กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (9 Apr 18)

สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันแรกของสัปดาห์การทำงาน ก่อนจะหยุดยาวในเทศกาลมหาสงกรานต์
ครับพี่ๆน้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option ทุกๆท่าน

เมื่อวานพฤหัสบดีทีผ่านมา ดัชนี SET index เคลื่อนไหวแกว่งตัวผันผวน อันเนื่องมาปัจจัยกดดันจากต่างประเทศ นำโดยความวิตกกังวล
สงครามการค้า “Trade War” ภายหลังจากเมื่อวันที่ 4 เม.ย ทางการจีนออกมาตอบโต้สหรัฐ ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐ จำนวน 106 รายการ
จำพวกเนื้อสัตว์ และ สินค้าการเกษตร อย่างเช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง และในบ่ายวันพฤหัส (ตามเวลาประเทศไทย) เช้าสหรัฐ ประธนาธิบดีโดนัล ทรัมป์
ได้มีคำสั่งพิจารณาขยายมูลค่าภาษีสืนค้านำเข้ามาจากประเทศจีน จากเดิม 60,000 ล้านเหรียญ ขึ้นมาเป็น 100,000 ล้านเหรียญ ด้วยเหตุนี้เอง
ได้ทำให้  ค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น Dow Jones, S&P500, NASDAQ ร่วงลงมาอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม
ดูเหมือนว่าภายหลังจากมีข่าวประธนาธิบดี ทรัมป์ เก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่ม ออกมาในช่วงบ่ายวันพฤหัส ก็ไม่ได้ทำให้ตลาดหุ้นไทย สะทก สะท้าน
แม้แต่น้อย กลับกันสามารถฟื้นตัวขึ้นไปปิดที่ระดับ 1739 จุด +14.94 จุด วันนี้มาติดตามกันว่า ว่าดัชนีจะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง อีกวันหรือไม่


Fundamental

"เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดลบในวันนี้ โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก
เมื่อวันศุกร์ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดลบ 33.19 จุด หรือ -0.15% แตะที่ 21,534.33 จุด สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหิน และกลุ่มเหมืองแร่
ขณะที่หุ้นกลุ่มประกันและกลุ่มอาหาร ปรับตัวลดลง


"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงหนักกว่า 500 จุดในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ (6 เม.ย.) โดยได้รับผลกระทบจากความกังวล
เกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดศึกการค้ากับจีนรอบใหม่ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกระทบจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ
ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,932.76 จุด ลดลง 572.46 จุด หรือ -2.34%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,604.47 จุด ลดลง 58.37 จุด หรือ -2.19%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,915.11 จุด ลดลง 161.44 จุด หรือ -2.28%

การซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยกดดัน หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการให้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) พิจารณารายการสินค้านำเข้าจากจีนที่สหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 1 แสนล้านดอลลาร์ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาได้ขอให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไทเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ พิจารณาว่าการเก็บภาษีนำเข้าอีก 1 แสนล้านดอลลาร์นั้นเหมาะสมหรือไม่ภายใต้มาตรา 301 และหากเหมาะสม ก็ขอให้ระบุรายการสินค้าที่จะเรียกเก็บภาษีดังกล่าว ปธน.ทรัมป์ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นเพราะจีนได้ตอบโต้อย่างไม่เป็นธรรมต่อการที่สหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีน
วงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์

ด้านโฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า จีนจะตอบโต้สหรัฐไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม และจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างครอบ
คลุม หากสหรัฐยังคงเดินหน้ากีดกันการค้าแต่เพียงฝ่ายเดียว

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยกดดันจากตัวเลขจ้างงานที่น่าผิดหวัง ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนมี.ค. โดยเพิ่มขึ้นเพียง 103,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะ
เพิ่มขึ้น 193,000 ตำแหน่ง หลังจากที่พุ่งขึ้น 326,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม เพาเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งได้ออกมากล่าวเมื่อคืนนี้ว่า
เฟดอาจจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมทิศทางเงินเฟ้อ

หุ้นโบอิ้งและแคทเทอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็น 2 บริษัทที่อาจได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ร่วงหนักถึง 3.06%
และ 3.47% ตามลำดับ


"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์
ทรัมป์ เปิดศึกการค้ากับจีนรอบใหม่

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลดลง 1.31 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ระดับ 374.82 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,258.24 จุด ลดลง 18.43 จุด หรือ -0.35%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,241.27 จุด ลดลง 63.92 จุด หรือ -0.52%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,183.64 จุด ลดลง 15.86 จุด หรือ -0.22%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐที่ได้รับปัจจัยกดดัน หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการให้สำนัก
งานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) พิจารณารายการสินค้านำเข้าจากจีนที่สหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 1 แสนล้านดอลลาร์

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาได้ขอให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไทเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ พิจารณาว่าการเก็บภาษีนำเข้าอีก 1 แสนล้านดอลลาร์นั้นเหมาะสม
หรือไม่ภายใต้มาตรา 301 และหากเหมาะสม ก็ขอให้ระบุรายการสินค้าที่จะเรียกเก็บภาษีดังกล่าว

ปธน.ทรัมป์ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นเพราะจีนได้ตอบโต้อย่างไม่เป็นธรรมต่อการที่สหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์

ด้านโฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนประกาศเมื่อวานนี้ว่า จีนจะตอบโต้สหรัฐไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม และจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างครอบคลุม
หากสหรัฐยังคงเดินหน้ากีดกันการค้าแต่เพียงฝ่ายเดียว

สำหรับหุ้นที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ได้แก่หุ้นกลุ่มชิป โดยหุ้นเอเอสเอ็มแอล โฮลดิ้งส์ ปรับตัวลดลง 1.7% ขณะที่หุ้น
อินฟิเนียน เทคโนโลยีส์ ปรับตัวลดลง 0.8% หลังก่อนหน้านี้ บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ได้ออกมาแสดงความวิตกว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ
กับจีนอาจสร้างความเสียหายต่อธุรกิจชิป

Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์


Technical Analysis

SET Index TF Day: เมื่อวานพุธ (4 เม.ย) ที่ผ่านมา ดัชนีได้เผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างรุนแรง จนทำให้ร่งหลุดกรอบ Sideway
ลงไปอย่างง่ายดาย พร้อมกับแท่งเทียน “Closing Marubozu” อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เห็นการฟื้นตัวขึ้นมาของดัชนี และสามารถ
ปิดแท่งเทียนไปแบบ “Hammer” และหากพิจารณาเพิ่มเติม แท่งเทียนวันพฤหัส ไม่ได้ทำ New Low แต่สามารถทำ Bottom ซึ่งก็มองได้ว่า
เป็นรูปแบบกลับตัว “Tweezer Bottoms” ได้เช่นกัน อนึ่งด้วยการที่ Indicator บางตัวเข้าสู่ภาวะ Over Sold จึงคาดว่าระยะสั้น น่าจะเห็น Rebound
กลับขึ้นไปทดสอบ 1750 – 1760 จุด อีกครั้ง //แต่ถ้าหากไม่ฟื้นตัว และหลุด 1725 ลงไป ก็จะเป็นการยืนยัน Continuation Pattern ที่เรียกว่า
"Bearish Separating line" ก็เป็นได้

S50M18 TF Day:  เมื่อวานพุธ (4 เม.ย) ที่ผ่านมา ดัชนีได้เผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างรุนแรง จนทำให้ร่งหลุดกรอบ Sideway ลงไป
อย่างง่ายดาย พร้อมกับแท่งเทียน “Big Bear” อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เห็นการฟื้นตัวขึ้นมาของดัชนี และสามารถปิดแท่งเทียนไป
แบบ “Bullish Harami อนึ่งด้วยการที่ดัชนีสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้นั้น สาเหตุจาก Indicator บางตัวเข้าสู่ภาวะ Over Sold จึงคาดว่าระยะสั้น น่าจะเห็น Rebound กลับขึ้นไปทดสอบ 1150 - 1160 จุด อีกครั้ง //แต่ถ้าหากไม่ฟื้นตัว และหลุด 1120 ลงไป ก็จะเป็นการยืนยัน Continuation Pattern
ที่เรียกว่า Bearish Separating line ก็เป็นได้

S50M18 TF60Min: หลังจากที่เผชิญดับแรงเทขายออกมาอย่างรุนแรง ในวันพุธ (4 เม.ย) ที่ผ่านมา และได้ทำให้ Indicator บางตัวเข้าสู่สภาวะ Over Sold จึงได้เห็นการ Rebound ฟื้นตัวขึ้นมาในวันพฤหัสบดี และสามารถกลับมายืนเหนือ 1140 จุด ได้อีกครั้ง พร้อมกับรูปแบบแท่งเทียน “Open Close Price Reversal at Bottom” ต้องมาดูกันว่า บริเวณแนวต้าน 1150 – 1160 จะสามารถผ่านขึ้นไปได้หรือไม่ หากผ่านขึ้นไปได้ ก็มีแนวโน้มที่จะกลับไปทดสอบแนวต้านใหญ่ ณ ระดับ 1175 อีกครั้ง // แต่ถ้าหากไม่มีแรงไปต่อ และร่วงลงมาทำ New Low ก็จะเป็นการยืนยัน Pullback

Resistance 1145 1150 1155 1160 / 1744 1750 1755 1760
Support 1135 1130 1125 1120 / 1735 1730 1725 1720

*EOD End of day

ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ

สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ  ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ  เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ