(พลีชีพ) เราว่าบุพเพสันนิวาสตั้งแต่กลางเรื่องมาบทแย่มากเลยนะ ไม่เข้าใจทีมงานว่าทำไมไม่ทำ....

ก่อนอื่นขออภัยแฟนละครด้วย แต่อยากฝากไปถึงผู้จัด เผื่อทำเรื่องอื่น อย่าให้ซ้ำรอยกับบุพเพฯ เลย เอาตรงๆ เราก็แฟนละคร รักเรื่องนี้เพราะเบลล่า ทำเอาเราติดงอมแงม

ตั้งแต่กลางเรื่องเป็นต้นมา พอเริ่มมีพาร์ทประวัติศาสตร์ เราว่ามันเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ความแปลกใหม่ ที่มีการทำให้เห็นว่ารายละเอียดในประวัติศาสตร์เป็นยังไง เราว่าตรงนี้แหละที่เราว่ามันไม่สุด ถามว่าละครทำได้มั้ย ทำได้ แต่ไม่ทำ นำเสนอไม่หมด

ยกตัวอย่างนะ เหตุการณ์ตอนพระปีย์โดนฆ่า อยู่ๆ ก็มานั่งเล่าเหตุการณ์ หรือตอนศรีปราชญ์โดนฆ่าตาย ก็ไม่มีฉากอะไร มีแต่คนมานั่งพูดนั่งเล่าว่าศรีปราชญ์ถูกฆ่าตายแล้ว และมีอีกหลายเหตุการณ์ที่เป็นลักษณะนี้ คือให้ตัวละครเล่าแทน เรานั่งดูยังคิด ทำไมละครไม่ลงทุนเลยฟระ เสียดาย เพราะทีฉากตอนขุนหลวงฯ รับสาส์นจากฝรั่งเศสยังทำได้ดีเลย หรือแม้แต่ตอนฟอนคอลมาลาแม่มะลิก็ทำได้ดีเหมือนกัน ถ้าเปลี่ยนจากฉากที่ให้ตัวละครในเรื่องเล่าเป็นทำออกมาเลยเราว่าจะเพิ่มความน่าสนใจอีกเยอะ

ไม่รู้ทีมงานเขาอาจมีเหตุผลที่ไม่ถ่ายทำฉากสำคัญๆ พวกนั้นหรือเปล่า แต่เราเป็นคนนึงที่ดูละครซีรีส์เกาหลีอิงประวัติศาสตร์ อันนั้นเขาทำได้ แถมทำให้คนอินได้ด้วย ไม่ใช่เอาแต่ให้ตัวละครมานั่งเล่าๆ แบบบุพเพสันนิวาส เราว่ามันน่าเบื่อ ทำให้คนดูเห็นว่าไม่ลงทุนเลย ไปเน้นขายความน่ารักของละครแทน

ส่วนประเด็นอื่นที่ว่านางเอกเยอะไป หรือความไม่สมจริงอะไรงี้เราจะไม่พูดละกัน แต่ในฐานะแฟนละครคนนึง พูดตรงๆ ว่า "เสียดาย"
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
หน้าหนังเรื่องนี้เป็น Rom-Com นะครับ เพียงแค่สอดแทรกประวัติศาสตร์

เห็นด้วยว่าถ้าทำเต็มกว่านี้คงยิ่งสนุก แต่คงด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง

โดยรวมแล้ว บทครึ่งหลัง ห่างไกลจากคำว่า "แย่มากเลยนะ" มากครับ สนุกน่าติดตาม ลุกไปไหนไม่ได้เลย
ความคิดเห็นที่ 36
เราวิจารณ์เรื่องนี้เอง ติงไปบ้างว่าอยากให้ทิ้งจังหวะตัดต่อ ให้ขยี้บทให้อิ่มใจก่อนจากกันไป แต่เห็นว่า บทไม่ได้แย่ ตรงข้าม เราว่าคนทำละคร คนเขียนบทกล้ามากที่ทำละครแบบนี้ ยิ่งในสังคมไทยเป็นแบบทุกวันนี้ด้วย โห ไม่คิดว่าจะผ่านมาได้ หลายเรื่องอ่อนไหวมาก แต่เขากล้าทำและไม่ตัดสินว่า มีขาวกับดำ ยิ่งพาร์ท ปวศ.นี่ รู้อยู่แล้วโดนวิจารณ์แน่ แต่ที่ท้าทายสุดคือ เอาการเมือง / ปวศ. (ที่แม้แต่อาจารย์หลายท่านก็เห็นไม่ตรงกัน...ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา) มาทำเป็นละคร และ มีความรักโรแมนติกปนตลกเข้ามาด้วย เป็นเส้นเรื่องหลัก

คิดว่าหากมีฉากตามที่ จขกท.ต้องการ คงไม่มีโอกาสได้ฉายในเมืองไทยดอก แต่ส่วนตัวเห็นว่า ศิลปะการทำละครไทย คือจะนำเสนออย่างไรให้คนจำนวนมากเป็นล้าน ๆ คน รัก และติดตามทุกตอน โดยมีข้อจำกัดสารพัดเช่น เงิน กฎ ค่านิยม รสนิยม ศรัทธา อคติ แน่นอนส่วนผสมอาจจะไม่สมบูรณ์ แต่ก็นับถือว่า เขากล้าที่จะทำและทำจนประสบความสำเร็จมากจนตะลึง

อันนี้ ต่างหากคือ คุณค่าของการพัฒนาละครทีวีไทย มันต้องผ่านจุดเปลี่ยนแบบนี้แหละ หากเรื่องนี้ทำแล้วเจ๊ง อย่าหวังว่าจะเห็นอะไรใหม่ในวงการทีวีไทย บทมันไม่ได้แย่มาก แต่มันไม่อิ่มแบบที่เราวาดฝัน แบบที่เราชิน แต่ถามว่า ต้องปรับปรุงมั้ย ก็ต้องปรับปรุงต่อไป

เป็นไปได้ว่า ฉากที่ จขกท.ต้องการเห็น ลงทุนสูงมากและผู้จัดไทย ๆ ไม่เคยได้รับการสนับสนุนแบบวงการละครเกาหลี แต่สำหรับเราคิดว่า เราพอใจที่ให้เกศเล่าและจดบันทึก เพราะในเชิง ปวศ. การบันทึกความจริง และใครเป็นผู้บันทึก เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เกศเองยังบอกด้วยซ้ำ ไม่รู้จะเชื่อฉบับไหนดี (การบันทึก ปวศ.มีหลายรูปแบบในอดีต) การดึงคนดูให้ออกจาก การเมือง คือเทคนิคสำคัญมาก ไม่เช่นนั้น ตอนกลับมาโรแมนติกจะต่อยากมาก การเล่าฉากโหด ๆ ผ่านมุมมองการะเกดคือเทคนิคนั้น แต่เขาอาจจะต้องสร้างเทคนิคอื่นให้อารมณ์คนดูอิ่มกว่านี้

ละครเรื่องนี้ มันร้ายตรงที่ ความตลกกับความขมขื่นคือเรื่องเดียวกัน (เช่นประเด็นค่านิยม ความเชื่อ การกดขี่ต่างๆระหว่างชนชั้น ชายหญิง king-ไพร่-ทาส) ลุ่มลึก เปิดให้คนตีความได้หลากหลาย คนดูจะตีความแบบชาวบ้าน สนุก ตลกก็ตามนั้น จะตีความแบบนักอ่านฟินเวอร์ ก็ตามนั้น จะตีความแบบนักวิชาการ ก็ตามนั้น สรุปแบบพี่หน่อง....จะตีความแบบไหนก็ได้ ขอให้ดูละกัน 5555

เราไม่ดูละครไทยหลายปีแล้ว ถ้าเรื่องนี้ ไม่ขายความน่ารัก มีแต่เครียดการเมืองหรือรบกู้บ้านเมือง เอาชนะพม่า เกลียดต่างชาติ กู้อิสรภาพ ฆ่ากันเลือดสาด ตบตีชิงรักหักสวาท แสดงกันหน่อมแน้ม  เราคงไม่กลับมาดูละครไทย และมันคงไม่เป็นปรากฎการณ์แบบวันนี้

ความกล้ามาพร้อมกับก้อนหินเสมอ บางครั้งต้องอาศัยโอกาสที่คนดูยื่นให้ ไม่งั้น สิ่งใหม่พัฒนาต่อไปไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 16
+ มาอีกแระ ขยันกันจริงกระทู้แบบนี้ วิจารณ์ละครเขาก็ต้องยอมรับการวิจารณ์กลับด้วยน่ะ!!
- บุพเพฯบทละคร เราว่าทำได้ตามแนวละครที่เน้น รักโรแมนติดคอมเมดี่อิงประวัติศาตร์แล้ว เมนต์หลักของเรื่องตอบโจทย์คำว่า "บุพเพสันนิวาส" ที่เกียวเนื่องจาก ผลของกรรม ได้คำตอบที่สมบูรณ์
- บุพเพฯเป็นละครที่ไม่ใช่แนวดราม่าการเมืองเต็มตัว แต่สามารถถ่ายทอดดราม่า ปวศ.ได้ดีในระดับหนึง จนเกิดกระแสอยากเรียน ปวศ. กันต่อ
- ปกติคนที่เคยดูซีรีย์จีนและเกาหลี (ซีรีย์อิง ปวศ.) ตอนจบ เขาจะทำแบบกลางๆคาๆ เพื่อให้ผู้ชม คิดวิเคราะห์ถกเกียงกันต่อ แต่บุพเพฯ ตอนจบเคลียร์ทุกประเด็นสงสัย (จบได้ชัดเจนขนาดนี้ยังโดนโจมตีๆ แปลกใจมากกับคนที่โจมตีตอนจบ ละครบุพเพฯสือเรื่อง ปวศ ประมาณหนึ่งเท่านั้น ไม่คิดจะตีความเองบ้างหรือค้นคว้า ปวศ. กันเองบ้างหรือกะไร? จะต้องให้ละครบอกทุกอณูแบบละเอียดยิบ!!! แม้แต่ฉากพระปีย์โดนสำเร็จโทษ ก็ยังอยากจะเห็น อันนี้ก็เกินไป!....)
ความคิดเห็นที่ 5
เราว่าฉากพระปีย์ตามที่เราอ่านมามันโหดร้ายเกินไปไม่ทำน่ะดีแล้วค่ะ มั่นใจว่าทีมงานตั้งใจเลี่ยงฉากรุนแรงทั้งปวง ที่บ้านเราเด็กๆนั่งดูกันเต็มเลยถ้ามีคงไม่ไหวมั้งคะ มันเป็นละครโรแมนติกคอมเมดี้ดูได้ทุกเพศทุกวัย ทำแบบนี้งดงามที่สุดแล้วค่ะสำหรับเรา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่