เราจะเข้าเนื้อๆกันเลยนะครับ ไม่ต้องเกริ่นอะไรมากมาย.. (ต่อจากกระทู้ภาคต้นนี้
https://pantip.com/topic/37559345)
@
สำหรับกระทู้ที่สมควร เหมาะแก่การอ่าน ในความคิดของผม คือ
- เลือกอ่านที่ Fact หรือ ข่าว และข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงๆ มีแหล่งที่มาพิสูจน์ได้.. >> แต่!! อ่านแล้วคิด วิเคราะห์ตามเสมอ นี่จะทำให้เราแตกต่างจากคนอื่นทั่วไป คนส่วนใหญ่ ที่เพียงอ่านจบแล้วเชื่อแล้วก็จบ ไม่มีการต่อยอดทางความคิดใดๆเพิ่มเติม..
และ บางทีข่าวที่เขียนมีจุดประสงค์แอบแฝงหรือไม่ เช่น การล่อเม่าให้ซื้อโดยใช้ข่าวพาไปดอย หรือ ล่อเม่าให้ปล่อยของโดยบอกว่าตลาดจะร่วงให้ลดพอร์ต แต่สุดท้ายรายใหญ่ซื้อเก็บ เป็นต้น
และ ข่าวที่เขียนมาอาจเกิดขึ้นจริง หรือ ไม่เกิดขึ้นจริงก็ได้ เช่นข่าวคิมยิงจรวด เป็นต้น เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งตกใจหรือแพนิคเป็นอันขาด.. ทบทวนดูว่า บริษัทที่เราลงทุน ยังอยู่ดีไหม ได้รับผลกระทบจากข่าวหรือไม่ หากกิจการยังดี ก็อย่าตกใจขายหรือทิ้งปล่อยของตามคนอื่น..
เป็นเทคนิคส่วนตัวที่เกิดจากการสังเกต ไม่เชื่อวันหลังลองนำไปดูในเหตุการณ์จริงได้ครับว่า.. >> หลังจากเหตุการณ์แพนิคจบ หุ้นจะเด้งกลับขึ้นมาเสมอ เด้งมาก เด้งน้อย แล้วแต่แรงตอบรับต่อหุ้นตัวนั้นๆ!! ..เพราะงั้นถ้าคุณขายตอนแพนิค ร้อยทั้งร้อยคุณจะมีแต่"เจ๊ง"หรือ"เสียหาย"แน่นอน!! เชื่อว่าหลายคนคงเคยตกใจพะวงขายปุ่ป ไม่นานหุ้นเด้งใส่หน้า.. แล้วพอบทจะซื้อกลับก็ไม่กล้า เพราะทุนสูงกว่าเดิม หรือไม่ก็กลัวมันจะลงมาอีก.. สุดท้ายเลยได้แต่นั่งมองหุ้นที่ตนขายไป ราคาเด้งกลับขึ้นเอาๆตาปริบๆ..
- เลือกอ่านจากกระทู้แนะนำ จากการที่มีผู้อ่านโหวต และ กดถูกใจมากๆ ก็อาจการันตีได้ว่าเป็นกระทู้ที่มีเนื้อหาดี มีประโยชน์.. แต่ก็ต้องย้อนกลับไปข้อที่แล้ว ที่บอกว่าอ่านแล้วต้องคิดวิเคราะห์ตามด้วย อย่าเชื่อไปเสียหมดทุกอย่าง..
จากตัวอย่างสัปดาห์ก่อน มีวันที่ดัชนีตลาดหุ้นลง -40จุด ตลาดเกิดแพนิค มีกระทู้ที่ตั้งเพราะความตกใจออกมามากมาย เช่น ล้างพอร์ตดีไหม? ขายคัสดีไหม? ตลาดจะล่มแล้วใช่ไหม? วิกฤตตลาดหุ้นมาแล้ว? ....ฯลฯ
แต่หากใครสังเกตดีๆ มีกระทู้แนะนำที่มีประโยชน์ทันต่อเหตุการณ์หลายอัน(จุดสีแดงในรูป) ที่ออกมาเตือนสติเหล่านักลงทุน.. หากใครอ่าน หากใครเข้าใจ ปรับตัว ประยุกต์ได้ก็จะลดความเสียหาย หรือ พลิกกลับมาได้ผลประโยชน์ได้.. เพราะหลังจากวันแพนิคนั้น วันถัดมาหุ้นก็เด้งกลับมาบวกติดกัน5วันรวด กลับมาแตะจุดเดิมในเวลาเพียงแค่สัปดาห์..
- เลือกอ่านกระทู้ที่แจ้งทันต่อเหตุการณ์(จุดสีเหลืองในรูป) เช่น กระทู้รายงานยอดสรุปซื้อขายรายวันของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ หรือกระทู้รายงานหุ้นเฉพาะตัวในเหตุการณ์ด่วน เช่น หุ้นEที่เราถือ อยู่ๆก็โดนทุบหรือลากไปกว่า 10%++ ในวันเดียว.. มันมีเหตุการณ์อะไรปัจจุบันทันด่วนหรือไม่ เช่น โรงงานเกิดปัญหา.. บริษัทแตกพาร์.. มีการทำสัญญากับคู่ค้า.. ผลประกอบการกำไรเกินคาด.. บ้านทรัมป์ไฟไหม้ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งในพันทิปจะมีคนที่ไวกับข่าวพวกนี้อยู่ บางคนจะรีบมาอัพเดทเหตุการณ์ทันที ..และเหมือนเดิม คิดวิเคราะห์ตามทุกครั้ง.. ว่าราคาแค่สะท้อนเพราะตกใจข่าว หรือ เหตุการณ์ร้ายๆมันเกิดขึ้นจริงๆแล้ว
- เลือกอ่าน กระทู้ที่เล่าจากประสบการณ์ความสำเร็จ เผยแพร่หลักการ mindset วิธีคิดของคนสำเร็จ มีชื่อเสียง ที่มีตัวตนจริงๆ และได้รับการพิสูจน์และยอมรับจากนักลงทุนทั่วไปในวงกว้าง เช่น บัฟเฟตต์ เกรแฮม ดร.นิเวศน์ ฯลฯ
@
สำหรับกระทู้ที่ไม่สมควรอ่าน หรือ ถ้าว่างก็อ่านได้แบบคลายเครียด ไม่จริงจัง เช่น ..
- กระทู้ต่างๆของ "ขาแช่ง" และ "ขาเชียร์" ที่ทำการตั้งรายวัน ในการเยาะเย้ย กัด จิก เหน็บ กดดันอีกฝ่าย..
บอกเลยว่าการเข้าไปอ่านและโต้ตอบเป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุ ถ้าเข้าไปขำๆ คลายเคลียด สนุกๆไม่คิดมาก ก็ว่ากันไป (กระทู้แบบนี้ผมก็เคยตั้ง55+)
-กระทู้มโนกราฟ นึกและคิดกันไปเอง.. เซต ดาว น้ำมัน จะต้องลงไปจุดนั้น ขึ้นไปจุดนี้ ไม่ผ่านต้านนั้น จะลงไปรับนี้.. อืมม เสียเวลาครับ! คุณลองไปดูประวัติคนที่โพสได้เลย ในอดีตทายผิดกันส่วนใหญ่ สรุปคือ เดา มั่ว กันทั้งนั้น!! คุณจะเชื่อเขาหรอครับ ขนาดนักวิเคราะห์ของบล.หลักทรัพย์ หรือคนดังๆที่ออกสื่อ เขายังคาดการณ์กันผิดเลย แล้วคนในเว็ปบอร์ดที่เป็นใครก็ไม่รู้ จะแม่น เก่ง ขนาดนั้นเลยเชียว -.-"
>> เหมือนเดิมครับ ให้ไปหาอ่านดูข้อมูล และ fact เช่น อัตราการจ้างงาน GDP การขยายตัวทางเศรษฐกิจ โครงการต่างๆของรัฐดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ฯลฯ ข้อมูลพวกนี้มีประโยชน์กว่ามากครับ
ปล. กราฟที่อธิบายได้ดี มีประโยชน์ อธิบายจากกราฟจริงๆ ไม่อคติ ชี้นำ ผมให้อาจารย์kitty63 ครับ ที่สามารถใช้ดูประกอบการวิเคราะห์การลงทุนของสายกราฟได้..
-กระทู้บอกว่า ตลาดเซต หรือ หุ้นตัวนั้นจะขึ้น ตัวนี้จะลง.. อย่าไปเสียเวลา และอย่าไปเชื่อครับ.. ถ้าเขารู้เขาซื้อเองคนเดียว เปิด L เปิด S รวยคนเดียวดีกว่า จะมาบอกให้คนอื่นรวยทำไมกัน เขาไปบอกญาติพี่น้องตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ..
......................................................................
สุดท้าย การ"ลงทุน" ไม่สามารถนิยามได้หมดว่ามันมีอะไรบ้าง เพราะมันรวมทุกๆอย่าง ทั้งเศรษฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ตรรกศาสตร์ที่เป็นเหตุผล และจิตวิทยาที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล ฯลฯ อีกมากมายไม่รู้จบ
>> หลักสำคัญคือการ พัฒนาตัวเอง mindset จิตใจ หมั่นศึกษา หาความรู้ที่ไม่มีวันจบสิ้น..++
>>>
โลกนั้นเคลื่อนที่หมุนรอบตัวเองทุกวัน.. ถ้าคุณหยุด โลกก็จะแซงผ่านคุณไป!! <<<
ขอบคุณท่านที่สนใจและเข้ามาอ่านจนจบ ..
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์แก่เพื่อนนักลงทุนไม่มากก็น้อย..
++สวัสดีปีใหม่ไทย ขอให้ทุกคนโชคดี++
++ เคล็ดลับ แนะแนว "การอ่านสินธร" อย่างมีประโยชน์..!! #(ภาคจบ)#
@ สำหรับกระทู้ที่สมควร เหมาะแก่การอ่าน ในความคิดของผม คือ
- เลือกอ่านที่ Fact หรือ ข่าว และข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงๆ มีแหล่งที่มาพิสูจน์ได้.. >> แต่!! อ่านแล้วคิด วิเคราะห์ตามเสมอ นี่จะทำให้เราแตกต่างจากคนอื่นทั่วไป คนส่วนใหญ่ ที่เพียงอ่านจบแล้วเชื่อแล้วก็จบ ไม่มีการต่อยอดทางความคิดใดๆเพิ่มเติม..
และ บางทีข่าวที่เขียนมีจุดประสงค์แอบแฝงหรือไม่ เช่น การล่อเม่าให้ซื้อโดยใช้ข่าวพาไปดอย หรือ ล่อเม่าให้ปล่อยของโดยบอกว่าตลาดจะร่วงให้ลดพอร์ต แต่สุดท้ายรายใหญ่ซื้อเก็บ เป็นต้น
และ ข่าวที่เขียนมาอาจเกิดขึ้นจริง หรือ ไม่เกิดขึ้นจริงก็ได้ เช่นข่าวคิมยิงจรวด เป็นต้น เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งตกใจหรือแพนิคเป็นอันขาด.. ทบทวนดูว่า บริษัทที่เราลงทุน ยังอยู่ดีไหม ได้รับผลกระทบจากข่าวหรือไม่ หากกิจการยังดี ก็อย่าตกใจขายหรือทิ้งปล่อยของตามคนอื่น..
เป็นเทคนิคส่วนตัวที่เกิดจากการสังเกต ไม่เชื่อวันหลังลองนำไปดูในเหตุการณ์จริงได้ครับว่า.. >> หลังจากเหตุการณ์แพนิคจบ หุ้นจะเด้งกลับขึ้นมาเสมอ เด้งมาก เด้งน้อย แล้วแต่แรงตอบรับต่อหุ้นตัวนั้นๆ!! ..เพราะงั้นถ้าคุณขายตอนแพนิค ร้อยทั้งร้อยคุณจะมีแต่"เจ๊ง"หรือ"เสียหาย"แน่นอน!! เชื่อว่าหลายคนคงเคยตกใจพะวงขายปุ่ป ไม่นานหุ้นเด้งใส่หน้า.. แล้วพอบทจะซื้อกลับก็ไม่กล้า เพราะทุนสูงกว่าเดิม หรือไม่ก็กลัวมันจะลงมาอีก.. สุดท้ายเลยได้แต่นั่งมองหุ้นที่ตนขายไป ราคาเด้งกลับขึ้นเอาๆตาปริบๆ..
- เลือกอ่านจากกระทู้แนะนำ จากการที่มีผู้อ่านโหวต และ กดถูกใจมากๆ ก็อาจการันตีได้ว่าเป็นกระทู้ที่มีเนื้อหาดี มีประโยชน์.. แต่ก็ต้องย้อนกลับไปข้อที่แล้ว ที่บอกว่าอ่านแล้วต้องคิดวิเคราะห์ตามด้วย อย่าเชื่อไปเสียหมดทุกอย่าง..
จากตัวอย่างสัปดาห์ก่อน มีวันที่ดัชนีตลาดหุ้นลง -40จุด ตลาดเกิดแพนิค มีกระทู้ที่ตั้งเพราะความตกใจออกมามากมาย เช่น ล้างพอร์ตดีไหม? ขายคัสดีไหม? ตลาดจะล่มแล้วใช่ไหม? วิกฤตตลาดหุ้นมาแล้ว? ....ฯลฯ
แต่หากใครสังเกตดีๆ มีกระทู้แนะนำที่มีประโยชน์ทันต่อเหตุการณ์หลายอัน(จุดสีแดงในรูป) ที่ออกมาเตือนสติเหล่านักลงทุน.. หากใครอ่าน หากใครเข้าใจ ปรับตัว ประยุกต์ได้ก็จะลดความเสียหาย หรือ พลิกกลับมาได้ผลประโยชน์ได้.. เพราะหลังจากวันแพนิคนั้น วันถัดมาหุ้นก็เด้งกลับมาบวกติดกัน5วันรวด กลับมาแตะจุดเดิมในเวลาเพียงแค่สัปดาห์..
- เลือกอ่านกระทู้ที่แจ้งทันต่อเหตุการณ์(จุดสีเหลืองในรูป) เช่น กระทู้รายงานยอดสรุปซื้อขายรายวันของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ หรือกระทู้รายงานหุ้นเฉพาะตัวในเหตุการณ์ด่วน เช่น หุ้นEที่เราถือ อยู่ๆก็โดนทุบหรือลากไปกว่า 10%++ ในวันเดียว.. มันมีเหตุการณ์อะไรปัจจุบันทันด่วนหรือไม่ เช่น โรงงานเกิดปัญหา.. บริษัทแตกพาร์.. มีการทำสัญญากับคู่ค้า.. ผลประกอบการกำไรเกินคาด.. บ้านทรัมป์ไฟไหม้ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งในพันทิปจะมีคนที่ไวกับข่าวพวกนี้อยู่ บางคนจะรีบมาอัพเดทเหตุการณ์ทันที ..และเหมือนเดิม คิดวิเคราะห์ตามทุกครั้ง.. ว่าราคาแค่สะท้อนเพราะตกใจข่าว หรือ เหตุการณ์ร้ายๆมันเกิดขึ้นจริงๆแล้ว
- เลือกอ่าน กระทู้ที่เล่าจากประสบการณ์ความสำเร็จ เผยแพร่หลักการ mindset วิธีคิดของคนสำเร็จ มีชื่อเสียง ที่มีตัวตนจริงๆ และได้รับการพิสูจน์และยอมรับจากนักลงทุนทั่วไปในวงกว้าง เช่น บัฟเฟตต์ เกรแฮม ดร.นิเวศน์ ฯลฯ
@ สำหรับกระทู้ที่ไม่สมควรอ่าน หรือ ถ้าว่างก็อ่านได้แบบคลายเครียด ไม่จริงจัง เช่น ..
- กระทู้ต่างๆของ "ขาแช่ง" และ "ขาเชียร์" ที่ทำการตั้งรายวัน ในการเยาะเย้ย กัด จิก เหน็บ กดดันอีกฝ่าย..
บอกเลยว่าการเข้าไปอ่านและโต้ตอบเป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุ ถ้าเข้าไปขำๆ คลายเคลียด สนุกๆไม่คิดมาก ก็ว่ากันไป (กระทู้แบบนี้ผมก็เคยตั้ง55+)
-กระทู้มโนกราฟ นึกและคิดกันไปเอง.. เซต ดาว น้ำมัน จะต้องลงไปจุดนั้น ขึ้นไปจุดนี้ ไม่ผ่านต้านนั้น จะลงไปรับนี้.. อืมม เสียเวลาครับ! คุณลองไปดูประวัติคนที่โพสได้เลย ในอดีตทายผิดกันส่วนใหญ่ สรุปคือ เดา มั่ว กันทั้งนั้น!! คุณจะเชื่อเขาหรอครับ ขนาดนักวิเคราะห์ของบล.หลักทรัพย์ หรือคนดังๆที่ออกสื่อ เขายังคาดการณ์กันผิดเลย แล้วคนในเว็ปบอร์ดที่เป็นใครก็ไม่รู้ จะแม่น เก่ง ขนาดนั้นเลยเชียว -.-"
>> เหมือนเดิมครับ ให้ไปหาอ่านดูข้อมูล และ fact เช่น อัตราการจ้างงาน GDP การขยายตัวทางเศรษฐกิจ โครงการต่างๆของรัฐดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ฯลฯ ข้อมูลพวกนี้มีประโยชน์กว่ามากครับ
ปล. กราฟที่อธิบายได้ดี มีประโยชน์ อธิบายจากกราฟจริงๆ ไม่อคติ ชี้นำ ผมให้อาจารย์kitty63 ครับ ที่สามารถใช้ดูประกอบการวิเคราะห์การลงทุนของสายกราฟได้..
-กระทู้บอกว่า ตลาดเซต หรือ หุ้นตัวนั้นจะขึ้น ตัวนี้จะลง.. อย่าไปเสียเวลา และอย่าไปเชื่อครับ.. ถ้าเขารู้เขาซื้อเองคนเดียว เปิด L เปิด S รวยคนเดียวดีกว่า จะมาบอกให้คนอื่นรวยทำไมกัน เขาไปบอกญาติพี่น้องตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ..
......................................................................
สุดท้าย การ"ลงทุน" ไม่สามารถนิยามได้หมดว่ามันมีอะไรบ้าง เพราะมันรวมทุกๆอย่าง ทั้งเศรษฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ตรรกศาสตร์ที่เป็นเหตุผล และจิตวิทยาที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล ฯลฯ อีกมากมายไม่รู้จบ
>> หลักสำคัญคือการ พัฒนาตัวเอง mindset จิตใจ หมั่นศึกษา หาความรู้ที่ไม่มีวันจบสิ้น..++
>>> โลกนั้นเคลื่อนที่หมุนรอบตัวเองทุกวัน.. ถ้าคุณหยุด โลกก็จะแซงผ่านคุณไป!! <<<
ขอบคุณท่านที่สนใจและเข้ามาอ่านจนจบ ..
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์แก่เพื่อนนักลงทุนไม่มากก็น้อย..
++สวัสดีปีใหม่ไทย ขอให้ทุกคนโชคดี++