Ep-1: แบกเป้โหนรถไฟลุย ยุโรป !!! <<< BKK - Moscow >>> by Hoo Backpack

ต่อจากกระทู้ปฐมบท...https://pantip.com/topic/37532620
ฝากติดตาม Ep-2: Moscow-Berlin  https://pantip.com/topic/37554950

BKK, Thailand – Moscow, Russia



ก่อนจะเหิรฟ้า ก็มีเรื่องให้ตกใจ!!

หลังจากโหลดกระเป๋าไปแล้ว นึกเอะใจขึ้นมาว่า หมวกกันน๊อคกับสเก็ตบอร์ดเอาติดตัวขึ้นเครื่องได้มั้ย (พอดีทริปนี้กะจะเอาไปไถเล่นๆ ซักหน่อย) เลยวกกลับไปถามเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์เช็คอินเพื่อความชัวร์ ผลคือ หมวกกันน็อค ห้ามเอาขึ้นเครื่องครับ เจ้าหน้าที่บอกว่ามันสามารถใช้ทำร้ายร่างกายกันได้ (โอ้ว แม่เจ้า ความรู้ใหม่) ดังนั้น ผมก็เลยต้องเอาทั้งสเก็ตบอร์ดและหมวกกันน็อคไปโหลดลงใต้เครื่องเพิ่ม โดนค่าน้ำหนักไปฟรีๆ 1,500 บาท (แทบร้องไห้) แต่พออยู่บนเครื่อง ดันเหลือบไปเห็นเด็กฝรั่งแบกสเก็ตบอร์ดขึ้นเครื่องมาเนียนๆ อ้าว รู้งี้โหลดแต่หมวกก็ดีอะ โหยยย เอาค่าโง่คืนมานะ

>>โฉมหน้าสเก็ตบอร์ดและหมวกกันน็อคตัวปัญหา 555<<

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เรื่องค่าโง่จบไป...เรามาดูแผนการเดินทางของวันนี้ดีกว่า

ก่อนจะถึงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน เราต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่ กรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซียกันก่อน ซึ่งเป็นโชคดีของเราที่ทำให้เราได้หนีเที่ยวนอกแผนในกรุงมอสโกแบบเต็มๆ 1 วันครับ เพราะเครื่องที่จะบินต่อไปเบอร์ลิน มันเป็นไฟลท์เช้าของวันรุ่งขึ้น

เราถึงสนามบิน Moscow Sheremetyevo ในกรุงมอสโกกันประมาณ 16.30 น. ที่รัสเซียเวลาจะช้ากว่าไทย 4 ชม. เราเลยได้เวลาเที่ยวเพิ่มมาแบบฟรีๆ
(ถึงแล้ว! สนามบิน Moscow Sheremetyevo)

แต่!!! ก่อนจะดีใจที่จะได้ออกไปเที่ยวมอสโก ยังต้องผ่านด่าน ตม. อีก
ซึ่งที่นี่แม้เราจะไม่ต้องใช้วีซ่า แต่ก็แอบหวั่นๆ เลยเตรียมข้อมูลมาอย่างดี ปรินท์เอกสารผ่านเข้าเมืองที่เป็นภาษารัสเซีย (ซึ่งอ่านไม่ออกเลยสักตัว) มาด้วย เพื่อยืนยันว่าคนไทยไม่ต้องใช้วีซ่านะ (พอดีเคยไปอ่านเจอในเว็บ เค้าแนะนำให้ติดไปด้วย)
>>>เราโหลดเอกสารมาตามลิงค์นี้ครับ http://www.thaiembassymoscow.com/download/pdf/th-ru_visaexempt_ru.pdf

เอกสารมีทั้งหมด 5 หน้า หน้าตามันก็จะเป็นแบบนี้ล่ะครับ

ตอนนั้นในใจก็แอบกังวล เพราะถ้าเกิดเอกสารที่ได้จากการโหลดต่อๆ กันมานี่ มันมีผิดพลาดล่ะ ซึ่งประเทศนี้ขึ้นชื่อว่ามากด้วยกฎระเบียบชัดเจน

(กรอกใบ ตม. เข้าเมือง >>> กรอกไปก็แอบตื่นเต้นไป จะเจอคำถามไรมั้ย)

พอไปถึง เจ้าหน้าที่ ตม. ขอดูพาสปอร์ต พลิกไปพลิกมาสักครู่ก็ทำหน้าแปลกๆ ในใจคิดว่า เอาละเว่ย มาแล่ว ปัญหามาแล้ว...สักพัก ก็ถามเราขึ้นมาว่า...

ตม. :        นี่ยูไม่ต้องใช้วีซ่าใช่มั๊ย?
เรา :         ถามมายังงี้ ก็ตอบ โนวววว์ สิครับ (ในใจคิดว่าไอ้เอกสารที่เตรียมมาจะยื่นหรือไม่ยื่นดี)
ตม. :     อืมมมม ไม่ต้องใช้วีซ่าใช่มั๊ย โอเค ยูแคนโก
เรา :         เอ๊า อย่างนี้ก็ได้เหรอ 5555 (คิดในใจนะไม่พูดออกไปหรอกนะ)
แล้วเราสามคนก็รีบเดินออกจากตม. ตามคำแนะนำ (ช้าไม่ได้เดี๋ยวพี่แกเปลี่ยนใจ จะยุ่งเอา)

เฮ้อ!! กว่าจะผ่านด่าน ตม. ออกมาได้ รวมถึงเดินเช็คข้อมูลต่างๆ ก็กินเวลาเกือบจะทุ่มล่ะ ฮั่นแน่! คิดว่าตอนนี้พวกเราคงเปลี่ยนใจหาที่นอนแทนแล้ว ใช่มั้ยล่ะ ไม่ครับ ยังทันครับ เพราะพระอาทิตย์ที่นี่ ตกเที่ยงคืน ยังเหลือเวลาเที่ยวได้อีกเยอะ

ก่อนจะก้าวออกจากสนามบิน ก็ยังมีสิ่งเรียกร้องความสนใจจากพวกเราอีกล่ะ 555 (ยัง ยังไม่รีบไปอีก!!)

พอดีตอนที่เดินออกมาตรงทางออก ซึ่งเป็นที่สำหรับให้คนมายืนรอรับ เราสังเกตเห็นว่า ผู้คนที่นี่มักจะถือช่อดอกไม้มามอบให้กันเพื่อแสดงออกถึงความยินดีในการมาเยือน แต่บางคนแม้จะไม่ได้เตรียมมา ก็สามารถมากดซื้อที่ตู้กดช่อดอกไม้สดอัตโนมัติได้ (โห มีงี้ด้วย)
ซึ่งก็มีให้เลือกหลากสีหลายขนาด วางเรียงรายอยู่ในตู้กระจกพร้อมหมุนโชว์รอบตัว ไม่ว่าคนสำคัญจะมาไฟลท์ดึกขนาดไหน ก็มีดอกไม้เซอร์ไพรส์แน่นอน บ้านเราน่าจะเอาไปประยุกต์ทำเป็นตู้กดพวงมาลัยอัตโนมัติบ้าง ก็น่าจะเวิร์คไม่เบานะ


แต่ที่เด็ดไปกว่านั้น...ยังมีอีกหนึ่งตู้กดอัตโนมัติที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

มันตั้งอยู่ตรงประตูสำหรับผู้โดยสารขาออก ตู้นี้รับรองถูกใจนักท่องเที่ยวขี้ลืมหรือเวลาน้อยแน่นอน เพราะมันคือตู้กดตุ๊กตาแม่ลูกดกของฝากยอดฮิตนั่นเอง มาในแพ็คเกตเก๋ไก๋ ไม่ต้องกลัวแตกหักระหว่างทาง แต่ราคาเอาเรื่องอยู่นะ แพงกว่าซื้อที่ตลาดในเมืองอยู่มาก ใครมีเวลาแนะนำไปช้อปฯในเมืองดีกว่า ถูกกว่าเยอะ


ยัง! เรายังออกจากสนามบินไม่ได้ ถ้าไม่ได้แลกเงิน

ถ้าใครไม่ได้เตรียมแลกเงินมา ก็สามารถมาแลกที่สนามบินกันได้นะครับ มองๆ หาร้านที่ดูดีน่าไว้ใจหน่อย ค่าเงินรูเบิ้ลตอนที่พวกเราไปก็จะพอๆ กับค่าเงินไทย คือ 1 บาท เท่ากับ 1.15 รูเบิ้ล คิดเทียบง่ายๆ ก็ 1 รูเบิ้ล เป็น 1 บาทไปเลย (เช็คค่าเงินก่อนไปนะครับเรทนี้ นานมาแล้ว)


> แผนการเดินทางวันนี้ จากสนามบิน – ไป Red Square (จัตุรัสแดง) – วิหารเซนท์เบซิล – แล้วกลับมานอนรอขึ้นเครื่องที่สนามบิน (เพราะไฟลท์ที่บินไปกรุงเบอร์ลินเป็นไฟลท์เช้า นอน รร. ไม่คุ้มแน่) <

*ลิงค์แผนการเดินทางhttps://www.google.com/maps/d/u/0/edit?mid=1ukLpjzSaqmr0NKP0L69bumdgJbG9p-Hu&ll=55.82864845949963%2C37.515317407226576&z=11


วิธีเดินทางเข้าเมืองไปยังจัตุรัสแดง เราเลือกที่จะนั่งรถบัส แล้วไปต่อรถไฟฟ้าใต้ดินอีกทีที่สถานี Rechnoy Vokzail


(ด้านนอกอาคารผู้โดยสาร)

พอออกจากอาคารผู้โดยสารในสนามบิน เดิมทีเราตั้งใจหารถบัสเข้าเมือง แต่พอดีเห็นคิวรถตู้จอดอยู่ เลยเปลี่ยนใจขึ้นรถตู้แทนครับ  
อีกอย่างเดินไปถามราคามา มันอยู่ที่ 70 รูเปิ้ล ก็ประมาณ 70 บาท รับได้ ก็เลย ไปโลดดดด (ค่าเงินที่นี่ใช้เป็นรูเบิ้ล อัตราแลกเปลี่ยนพอๆ กับไทย คำนวณง่ายหน่อย)

แล้วจะนั่งคันไหนดีล่ะ?
ไม่ต้องห่วง เพราะเมื่อกี๊ตอนอยู่ในสนามบิน เราไปเช็คมาเรียบร้อยแล้วว่า รถทุกสาย เดินทางจากสนามบินเข้าเมืองเหมือนกันหมด เพิ่มเติมคือ เราอาจจะนำแผนที่สถานีรถไฟไปถามพี่โชเฟอร์ดูเพื่อความชัวร์ว่าผ่านมั้ย ถ้าพี่แกพยักหน้า ก็ลุยเลยครับ (แต่จริงๆ แล้ว ใครจะไปลงรถที่สถานีรถไฟใต้ดินเพื่อต่อเข้าเมือง สบายใจได้ เพราะมันเป็นป้ายสุดท้าย ถึงแล้วเค้าก็ไล่ลงเอง)  

(เราเลือกไปสายนี้กันครับ)

สำหรับบรรยากาศในรถตู้ เซอร์ไพรส์มากกกก
นี่ถ้าไม่ติดว่ามีนักท่องเที่ยวและชาวรัสเซียนั่งมาด้วยนะ หลงคิดว่า กำลังนั่งรถตู้อยู่ในกรุงเทพฯ ซะแล้ว อาจจะเป็นเพราะพอดีไปช่วงซัมเมอร์ของรัสเซียด้วย อากาศก็เลยโคตรจะเหมือนบ้านเราเลย แถมพี่โชเฟอร์ยังไม่เปิดแอร์ด้วย(รถรัสเซียติดแต่ฮีตเตอร์) แง้มๆ แค่หน้าต่างรถแทน หยิบกระดาษขึ้นมาพัดกันซิครับ รออะไร โคตรชิล!  ร้อนมาก ไม่คิดว่า จะได้โมเมนท์เหงื่อแตกแบบนี้ในประเทศที่ขึ้นชื่อว่า หนาวสุดยอด!!

(บรรยากาศบนรถตู้)

ถึงแล้ว จุดลงรถตู้เพื่อต่อรถไฟใต้ดิน
สังเกตุง่ายๆ จุดลงรถตู้จะอยู่ฝั่งตรงข้ามห้างใหญ่ๆ ที่อยู่ทางด้านหลังผม (อ่านชื่อไม่ออกสักอย่างจำหน้าตาดีๆ)


>> จุดลงรถตู้ ต่อ รถไฟใต้ดิน Rechnoy Vokzail <<
แม้ว่าเราจะเจอรถติด เสียเวลานิดหน่อย แต่เราก็มาถึงที่หมายจนได้ พอลงรถมา อาจจะดูมึนงงหน่อยๆ แต่ไม่ยาก ใช้วิธีเดินเกาะกลุ่มผู้คนไปเลย สักแป๊บก็จะเห็นหลังคาสถานีรถไฟใต้ดิน ไม่ต้องกลัวหลง เพราะมันอยู่ใกล้กับจุดลงรถเลยครับ
(ภาพสถานีรถไฟใต้ดิน Rechnoy Vokzail)

อันนี้เป็นแผนที่การเดินทางของสถานีรถไฟใต้ดิน Rechnoy Vokzail ที่เราลง ไปยังสถานีใต้ดิน Okhotny Ryad
ซึ่งอยู่ใกล้กับ Red Sqaure ที่สุด

#ใครนึกภาพไม่ออก ลองมาดูคลิปนี้ได้นะ >>>เล่าเรื่องตั้งแต่ลงจากเครื่องมาจนถึงสถานีรถไฟใต้ดินมอสโก
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

มาถึงสถานีรถไฟใต้ดิน ก็ต้องซื้อตั๋ว...แล้วจะซื้อยังไงล่ะ?

ที่นี่ก็เหมือนบ้านเรา คือมีแบบเป็นตู้กดอัตโนมัติ (แต่งงมาก ขอบอก) กับเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำอยู่ เราขอเลือกช้อยส์หลังแล้วกัน แต่!!! นึกว่าจะง่าย ไม่เลย เจ้าหน้าที่ดันพูดภาษารัสเซียชนิดไม่แคร์เอเซียหัวดำอย่างเราสามคนเลย โอ๊ย ยังไงล่ะทีนี้ กางแผนที่ชี้จุดหมาย ส่งภาษาใบ้กันซักพัก กว่าจะเก็ทกันได้ แล้วเราก็ต้องเดินกลับไปซื้อตั๋วที่ตู้อีกที (ไปถามเจ้าหน้าที่เพื่อ?)
(เหมือนจะซื้อตั๋วได้สบายๆ นะ แต่สุดท้ายก็ต้องไปกดตู้อยู่ดี)

(ภาพแผนที่สถานีรถไฟใต้ดิน ช่วยอะไรเราได้มั้ยเนี่ย ^^')
โชคดีที่พอรู้ภาษารัสเซียบ้าง...(ไม่ช่ายๆๆๆ เค้ามีภาษาอังกฤษให้นะโชคดีมาก)

(ตู้กดบัตรรถไฟฟ้าใต้ดิน โลโก้เหมือนเกมส์มาริโอ้ จำง่าย 5555)

และแล้วเราก็ได้ตั๋วรถไฟมาแบบงงๆ (งงจริงๆ) หน้าตาตั๋วก็จะเป็นแบบนี้ เป็นตั๋วกระดาษภายในฝังชิปเอาไว้ (แต่ใช้แล้วทิ้ง น่าเสียดายมาก)


โห ช่องตรวจบัตรเข้าสถานีฯ ไฮเทคมากขัดกับตัวอาคารภายนอก ดูไปดูมาเหมือนเครื่องยิงขีปนาวุป หรือหลุดจากหนังสตาร์วอร์อยู่เหมือนกันนะ  

รถไฟมาแล้ว!!!
โห โคตรคลาสสิกเลย สถานีรถไฟใต้ดินที่นี่ ถือว่าขึ้นชื่อมากในเรื่องความสวยงามและความคลาสสิก แต่ละสถานีก็จะตกแต่งแตกต่างกันไป สำหรับสถานีนี้ออกจะดูเก่าๆหน่อย แต่เราชอบนะ มันดูคลาสสิกดี ถ้าใครมีเวลา ก็ลองนั่งรถไฟทัวร์ชมสถานีรถไฟกันไปทีละสถานีกันเลย  

ข้างในขบวนรถไฟ ดูเก่าคลาสสิกมั้ย...เอ้า ไปกันเลย!!!

บรรยากาศ ระหว่างทางเดินภายในสถานีรถไฟใต้ดิน ดูสวยแบบลึกลับๆ ดีนะ

ถึงซักที สถานี Okhotny Ryad มุ่งหน้าเดินสู่ Red Square
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่