บุพเพสันนิวาสกำลังมาแรงครับช่วงนี้ ต้องเท้าความก่อนว่าผมไม่ใช่คนที่จบทางด้านวิทยาศาสตร์ครับ แต่ก็ติดตามหลายกระทู้ในพันทิบมาพอสมควร แต่ไม่ค่อยได้แตะกระทู้แนววิทยาศาสตร์จริงๆจังๆ(ก็มีทั้งที่งงตึบบ้าง เข้าใจบ้าง)
วันก่อนผมได้มีโอกาศได้พบปะและสนทนากับอาจารย์สาขาฟิสิกส์ท่านหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเอ่ยชื่อได้หรือเปล่า555+ เอาเป็นว่าละไว้แล้วกัน ก็มีประเด็นพูดคุยกันถึงละครดังในช่วงนี้ มีคำถามหนึ่งที่ผมได้ถามท่านและได้รับคำตอบที่น่าสนใจมาก "อาจารย์คิดว่าเป็นไปได้ไหมครับว่าเราจะสามารถเดินทางย้อนไปอดีตเหมือนในละคร?"
ผมก็จำได้ไม่ค่อยแม่นนะครับเพราะมีศัพท์ยากๆทางวิทยาศาสตร์เยอะ ถ้าในตอนนั้นผมมีสมุดเล่มน้อยของผมเอาไว้จดที่ท่านพูดก็คงดี เท่าที่ผมจำได้ท่านตอบกลับมาประมาณนี้
"อาจารย์ต้องเข้าใจก่อนว่า เวลามันเป็นรูปธรรมอยู่ในรูปแบบของมิติหนึ่ง ในสามัญสำนึกคนทั่วไปจะมองเวลาเป็นสิ่งสมมุติเป็นนามธรรม หรือจะกล่าวก็คืออาจารย์ต้องวางสิ่งที่ตัวเองคิดว่าเข้าใจดีลงก่อน"
"คงเข้าใจอยู่แล้วว่าสิ่งที้อาจารย์เห็นทุกวันๆนี้ทุกอย่างคืออดีตของสิ่งนั้นไม่ว่าจะเป็นเสี้ยววินาทีหรือหลายพันปี นั่นก็เพราะมาอาจารย์เห็นได้เพราะแสงตกกระทบต่อสิ่งนั้นและสะท้อนเข้าดวงตาทั้งนั้น เพราะงั้นมันเลยเป็นอดีตยกตัวอย่างชัดๆเลยดาวบนนั้นที่เห็นทุกค่ำคืน มันอยู่เรามากและแสงต้องใช้เวลาเดินทางกว่าจะมาถึงตาเราก็ใช้เวลาไปแล้วห้าพันปี ดังนั้นดาวที่อาจารย์เห็นจึงเป็นอดีตของดาวดวงนั้น โดยรวมคือเราทุกคนสามารถมองเห็นอดีตได้"
"แล้วก็นะอาจารย์ ทฤษฎีของนิวตันวิทยาศาสตร์ม.ต้นที่เราเคยๆเรียนกันมา10-20 ปีก่อนน่ะ ที่ว่าแรงโน้มถ่วงเกิดจากมวลที่ดึงดูดกันและกัน แสงเดินทางเป็นเส้นตรงเสมอเพราะไม่มีมวล ในตอนนี้มันก็ไม่ถูกต้องทั้งหมดแล้ว ในตอนนี้แรงโน้มถ่วงเขาพิสูจน์กันแล้วว่ามันเกิดจากมวลสร้างความบิดโค้งของสภาพอวกาศและส่งผลต่อวัตถุอื่น ดังนั้นแสงย่อมเดินทางโค้งไปตามสภาพอวกาศทำให้ระยะทางมากขึ้น ดังนั้นอาจารย์จะเห็นว่าดาวเทียมgpsต้องมีการปรับเวลาข้างในอยู่เรื่อยๆ เพราะด้วยความเร็วของมันทำให้สภาพมวลมากขึ้น เวลาบนนั้นเลยเดินช้ากว่าข้างล่าง ถ้าเอาตัวอาจารย์ไปใส่ไว้บนนั้นอาจารย์ก็จะสามารถเดินทางไปอนาคตได้"
"สรุปคือ สิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้คือการมองอดีตและเดินทางไปอนาคตเท่านั้น และเราก็กำลังทำมันอยู่ในทุกๆวัน ในขณะที่การมองเห็นอนาคตนั้นไม่สามารถทำได้ อาจารย์ไม่สามารถที่จะเร็วกว่าแสงได้เพื่อนที่จะไปเห็นภาพปัจจุบันของที่ๆห่างไกลได้ หรือถึงเร็วกว่านั้นเพื่อที่จะไปเห็นภาพที่ยังไม่เกิดขึ้นก็ทำไม่ได้เพราะมันยังไม่เกิดขึ้น"
"โอเค เราตอบคำถามที่อาจารย์ถามกัน เรื่องการเดินทางข้ามไปอดีตเท่าที่ผมคิดออก ก็มีแต่ทฤษฎีคณิตศาสตร์ที่เป็นไปไม่ได้ในทางปฎิบัติ อาจารย์รู้จักรูหนอนกับหลุ่มดำใช่ไหม หลุมดำน่ะแรงโน้มถ่วงมันสูงมากและอันตราย พูดให้ง่ายถ้าผมกับอาจารย์เข้าไปเราทั้งคู่จะโดนบีบขยี้จนแบนเหมือนปลาหมึกแห้ง ส่วนรูหนอนเป็นการเชื่อมจุดสองจุเข้าด้วยกันดังนั้นหากเราเอาจุดที่เวลาเดินเร็วกว่าไปเชื่อมกับจุดที่เวลาเดินช้ากว่าเพื่อที่จะข้ามไปอดีตมันต้องใช้พลังงานมหาศาลมากให้มันเสถียรจนคนอย่างเราๆข้ามไปได้และแน่นอนด้วพลังงานขนาดนั้นมวลมันก็ต้องมาก และมันก็จะสภาพไม่ต่างจากหลุมดำคือเข้าไปก็ไม่น่าจะรอดไปสู่อีกฝั่ง หากให้ผมเขียนสมการให้รูหนอนนั้นมันปลอดภัยมันก็จะสร้างพจน์แปลกๆอย่างพวกแรงที่ผลักกัน พลังงานที่ดูดสสารที่มันตรงข้ามกับความเป็นจริง"
"ถึงข้ามไปอดีตได้อาจารย์อธิบายการกระทำต่างๆยังไง พวกนี้มันมีทฤษฎีชื่อ ทามพาราด็อก (ผมฟังไม่ค่อยถนัดแต่จากที่ไปค้นมาน่าจะเป็นคำนี้time-paradox) เกี่ยวการฆ่าปู่ฆ่าย่าตัวเอง ทำให้ไม่สามารถอธิบายตัวตนของตัวเอง หรือการบอกเลขหวยให้กับตัวเองแล้วพอถูกรางวัลก็จะย้อนกลับไปบอกตัวเองในอดีตอีกที ทำให้หาที่มาของข้อมูลจริงๆไม่ได้ ดังนั้นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราไม่สามารถเดินทางย้อนไปอดีตได้ เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ในทางปฎิบัติ"
ทั้งหมดนี้ผมอาศัยจำเอาล้วนๆครับ อย่างที่กล่าวไปคือผมไม่ได้มีสมุดจดไว้เลย เราคุยกันหลายประเด็นระหว่างพักประชุม ก็มีหลงมีลืมบ้างทำได้เพียงจับประเด็นโดยคร่าวๆ อย่างไรก็ขออาศัยทุกท่านในที่นี้ช่วยหาทฤษฎีที่เกี่ยวข้องหรือข้อมูลมาขยายความให้ด้วย หรือจะแย้งโดยใช้เหตุผลอะไรก็ได้ในเรื่องนี้ เนื่องจากตอนนี้ผมมีความสนใจเป็นอย่างมากครับ
ขอขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าครับ
จริงไหมครับที่เราไม่สามารถเดินทางย้อนไปอดีตได้?
วันก่อนผมได้มีโอกาศได้พบปะและสนทนากับอาจารย์สาขาฟิสิกส์ท่านหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเอ่ยชื่อได้หรือเปล่า555+ เอาเป็นว่าละไว้แล้วกัน ก็มีประเด็นพูดคุยกันถึงละครดังในช่วงนี้ มีคำถามหนึ่งที่ผมได้ถามท่านและได้รับคำตอบที่น่าสนใจมาก "อาจารย์คิดว่าเป็นไปได้ไหมครับว่าเราจะสามารถเดินทางย้อนไปอดีตเหมือนในละคร?"
ผมก็จำได้ไม่ค่อยแม่นนะครับเพราะมีศัพท์ยากๆทางวิทยาศาสตร์เยอะ ถ้าในตอนนั้นผมมีสมุดเล่มน้อยของผมเอาไว้จดที่ท่านพูดก็คงดี เท่าที่ผมจำได้ท่านตอบกลับมาประมาณนี้
"อาจารย์ต้องเข้าใจก่อนว่า เวลามันเป็นรูปธรรมอยู่ในรูปแบบของมิติหนึ่ง ในสามัญสำนึกคนทั่วไปจะมองเวลาเป็นสิ่งสมมุติเป็นนามธรรม หรือจะกล่าวก็คืออาจารย์ต้องวางสิ่งที่ตัวเองคิดว่าเข้าใจดีลงก่อน"
"คงเข้าใจอยู่แล้วว่าสิ่งที้อาจารย์เห็นทุกวันๆนี้ทุกอย่างคืออดีตของสิ่งนั้นไม่ว่าจะเป็นเสี้ยววินาทีหรือหลายพันปี นั่นก็เพราะมาอาจารย์เห็นได้เพราะแสงตกกระทบต่อสิ่งนั้นและสะท้อนเข้าดวงตาทั้งนั้น เพราะงั้นมันเลยเป็นอดีตยกตัวอย่างชัดๆเลยดาวบนนั้นที่เห็นทุกค่ำคืน มันอยู่เรามากและแสงต้องใช้เวลาเดินทางกว่าจะมาถึงตาเราก็ใช้เวลาไปแล้วห้าพันปี ดังนั้นดาวที่อาจารย์เห็นจึงเป็นอดีตของดาวดวงนั้น โดยรวมคือเราทุกคนสามารถมองเห็นอดีตได้"
"แล้วก็นะอาจารย์ ทฤษฎีของนิวตันวิทยาศาสตร์ม.ต้นที่เราเคยๆเรียนกันมา10-20 ปีก่อนน่ะ ที่ว่าแรงโน้มถ่วงเกิดจากมวลที่ดึงดูดกันและกัน แสงเดินทางเป็นเส้นตรงเสมอเพราะไม่มีมวล ในตอนนี้มันก็ไม่ถูกต้องทั้งหมดแล้ว ในตอนนี้แรงโน้มถ่วงเขาพิสูจน์กันแล้วว่ามันเกิดจากมวลสร้างความบิดโค้งของสภาพอวกาศและส่งผลต่อวัตถุอื่น ดังนั้นแสงย่อมเดินทางโค้งไปตามสภาพอวกาศทำให้ระยะทางมากขึ้น ดังนั้นอาจารย์จะเห็นว่าดาวเทียมgpsต้องมีการปรับเวลาข้างในอยู่เรื่อยๆ เพราะด้วยความเร็วของมันทำให้สภาพมวลมากขึ้น เวลาบนนั้นเลยเดินช้ากว่าข้างล่าง ถ้าเอาตัวอาจารย์ไปใส่ไว้บนนั้นอาจารย์ก็จะสามารถเดินทางไปอนาคตได้"
"สรุปคือ สิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้คือการมองอดีตและเดินทางไปอนาคตเท่านั้น และเราก็กำลังทำมันอยู่ในทุกๆวัน ในขณะที่การมองเห็นอนาคตนั้นไม่สามารถทำได้ อาจารย์ไม่สามารถที่จะเร็วกว่าแสงได้เพื่อนที่จะไปเห็นภาพปัจจุบันของที่ๆห่างไกลได้ หรือถึงเร็วกว่านั้นเพื่อที่จะไปเห็นภาพที่ยังไม่เกิดขึ้นก็ทำไม่ได้เพราะมันยังไม่เกิดขึ้น"
"โอเค เราตอบคำถามที่อาจารย์ถามกัน เรื่องการเดินทางข้ามไปอดีตเท่าที่ผมคิดออก ก็มีแต่ทฤษฎีคณิตศาสตร์ที่เป็นไปไม่ได้ในทางปฎิบัติ อาจารย์รู้จักรูหนอนกับหลุ่มดำใช่ไหม หลุมดำน่ะแรงโน้มถ่วงมันสูงมากและอันตราย พูดให้ง่ายถ้าผมกับอาจารย์เข้าไปเราทั้งคู่จะโดนบีบขยี้จนแบนเหมือนปลาหมึกแห้ง ส่วนรูหนอนเป็นการเชื่อมจุดสองจุเข้าด้วยกันดังนั้นหากเราเอาจุดที่เวลาเดินเร็วกว่าไปเชื่อมกับจุดที่เวลาเดินช้ากว่าเพื่อที่จะข้ามไปอดีตมันต้องใช้พลังงานมหาศาลมากให้มันเสถียรจนคนอย่างเราๆข้ามไปได้และแน่นอนด้วพลังงานขนาดนั้นมวลมันก็ต้องมาก และมันก็จะสภาพไม่ต่างจากหลุมดำคือเข้าไปก็ไม่น่าจะรอดไปสู่อีกฝั่ง หากให้ผมเขียนสมการให้รูหนอนนั้นมันปลอดภัยมันก็จะสร้างพจน์แปลกๆอย่างพวกแรงที่ผลักกัน พลังงานที่ดูดสสารที่มันตรงข้ามกับความเป็นจริง"
"ถึงข้ามไปอดีตได้อาจารย์อธิบายการกระทำต่างๆยังไง พวกนี้มันมีทฤษฎีชื่อ ทามพาราด็อก (ผมฟังไม่ค่อยถนัดแต่จากที่ไปค้นมาน่าจะเป็นคำนี้time-paradox) เกี่ยวการฆ่าปู่ฆ่าย่าตัวเอง ทำให้ไม่สามารถอธิบายตัวตนของตัวเอง หรือการบอกเลขหวยให้กับตัวเองแล้วพอถูกรางวัลก็จะย้อนกลับไปบอกตัวเองในอดีตอีกที ทำให้หาที่มาของข้อมูลจริงๆไม่ได้ ดังนั้นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราไม่สามารถเดินทางย้อนไปอดีตได้ เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ในทางปฎิบัติ"
ทั้งหมดนี้ผมอาศัยจำเอาล้วนๆครับ อย่างที่กล่าวไปคือผมไม่ได้มีสมุดจดไว้เลย เราคุยกันหลายประเด็นระหว่างพักประชุม ก็มีหลงมีลืมบ้างทำได้เพียงจับประเด็นโดยคร่าวๆ อย่างไรก็ขออาศัยทุกท่านในที่นี้ช่วยหาทฤษฎีที่เกี่ยวข้องหรือข้อมูลมาขยายความให้ด้วย หรือจะแย้งโดยใช้เหตุผลอะไรก็ได้ในเรื่องนี้ เนื่องจากตอนนี้ผมมีความสนใจเป็นอย่างมากครับ
ขอขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าครับ