กระทู้คำถาม เราจะมั่นใจกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวได้อย่างไร

แชร์ประสบการณ์ถูกคนอื่นแอบอ้างแลกคะแนนเดอะวันการ์ด โดยไม่มีการตรวจสอบตามข้อกำหนด  คนแลกแค่ยื่นเศษกระดาษและทำทีโทรศัพท์คุยกับเจ้าของบัตรก็แลกได้  คำถามคือคนนั้นใช้อะไรในการแลก ข้อมูลบัตรประชาชนของเราหรือไม่ เราจะมั่นใจกับข้อมูลส่วนตัวของเราได้อย่างไร

#ประเด็นคือความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว ไม่ใช่คะแนน  ขอบอกก่อนว่าผู้เสียหายกังวลใจเรื่องความหละหลวมในการตรวจสอบอัตลักษณ์ของผู้เป็นเจ้าของบัญชี มากกว่าคะแนนที่เอาไปแลก

เหตุเกิดจากเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2561 เวลา 21:41 น. พี่สาวผมได้รับ SMS จาก CFH/Tops แจ้งว่า “คุณ...ได้แลกคะแนนเดอะวันการ์ด...” โดยหลังจากได้รับข้อความนั้นก็ได้เช็คกับญาติพี่น้องว่ามีใครทำรายการนั้นหรือเปล่า ซึ่งทุกคนตอบตรงกันว่าไม่ได้ทำ มารู้ตอนหลังว่าเกิดเหตุที่เซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์ สาขาคริสตัล ปาร์ค  

หลังจากได้รับข้อความเตือนพี่สาวได้โทรสอบถามกับทาง Call Center 02-660-1000 เพื่อแจ้งว่าคนที่แลกคะแนนนั้นไม่ใช่เจ้าของบัตร พี่สาวผมก็กังวลใจมากเพราะรู้อยู่ว่ากระบวนการแลกคะแนน The One Card ต้องใช้บัตรประชาชนประกอบด้วย แล้วทำไมคนนั้นถึงแลกคะแนนได้ทั้งๆ ที่บัตรประชาชนอยู่กับตัวพี่สาวผมที่เวลานั้นอยู่ต่างจังหวัด เขามีสำเนาบัตรประชาชนเราหรือ?

เวลานั้นเกิดคำถามตัวโตๆ กับการตรวจสอบตัวตนผู้ถือบัตรตามขั้นตอนของห้างฯ ว่าได้ทำอย่างรอบคอบหรือไม่ ซึ่งตามกฎก็คือเจ้าของบัญชีต้องแสดงบัตรประชาชนของตัวเองเพื่อแลกคะแนน  กรณีที่ผู้อื่นแลกคะแนน: กรณีเจ้าของบัตรไม่สามารถเดินทางมาแลกได้ด้วยตัวเอง ผู้มาแลกจะต้องแสดงสำเนาบัตรประชาชนของตนเองและเอกสารสำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของคะแนนพร้อมลายเซ็นการมอบอำนาจในการแลกคะแนนแทน (https://www.the-1-card.com/Faq)

ผมและพี่สาวได้ไปที่ที่เกิดเหตุในบ่ายวันที่ 3 เมษายนเพื่อดูกล้องวงจรปิดและพูดคุยกับแคชเชียร์ที่ทำหน้าที่ในเวลานั้นก็ทราบว่าไม่ได้มีการขอดูบัตรประชาชนของผู้ถือบัตรเดอะวันการ์ดนั้น และที่สำคัญคนที่มาแลกคะแนนเป็นผู้ชายโดยเขียนอะไรก็ไม่รู้ใส่กระดาษยื่นให้แคชเชียร์จากนั้นแคชเชียร์ก็กดหน้าจอ ระหว่างนั้นมีการพูดคุยโทรศัพท์สลับกับพูดคุยกับแคชเชียร์ด้วย

เมื่อการใช้คะแนนแลกเป็นส่วนลดเงินสดได้ก็เท่ากับว่าคะแนนนั้นมีค่า ซึ่งเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่พนักงานที่มีหน้าที่นั้นต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับคะแนนเท่ากับๆ ให้ความสำคัญกับเงินใช่หรือไม่

สิ่งที่ต้องชมเชยก็คือระบบการแจ้งว่ามีการแลกแต้มทาง sms และการรับเรื่องร้องเรียนของ Call Center และประสานงานเบื้องต้นที่ทำได้อย่างรวดเร็ว

แต่ที่น่าหงุดหงิดก็คือความ “เยอะ” ของพนักงานที่อ้างกฎระเบียบบริษัทฯ โดยที่ใส่ใจความเดือดร้อนของลูกค้าไม่ดีพอ การที่ลูกค้าขอคลิปหรือภาพนั้นเพื่อใช้เป็นหลักฐานแจ้งความ แต่สิ่งที่พนักงานอ้างคืออาจจะทำให้ภาพพจน์ขององค์กรเสียหาย ทั้งๆ ที่มันเสียไปตั้งแต่ความหละหลวม ความไม่เอาใจใส่กับสิ่งที่ต้องทำตั้งแต่แรกแล้ว

สิ่งที่ร้องขอจากทางห้างฯ ก็คือขอให้ช่วยดำเนินการเรื่องนี้และแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะทำอะไรบ้าง รวมถึงความคืบหน้าของการดำเนินการติดตามตัว “ชายคนที่ปรากฎอยู่ในกล้องวงจรปิดในวันเวลานั้น” และได้แจ้งให้กับพนักงานที่ีเข้ามาพูดคุยเมื่อวันที่ 3 เมษายนว่าจะเผยแพร่เรื่องนี้เพื่อแจ้งเตือนให้คนทั่วไปอย่าได้เพิกเฉยกับ SMS แจ้งเตือนต่างๆ ชมเชยและพร้อมกับร้องเรียนการดำเนินงานของพนักงานในต่างกรรมต่างวาระ และความรอบคอบของห้างฯ  

บทสรุปเมื่อวานเย็นคือหัวหน้าทีมที่ดูแลเรื่องรักษาความปลอดภัยประจำเขตนี้ของ CFH/Tops กับอีกคนที่รับผิดชอบเรื่อง Customer Service บอกว่าจะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดเพราะไม่เคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาก่อน ประมาณว่าเคสนี้เป็นเคสแรก ซึ่งอันนี้ไม่ทราบได้ โดยหัวหน้าทีมคนนั้นจะไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.โชคชัย และจะพาพนักงานไปให้ปากคำ จะไปสเก็ตภาพคนร้าย จะขอดูกล้องวงจรปิดของอาคาร ฯลฯ

อัพเดท… คืนวันที่ 4 เมษายน มีอีเมล์จาก Customer Service ของ CFH/Tops มาขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตักเตือนพนักงานและได้โอนคะแนนคืนเข้าบัญชีพี่สาวผม พร้อมกับการป้องกันในอนาคต

ขอให้เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องราวเตือนสติผู้บริโภคอย่างเราๆ ว่าต้องใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่าเพิ่งคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะไม่แน่ว่าอาจมีคนไม่หวังดีเอาข้อมูลส่วนตัวของเราไปใช้ทำอะไรที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เราหรือแก่คนอื่นได้อีก

#ประเด็นคือความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว ไม่ใช่คะแนน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่