[CR] Ep-2: แบกเป้โหนรถไฟลุย ยุโรป !!! <<< Moscow - Berlin >>> by Hoo Backpack

ต่อจาก>>>กระทู้ปฐมบท...https://pantip.com/topic/37532620
                Ep-1: BKK - Moscow https://pantip.com/topic/37533110

Moscow - Berlin (Day 1)


       หลังจากนอนพลิกตัวไปมากันตลอดทั้งคืน ก็ถึงเวลาบอกลาที่นอนสุดวีไอพีกันแล้ว (ดีใจน้ำตาจะไหล) เช้านี้ เราเตรียมตัวไปขึ้นเครื่องต่อเพื่อบินไปเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันกันตอนประมาณ 9 โมงเช้า ระหว่างนี้ ยังพอมีเวลาเดินเล่นช้อปปิ้งฆ่าเวลา ก็เลยเหลือบไปเห็นร้านขายสินค้าพื้นเมืองของที่นี่ดูน่าสนใจมาก มีทั้งเสื้อผ้า หมวก หรือของฝากสุดฮิตตุ๊กตาลูกดกก็มีให้เลือกหลายหลายแบบ ใครชอบสะสมของโลคอลๆ แบบนี้ และไม่มีเวลาออกไปข้างนอกสนามบิน ลองแวะดูก็ตื่นตาตื่นใจดีนะครับ


(ระหว่างรอขึ้นเครื่อง ผมก็ได้เจ้าหมวกสีเทาทรงแปลกตาติดมือไปเบอร์ลินด้วยครับ)

เหิรฟ้าสู่ >>> สนามบิน BERLIN SCHÖNEFELD

และแล้วก็ถึงเวลาขึ้นเครื่อง ทริปนี้เรามีเพื่อนอยู่ที่เบอร์ลินพอดี เลยขอข้อมูลแหล่งฮิปๆ ในเบอร์ลินจากเจ้าถิ่นตัวจริง (ถูกใจ แถมไม่ต้องเหนื่อยเสิร์ชหาข้อมูลแบบไร้ทิศทางด้วย เยี่ยม!!) สำหรับกรุงเบอร์ลินนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางท่องยุโรปที่แท้จริง จากนี้ไป คงจะมีเรื่องให้ตื่นเต้นกันน่าดู และก็คงจะเหนื่อยมากด้วย ขออย่างเดียว อย่าหลงให้มากนักก็แล้วกัน เพี้ยงงงงง

....ประมาณสองชั่วโมง เราก็บินมาถึงสนามบิน BERLIN SCHÖNEFELD ลงเครื่องผ่านตม. แบบชิลๆ ไม่หวาดหวั่นเหมือนที่มอสโก แต่! ลืมอะไรไปหรือเปล่า เรายังมีกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดที่โหลดมาใต้เครื่องจากสุวรรณภูมิรออยู่นะ หนักๆ ทั้งนั้น คิดแล้วก็.... เอ้า สู้โว้ย!


(น้ำหนักรวมราวคนละ 40 กก. เต็มพิกัดจนแทบยืนไม่ไหวรวมน้ำหนักตัวด้วยก็ปากว่า100 กก. ขาแทบหัก)

> สำหรับแผนการเดินทางในเช้านี้<
จากสนามบิน Berlin Schönefeld - เดินไปขึ้นรถไฟที่ Flughafen Berlin Schönefeld – ไปต่อรถไฟใต้ดินสถานีเพื่อไปขึ้นที่สถานี  Frankfurter Allee - เดินต่อไปยังที่พักราคาประหยัดที่จองกันไว้ รวมเวลาที่ประมาณการกันไว้เกือบๆ ชั่วโมง (ถ้าไม่หลงนะ)  


(ภาพแผนที่เส้นทางรถไฟใต้ดินจากสนามบินไปยังที่พัก)

แต่...ก่อนที่จะถึงจุดหมาย มันก็มีเรื่องให้ต้องตื่นเต้น อะดรีนาลินหลั่ง!

เมื่อเราหาทางออกจากสนามบินเพื่อมาขึ้นรถไฟเข้าเมืองกันที่สถานี Flughafen Berlin Schönefeld ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การซื้อตั๋ว นึกว่าจะชิลๆ ไม่มีอะไร แต่กว่าเราจะซื้อตั๋วกันได้ ก็เล่นเอาทุลักทุเล ตั้งแต่หาตู้ซื้อตั๋วไม่เจอ พอเจอแล้วก็ดันไปเจอตู้ที่เสียอีก พอเจอตู้ที่ใช้ได้ ก็ไม่รู้จะซื้อยังไง มันงงจริงๆ นะ เลยขอให้พี่ชาวเยอรมันมาช่วยกด นึกว่าจะรอดแล้ว ดั๊นมากดผิดกดถูกอีก เอ้า คลำๆ กันไป 555 จนเราได้ตั๋วรถไฟเข้าเมืองมาแบบงงๆ (อีกแล้ว)

(หน้าตาตู้ออกตั๋วรถไฟ)

คิดว่าเรื่องราวตื่นเต้นมันน่าจะหมดลงตรงนี้ใช่มั้ย ยัง! ยังมีอีก พอเราเข้าไปในรถไฟเรียบร้อยแล้ว ระหว่างที่นั่งชิลถ่ายรูปกันหนุกหนาน จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งแต่งตัวออกแนวฮิพฮอพ เสื้อยืด กางเกงสามส่วน ทำทีมาขอดูตั๋ว เราก็ งงเด่ เอาแล้วๆ มิจฉาชีพแน่ๆ (เพราะก่อนมามีคนขู่ไว้เยอะ นี่ยังไม่นับรวมเรื่องของลัทธินีโอนาซีอีกนะ) หลังจากคิดไปต่างๆนานา สักพักดูท่าทีเค้าก็พอจะเดาได้ว่า น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วบนรถไฟนอกเครื่องแบบ (ในใจแอบคิด มันจะนอกเครื่องแบบไปไหนนะ อีกนิดก็จะเป็นโจรอยู่แล้ว)

เมื่อคิดได้ดังนั้น ก็ยื่นตั๋วให้เค้าดูแบบมั่นใจ แต่...เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบกลับส่ายหัว เฮ้ย ไมอะ เรามั่นใจมากนะว่าตั๋วนี้ถูกต้อง เพราะมีคนเบอร์ลินมาช่วยกดให้เลยนะ ซึ่งความจริงก็คือ ตั๋วน่ะถูก แต่เราไม่ได้ทำการตอกตั๋วก่อนเข้ามาในรถไฟต่างหากล่ะ  อ้าวววว ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ (เพลงพี่เจก็มาให้ฮัมเล่น) พอนึกย้อนๆ ดู อ้อ ว่าแล้ว เราเห็นอะไรแท่งๆ ตั้งอยู่ตรงชานชาลาที่รอรถไฟมาเทียบ ไอ้เราก็นึกว่าที่กั้นเขตอะไรซักอย่าง ที่แท้ก็เครื่องตอกตั๋วนี่เอง เพื่อแสดงว่าเราขึ้นจากสถานีนี้จริง ป้องกันการนำกลับมาใช้ใหม่ สุดท้าย พี่เจ้าหน้าที่คงสัมผัสได้ว่า เรามีความบริสุทธ์ใจจริงๆ ไม่ตั้งใจจะหลบหลีกหรือจะนำตั๋วกลับมาใช้ใหม่ ก็เลยปล่อยเราไปแบบไม่ถูกปรับ เพราะถ้าโดนนี่ หลายบาทเลยทีเดียวนะ เฮ้อ รอดตัวกันไป


(ยิ้มอ่อนเบาๆ หลังจากพี่เจ้าหน้าที่ไปแล้ว)


(วิวข้างทางระหว่างเข้าเมือง กราฟิตี้มีอยู่ทุกที่สมกับเป็นเบอร์ลินจริงๆ)

...และแล้วก็มาถึงสถานี Frankfurter Allee อย่างปลอดภัย


(ดีใจสุดๆ จะได้เก็บกระเป๋าไว้ที่พัก ไปเที่ยวตัวเบาๆ ซักที)

ออกมาจากสถานีปุ๊บ ข้างทางก็มีกราฟิตี้ให้เห็นเป็นระยะๆ

(หลงมั้ย? ยังๆ แค่หยุดดูแผนที่แป๊บนึง 555)


(สงสัยเราลุคของเราคงต้องหลงแน่ๆ พี่ชาวเบอร์ลินคนนี้เลยเข้ามาถามไถ่ และช่วยบอกทาง เราไม่ได้หลงนะ พี่เค้าใจดีเอง)

หลังจากเดินตามแผนที่กันมาเรื่อยๆ มีถามทางไปบ้างเล็กน้อย ก็จะมาถึงโรงแรม Pension ที่พักของเราในคืนนี้จนได้ ้านหน้าโรงแรมจะเป็นตึกโบราณของย่านนี้ ราคาถูกใช้ได้ เพราะเป็นอาคารพาณิชย์ที่แบ่งห้องให้เช่า

(ที่เห็นในภาพเป็นแค่ส่วนของ reception ไว้สำหรับเช็คอินครับ ส่วนของห้องพักทั้งหมดต้องเดินอ้อมไปตรงมุมตึกด้านข้าง สักพักก็จะเจอประตูสีแดงๆ โดยพนักงานโรงแรมจะให้กุญแจไว้สำหรับไขเข้า >>ภาพจาก google map)


(พอเจอประตูสีแดง ก็เปิดเข้ามาจะเจอโถงทางเดิน สำหรับห้องของเราไม่ต้องขึ้นบันไดครับ เดินเข้าไปตรงประตูที่อยู่ตีนบันไดนั่นเลย ส่วนบรรยากาศในนี้ โคตรคลาสสิก)


(นี่ไงครับ ประตูย่อยด้านในของห้องพวกเรา พอเปิดประตูนี้เข้าไป ก็จะเจอโซนห้องไพรเวตชั้น 1 โซนนี้จะมีไม่กี่ห้อง และต้องแชร์ห้องน้ำและห้องครัวด้วยกันนะ)

สำหรับห้องพักของเราอยู่ชั้นล่าง ติดถนน ซึ่งก็ดีนะ เพราะถ้ามีอะไรฉุกเฉินก็โดดหน้าต่างหนีได้สบายๆ แต่พอเปิดม่านออกจะขอชมวิวสตรีทซะหน่อย อ้าว ดันเจอเหล็กดัดซะครับพี่ แป่ว!!! แม้จะเปิดออกไปไม่ได้ แต่ก็ยังดูปลอดภัย แถมไม่เหงาด้วย เพราะมีทั้งเสียงคนจูงน้องหมา เสียงล้อจักรยาน รวมไปถึงเสียงคนจีบกันให้ได้ยินเป็นระยะๆ ด้วย (555) อ้อ ลืมบอกไป เราเลือกจองแบบห้องไพรเวตพักได้สามคน แต่ห้องน้ำและห้องครัวแชร์ร่วมกัน ที่นี่สะอาดใช้ได้เลย แม้จะดูเล็กๆ แต่จัดสรรพื้นที่ได้ดีทีเดียว


(ภายในห้องนอน น่ารักใช้ได้ แถมมีโซฟาด้วย)

> สำหรับแผนการเที่ยวในวันนี้ เราจะตามไปเช็คอินแหล่งฮิพๆ ที่เพื่อนเจ้าถิ่นแนะนำมา เริ่มกันที่...
ร้าน Humana Second Hand Kaufhaus (แหล่งช้อปปิ้งสำหรับคนรักเสื้อผ้าสไตล์วินเทจ) - Revaler Strabe (แหล่งอาร์ตมาร์เก็ตในโรงงานร้าง) – กำแพงเบอร์ลิน East Side Gallery – สนามบินเก่า Berlin Tempelhof (นัดเจอเพื่อนเก่า) – กลับที่พัก <  

หลังจากเอาสัมภาระใบยักษ์ลงได้ ก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากบ่ายังไงยังงั้นเลย ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายนิดๆ พอทันเที่ยวตามเป้าที่ตั้งไว้ และแล้วก็ได้เวลานำเอาเจ้าสเก็ตบอร์ดออกมาใช้ให้คุ้มค่าโหลดหน่อย สเก็ตบอร์ดอันนี้ ผมเรียกมันว่า เจ้าบิ๊กฟุต เป็นเพนนี่สเก็ตบอร์ตที่ผมดัดแปลงใส่ล้อใหญ่เข้าไป เพื่อทำให้มันไถได้กับทุกสภาพพื้นถนน ไม่ว่าหลุมบ่อ หรือพื้นขรุขระไม่เรียบ มันลุยได้หมด


(เจ้าบิ๊กฟุตของผมครับ)

> ระหว่างทางไปจุดหมายแรก Humana Second Hand Kaufhaus <

ตอนที่ผมกำลังไถๆ เจ้าบิ๊กฟุตอยู่ก็สังเกตว่า ที่เบอร์ลินนี้มีเลนจักรยานบนทางเท้าด้วย ใครเดินบนฟุตบาทที่นี่อย่าใจลอยเผลอไปเดินในเลนจักรยานเค้าล่ะ อาจเสี่ยงต่อการโดนเฉี่ยวเอาได้ง่ายๆ เพราะคนเมืองนี้เค้าขี่จักรยานกันเยอะมาก ยิ่งเป็นย่านแหล่งท่องเที่ยว อย่างเส้นถนน Frankfurter Allee มุ่งหน้าไป  Berlin Tower ก็จะมีทัวร์จักรยานด้วย จักรยานที่นี่ฮอตไม่ฮอตขนาดไหน ดูได้จากการมีไฟแดงจักรยานตามแยกเลยทีเดียว ถ้าเป็นเมืองไทย คงจะเห็นแต่มอร์เตอร์ไซด์ เปิดเลนพิเศษวิ่งบนทางเท้าแทน


(มีไฟจราจรจักรยานด้วย เจ๋งเลย)

(แผนที่จากที่พักไปยังเป้าหมายแรก>>> Humana Second Hand Kaufhaus)

แล้วเราก็มาถึง Humana Second Hand Kaufhaus แหล่งรวมคนรักเสื้อผ้าสไตล์วินเทจ

ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรเพื่อสังคมด้วย เสื้อผ้าภายในร้านจะได้รับการบริจาคมา และรายได้ส่วนหนึ่งก็จะนำไปบริจาคต่อ สำหรับในเบอร์ลินจะมีอยู่ถึง 13 สาขาด้วยกัน ที่เราเลือกมาสาขานี้ นอกจากจะใกล้ที่พักเราแล้ว มันยังไม่เหมือนที่ไหนๆ ด้วย เพราะใหญ่และสูงถึง 5 ชั้น รับรองด้านในคงอัดแน่นไปด้วยของวินเทจเก๋ๆ ชัวร์


(เข้ามาข้างในจะมีบันไดก้นหอย แปลกตาไปอีกแบบ)

แต่ละชั้นจะถูกแบ่งออกเป็นยุคๆ นะ มีตั้งแต่ยุค 50s - 90s และไม่ได้มีแค่เสื้อผ้าวินเทจอย่างเดียว ยังมีพวกเอสเซอรี่ ให้เลือกช้อปกันละลานตาไปหมด ทั้งผ้าพันคอ หมวก กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ แผ่นเสียง แม้แต่กระดุมก็ยังมี ในราคาที่ถูกเหลือเชื่อ


ใครชอบของแนววินเทจ แนะนำเลย สำหรับผม ได้แต่มองตาละห้อย เพราะยังต้องไปอีกหลายเมืองนัก ตอนนี้ที่ว่างในกระเป๋ามันแทบจะไม่มีแล้ว ตัดใจๆ
+ พิกัดหาไม่ยาก อยู่ตรงถนน Frankfurter Alle เปิด10.00 – 20.00 น. หยุดวันอาทิตย์  

>>>>ตามไปชมความสนุกในครึ่งแรกของทริปเบอร์ลินได้ที่<<<
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ชื่อสินค้า:   Berlin
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่