[CR] ิBackpack: Ethiopia ใครไม่เปีย....แต่เอธิโอเปีย

Backpack:Ethiopia ใครไม่เปีย....แต่เอธิโอเปีย Episode2   https://pantip.com/topic/37539254
Backpack:Ethiopia ใครไม่เปีย....แต่เอธิโอเปีย Episode3   https://pantip.com/topic/37548773
Backpack:Ethiopia ใครไม่เปีย....แต่เอธิโอเปีย Episode4(ตอนจบ)   https://pantip.com/topic/37575020


เอธิโปเปีย จัดว่าเป็นอีกหนึ่งปลายทางในฝันยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ครับ( หื้มมม?…ไม่ใช่ละ )    เอาใหม่ครับ…เป็นประเทศที่อยู่ในทวีปแอฟริกา ชื่อฟังดูน่ากลัว  จะมีอะไรให้ดู?  ปลอดภัยไหม ? ฟังชื่อแล้วมันดูลำบากจัง จะไปทำไม ? เอาตัวเองไปลำบากทำไม ?   บางคนอาจจะเคยเห็นรีวิวผ่านตามาบ้างว่ามันมีภูเขาไฟที่เหมือนนรกๆอยู่ เหมือนที่เค้าบอกว่าไปซ้อมลงนรก แล้วอย่างอื่นมีอะไรอีกไหม ?
วันนี้จะพามาทำความรู้จักประเทศแห่งนี้ให้มากขึ้น ผ่านการเดินทาง ในมุมที่ผมได้ไปพบเจอมาครับ มันมีอะไรมี่มากกว่าคาดไว้   ยาวแน่นอนครับ  ให้ทำใจไว้ก่อนเลยนะครับ ฮ่าๆๆ  จะเป็นกึ่งๆบันทึกการเดินทาง ได้เจอสิ่งที่ทำให้ประหลาดใจหลายๆอย่าง    ดีหรือไม่ดีผมขอไม่ตัดสิน  ให้ผู้อ่านเป็นคนตัดสินเองนะครับ     เรื่องรูปถ่าย บางครั้งใช้มือถือถ่าย เพราะสถานที่และโอกาสไม่เอื้ออำนวย บางสถานที่เสี่ยงเกินกว่าจะหยิบกล้องออกมาถ่าย อาจจะไม่ได้ถ่ายรูปมา หรือถ่ายรูปจากกล้องมือถือ  รูปอาจจะไม่สวย(โทษกล้อง ไม่โทษคนถ่าย555) ต้องขออภัยไว้ก่อนเลยนะครับ

เนื่องจากเก็บออมโควต้าวันลามา2ปี เอาไว้ ไปเที่ยวยาวๆ  เลยได้ลาพักผ่อน ในช่วงปลายเดือนธันวาถึงเดือนมกรา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเหมาะที่จะเที่ยวประเทศเอธิโอเปียพอดี เพราะอากาศกำลังดี (ที่ราบต่ำของประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม  อากาศจะร้อนแบบนรกทั้งปี แต่จะมีช่วงเดือน ธค-มค ที่จะร้อนน้อยหน่อย ไม่ทรมานจนเกินไป)  เปิดๆอินเตอร์เนตค้นดูก็พอมีที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่บ้าง  แต่สิ่งที่ทำให้เลือกประเทศนี้  เพราะอยากไปเห็นวิถีชีวิตประจำวันเค้าเป็นอยู่ยังไงบ้าง  มันดูห่างไกลตัวเรามาก  ไม่เคยไปทวีปแอฟริกามาก่อน คิดว่ามันก็น่าจะสนุกดีที่จะได้ไปเห็นอะไรที่ยังไม่เคยเห็น  

เมื่อเลือกประเทศได้แล้ว ก็จัดการซื้อ Lonely planet  มาอ่านและ วางแผนเที่ยว โดยใช้ข้อมูลจากทั้ง lonely planet, tripadvisor ,review pantip  และถามจากผู้ที่เคยไปมาแล้ว  ผมไปอยู่ที่เอธิโอเปีย ครึ่งเดือน  ไม่ค่อยได้เน้นจำนวนสถานที่แลนด์มาร์คเท่าไหร่  แต่อยากใช้เวลาเดินชิลๆในเมืองที่เราไปให้มากที่สุด ซอกแซกไปตามซอยตามถนนบ้าง ไม่เร่งรีบ       คร่าวๆมีประมาณนี้ครับ  เดินเล่นในเมือง Addis ababa ชมบรรยากาศเมืองหลวงของเอธิโอเปีย  , ขึ้นเหนือไปที่ราบต่ำ Danakil  ไปปีนปากปล่องภูเขาไฟเพื่อชมบ่อลาวาเดือด ไปชมบ่อกำมะถันที่มีภูมิทัศน์แปลกตา ที่ยากจะมีที่ไหนเหมือนบนโลกใบนี้  และเป็นที่ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีสูงที่สุดบนพื้นผิวโลก    จากนั้นก็เปลี่ยนบรรยากาศ กลายเป็นสายบุญบ้าง ชมเมืองแห่งโบสถ์และขุนเขา Lalibela ศูนย์กลางแห่งคริสต์ศาสนาของเอธิโอเปีย  ไปชมโบสถ์เก่าแก่ที่แกะสลักจากหินทั้งก้อน ได้เป็น World heritage site จาก Unessco  และถูกยกย่องว่าเป็น Eight wonder of the world  จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสาย Adventure ไป trekking บนความสูง 3,400-4,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่ Simien mountain  ที่นี่จะมีชื่อเสียงในเรื่องการ trekking ชมธรรมชาติและ ส่องสัตว์หายาก บางชนิดพบที่ประเทศเอธิโอเปียเท่านั้น  จากนั้นไปเดินเที่ยวในเมือง Gondar เมืองที่ผสมผสานระหว่างความเจริญและวิธีชีวิตแบบชนบทได้อย่าง…ไม่รู้ลงตัวรึเปล่า?  ไปลองเที่ยวผับในเอธิฯสักครั้งในชีวิต    และ เมื่อได้สถานที่ครบแล้ว

ก่อนจะไปเที่ยวประเทศเขา ก็มารู้ข้อมูลคร่าวๆของประเทศเอธิโอเปียกันก่อนครับ  รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง  แต่เราไม่ได้ไปรบนี่  ใครขี้เกียจอ่านก็ข้ามไปก็ได้ครับ

สถานที่ตั้ง:   ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกาฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ  เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล (Landlock) อยู่ในบริเวณที่เรียกว่า  Horn of Africa หรือ จะงอยแห่งแอฟริกา  มีประเทศเพื่อนบ้าน(บางทีก็เป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เดี๋ยวจะเลาต่อไป)  ได้แก่ เอริเตรีย  จิบูติ เคนย่า โซมาเลีย  ซูดาน และซูดานใต้ล้อมรอบ
เอธิโอเปีย มีชื่อเต็มว่า: สหพันสาธารณรัฐประชาธิปไตย เอธิโอเปีย  มีประธานาธิบดีเป็นประมุข แบ่งเขตการปกครองเป็น 9รัฐ และ2 เขตปกครองพิเศษ  ประเทศมีอาณาเขตใหญ่กว่าประเทศไทยประมาณ 2เท่า  มีประชากรประมาณ 85ล้านคน (ต้องรู้ไม๊เนี่ย)
เมืองหลวง :   Addis Ababa(แอดดีส อาบาบา)
ภาษาราชการ: ใช้ภาษา Umharic
สกุลเงิน :  Ethiopia Birr  (1 ETB มีค่าประมาณ 1.2บาทไทย   ธค2560)
ปฎิทิน: เอธิโปเปีย มีปฎิทินเป็นของตัวเอง โดย 1ปีมี 13เดือน 12 เดือนแรก มี 30วัน ส่วนเดือนที่ 13 มี 5-6วัน   วันปีใหม่ตรงกับ 11กันยายน  บางปีก็12กันยา
การทักทาย :  การทักทายกัน จะใช้มือขวาจับมือกัน เหมือนเช็คแฮนด์ แล้วเอาไหล่ขวาชนกัน  ถ้าไม่สนิทก็พูดทักทาย  “Salam”  เฉยๆ
ศาสนา: ประชาชนร้อยละ 60 นับถือ คริสต์  ,  ร้อยละ 30  นับถืออิสลาม , ร้อยละ10 อื่นๆ

การเตรียมตัวก่อนเดินทาง

1.สุขภาพ
-ฉีดวัคซีนไข้เหลือง (Yellow fever ) เป็นวัคซีนที่บังคับต้องฉีดก่อนเดินทางอย่างน้อย 10วัน
เนื่องจากในพื้นที่ของเอธิโอเปียบางพื้นที่ยังมีการแพร่ระบาดของไข้เหลืองอยู่ ถ้าไม่ฉีดจะมีปัญหาเวลาเข้าประเทศเขา หรือมีปัญหาเวลากลับประเทศไทยเราเอง ที่สำคัญถ้าเราไม่ฉีด แล้วไปติดโรคเอาที่นู่นก็ไม่คุ้มกันครับ  ฉีดแล้วต้องเก็บหนังสือรับรองการฉีดปกสีเหลืองๆติดตัวไปด้วยตลอดนะครับ ทำหายไม่ได้ ถ่ายเก็บไว้ในมือถือก็ดีฮะ
-วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น(Meningococcal vaccine) คุณหมอบอกผมว่าวัคซีนตัวนี้ ไม่ได้บังคับ แปลว่าไม่ฉีดก็เข้าประเทศเขาได้  แต่เนื่องจากเอธิโอเปียจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูงที่พบการกระจายของโรค (ประเทศในบริเวณที่เรียกว่า Meningitis belt) หมอแนะนำผมว่าถ้าหากไปในบริเวณที่มีคนอยู่อย่างแออัด หนาแน่น ก็ควรฉีดไป เช่นการไปแสวงบุญ ช่วงเทศกาล งานพิธีกรรมต่างๆที่มีคนมาจากหลายพื้นที่มารวมกัน พวกนี้ เสี่ยงต่อการติดต่อ เอาจริงๆนะผมว่าถ้าเราไม่รู้ว่าเราต้องไปเจอกับอะไรก็ฉีดไปเถอะเพื่อความปลอดภัยของเราเอง ยกตัวอย่างตอนที่ผมไป ช่วงเทศกาลคริสมาสต์ของเอธิฯ มีคนจากทั่วประเทศมาแสวงบุญที่เมืองLalibela  คนแออัดมาก โดยเฉพาะบริเวณโบสถ์เดินเบียดกันยิ่งกว่าผับอีกครับ  ซึ่งก็เสี่ยงต่อการติดต่อ   หรือเวลาไปเดินตลาดบางที่ คนเดินกันแน่น แออัด เสี่ยงเหมือนกัน
-วัคซีนอื่นๆ เช่น วัคซีนไวรัสตับอักเสบ A,วัคซีนบาดทะยัก,วัคซีนพิษสุนัขบ้า   พวกนี้ เลือกฉีดตามความเสี่ยง แนะนำให้ไปที่ คลินิกเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทาง รพ.เวชศาสตร์เขตร้อน แถวๆอนุสาวรีย์ชัยภูมิ  แพทย์จะถามว่าเราเดินทางไปที่ไหนบ้าง ไปทำอะไรบ้าง แพทย์จะให้คำแนะนำฉีดวัคซีนตามความเสี่ยง
-ยาป้องกันโรคแพ้ที่สูง (High altitude sickness) เนื่องจากผมมีplan จะไป trekking ที่ Simien mountains ซึ่งมีความสูง ตั้งแต่ 1800 m –4400 m เหนือระดับน้ำทะเล  จึงต้องทานยาป้องกัน ที่เรียกว่า Acetazolamide  ก่อนจะทานควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากระดับความสูงของที่ตั้งที่เราจะนอนเหนือระดับน้ำทะเล(ไม่ใช่ความสูงของตึกนะครับ555)  และระดับความสูงของที่ตั้งที่เราจะนอนของวันก่อนหน้า ล้วนมีผลต่อการรับประทานยา มัน จะมีรายละเอียดเยอะหน่อย  แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานดีกว่าครับ  (คุณหมอบอกผมว่า high altitude sickness สามารถพบได้ที่ความสูงประมาณ 2,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลขึ้นไป  ถ้าใครจะไปในที่ความสูงดังกล่าว ควรเตรียมตัวด้วยครับ)
-ยาทานป้องกันมาลาเรีย  บางพื้นที่ของเอธิโอเปีย มีการแพร่ระบาดของโรคมาลาเรีย  ไม่จำเป็นต้องทานทุกคนที่ไปนะครับมัน ขึ้นกับพื้นที่ที่เราไป ว่ามีการแพร่ระบาดหรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเช่นกันครับ
-ยาทากันยุง  หมอบอกว่าควรเลือกส่วนผสมที่มีสาร DEET แปะข้างขวด 20เปอร์เซนขึ้นไป ยิ่งมีความเข้มข้นมาก จะยิ่งกันยุงได้นานขึ้น ควรทาซ้ำทุก 4 ชั่วโมง  ยากันยุงแบบสมุนไพรไม่แนะนำนะครับ

-ยาสามัญประจำตัว แก้ไข้ แก้ปวด ลดน้ำมูก ยาทาแผล แก้เมารถ แก้อาเจียน ลิปมัน ครีมกันแดด บลาๆ
จะเห็นว่าการไปเที่ยวประเทศแบบนี้ เรื่องสุขภาพสำคัญและมันมีรายละเอียดเยอะเลย ง่ายสุดคือ เดินไปที่คลินิกเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและเดินทาง เตรียมข้อมูลสถานที่แต่ละที่ที่เราจะไป ให้พร้อม แล้วไปพบแพทย์  แพทย์จะให้คำแนะนำกับเราเองครับ สะดวกดี  

2. Visa
       คนไทยสามารถไปทำ  Visa on arrival ที่ตม. ที่สนามบิน Bole international airport ได้เลย เตรียมprint เอกสาร intinerary เที่ยวบินขาไปกับขากลับไว้ให้พร้อม  เผื่อเจ้าหน้าที่ขอดู ของผมเจ้าหน้าที่ไม่ขอดูอะไรเลย  จ่ายค่าวีซ่า  50 USD  เท่านั้น ไม่ค่อยถามอะไร ได้มาแบบชิลๆ
3.เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ท่องเที่ยว
        -เนื่องจากสถานที่ที่ไปในทริปนี้ไปทั้งบริเวณที่ร้อนที่สุดบนพื้นผิวโลก และไปเดินบนภูเขา ที่อุณหภูมิตอนกลางคืน ลงไปต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียส จนลำธารเป็นน้ำแข็ง เรียกได้ว่าอุณภูมิต่างกันแบบสุดขั้ว เสื้อผ้าอาจจะต้องเอาไปเยอะเพราะมันใช้ด้วยกันไม่ได้  ตั้งแต่เสื้อขนเป็ด ถุงมือ ถุงเท้ากันหนาว เสื้อกันฝน ลองจอน กางเกงเทรคกิ้งขายาว ไปจนถึงเสื้อยืดแขนสั้นบางๆ
        -รองเท้าเดินป่า( trekking) ควรเลือกแบบดีๆไปเลย เพราะเราอยู่ในภูเขาหลายวัน ถ้ามันไปทรยศเรากลางทาง  จะเป็นฝันร้ายในการtrekking แน่ๆ  เจอคนอิตาลี รองเท้าพังวันก่อนสุดท้าย เห็นทุลักทุเลพอสมควร โชคดีในโชคร้ายที่มันไม่พังวันแรกๆ
        -กระเป๋า daypack สำหรับ เดิน trekking บนเขา ที่เราต้องสะพายมันไปตลอดการเดินtrekking
        -hydro pack หรือกระเป๋าใส่น้ำดื่ม สะดวกดีเวลาเดินtrek ใส่ในกระเป๋าDaypack  กระหายก้ดูดจากสายได้เลย  

4.แลกเงิน
          Ethiopia ใช้สกุลเงิน Birr( 1birr ประมาณ 1.2บาท  ธค2560 ) เราสามารถถือเงิน US dollar ไปแลกเป็นเงิน Birr ได้ที่ธนาคารหรือที่รับแลกเงินในEthiopia  บางโรงแรม หรือร้านค้าก็รับแลกนะครับ เรทดีซะด้วย  วิธีการคือเช็คเรทปกติไปก่อน แล้วไปลองถามโรงแรม หรือที่รับแลกว่าเรทเท่าไหร่ ถ้าเค้าให้เรทดีเราก็แลกเลย ถ้าให้เรทน้อย ก็ลองพูดประมาณว่า ไปถามร้านนี้ เรท… เค้าก็จะขยับเรทให้เรา เป็นเทคนิคเล็กๆที่ผมใช้ ได้ผลตลอดเลย เหมือนต้องต่อราคาก่อน  ส่วนธนาคารก็จะมีเรทตายตัวอยู่แล้ว ต่อไม่ได้ครับ
*ที่สนามบิน มีธนาคารรับแลกเงินอยู่ แต่เรทไม่ดี ถ้าเป็นไปได้ เข้ามาแลกในเมือง หรือลองถามโรงแรมที่พักก็ได้ครับเผื่อเค้ามีให้เราแลก  และธนาคารที่สนามบินนี้ไม่รับแลกBirr เป็นUS Dollar นะครับ แปลว่า ขากลับ ต้องแลกเงินเป็นUS dollar ก่อนเข้าสนามบิน เพราะที่สนามบินไม่มีที่แลกเงินคืน