผื่อเวลาตอนกลับจะได้ยื่นให้คนขับรถดูว่าต้องเอากระเป๋าที่นี่
ประวัติคร่าวๆ ของหุบเขาเสือกระโจน
หุบเขาเสือกระโจน (Tiger leaping Gorge or Hutiao Gorge) 100 km ทางตะวันตกเฉียงเหนือของลี่เจียง และเป็นเส้นทางเดินที่อยู่ระหว่างภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) 5,396 เมตร และภูเขาหิมะฮาบา (Haba snow mountain) 5,596 เมตร เป็นหนึ่งในหุบเขาที่ลึกที่สุดในโลก มีแม่น้ำจินชา (Jinsha river) ไหลอยู่เบื้องล่าง
ตามตำนานเล่าว่า มีเสือตัวหนึ่งหนีการไล่ล่าของนายพราน จนมาถึงจุดที่แคบที่สุดของแม่น้ำ จึงได้ปีนก้อนหินแล้วกระโดดไปอีกฝั่งหนึ่ง จึงเป็นที่มาของชื่อหุบเขาเสือกระโจน
หากดูตามรูปจะพบว่า แม่น้ำจะแบ่งออกเป็นสามส่วน ไม่ใช่ตามความสูง (เหมือนตอนแรกที่ผมเข้าใจ) แต่เป็นตามทาง โดยถ้านับจากที่ขายตั๋ว จะเป็น upper, บริเวณ Tina GH middle, ถัดจากนั้นจะเป็น lower
การเยี่ยมชม แบ่งเป็น 2 เส้นทางหลักๆ คือ lower road และ upper trail
Lower road รถบัสจะไปหยุดที่ จุดชมวิวบริเวณ upper ต่อไปยัง middle และ lower gorge
Upper trail เป็นเส้นทางปีนเขาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และจุดสิ้นสุดจะอยู่ที่ Tina guest house และ middle tiger leaping gorge แต่จะมีทางลงไปชมวิวด้านล่างจะเล่าให้ฟังภายหลัง
หลังจากฝากกระเป๋าแบคแพคใบใหญ่ๆเรียบร้อย ผมก็เริ่มการปีนเขาเสียที เช้านี้ฟ้ายังคงปิด แต่ก็มีเค้ารางๆว่าจะเปิดในไม่ช้า และตามพยากรณ์อากาศฟ้าจะเปิดในช่วงบ่ายๆ ถือว่าเป็นโชคดีที่แดดไม่ค่อยร้อนแล้วกัน ทางเดินเริ่มแรกจะเป็นถนนคอนกรีต วิวยังไม่ค่อยตระการตาเสียเท่าไหร่ แต่ทางมีแต่ขึ้นกับขึ้น เป้าหมายแรกคือ 3.5 กิโลเมตรจากจุดเริ่มต้น Naxi guest house
ระหว่างที่เดินป้ายไม่ค่อยชัดประกอบกับช่วงนี้เป็น low season นักท่องเที่ยวไม่ได้เยอะมาก ทำให้ผมเดินออกนอกทางเนื่องจากโดนคนขี่ลาชี้ให้ไปอีกทางหนึ่ง (ผมจำได้ว่าคนนี้เคยเสนอลาให้ผมก่อนหน้านี้ แต่ผมก็ได้ปฏิเสธไป ไม่รู้เพราะหมั่นไส้ หรือว่าการสื่อสารที่ผิดพลาดจึงทำให้ผมเดินหลงทาง แต่ก็นั่นหล่ะ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิต) หลงอยู่ประมาณครึ่งชม. โชคดีที่มีชาวบ้านตะโกนบอกว่าไม่ใช่ทางนี้ จึงจำใจต้องเดินย้อนกลับไป พร้อมกับเจ็บใจนิดๆ (หากจะมาที่นี่ผมแนะนำว่าให้โหลดแอพ mapme เซฟเก็บไว้ เชื่อถือได้ทางแม่นยำ ไม่ต้องเดินหลงถึง 3 ครั้งแบบผม เดี๋ยวจะเล่าอีกสองครั้งที่เหลือภายหลัง)
เมื่อเข้าสู่เส้นทางที่ถูกต้องจากถนนคอนกรีตก็กลับกลายเป็นทางดินขนาด 1 คนเดิน ประกอบกับการใช้ลาในเส้นทางเดียวกัน ทางเดินชันค่อนข้างมากและเป็นทางขึ้นอย่างเดียว ประกอบกับอากาศเบาบาง ผมต้องพักอยู่หลายครั้งเหมือนกัน และก็เป็นครั้งที่สองที่ผมเดินออกนอกทาง เนื่องจากคิดว่าเป็นทางลัด จึงเดินออกนอกเส้นทางหลัก โชคยังดีที่มีคนเดินตามหลังผมและก็บอกให้ผมกลับมาที่เดิม ไม่งั้นคงต้องเดินข้ามเขาอีกลูกแน่ๆ และผมพึ่งมาสังเกตว่าจะมีลูกศรสีๆ ชี้บอกว่าเรามาถูกทางแล้วตลอดจนถึง จุดหมายปลายทาง ให้เดินตามเส้นทางนี้ (เส้นทางที่ถูกต้อง ดูตาม mapme ได้เลยทางคดเคี้ยวเหมือนของจริงเป๊ะ)
เดินมาได้สักพัก เราเดินมาสูงขึ้นเห็นแม่น้ำจินชา (Jinsha river) ไหลอยู่เบื้องล่างและวิวภูเขาที่เริ่มสูงและชัดเจนมากยิ่งขึ้นไกลสุดลูกหูลูกตา ทำให้บรรเทาความเหนื่อยไปได้บ้าง แต่ก็นั่นหล่ะ 3.5 km ความรู้สึกช่างนานเหลือเกิน ผมใช้เวลาประมาณ 2 ชม. จนมาถึง naxi family guesthouse เพื่อกินข้าวกลางวัน ผมสั่งง่ายๆ เป็นข้าวผัด น้ำโค้ก และซื้อน้ำเปล่าเพิ่มอีกขวดนึง ความจริงแล้วที่นี่สามารถพักค้างคืนได้ ผมทานข้าวอย่างรวดเร็วเพราะขณะนี้เวลาประมาณเที่ยงครึ่ง