สวัสดีครับ เพื่อน สมาชิก ชาวพันทิพ ทุกคน
วันนี้ผ่านไปประมาณ 1 เดือนเศษ กับการผ่าตัดไซนัส (ผ่าตัด วันที่ 14/3/18) ก็เลยจะมาขอแชร์ประสบการณ์ การเป็นไซนัสอักเสบเรื้อรัง และการผ่าตัดรักษา
(*จริงๆ แล้ว ว่าจะเขียนแชร์ สมัยผ่านไปตอน 1-2 อาทิตย์ แต่ไม่ค่อยมีเวลา 555 เลทล่วงเลยมานาน)
ก่อนอื่น ขอ เกริ่นที่มา เรื่อง อาการก่อน
1. อาการไซนัสอักเสบเรื้อรัง จนทำให้ไปสแกน CT แล้วก็ตัดสินใจไปผ่าตัด
ในช่วงหน้าหนาว หรือ หน้าฝน ของทุกปี ก็มักจะเป็นไข้หวัด (ไอ มีน้ำมูก ตัวร้อน ) หลังจากนั้น เกือบทุกครั้งที่อาการใกล้ดีขึ้น ก็จะแย่ลง โดยจะรู้สึกว่า คันคอมาก ไอกระแอม ทุกเช้าๆ ต้องไอ เอามูกเขียวออกมา มีไข้ต่ำ ก็จะไปหาหมอ หู คอ จมูก แล้วก็ส่องกล้องเข้าไปในจมูก ตรวจเจอว่ามีหนองออกมาจาก รูเปิดไซนัสที่แก้มด้านซ้าย ก็กินยาฆ่าเชื้อสัก อาทิตย์ แล้วก็ดีขึ้นแต่ก็ยัง ไอกระแอมคันคอ ต่อๆเรื่อยๆ ไปหาหมอส่องกล้องดูก็ไม่เจอหนอง ก็เลยพ่นยาสเตียร์รอยมาเรื่อยๆ (คนเป็นไซนัส หรือ ภูมิแพ้ คงรู้จักดี อิอิ) แล้วก็ดีขึ้นบ้าง กว่าจะหายไอก็เป็น 1-2 เดือน อาการก็จะวนอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆๆ ทุกๆๆปี
**** เพิ่มเติมข้อมูลให้นิดนึงคือ ส่วนตัวเป็นภูมิแพ้อากาศและฝุ่น เช่น นอนเปิดพัดลมจ่อหน้าไม่ได้เลย ตื่นมาต้องน้ำมูกไหล จามทั้งวัน แล้วก็เจ็บคอง่ายมาก แล้วก็มีผนังจมูกคดไปทางด้านซ้ายเล็กน้อย
จนล่าสุด เมื่อเดือนธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา เป็นๆหายๆ ไอกระแอม คันคอ ส่องกล้องไม่เจอหนอง รักษาตาม สเต็ปต่างๆ จนรู้สึกไม่ไหวและ รำคาญตัวเองมาก แล้วเวลาล้างจมูกด้วยน้ำเกลือทีไร ตอนที่ไม่สบาย มักจะประสบปัญหาว่า มีน้ำขังในโพรงไซนัสแก้มซ้าย แบบหันหัวไปมา ได้ยินเสียง น้ำจ๊องแจํง ตลอด1-2 อาทิตย์ จนทนไม่ไหวเลย ตัดสินใจค้นหาข้อมูล ทางอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับอาการตัวเอง และ หาหมอที่เชี่ยวชาญด้านไซนัส จนไปเจอว่าเค้าแนะนำ อาจารย์หมอเชี่ยวชาญคนนึง (ไม่แน่ใจว่า เอ่ยชื่ออาจารย์ได้หรือเปล่าในนี้ ถ้าสนใจสอบถาม หลังไมค์ได้นะครับ) ที่ พญาไท1 (จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็รักษา ก็รักษาที่ รพ.นี้อยู่แล้ว)
ก็ทำการนัดไป(อาจารย์หมอคนนี้ คิวยาวมาก)
ไปถึงหมอ หมอ ก็ซักอาการ ถามเลยว่า เป็นซ้ำๆ มาบ่อยแค่ไหน อาการแต่ละปีเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็เปิดแฟ้มประวัติเรา สมัยเก่าๆ อาจารย์ก็ ประเมินเบื้องต้นว่า มีแนวโน้มว่าจะเป็น ไซนัสอักเสบ เรื้อรัง
(นิยาม สมัยนี้ : ไซนัสอักเสบเรื้อรัง ในบางเคส ไม่จำเป็นต้องมีอาการต่อเนื่องตลอด แต่บางช่วงในปีอาจจะมีสภาวะที่หายไป แล้วกลับมาเป็นใหม่ได้) แล้วก็แนะนำให้ทำ CT scan เลย เพราะการส่องกล้อง เห็นได้แค่ปากทางไซนัส ไม่สามารถเห็นสภาพ ภายในได้
ผล CT scan

อ้างอิงตามภาพ (เป็นแบบ mirror) จะเห็นว่า โพรงไซนัสที่แก้มปกติ ตามภาพด้านซ้าย (คือโพรงไซนัสด้านขวา) คือจะเป็นสีดำๆ คือมีอากาศ แต่ตามภาพด้านขวา (คือโพรงไซนัสด้านซ้าย) จะเป็นสีขาว อาจจะเป็น หนองทีขังอยู่ในโพรงไซนัสหรือ ซีสต์ก็เป็นไปได้
คำแนะนำของหมอ
ก็คือ แนะนำให้ผ่าตัดเลย เพราะผล CT scan ชัดเจนอยู่แล้ว และ ก็อาจจะเป็นสาเหตุหลักในการทำให้เกิด หนองหรือมูกไหลลงคอเวลานอน ลงหลอดลมบางส่วน แล้วตื่นมา ร่างกายพยายามจะไอขับ มูกออกจากหลอดลม รวมทั้ง มีมูกบางส่วนไหลลงคอระหว่างวันด้วย
ซึ่งหมอบอกว่า เทคโนโลยีที่จะใช้ผ่าตัด คือการส่องกล้อง ESS แล้วก็เปิดขยายรูเปิดไซนัสโหนกแก้มด้านซ้าย แล้วก็จะผ่าตัด ผนังจมูกคดด้วย เทคโนโลยีสมัยนี้ นอน รพ. วันเดียว ก็กลับบ้านไปรักษาตัวที่บ้านได้เลย ไม่เจ็บเหมือนสมัยก่อน แล้วให้พยาบาลไปประเมินค่ารักษาพยาบาล
ซึ่ง ณ จุดนี้มีความหวังและผสมการแอบกลัวมากเรื่องการผ่าตัด แต่พอเห็นราคาประเมินแล้ว ช็อคคคคคค เลยตัดสินใจไปค้นหาข้อมูล รพ.ที่อื่น ที่มีเทคโนโลยีเดียวกันแล้วก็ราคาพอสู้ไหว (รวมทั้งอ่าน รีวิวเกี่ยวกับการผ่าตัดไซนัส จากการหาใน Google รวมทั้ง ใน พันทิพ ด้วยเช่นกัน) จนสุดท้ายตัดสินใจ ได้ที่ คลีนิคพิเศษ นอกเวลา รพ.จุฬา ซึ่งประเมินแล้วค่ารักษาถูกกว่าที่แรก โดยที่นี้อยู่ที่ 100,000 บาท ซึ่งอาจารย์หมอคนนี้ก็เป็นหมอเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดไซนัสด้วย ESS เหมือนกันและก็เป็นอาจารย์หมอทีมเดียวกันกับอาจารย์หมอที่ รพ.พญาไท 1 ด้วยเช่นกัน
https://www.youtube.com/watch?v=lz0zGJLkxXc&feature=player_embedded
Chula Excellence Center I ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์การผ่าตัดส่องกล้องโรคโพรงจมูกและไซนัส
ซึ่งคิวผ่าตัดจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 เดือน ซึ่งส่วนตัว มีธุระต้องไปต่างประเทศ ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ก็เลย นัดไปเป็นกลางเดือน มีนาคม แทน
เตรียมตัว ก่อนการผ่าตัดไซนัส
ก็มีตรวจร่างกาย โดยทั่วไปก่อนการผ่าตัด เช่น คลื่นไฟฟ้าหัวใจ น้ำตาลในเลือด ค่าตับ ค่าไต และอื่นๆ
และก็ต้องมีการงดยาสมุนไพร ที่อาจจะมีผลทำให้เลือดหยุดไหลช้า และก็มีกินยาฆ่าเชื้อก่อนการผ่าตัด 7 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้ออย่างอื่นแทรกซ้อนก่อนการผ่าตัด แล้วก็ ต้องงดน้ำ งดอาหาร อย่างน้อย 8 ชั่วโมง (คิวผม นัดผ่าตัดตอน 16.30) ก็กินอาหารอ่อนตอน 7.00 แล้วก็น้ำเปล่า ตอน 9.00
ก็เข้าไปเช็คอินที่รพ. ตั้งแต่ 10.00 (555 เหมือนไปเที่ยว เช็คอิน โรงแรม) ก็อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า นอนดูทีวี พร้อมกับหัวใจเต้นรัวๆๆ 555 ***ก่อนหน้านี้ส่วนตัวเป็นคนชอบศึกษา หาข้อมูล หาวิดีโอดู ว่าเค้าผ่าตัดกันอย่างไร ก็เลยกว้านดู การผ่าตัดไซนัส มาเกือบทุกอันบน Youtube (แนะนำว่า ถ้าใครกลัว อย่าเปิดดูเลย แต่ส่วนตัว กลัวแต่ก็ชอบดู , ลองเสริจดูได้ เช่น Maxillary sinus surgery)
ไปผ่าตัดไซนัสกันนนนน
พอสัก 16.00 พยาบาลก็เข็นเตียงใหม่ มาให้เรานอน แล้วก็เข็น ไปยังห้องผ่าตัด เป็นภาพ ที่คงจะติดตาตลอดไป ครั้งนึงในชีวิต 555 แบบพอเข้าไปแผนกผ่าตัด ก็จะมีหลายๆ ห้อง อยู่ข้างใน แพทย์ พยาบาล ก็ใส่ชุดจัดเต็ม แบบ พร้อมผ่าตัด มีอาจารย์เข้ามาถามว่า วันนี้ มาทำอะไร กินอาหาร กินน้ำล่าสุด เมื่อไร ..... แบบว่าตอนนั้น น้ำก็หิว ฉี่ก็ปวด หมอก็เลยบอกว่า ให้ไปเข้าห้องน้ำอีกที ดีกว่า (คือป่ะกี้เข้ามาก่อนหน้าแล้ว แต่พอมาถึงหน้าห้องผ่าตัด ปวดกระทันหัน 555 สงสัยจะเกร็งไปหน่อย) ลำบากคนเข็นเตียงอีก
พอเข้าไปในห้องผ่าตัด ก็เจอ หมอหลายท่าน ทั้งหมอดมยา ผู้ช่วยดมยา หมอผ่าตัดไซนัส
หมอก็เข้ามามัดเราให้ติดกับเตียง (เป็นอีกเตียงนึงสำหรับผ่าตัด) แปะ เจาะ นู่นนี่นั้น ชวนเราคุยเพื่อให้เราไม่เกร็ง 555 แบบว่าเหงื่อแตกเต็มมือเลยยยย
กลัว สักพัก หมอดมยาก็เอาหน้ากากมาให้ครอบที่จมูก (รู้สึกว่า ยาสลบของผม จะให้ทั้งทางดม และ เข้าเส้นเลือด) เคยอ่านเจอมาว่า ประมาณ 7-10 วินาทีก็จะไม่รู้สึกตัวเลย ของผมนับได้แค่ 1-3 วินาที ก็ไม่รู้เรื่องแล้ว 555
ฟื้นจากยาสลบ หลังผ่าตัด
รู้สึกตัวอีกทีน่าจะประมาณ 19.40 แล้วว ออเจ้ากำลังจะมาาาาา มันใช่หรออ ตอนนีที่จะมาดู 555 แบบตื่นมางัวเวีย มีหน้ากากครอบอยู่ (ให้ Oxygen) แล้วสักพักก็เริ่มปวด ที่จมูก พยาบาลก็เดินมาถามว่าปวดแผลมั้ย เราก็พยักหน้า อย่างไม่ลังเล 555 สรุปคือ ให้ยาแก้ปวด ผ่านทางสายน้ำยาที่เจาะต่อไว้ที่หลังมือด้านซ้าย ไป 2 รอบ พอสัก 20.15 เริ่มรู้สึกตัวแบบดีขึ้น พยาบาลก็เข็นออกมาจากห้องพักฟื้นไปยังห้องนอน
โดยที่ยังให้เราสวมหน้ากากให้ Oxygen อยู่ เพราะเค้าบอกว่า oxygen ค่อนข้างต่ำ แล้วก็รู้สึกว่ามีเลือดไหลลงคอ เป็นพักๆ (อันนี้เป็นปกติ) แล้ว ก็ต้องคอย โปะถุงเย็นไว้ที่หน้าผาก พร้อมทั้งยกหัวสูงไว้

สรุป วันนั้น ไม่มีแรงดูออเจ้า ให้คุณแม่ ดูแทนไป 555 สลึมสลือ ตลอด ง่วงมากๆ แต่พยาบาล มาหา ตรวจความดัน นู่นนี่นั้น ทุก 1 ชั่วโมงเลย ไปจนถึง7 โมงเช้า ก็หลับๆตื่นๆ แต่รู้สึกดีขึ้น ค่อนข้างหายเพลีย
ซึ่งตอนที่ ผ่าตัดเสร็จใหม่ๆ หายใจโล่งมากทั้งสองข้าง แต่พอสักพัก 2-3 ชั่วโมงผ่านไป เริ่มตันทั้ง 2 ข้าง เปลี่ยนไปหายใจทางปาก (ซึ่งอ่านเจอมาว่า เป็นปกติ เพราะ ภายในจมูก จะมีอาการบวม อักเสบหลังจากผ่าตัด
พอสัก 7.50 คุณหมอ ก็มาทักทาย หมอก็บอกว่า เป็นซีสต์ ใหญ่มาก เกือบเต็มโพรงไซนัสเลย แถมก็ยังมีหนองขังด้วย แต่หมอ 1. เจาะรูขยาย ทางเปิดให้กว้างขึ้นมาก แล้วก็เอาถุงซีสต์ออกให้หมอแล้ว แล้วก็ 2. ผ่าตัด ผนังกั้นจมูกให้กับมาตรงแล้ว (แต่อันนี้ ตอนแรกก็คดไม่มาก) 3. หมอ เพิ่มอีกหนึ่งอย่าง คือ จี้ turbinate ลดบวมด้วยคลื่นวิทยุ ให้ทั้ง 2 ข้างเลย เพื่อให้หายใจสะดวก (อันนี้สามารถ หาอ่านอ้างอิงเพิ่มเติมได้ใน Google นะครับ)
http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=467 <--- อันนี้ลองหามาให้อ่านกัน เพราะผมก็สงสัยว่า คืออะไร
พอสัก 11.50 ก็เช้คเอ้าท์กลับบ้าน โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมด อยู่ที่ 100,517 บาท (บางส่วนเอาไปเบิกกับบริษัท ที่เหลือ(เยอะ) ออกเอง ฮือๆๆ )
เดี๋ยวไว้มาต่อ การดูแลรักษาตัว และการ follow up นะครับบบบบบ .... ขอไปทำงานบ้านนนนก่อน อิอิ เดี๋ยวศรีภรรยา เอ็ด 555
รีวิว อาการของไซนัสอักเสบเรื้อรัง และ การผ่าตัดรักษา ESS (Endoscopic Sinus Surgery)
วันนี้ผ่านไปประมาณ 1 เดือนเศษ กับการผ่าตัดไซนัส (ผ่าตัด วันที่ 14/3/18) ก็เลยจะมาขอแชร์ประสบการณ์ การเป็นไซนัสอักเสบเรื้อรัง และการผ่าตัดรักษา
(*จริงๆ แล้ว ว่าจะเขียนแชร์ สมัยผ่านไปตอน 1-2 อาทิตย์ แต่ไม่ค่อยมีเวลา 555 เลทล่วงเลยมานาน)
ก่อนอื่น ขอ เกริ่นที่มา เรื่อง อาการก่อน
1. อาการไซนัสอักเสบเรื้อรัง จนทำให้ไปสแกน CT แล้วก็ตัดสินใจไปผ่าตัด
ในช่วงหน้าหนาว หรือ หน้าฝน ของทุกปี ก็มักจะเป็นไข้หวัด (ไอ มีน้ำมูก ตัวร้อน ) หลังจากนั้น เกือบทุกครั้งที่อาการใกล้ดีขึ้น ก็จะแย่ลง โดยจะรู้สึกว่า คันคอมาก ไอกระแอม ทุกเช้าๆ ต้องไอ เอามูกเขียวออกมา มีไข้ต่ำ ก็จะไปหาหมอ หู คอ จมูก แล้วก็ส่องกล้องเข้าไปในจมูก ตรวจเจอว่ามีหนองออกมาจาก รูเปิดไซนัสที่แก้มด้านซ้าย ก็กินยาฆ่าเชื้อสัก อาทิตย์ แล้วก็ดีขึ้นแต่ก็ยัง ไอกระแอมคันคอ ต่อๆเรื่อยๆ ไปหาหมอส่องกล้องดูก็ไม่เจอหนอง ก็เลยพ่นยาสเตียร์รอยมาเรื่อยๆ (คนเป็นไซนัส หรือ ภูมิแพ้ คงรู้จักดี อิอิ) แล้วก็ดีขึ้นบ้าง กว่าจะหายไอก็เป็น 1-2 เดือน อาการก็จะวนอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆๆ ทุกๆๆปี
**** เพิ่มเติมข้อมูลให้นิดนึงคือ ส่วนตัวเป็นภูมิแพ้อากาศและฝุ่น เช่น นอนเปิดพัดลมจ่อหน้าไม่ได้เลย ตื่นมาต้องน้ำมูกไหล จามทั้งวัน แล้วก็เจ็บคอง่ายมาก แล้วก็มีผนังจมูกคดไปทางด้านซ้ายเล็กน้อย
จนล่าสุด เมื่อเดือนธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา เป็นๆหายๆ ไอกระแอม คันคอ ส่องกล้องไม่เจอหนอง รักษาตาม สเต็ปต่างๆ จนรู้สึกไม่ไหวและ รำคาญตัวเองมาก แล้วเวลาล้างจมูกด้วยน้ำเกลือทีไร ตอนที่ไม่สบาย มักจะประสบปัญหาว่า มีน้ำขังในโพรงไซนัสแก้มซ้าย แบบหันหัวไปมา ได้ยินเสียง น้ำจ๊องแจํง ตลอด1-2 อาทิตย์ จนทนไม่ไหวเลย ตัดสินใจค้นหาข้อมูล ทางอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับอาการตัวเอง และ หาหมอที่เชี่ยวชาญด้านไซนัส จนไปเจอว่าเค้าแนะนำ อาจารย์หมอเชี่ยวชาญคนนึง (ไม่แน่ใจว่า เอ่ยชื่ออาจารย์ได้หรือเปล่าในนี้ ถ้าสนใจสอบถาม หลังไมค์ได้นะครับ) ที่ พญาไท1 (จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็รักษา ก็รักษาที่ รพ.นี้อยู่แล้ว)
ก็ทำการนัดไป(อาจารย์หมอคนนี้ คิวยาวมาก)
ไปถึงหมอ หมอ ก็ซักอาการ ถามเลยว่า เป็นซ้ำๆ มาบ่อยแค่ไหน อาการแต่ละปีเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็เปิดแฟ้มประวัติเรา สมัยเก่าๆ อาจารย์ก็ ประเมินเบื้องต้นว่า มีแนวโน้มว่าจะเป็น ไซนัสอักเสบ เรื้อรัง (นิยาม สมัยนี้ : ไซนัสอักเสบเรื้อรัง ในบางเคส ไม่จำเป็นต้องมีอาการต่อเนื่องตลอด แต่บางช่วงในปีอาจจะมีสภาวะที่หายไป แล้วกลับมาเป็นใหม่ได้) แล้วก็แนะนำให้ทำ CT scan เลย เพราะการส่องกล้อง เห็นได้แค่ปากทางไซนัส ไม่สามารถเห็นสภาพ ภายในได้
ผล CT scan
คำแนะนำของหมอ
ก็คือ แนะนำให้ผ่าตัดเลย เพราะผล CT scan ชัดเจนอยู่แล้ว และ ก็อาจจะเป็นสาเหตุหลักในการทำให้เกิด หนองหรือมูกไหลลงคอเวลานอน ลงหลอดลมบางส่วน แล้วตื่นมา ร่างกายพยายามจะไอขับ มูกออกจากหลอดลม รวมทั้ง มีมูกบางส่วนไหลลงคอระหว่างวันด้วย
ซึ่งหมอบอกว่า เทคโนโลยีที่จะใช้ผ่าตัด คือการส่องกล้อง ESS แล้วก็เปิดขยายรูเปิดไซนัสโหนกแก้มด้านซ้าย แล้วก็จะผ่าตัด ผนังจมูกคดด้วย เทคโนโลยีสมัยนี้ นอน รพ. วันเดียว ก็กลับบ้านไปรักษาตัวที่บ้านได้เลย ไม่เจ็บเหมือนสมัยก่อน แล้วให้พยาบาลไปประเมินค่ารักษาพยาบาล
ซึ่ง ณ จุดนี้มีความหวังและผสมการแอบกลัวมากเรื่องการผ่าตัด แต่พอเห็นราคาประเมินแล้ว ช็อคคคคคค เลยตัดสินใจไปค้นหาข้อมูล รพ.ที่อื่น ที่มีเทคโนโลยีเดียวกันแล้วก็ราคาพอสู้ไหว (รวมทั้งอ่าน รีวิวเกี่ยวกับการผ่าตัดไซนัส จากการหาใน Google รวมทั้ง ใน พันทิพ ด้วยเช่นกัน) จนสุดท้ายตัดสินใจ ได้ที่ คลีนิคพิเศษ นอกเวลา รพ.จุฬา ซึ่งประเมินแล้วค่ารักษาถูกกว่าที่แรก โดยที่นี้อยู่ที่ 100,000 บาท ซึ่งอาจารย์หมอคนนี้ก็เป็นหมอเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดไซนัสด้วย ESS เหมือนกันและก็เป็นอาจารย์หมอทีมเดียวกันกับอาจารย์หมอที่ รพ.พญาไท 1 ด้วยเช่นกัน
https://www.youtube.com/watch?v=lz0zGJLkxXc&feature=player_embedded
Chula Excellence Center I ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์การผ่าตัดส่องกล้องโรคโพรงจมูกและไซนัส
ซึ่งคิวผ่าตัดจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 เดือน ซึ่งส่วนตัว มีธุระต้องไปต่างประเทศ ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ก็เลย นัดไปเป็นกลางเดือน มีนาคม แทน
เตรียมตัว ก่อนการผ่าตัดไซนัส
ก็มีตรวจร่างกาย โดยทั่วไปก่อนการผ่าตัด เช่น คลื่นไฟฟ้าหัวใจ น้ำตาลในเลือด ค่าตับ ค่าไต และอื่นๆ
และก็ต้องมีการงดยาสมุนไพร ที่อาจจะมีผลทำให้เลือดหยุดไหลช้า และก็มีกินยาฆ่าเชื้อก่อนการผ่าตัด 7 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้ออย่างอื่นแทรกซ้อนก่อนการผ่าตัด แล้วก็ ต้องงดน้ำ งดอาหาร อย่างน้อย 8 ชั่วโมง (คิวผม นัดผ่าตัดตอน 16.30) ก็กินอาหารอ่อนตอน 7.00 แล้วก็น้ำเปล่า ตอน 9.00
ก็เข้าไปเช็คอินที่รพ. ตั้งแต่ 10.00 (555 เหมือนไปเที่ยว เช็คอิน โรงแรม) ก็อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า นอนดูทีวี พร้อมกับหัวใจเต้นรัวๆๆ 555 ***ก่อนหน้านี้ส่วนตัวเป็นคนชอบศึกษา หาข้อมูล หาวิดีโอดู ว่าเค้าผ่าตัดกันอย่างไร ก็เลยกว้านดู การผ่าตัดไซนัส มาเกือบทุกอันบน Youtube (แนะนำว่า ถ้าใครกลัว อย่าเปิดดูเลย แต่ส่วนตัว กลัวแต่ก็ชอบดู , ลองเสริจดูได้ เช่น Maxillary sinus surgery)
ไปผ่าตัดไซนัสกันนนนน
พอสัก 16.00 พยาบาลก็เข็นเตียงใหม่ มาให้เรานอน แล้วก็เข็น ไปยังห้องผ่าตัด เป็นภาพ ที่คงจะติดตาตลอดไป ครั้งนึงในชีวิต 555 แบบพอเข้าไปแผนกผ่าตัด ก็จะมีหลายๆ ห้อง อยู่ข้างใน แพทย์ พยาบาล ก็ใส่ชุดจัดเต็ม แบบ พร้อมผ่าตัด มีอาจารย์เข้ามาถามว่า วันนี้ มาทำอะไร กินอาหาร กินน้ำล่าสุด เมื่อไร ..... แบบว่าตอนนั้น น้ำก็หิว ฉี่ก็ปวด หมอก็เลยบอกว่า ให้ไปเข้าห้องน้ำอีกที ดีกว่า (คือป่ะกี้เข้ามาก่อนหน้าแล้ว แต่พอมาถึงหน้าห้องผ่าตัด ปวดกระทันหัน 555 สงสัยจะเกร็งไปหน่อย) ลำบากคนเข็นเตียงอีก
พอเข้าไปในห้องผ่าตัด ก็เจอ หมอหลายท่าน ทั้งหมอดมยา ผู้ช่วยดมยา หมอผ่าตัดไซนัส
หมอก็เข้ามามัดเราให้ติดกับเตียง (เป็นอีกเตียงนึงสำหรับผ่าตัด) แปะ เจาะ นู่นนี่นั้น ชวนเราคุยเพื่อให้เราไม่เกร็ง 555 แบบว่าเหงื่อแตกเต็มมือเลยยยย
กลัว สักพัก หมอดมยาก็เอาหน้ากากมาให้ครอบที่จมูก (รู้สึกว่า ยาสลบของผม จะให้ทั้งทางดม และ เข้าเส้นเลือด) เคยอ่านเจอมาว่า ประมาณ 7-10 วินาทีก็จะไม่รู้สึกตัวเลย ของผมนับได้แค่ 1-3 วินาที ก็ไม่รู้เรื่องแล้ว 555
ฟื้นจากยาสลบ หลังผ่าตัด
รู้สึกตัวอีกทีน่าจะประมาณ 19.40 แล้วว ออเจ้ากำลังจะมาาาาา มันใช่หรออ ตอนนีที่จะมาดู 555 แบบตื่นมางัวเวีย มีหน้ากากครอบอยู่ (ให้ Oxygen) แล้วสักพักก็เริ่มปวด ที่จมูก พยาบาลก็เดินมาถามว่าปวดแผลมั้ย เราก็พยักหน้า อย่างไม่ลังเล 555 สรุปคือ ให้ยาแก้ปวด ผ่านทางสายน้ำยาที่เจาะต่อไว้ที่หลังมือด้านซ้าย ไป 2 รอบ พอสัก 20.15 เริ่มรู้สึกตัวแบบดีขึ้น พยาบาลก็เข็นออกมาจากห้องพักฟื้นไปยังห้องนอน
โดยที่ยังให้เราสวมหน้ากากให้ Oxygen อยู่ เพราะเค้าบอกว่า oxygen ค่อนข้างต่ำ แล้วก็รู้สึกว่ามีเลือดไหลลงคอ เป็นพักๆ (อันนี้เป็นปกติ) แล้ว ก็ต้องคอย โปะถุงเย็นไว้ที่หน้าผาก พร้อมทั้งยกหัวสูงไว้
สรุป วันนั้น ไม่มีแรงดูออเจ้า ให้คุณแม่ ดูแทนไป 555 สลึมสลือ ตลอด ง่วงมากๆ แต่พยาบาล มาหา ตรวจความดัน นู่นนี่นั้น ทุก 1 ชั่วโมงเลย ไปจนถึง7 โมงเช้า ก็หลับๆตื่นๆ แต่รู้สึกดีขึ้น ค่อนข้างหายเพลีย
ซึ่งตอนที่ ผ่าตัดเสร็จใหม่ๆ หายใจโล่งมากทั้งสองข้าง แต่พอสักพัก 2-3 ชั่วโมงผ่านไป เริ่มตันทั้ง 2 ข้าง เปลี่ยนไปหายใจทางปาก (ซึ่งอ่านเจอมาว่า เป็นปกติ เพราะ ภายในจมูก จะมีอาการบวม อักเสบหลังจากผ่าตัด
พอสัก 7.50 คุณหมอ ก็มาทักทาย หมอก็บอกว่า เป็นซีสต์ ใหญ่มาก เกือบเต็มโพรงไซนัสเลย แถมก็ยังมีหนองขังด้วย แต่หมอ 1. เจาะรูขยาย ทางเปิดให้กว้างขึ้นมาก แล้วก็เอาถุงซีสต์ออกให้หมอแล้ว แล้วก็ 2. ผ่าตัด ผนังกั้นจมูกให้กับมาตรงแล้ว (แต่อันนี้ ตอนแรกก็คดไม่มาก) 3. หมอ เพิ่มอีกหนึ่งอย่าง คือ จี้ turbinate ลดบวมด้วยคลื่นวิทยุ ให้ทั้ง 2 ข้างเลย เพื่อให้หายใจสะดวก (อันนี้สามารถ หาอ่านอ้างอิงเพิ่มเติมได้ใน Google นะครับ)
http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=467 <--- อันนี้ลองหามาให้อ่านกัน เพราะผมก็สงสัยว่า คืออะไร
พอสัก 11.50 ก็เช้คเอ้าท์กลับบ้าน โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมด อยู่ที่ 100,517 บาท (บางส่วนเอาไปเบิกกับบริษัท ที่เหลือ(เยอะ) ออกเอง ฮือๆๆ )
เดี๋ยวไว้มาต่อ การดูแลรักษาตัว และการ follow up นะครับบบบบบ .... ขอไปทำงานบ้านนนนก่อน อิอิ เดี๋ยวศรีภรรยา เอ็ด 555