คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ตอบง่ายๆเลยคือเป็นเรื่องปกติว่าเด็กที่มีปูมหลังอย่างทอม จะมีจินตนาการอยู่แล้วว่าพ่อแม่ตัวเองเป็นคนเก่ง คนสำคัญ
เด็กกำพร้าที่ไม่รู้จักพ่อแม่ของตัวเอง หลายๆคนจะคิด(หวัง)ว่าจริงๆแล้วเราไม่ใช่เด็กที่ไม่มีใครต้องการ คนไม่มีตัวตน
แต่อาจจะมีเหตุบางอย่าง พ่อแม่เราอาจจะเป็นใครสักคนที่สำคัญมาก เก่งมาก เป็นความสุขเล็กๆสำหรับเด็กที่มีปูมหลังแบบนี้
ยิ่งทอมเองเป็นเด็กฉลาด และรู้ตัวว่าตัวเองมี"ความพิเศษ"ที่ไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆทั่วไป ก็ยิ่งยึดมั่นกับจินตนาการตรงนี้
พอมาถึงตอนที่รู้ว่าตัวเองเป็นพ่อมดก็เพราะ Dumbledore มาบอกตอนอายุ 11
ทอมซึ่งไม่เคยมีชีวิต มีความทรงจำอยู่ในโลกพ่อมด คงไม่มีความรู้มาก่อนว่า mudblood คืออะไร
และคงเชื่อทันทีว่าการเป็นพ่อมดแม่มดมันต้องสืบทอดมาเฉพาะจากคนที่เป็นพ่อมดแม่มดด้วยกัน
ก็ยิ่งตอกย้ำความหวังเล็กๆของตัวเองมาตลอดว่าชั้นไม่ใช่เด็กไร้ตัวตน แต่ชั้นเป็นใครสักคนที่พ่อแม่ชั้นต้องเก่งมากๆ
และเพราะรู้จักแม่แล้วว่าแม่เป็นคนที่อ่อนแอ ภาพผิดไปจากจินตนาการที่วาดไว้ เลยปักใจว่าต้องเป็นพ่อนี่ล่ะที่เป็นพ่อมดที่เก่งกาจ
แถมก่อน Dumbledore จะกลับไปวันนั้น ทอมบอก Dumbbledore เรื่องที่ตัวเองเป็น parseltongue พูดภาษางูได้
และตัว Dumbledore เองก็มีปฏิกิริยาให้ทอมจับได้ว่านี่มันเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะ ไม่ใช่พ่อมดแม่มดทั่วไปก็ทำได้
ยิ่งพอมาศึกษาเรื่องโลกของพ่อมดแม่มดมากขึ้น ก็ต้องรู้ล่ะว่า parseltongue เป็นความสามารถพิเศษของ Salazar Slytherin
ก็เป็นธรรมดาที่ต้องปักใจว่าพ่อชั้นต้องไม่ใช่ muggle แน่นอน และไม่ใช่พ่อมดธรรมดาๆด้วย ต้องเป็นผู้สืบทอดของ Slytherin แน่ๆ
พอหาไปหามายังไงก็ไม่เจอ สุดท้ายก็ต้องกลับไปสืบสายทางแม่ จนมาเจอว่าจริงๆก็แม่น่ะแหละที่เป็นแม่มด
จะเห็นว่าต่อให้ไม่เจอเรื่องพ่อ ก็ยังกลับไปหาแม่ก่อนที่จะยอมรับว่าตัวเองอาจจะเป็น mudblood
นั่นก็เพราะการยอมรับว่าตัวเองเป็น mudblood จะเป็นการทำลายจินตนาการที่ตัวเองฝังใจมาตั้งแต่วัยเด็กนั่นเอง
เด็กกำพร้าที่ไม่รู้จักพ่อแม่ของตัวเอง หลายๆคนจะคิด(หวัง)ว่าจริงๆแล้วเราไม่ใช่เด็กที่ไม่มีใครต้องการ คนไม่มีตัวตน
แต่อาจจะมีเหตุบางอย่าง พ่อแม่เราอาจจะเป็นใครสักคนที่สำคัญมาก เก่งมาก เป็นความสุขเล็กๆสำหรับเด็กที่มีปูมหลังแบบนี้
ยิ่งทอมเองเป็นเด็กฉลาด และรู้ตัวว่าตัวเองมี"ความพิเศษ"ที่ไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆทั่วไป ก็ยิ่งยึดมั่นกับจินตนาการตรงนี้
พอมาถึงตอนที่รู้ว่าตัวเองเป็นพ่อมดก็เพราะ Dumbledore มาบอกตอนอายุ 11
ทอมซึ่งไม่เคยมีชีวิต มีความทรงจำอยู่ในโลกพ่อมด คงไม่มีความรู้มาก่อนว่า mudblood คืออะไร
และคงเชื่อทันทีว่าการเป็นพ่อมดแม่มดมันต้องสืบทอดมาเฉพาะจากคนที่เป็นพ่อมดแม่มดด้วยกัน
ก็ยิ่งตอกย้ำความหวังเล็กๆของตัวเองมาตลอดว่าชั้นไม่ใช่เด็กไร้ตัวตน แต่ชั้นเป็นใครสักคนที่พ่อแม่ชั้นต้องเก่งมากๆ
และเพราะรู้จักแม่แล้วว่าแม่เป็นคนที่อ่อนแอ ภาพผิดไปจากจินตนาการที่วาดไว้ เลยปักใจว่าต้องเป็นพ่อนี่ล่ะที่เป็นพ่อมดที่เก่งกาจ
แถมก่อน Dumbledore จะกลับไปวันนั้น ทอมบอก Dumbbledore เรื่องที่ตัวเองเป็น parseltongue พูดภาษางูได้
และตัว Dumbledore เองก็มีปฏิกิริยาให้ทอมจับได้ว่านี่มันเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะ ไม่ใช่พ่อมดแม่มดทั่วไปก็ทำได้
ยิ่งพอมาศึกษาเรื่องโลกของพ่อมดแม่มดมากขึ้น ก็ต้องรู้ล่ะว่า parseltongue เป็นความสามารถพิเศษของ Salazar Slytherin
ก็เป็นธรรมดาที่ต้องปักใจว่าพ่อชั้นต้องไม่ใช่ muggle แน่นอน และไม่ใช่พ่อมดธรรมดาๆด้วย ต้องเป็นผู้สืบทอดของ Slytherin แน่ๆ
พอหาไปหามายังไงก็ไม่เจอ สุดท้ายก็ต้องกลับไปสืบสายทางแม่ จนมาเจอว่าจริงๆก็แม่น่ะแหละที่เป็นแม่มด
จะเห็นว่าต่อให้ไม่เจอเรื่องพ่อ ก็ยังกลับไปหาแม่ก่อนที่จะยอมรับว่าตัวเองอาจจะเป็น mudblood
นั่นก็เพราะการยอมรับว่าตัวเองเป็น mudblood จะเป็นการทำลายจินตนาการที่ตัวเองฝังใจมาตั้งแต่วัยเด็กนั่นเอง
แสดงความคิดเห็น
ทำไมโวลดี้ถึงไม่คิดว่าตัวเองอาจจะเป็นเลือดสีโคลนก็ได้