[CR] Backpack:Ethiopia ใครไม่เปีย....แต่เอธิโอเปีย Episode2



Backpack:Ethiopia ใครไม่เปีย....แต่เอธิโอเปีย ตอนแรก   : https://pantip.com/topic/37538639
Backpack:Ethiopia ใครไม่เปีย....แต่เอธิโอเปีย Episode3 : https://pantip.com/topic/37548773
ตอนเช้ามืด ออกจากที่พักเพื่อที่จะไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน Bole international airport ก็มีเรื่องให้หวาดเสียวตั้งแต่เริ่มเลยครับ
เมื่อวานก่อนขึ้นนอน ผมก็ถามเจ้าหน้าที่โรงแรมว่าควรจะออกก่อนเวลาเดินทางกี่ชั่วโมง เค้าบอกว่า ชั่วโมงเดียว เหลือเฟือ  โอเค ตามนั้น

ที่พักผมอยู่ห่างจากสนามบินไม่เกิน10นาที ทั้งดูจาก googleและเจ้าหน้าที่โรงแรมบอก ตรงกัน  เลยคิดว่า 1ชั่วโมงก็น่าจะพอแหล่ Local เค้าบอกแบบนั้น  ผมออกจากที่พักก่อนบิน1ชั่วโมง   ไปถึงสนามบินใช้เวลา 7นาที 30 วินาที (จับเวลาดูว่ามันไม่เกิน10นาทีจริงดิ ) ปรากฏว่าตอนเช้ามืด  domestic flightคนแน่นมากครับ อารมณ์เหมือนอยู่ตลาดสดเลย   

ผมรีบไปต่อคิวเข้าสนามบิน จะช้าตรงจุดสแกนสัมภาระ   คิวยาวยังกับวันเปิดขายไอโฟนวันแรก  ยืนต่อคิวไปมองนาฬิกาข้อมือ  เหลืออีก 30นาทีถึงเวลาบิน ซวยละไง ในตั๋วonlineที่ปริ้นมาเขียนว่าต้องเช็คอิน 45นาทีก่อนเวลาบิน...ซวยละไง ตกเครื่องแน่ๆ นี่คงจะเป็นการตกเครื่องครั้งแรกในชีวิต ( ถ้าตกมาเรื่องตารางเที่ยวรวนไม่ค่อยกลัว จัดใหม่ได้ แต่ที่กลัวคือ จ่ายมัดจำ ETTค่าทัวร์Danakil ไปแล้วนี่ดิ กลัวเค้ามุบมิบไม่ได้คืน หรือหาเรื่องโก่งราคาเพิ่ม  เรื่องเงินเรื่องใหญ่สำหรับ Backpacker ฮ่าๆๆ)   

ที่จุดตรวจก็ตรวจละเอียดเหลื๊อเกิน สโลว์ไลฟ์สุดๆๆ ตรวจทุกอย่างทั้งกระเป๋าที่จะโหลด กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง รองเท้า เข็มขัดถอดหมดครับ เสื้อหนาวก็ต้องถอด   ผ่านจุดตรวจสัมภาระไปได้ วิ่งไปที่เคาเตอร์เช็คอิน  เห็นคนยืนต่อคิวเช็คอินยาวเหยียดอีก....โอยยย   แอบเหลือบมองนาฬิกาข้อมือทุก10วินาที    ....จนถึงคิวผมได้เช็คอิน อีก 20นาทีถึงเวลาเครื่องบินออก  ยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่เคาเตอร์ พร้อมกับบอกว่า Makele ใจเต้นตึกๆๆ ลุ้นมากตอนนั้น  เจ้าหน้าที่รับพาสปอร์ตไป แล้วก็หันไปกดคอม  แล้วปริ้นตั๋วออกมายื่นให้ ตอนนั้นโล่งมากกกกครับ เอาจริงผมนึกว่าจะตกเครื่องไปแล้ว  เจ้าหน้าที่บอกให้รีบไปขึ้นเครื่องที่Gate  ผมแต้งกิ้วใหญ่เลย แล้วก็รีบวิ่งไป

ไปถึงทางเข้าเกทต่างๆ โอ้ว แม่เจ้า เจอจุดสแกนกระเป๋าอีกแล้ว  ไม่คิดว่าจะมีสองจุด  จุดนี้ต่อคิวยาวพอพอกับคิวเช็คอินเลย  มองนาฬิกา อีก 13นาทีเครื่องออก Gateจะปิดก่อนไหมเนี่ยย รอดเช็คอินมาได้ ยังต้องมาลุ้นGateจะปิดอีก   ระหว่างใจเต้นรัวๆ ก็มีคุณลุงเอธิฯเดินเบียดมาจากข้างหลังผม จะมาแซงคิวหน้าตาเฉย แต่โชคดี ช่องมันแคบ ผมวางกระเป๋าไว้ คุณลุงพยายามเบียดๆจะมา แต่แซงไม่ได้เพราะกระเป๋าผมวางอยู่  จนผมไปถึงจุดสแกน เหลือเวลาอีกประมาณ5นาที   เจอความพีค อีกครับ คนข้างหน้าผม เป็นผู้ชายวัยกลางคนชาวเอธิ พี่แกถือตระกร้าที่ข้างในมีมีดสับหมู!! เล่มใหญ่และใหม่ใสวิ๊งเลย พร้อมกับกระทะ ตะหลิว  เอาขึ้นเครื่องมาด้วย  เจ้าหน้าที่ก็เลยเรียกพี่เค้าไปคุย  คุยอะไรสักอย่างอยู่แป้บนึง เค้าก็ให้คนอื่นscanกระเป๋าต่อ ผมก็ได้สแกนซะที ส่วนพี่คนนั้นต้องไปคุยกับเจ้าหน้าที่ต่อ ไม่ได้ติดตามต่อว่าชีวิตพี่แกจะเป็นยังไงต่อไป รีบวิ่งไปที่เครื่อง ได้ยินเค้าเรียกชื่อผม fnal callพอดี สรุปว่ามาทันครับ  เป็นคนรองสุดท้าย  คนสุดท้าย ที่ตามมาติดๆคือ คุณลุงคนที่จะแซงคิวผมนั่นเอง สุดท้ายมาลำเดียวกัน 5555   
เข้ามาในเครื่องสักพัก เครื่องถึงออก สงสัยเครื่องน่าจะdelayเล็กน้อยครับ โชคดีของผม ถ้าไม่delayed คงไม่ทัน นี่คงเป็นประสบการณ์วิ่งขึ้นเครื่องที่ระทึกที่สุดในชีวิตผมละครับ  ดังนั้น ถ้ามีไฟลท์บินตอนเช้ามืดที่สนามบิน addis ต้องเผื่อเวลามาเยอะกว่านี้ครับ ผมพลาดเอง

เครื่องบิน บินมาถึง Makele airportใช้ระยะเวลาประมาณ1ชั่วโมง เดินออกมาจากสนามบิน ตอนช่วงเช้าๆ อากาศเย็นครับ และลมแรง  มีรถของ ETTมารอรับผมอยู่ลานจอดรถ
Makele airport

จากนั้นคนขับรถพาขับพาไปที่ officeของ ETT  เพื่อที่จะเจอกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ    จัดกลุ่ม แล้วออกเดินทาง ที่ที่เราจะไปกันในทริป4วัน3คืน นี้ เรียกว่า Danakil depression หรือที่ราบต่ำ Danakil มันก็ตามชื่อเลยครับ มันคือพื้นที่ราบต่ำ ที่มีจุดที่ต่ำที่สุดจะต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 120เมตร บริเวณนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งด้วยกัน  

กลุ่มผมมีทั้งหมด 15คนครับ  นั่งรถโฟร์วีลคันละ3-4คน  รถคันของผมมี4คน ไม่รวมคนขับผู้โชคดีที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุก(สุกจริงๆครับ แอร์รถแทบจะไม่ทำงาน) ได้แก่ คู่สามีภรรยาชาว ลิทัวเนีย  ภรรยาชื่อ ไดมอนด์ ทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับค้าขายจิวเวอร์รี่   ส่วนสามีชื่อ รอมานดาส  เป็นวิศวกร และ ไกด์ส่วนตัวที่สองสามีภรรยาคู่นี้จ้างมาให้พาเที่ยวตลอดทริปในเอธิโอเปีย ไปกับสามีภรรยาคู่นี้ทุกที่ เป็นชาวเอธิฯ ชื่อว่า เคเบ    เราลงรถลำเดียวกันแล้ว ต้องอยู่ด้วยกันตลอด4วัน   สองคนนี้freindlyมากๆครับ ได้ฟังประสบการณ์การเดินทางของสองสามีภรรยาคู่นี้ มีแต่เรื่องน่าตื่นเต้น เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังในตอนต่อไป   ตลอดสี่วันที่นั่งไปด้วยกัน ไม่อึดอัดเลยครับ  ไกด์ของเค้าก็ดีครับ เหมือนผมมีไกด์ไปด้วยเลย โชคดีเลย  
ก่อนออกจากเขตเมือง รถพาแวะพักดื่มชากาแฟ


เราเริ่มออกเดินทางจากตัวเมือง Makele ในช่วงสายๆ ประมาณ10โมงกว่าๆ  การเดินทางของเราในวันนี้ จะเหมือนกับการลงเขา  จุดตั้งต้นคือ ตัวเมืองMakele ที่ตั้งอยู่ที่ประมาณ 2,000เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ไปสู่จุดหมายแรกของวันนี้ นั่นก็คือ  Lake Assale  หรือ ทะเลเกลือ ที่ตั้งอยูในจุดที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 115เมตร  สองข้างทางที่ขับผ่านจะเห็นลักษณะภูมิประเทศที่แตกต่างกันมากครับ ช่วงออกจากเมืองจะมีความเขียว มีต้นไม้
ภูมิทัศน์ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพลินกับการชมวิวสองข้างทางเลยครับ

จอดแวะพักข้างทางเป็นระยะๆ เพื่อชมวิว และหามุมปัสสาวะ


ขับไปเรื่อยๆ จะเริ่มมีต้นไม้น้อยลงแทนที่ด้วยภูเขาหินสีส้มๆ  เริ่มแห้งแล้งขึ้นเรื่อยๆ ขับมาประมาณ3ชั่วโมงได้มั้งครับ ผมไม่แน่ใจ เพราะมัวแต่มองข้างทาง วิวตลอดสองข้างทางเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับผม ดูเพลิน จนลืมดูนาฬิกา  รถก็จอดเพื่อทานอาหารกลางวันที่หมู่บ้านเล็กๆ ดูแห้งแล้งๆ ชื่อว่า Berhale (600เมตร เหนือระดับน้ำทะเล)  ออกมาจากรถไอร้อนตีแสกหน้าเลยครับ

หมู่บ้าน Berhale


จากในเมือง Makele อุณหภูมิประมาณ19องศา   ตอนนี้ 38องศาครับ(ที่รู้อุณหภูมิ กับ latitudeตลอดทางนี่ เพราะ นาฬิกาของพี่Romandasเลยครับ พี่แกพกนาฬิกาเดินป่ามาด้วย รู้กระทั่งความเข้มข้นออกซิเจน มันวัดได้จริงๆเหรอ ใครรู้บอกที)   
เค้าให้พักทานอาหารที่นี่   อาหารก็จะเป็นสปาเกตตี้ราดซอส ไม่ก็มักกะโรนี ราดซอส วนๆไป ดีหน่อยก็จะมีทอปปิ้งเป็นมันฝรั่ง แบบนี้ตลอดทริป แทบไม่มีเนื้อเลย อยู่นานๆนี่คงแขนขาลีบ เป็นโรคขาดโปรตีนแน่นอน แต่ แต่ !!  มื้อนี้พิเศษหน่อยครับที่เคเบ ไกด์ส่วนตัวของคู่รักชาวลิทัวเนียร์ได้สั่ง อาหารพิเศษ ชุด Injera มาให้สองสามีภรรยา  เค้าชวนผมทานด้วย ได้รับผลบุญครับ 555     

อินไจร่า(Injera) อาหารประจำชาติของเอธิโปเปีย ไม่ว่าจะยากดีมีจนแค่ไหน ก็กินกัน (แต่จริงๆเพื่อนชาวเอธิบอกว่าจะมีแบ่งอีก ชนิดของแป้งที่ใช้ทำ ถ้าออกสีแดงๆจะแพงกว่า พวกคนรวยจะกินกัน ส่วนแป้งสีเหลืองๆ ราคาจะถูกกว่า บ่งบอกชนชั้นได้อีก)   เป็นแป้งเปรี้ยว หมักจากพืชชนิดหนึ่ง ที่คล้ายๆข้าวสาลี ชื่อว่า Teff   เวลาทานเค้าจะทาน Injeraกับพวกแกง

Injera   แยกออกไม๊ แป้งแดงหรือไม่แดง ? ส่วนผมแยกไม่ออกครับ


ก่อนมาผมอ่านรีวิวเรื่องอาหารในทริปมาว่ามีแต่แป้ง เลยเตรียมพวก ซอสเนื้อแซลมอน หรือ แกงเขียวหวานไก่แบบฉีกซองที่ขายตามเซเว่นมาเอามาเติมโปรตีนหน่อย  แต่เอาเข้าจริง ไม่กล้าเอามากินครับ กลัวคนอื่นมองแรง  ลองนึกภาพ เรานั่งกินข้าวกันเป็นวง  ถ้าผมจะหยิบเอาของมากินคนเดียวมันก็แปลกๆอยู่  หรือถ้าจะแบ่ง ก็คงแบ่งไม่ทั่วถึงทุกคนในวง จะแบ่งแค่บางคนก็ยังไงอยู่  เลยติดสินใจ กินๆเท่าที่เค้าให้นั่นล่ะครับ 555 งงแพ้บ แล้วจะขนมาหนักกระเป๋าเพื่อ??

กินข้าวเสร็จก็เดินทางต่อครับ อากาศก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆ (ในรถแม้เปิดแอร์แต่แอร์มันก็ไม่ค่อยเย็นครับ สู้กับความร้อนข้างนอกไม่ไหว)  สองข้างทางก็จะเจอหมู่บ้านเป็นระยะๆครับ  ไม่น่าเชื่อว่าเค้าจะอยู่ได้ คำว่าหมู่บ้านที่ผมหมายถึง คือ บ้านที่สร้างจากเอาไม้มาทำเป็นฝา  แล้วเอาผ้ายาง หรือพวกฟางๆมาทำเป็นหลังคา  อยู่กันเป็นหย่อมๆ   เค้าอยู่กันแบบนี้จริงๆ ทั้งร้อน และแห้งแล้ง ต้นไม้ก็ไม่ค่อยจะมี

  
ชื่อสินค้า:   Ethiopia
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่