เรียกว่าฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองจนคำว่า "ออเจ้า" ขึ้นแท่นประโยคแห่งปี แถมยังส่งผลกระทบชนิดที่ไม่เคยมีละครเรื่องไหนทำได้ขนาดนี้มาก่อน (จริงๆแล้วก็มีหนังอยู่หลายเรื่องเช่นกันที่ส่งผลต่อชีวิตจริง อาทืเช่น โหมโรง ที่พาคนแห่ไปเรียนดนตรีไทยกันใหญ่) ซึ่งบุพเพสันนิวาสนี้นับว่าสั่นสะเทือนไปหลายวงการจริงๆ ทั้งการท่องเที่ยวกรุงเก่า ผ้าไทยขายดิบขายดี เกิดสำนึกแต่งชุดไทยกันชนิดใส่มาเดินตามถนนถือเป็นเรื่องปกติ คนที่ไม่เคยสนเรื่องทำอาหารไทยก็หันมาเรียน ตำรวจต้องทำงานหนักเมื่อมีคนมาแจ้งว่าทำบัตรประชาชนหายกันมากมายเป็นประวัติการณ์ เขตก็ต้องวุ่นเมื่อชาวบ้านพากันไปเปลี่ยนชื่อกัน อย่าง เดชา เป็น เดช การบูร เป็นการะเกต จันทร์ เป็นจันทร์วาด รุ่ง เป็น เรือง ฯลฯ
ผมเองก็ยังแปลกใจว่าเรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง จะว่าอุปปาทานหมู่ หรือทฤษฏีสมคบคิด ก็คงไม่ใช่ ถ้าจะหาข้อสรุป คงเป็นเรื่องนี้ออกมาได้อย่างถูกที่ถูกเวลากระมัง เพราะปัจจุบันนี้นิยายแนวตายแล้วเกิดใหม่กำลังเป็นเทรนมาแรง แถมช่องสามก็ขาดละครแนวสย้อนยุคไปพอสมมควร ถึงมีเรื่องประวัติศาสตร์อยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้มากจนเกินควร ทำให้ดูได้อย่างลื่นไหล นักแสดงแต่ละคนก็ตีบทกันได้เป็นอย่างดี อาทิ นางเอกจ้างร้อยเล่นล้าน พี่หมื่นโชว์เร็ป กิ้งก่าเปลี่ยนสี (อิฉันไม่ใช่ขโมย) ซึ่งปรากฏการณ์นี้ลุกลามไปทั่วจนแม้แต่ผมก็ยังเจอ...
ตามปกติแล้วแฟน (คู่หมั้น) ผมจนมาทำกับข้าวตอนเย็นให้เป็นประจำ แต่วันนี้กลับมาแปลกเมื่อผมกลับเปิดประตูเข้าบ้านแล้วว่ามีพบนางในวรรณคดีมาก้มหมอบรอท่าอยู่ก่อนแล้ว
"กลับมาแล้วรึคะคุณพี่"
งงไปเลยนึกไม่ถึงว่าแม่สาวนิ่งไม่แสดงอามรณ์ใดๆเป็นปกตินิสัย จะนึกครึ้มมาห่มสไปเฉียงมาต้อนรับแบบนี้
"น้องตั้งใจว่าวันนี้จะทำหมูโสร่งให้คุณพี่ลองชิมดู"
ผมอมยิ้ม ตามปกติพวกเราจะไมาเรียกชื่อกัน โดบเธอเรียกผมว่า "พี่" ส่วนผมเรียกเธอว่า "อ้ายเหริน" แต่วันนี้คงต้องเปลี่ยนสักหน่อย
"ออเจ้า พี่หมายใจว่าวันพรุ่งออเจ้าจักทำหมูกระทะให้พี่กิน แล้วตบท้ายด้วยมะม่วงน้ำปลาหวาน
ผมสวมกอดเธอจากด้านหลังแบบในละคร เธอเงยหน้าหันมามองผมด้วยสายตาคาดหวังอะไรบางอย่าง
"วันนี้น้องถึงกับใส่ชุดไทยออกมาต้อนรับ คุณพี่จะไม่ชมน้องสักหน่อยรึค่ะ"
ถึงเธอไม่ถามผมก็เตรียมไว้ก่อนแล้ว ถึงจะจำมาแต่ก๋น่าจะเหมาะกับบรรยากาศที่เธอแต่งชุดไทยแบบนี้
"คิ้วโขนง
โก่งงอนคันศรรามา
พริ้มพักตร์จันทรา
หลบเมฆาเพราะเอียงอาย"
ผมสวมกอดให้แน่นยิ่งขึ้น พลางนึกขอบคณละครบุพเพสันนิวาสเรื่องนี้ที่ทำให้ผมได้เห็นผู้หญิงที่ผมรักแต่งชุดไทยแสนสวยให้ผมได้เห็น
บุพเพสันนิวาส ต่อผลกระทบใดต่อคุณบ้าง
ผมเองก็ยังแปลกใจว่าเรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง จะว่าอุปปาทานหมู่ หรือทฤษฏีสมคบคิด ก็คงไม่ใช่ ถ้าจะหาข้อสรุป คงเป็นเรื่องนี้ออกมาได้อย่างถูกที่ถูกเวลากระมัง เพราะปัจจุบันนี้นิยายแนวตายแล้วเกิดใหม่กำลังเป็นเทรนมาแรง แถมช่องสามก็ขาดละครแนวสย้อนยุคไปพอสมมควร ถึงมีเรื่องประวัติศาสตร์อยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้มากจนเกินควร ทำให้ดูได้อย่างลื่นไหล นักแสดงแต่ละคนก็ตีบทกันได้เป็นอย่างดี อาทิ นางเอกจ้างร้อยเล่นล้าน พี่หมื่นโชว์เร็ป กิ้งก่าเปลี่ยนสี (อิฉันไม่ใช่ขโมย) ซึ่งปรากฏการณ์นี้ลุกลามไปทั่วจนแม้แต่ผมก็ยังเจอ...
ตามปกติแล้วแฟน (คู่หมั้น) ผมจนมาทำกับข้าวตอนเย็นให้เป็นประจำ แต่วันนี้กลับมาแปลกเมื่อผมกลับเปิดประตูเข้าบ้านแล้วว่ามีพบนางในวรรณคดีมาก้มหมอบรอท่าอยู่ก่อนแล้ว
"กลับมาแล้วรึคะคุณพี่"
งงไปเลยนึกไม่ถึงว่าแม่สาวนิ่งไม่แสดงอามรณ์ใดๆเป็นปกตินิสัย จะนึกครึ้มมาห่มสไปเฉียงมาต้อนรับแบบนี้
"น้องตั้งใจว่าวันนี้จะทำหมูโสร่งให้คุณพี่ลองชิมดู"
ผมอมยิ้ม ตามปกติพวกเราจะไมาเรียกชื่อกัน โดบเธอเรียกผมว่า "พี่" ส่วนผมเรียกเธอว่า "อ้ายเหริน" แต่วันนี้คงต้องเปลี่ยนสักหน่อย
"ออเจ้า พี่หมายใจว่าวันพรุ่งออเจ้าจักทำหมูกระทะให้พี่กิน แล้วตบท้ายด้วยมะม่วงน้ำปลาหวาน
ผมสวมกอดเธอจากด้านหลังแบบในละคร เธอเงยหน้าหันมามองผมด้วยสายตาคาดหวังอะไรบางอย่าง
"วันนี้น้องถึงกับใส่ชุดไทยออกมาต้อนรับ คุณพี่จะไม่ชมน้องสักหน่อยรึค่ะ"
ถึงเธอไม่ถามผมก็เตรียมไว้ก่อนแล้ว ถึงจะจำมาแต่ก๋น่าจะเหมาะกับบรรยากาศที่เธอแต่งชุดไทยแบบนี้
"คิ้วโขนง
โก่งงอนคันศรรามา
พริ้มพักตร์จันทรา
หลบเมฆาเพราะเอียงอาย"
ผมสวมกอดให้แน่นยิ่งขึ้น พลางนึกขอบคณละครบุพเพสันนิวาสเรื่องนี้ที่ทำให้ผมได้เห็นผู้หญิงที่ผมรักแต่งชุดไทยแสนสวยให้ผมได้เห็น